My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 644
ตอนที่ 644 ฆ่าพ่อตา !?
แปล arhai
“มาสที่รัก มาห่มผ้าด้วยกัน” ฉิงเฟิงซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและพูดด้วยความตื่นเต้นเร้าใจในน้ําเสียงและดวงตาของเขาอย่างเห็นได้ชัด
สีของผ้าห่มนวมเป็นสีกํามะหยี่สีขาวเช่นเดียวกับผิวสวยเนียนของหลินเสวี่ย
ขนตายาวของเธอกระพริบขึ้นลงถี่ๆ เธอยังคงไม่เต็มใจที่จะห่มผ้าผืนเดียวกับฉิงเฟิง แต่ทันใดนั้นเขาก็คว้าแขนของเธอและดึงเธอเข้ามาในผ้าห่มท่ามกลางเสียงกรีดร้องตกใจของเธอ
ผ้าห่มนวมมีขนาดใหญ่มากและห่มร่างของคนสองคนได้อย่างเหลือเฟือและสะดวกสบาย
เฉิงเฟิงโอบร่างของหลินเสวี่ยให้แนบชิดกับตัวเขา พวกเขาใกล้กันชิดกันมากจนได้ยินเสียงลมหายใจและเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของกันและกัน
ตึก ตึก ตึก …
หัวใจเต้นของหลินเสวี่ยเต้นถี่รัวขึ้นเรื่อยๆขณะที่ใบหน้าของเธอแดงกราวกับลูกพลับ เธอกอดร่างตัวเองแนบแน่นด้วยความหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัวนะหนูน้อยหมวกแดง พี่หมาป่าคนนี้จะดีต่อเธอเอง” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเหยียดมือที่แข็งแกร่งราวกับกรงเล็บหมาป่าคว้าเข้าที่สะโพกของหลินเสวี่ย
กลิ่นหอมจากเรือนร่างที่เย้ายวนใจของหลินเสวี่ยทําให้ฉิงเฟิงรู้สึกสบายและเคลิบเคลิ้ม
“พี่หมาป่าที่เลวร้าย อย่ารังแกหนูน้อยหมวกแดงเลย…” หลินเสวี่ยก้มหน้ากระซิบด้วยน้ําเสียงเล็กๆราวกับแมงหวี่ ถ้าฉิงเฟิงไม่เงี่ยหูฟังคงไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร
“เธอไม่ต้องกลัวนะ พี่หมาป่าคนนี้จะไม่รังแกเธอ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่มือของฉิงเฟิงก็ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของหลินเสวี่ยอย่างหยาบคาย
หลินเสวี่ยผู้น่าสงสาร เธอถูกฉิงเฟิงละลาบละล้วงไปทั่วทั้งร่างตั้งแต่ที่ยอมห่มผ้าผืนเดียวกับเขา
ฉิงเฟิงมีความสุขมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป เขาต้องตักตวงให้เต็มที่ซึ่งใบหน้าของหลินเสวี่ยก็แดงก่ําราวกับพระอาทิตย์ไปเรียบร้อยแล้ว
ปัง !!
ในขณะที่ฉิงเฟิงกําลังมีช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในการลวนลามรังแกหลินเสวี่ยก็มีเสียงดังขึ้นจากชั้นล่างทําให้พวกเขาสะดุ้งตกใจ
บ้าชิบ ! แผ่นดินไหวเหรอ ?
ฉิงเฟิงไม่พอใจและสบถออกมาในใจ ไม่มีใครพอใจแน่นอนถ้าหากถูกขัดจังหวะด้วยเสียงดังในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มขนาดนี้
หลินเสวี่ยสะดุ้งตกใจด้วยเสียงนี้และใบหน้าของเธอซีดลง
“ที่รักคุณรออยู่นี่นะ ฉันจะลงไปดูข้างล่างหน่อยว่าไอ้บ้าที่ไหนทําเสียงดัง”
ฉิงเฟิงแต่งตัวและเดินลงไปข้างล่างด้วยความหงุดหงิด
แต่ทันทีที่ลงมาถึง เขาก็ตกใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นที่ชั้นล่าง เสียงที่เกิดขึ้นมาจากพ่อตาทุบทีวีนั่นเอง
จิงเฟิงกําลังกันด่าสาปแช่งไอ้บ้าที่ทําเสียงดัง แต่ตอนนี้เขาก็พบว่าคนทํานั้นคือพ่อตาของเขาเอง แล้วเขาจะด่าพ่อตาได้อย่างไรกัน ?
อย่างไรก็ตาม หลินจือดูผิดปกติเป็นอย่างมาก เขาร่ําร้องและทุบทําลายทีวี เขวี่ยงรีโมท ขว้างถ้วยชาชามจนข้างล่างเละเทะไปหมด
มู่เสี่ยวหยุนและหลินไห่ต่างก็หวาดกลัวเกินกว่าที่จะหยุดหลินจือผู้บ้าคลั่งได้ พวกเขายืนอ้าปากค้างดูอยู่เฉยๆ
“แม่ยาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? พ่อตาเขาถูกลาเตะหัวมาหรือว่าเป็นลมบ้าหมู ?
ห้า ? ถูกตาเตะ ? เป็นลมบ้าหมู ?
มู่เสี่ยวหยุนไม่รู้ว่าจะตอบคําถามของฉิงเฟิงอย่างไร ก็ใช่ที่พ่อตาทําลายข้าวของ แต่เธอพูดถึงเขาแบบนี้ได้ อย่างไร ?
