My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 640
ตอนที่ 640 หาญท้าทายกาโตร์คิง !
“วูฟคิง นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีเลยนะคะที่คุณโทรหาชั้น” แคทเธอรีนรับสายริมฝีปากสีแดงของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อยในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิ
ฉิงเฟิงเพิกเฉยน้ำเสียงบ่นของของเธอและกล่าวอย่างสงบว่า “แคทเธอรีน ฉันมีเรื่องรบกวนเธอช่วยประกาศคำท้าจากฉันส่งไปทั่วทั้งอารีน่าโลกใต้ดินที ฉันจะท้ารบกับกาโตร์คิง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแคทเธอรีนก็รู้สึกประหลาดใจ เธอกล่าวเตือนว่า “วูฟคิงคะ ชั้นและทุกคนต่างก็ยอมรับว่าคุณแข็งแกร่งและเป็นราชันระดับท็อบของอารีน่าเราเมื่อปีที่ผ่านมา แต่คุณอย่าลืมว่ามีราชันปรากฏตัวขึ้นทุกปีในโลกใต้ดิน และกาโตร์คิงผู้นั้นก็คือราชันแห่งทวีปเสือเมื่อสิบกว่าปีก่อน เขานับได้ว่าเป็นราชนอาวุโส ในช่วงที่เขาครองตำแหน่งคุณยังเล่นซ่อนแอบอยู่เลย”
ฉิงเฟิงไม่ได้โกรธกับคำกล่าวของแคทเธอรีนเพราะเขารู้ว่าเธอพูดเรื่องจริง
เขาเพิ่งมีอายุแค่แปดขวบตอนที่กาโตร์คิงเป็นราชันแห่งอารีน่าโลกใต้ดิน แต่แล้วไง? ในเมื่อมันกล้าส่งหวังซีเค่อมาสังหารเขา เขาย่อมไม่อาจทนดูอยู่เฉยๆแน่นอน เขาต้องตอบโด้ !
“แคทเธอรีน สิ่งที่เธอต้องทำก็คือส่งคำท้าทายและป่าวประกาศออกไป อีก 3 วันฉันจะไปทวีปเสือ” ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวด้วยความมั่นใจ
“วูฟคิง คุณแน่ใจนะคะว่าจะท้าทายกาโตร์คิง ชั้นได้ยินมาว่าเขาคือหนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์โบราณ” “ผู้ฝึกยุทธ์ ? หึหึ แคทเธอรีนเธอไม่ต้องห่วง ในเมื่อฉันกล้าเอ่ยปาก ฉันย่อมไม่กลัวเขาอยู่แล้ว”
“เข้าใจแล้วค่ะ ชั้นจะส่งคำท้าทายและประกาศออกไปในโลกใต้ดินให้คุณ คุณต้องเดินทางมาทวีปเสือในอีก 3 วันข้างหน้าและลงประลองในอารีน่าโลกใต้ดิน” แคทเธอรีนยิ้มและวางสายไป จากนั้นเธอก็เริ่มกระบวนส่งคำท้าให้กาโตร์คิงและป่าวประกาศไปทั่วทั้งวงการ
เมื่อข่าวการท้าทายของวฟคงต่อกาโตร์คิงถูกแพร่ออกไป ทั่วทั้งโลกใต้ดินก็สั่นสะเทือนและตื่นเต้น เหล่านักสู้นับไม่ถ้วนในโลกใต้ดินต่างก็ให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างเต็มที่
นี่คือการท้าทายระหว่างราชันยุคปัจจุบันและราชันยุคเก่า และเสมือนเป็นตัวแทนของสองกองกำลัง
ราชันอาวุโสได้ถูกเชิดชูว่าเหนือกว่าราชันในยุคปัจจุบันโดยให้เหตุผลว่าพวกเขาเหล่านั้นคือผู้อาวุโส อย่างไรก็ตาม มีอยู่บ่อยครั้งที่ราชันปัจจุบันไม่ยอมรับ ดังนั้นการปะทะระหว่างสองรุ่นจึงมีอยู่เสมอ