“โอ้ว ! พี่เขย พี่กล้าหาญมากที่กล้าบอกว่าพ่อถูกลาเตะหัว ” หลินไห่กล่าวด้วยความชื่นชมอย่างเต็มที่
“ฉิงเฟิง ! เขาเป็นพ่อตาของเธอนะ เขาแค่เมาหนัก ไม่ได้ถูกลาเตะหัวหรือเป็นลมบ้าหมูอย่างที่เธอคิด” มู่เสี่ยวหยุนมองไปที่ฉิงเฟิงและพูดด้วยน้ําเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
เมื่อฉิงเฟิงได้ยินน้ําเสียงที่ไม่พึงประสงค์ของแม่ยาย เขาก็ยิ้มด้วยความกระอักกระอ่วน
เขารู้ว่าตัวเองเผลอพูดไม่สุภาพออกไปเพราะหงุดหงิดจากการถูกขัดจังหวะตอนฉวยโอกาสลวนลามหลินเส
“แม่ยาย คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้หมายความอย่างที่คุณเข้าใจ ผมหมายถึงคือพ่อตาเขาเป็นนักเต้นที่ยอดเยี่ยมมาก คุณดูสิ การสาวเท้าออกสเต็ปเต้นที่ราบรื่นและความว่องไวของเขาสิ ! เขาต้องเผลอไปทุบทีวีแน่นอน ! เขาคงไม่ได้ตั้งใจ”
ฉิงเฟิงมองไปที่หลินจือและพูดห้วนๆออกมา
เรื่องของเรื่องคือ ข้าวของทุกชิ้นในบ้านหลังนี้มีราคามาก หลินเสวี่ยใช้เงินเป็นจํานวนมากเพื่อซื้อของแต่งบ้านเหล่านี้ แต่ตอนนี้หลินจือทุบทําลายซะเละเทะ
ถ้าหากหลินจือไม่ใช่พ่อตา ฉิงเฟิงคงเดินไปเตะตูดเขาไปนานแล้ว เขาพึมพําในใจว่า
“บ้าใบ คุณคิดว่าคุณจะทําลายข้าวของในบ้านนี้ได้เพราะว่าคุณเป็นพ่อตาหรือไง ??”
จากนั้นหลินจือก็ยังคงทําลายข้าวของไม่หยุด และไปหยิบไม้ที่อยู่หลังประตูฟาดเข้าใส่หลินไห่ทันที
“พะ ! พี่เขย ช่วยผมด้วย พ่อจะตีผม !” หลินไห่ร่ําร้องออกมาและ วิ่งหนีเพื่อขอความช่วยเหลือจากจิงเฟิง
ตอนนี้ฉิงเฟิงรับรู้แล้วพ่อตาของเขาไม่ควรดื่มเหล้ามาก เพราะเวลาเมาแล้วเขา โคตรขาดสติ
เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้หลินจือดื่มเหล้าอีกแล้ว เขาเป็นคนเมาแล้วอาละวาดอย่างน่ากลัว
หลินจือวิ่งไล่ตามหลินไห่ไปทั่วห้องและทุบตีหลินไห่ไปหลายครั้งเพราะเขาวิ่งช้า หลินไห่มีสภาพน่าสงสารมาก เขาวิ่งหนีไปรอบๆพร้อมกับรอยฟกช้ําหลายแห่งบนใบหน้า
ฉิงเฟิงรู้ว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องห้ามเรื่องนี้ก่อนที่หลินไห่จะบาดเจ็บหนัก อีกทั้งนี้เป็นบ้านของเขากับหลินเสวี่ยเรื่องพวกนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นที่นี่
ฟื้ว !
ฉิงเฟิงพุ่งปราดไปหาหลินจื่อและจับไม้ที่กําลังจะฟาดใส่หลินไหในทันที
ด้วยความที่หลินจือกําลังเมาและไม่มีสติ เมื่อเห็นไม้ถูกคว้าเขาก็กระชากกลับและเปลี่ยนเป้าหมายเป็นฟาดใส่ฉิงเฟิงแทน
เฉิงเฟิงตระหนักว่าคนๆนี้เป็นพ่อตาของเขา แต่เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้หลินจื่ออาละวาดอยู่แบบนี้ต่อไป ดังนั้นเขาจึงเหยียดมือขวาออกมาและกระแทกไปที่หลังคอของหลินจือ
หลินจือตาเหลือกและล้มลงกับพื้นไป
“เฮ้ย !!! พี่เขย คุณฆ่าพ่อของผมเลยเหรอ !!??” หลินไห่ตะโกนลั่นออกมาเมื่อเห็นหลินจือล้มลงกับพื้นหลังจากฉิงเฟิงลงมือ
มู่เสี่ยวหยุนหน้าซีดเผือดดุจกระดาษและวิ่งไปหาหลินจือ เธอกล่าวว่า “ฉิงเฟิง พ่อตาของเธอแค่เมาจนขาดสติเรื่องแค่นี้ก็ไม่เห็นจะต้องถึงกับฆ่าแกงกันเลยนี่นา ! ต่อให้เขาอาละวาดทําลายข้าวของในบ้านของเธอก็เถอะ”
หลินเสวี่ยรีบวิ่งลงมาทันทีหลังจากได้ยินเสียงดังโวยวาย ทันทีที่เธอมาถึงที่เกิดเหตุ เธอก็ได้ยินแม่เธอร้องว่าฉิงเฟิงฆ่าพ่อของเธอ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สนิทสนมอะไรมากมายกับพ่อของเธอ แต่เขาก็ยังคงเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเธอสายสัมพันธ์พ่อลูกไม่มีวันลบเลือนไปได้ เธอแทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินว่าสามีตัวเองฆ่าพ่อ
“ที่รัก คุณฆ่าพ่อของชั้นจริงๆ !?” หลินเสวี่ยถามด้วยใบหน้าขาวซีด