หลังจากวางสายกับแคทเธอรีน ฉิงเฟิงก็เดินกลับไปที่วิลล่า 13
แสงไฟยังคงสว่างอยู่ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าหลินเสวี่ยกำลังรอให้เขากลับมา
ฉิงเฟิงหยิบกุญแจออกมาและเปิดประตูเข้าไป เขาพบว่ายังมีอีกสามคนที่อยู่ภายในบ้านนอกจากหลินเสวี่ย พวกเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ซึ่งคนเหล่านั้นก็คือพ่อตาแม่ยายรวมถึงหลินไห่น้องเขย
“พี่เขย ! คุณกลับมาแล้วเหรอ” หลินไห่รีบวิ่งไปหาฉิงเฟิงอย่างรวดเร็วพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่แล้วฉิงเฟิงกลายเป็นฮีโร่ของมหาวิทยาลัยตงไห่ หลินไห่ก็มองเขาเป็นไอดอล นอกจากนี้เขายังต้องการตีสนิทกับฉิงเฟิงเพื่อหวังผลจากหลิวเจียวเจียวอีกด้วย
ฉิงเฟิงพยักหน้าเป็นการทักทายเล็กน้อย
“พ่อตาแม่ยาย พวกคุณมากันทำไมครับนี่ ?” ฉิงเฟิงถามพวกเขาด้วยความเคารพและมีรอยยิ้มบนใบหน้า
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะเป็นราชันแห่งทวีปและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่เขาก็ให้ความเคารพและเจียมเนื้อเจียมตัวต่อญาติผู้อาวุโสที่ให้เกียรติเขาเสมอ
“ฉิงเฟิง เสี่ยน้อยบอกว่าหลังจากผ่านเรื่องนั้นมาก็ครึ่งเดือนแล้ว พวกเรามาเยี่ยมเพื่อดูว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม” มู่เสี่ยวหยุนกล่าว
มู่เสี่ยวหยุนรู้สึกหัวใจแหลกสลายกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินเสวี่ยเมื่องานแต่งงานครั้งที่แล้วครั้งนี้เธอจึงอยากจะเข้ามาดูเพื่อให้แน่ใจว่างานแต่งงานครั้งนี้จะดีกว่าและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
“ครับ อีกครึ่งเดือนผมวางแผนจะจัดงานแต่งงานระดับโลกให้หลินเสวี่ย” ฉิงเฟิงยิ้มให้กับหลินเสวี่ยดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
หลินเสวี่ยกลายร่างเป็นเด็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ของเธอ เมื่อเธอได้ยินที่ฉิงเฟิงกล่าวใบหน้าที่งามหยดย้อยของเธอก็กลายเป็นสีแดงและทำให้เธอดูสวยขึ้น
อะแฮ่ม !
เมื่อเห็นตัวเองถูกละเลย หลินจือกกระเอมออกมาเล็กน้อยเพื่อเป็นการแสดงตัวว่าเขาก็อยู่ที่นี่ (แก้หน่อยนะครับ พ่อหลินเสวี่ยชื่อหลินจือ ไม่ใช่หลินชิ)
เมื่อเห็นเช่นนั้นฉิงเฟิงจึงถามติดตลกว่า “พ่อตา คุณไม่สบายเหรอครับ?”
หลินจือกลอกตาและไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาคิดในใจว่า “ฉันไม่ได้ป่วย แค่เรียกร้องความสนใจ !”
เมื่อหลินเสวี่ยเห็นภาพนี้เธอก็หัวเราะคิกคักออกมา เธอคิดว่าฉิงเฟิงค่อนข้างกวนตีทีเดียวแต่เธอสนิทกับแม่มากกว่าพ่อ เธอจึงไม่ว่ากล่าวตักเตือนอะไรฉิงเฟิง เพราะเธอรู้ว่าเขาล้อเล่น
“ฉิงเฟิง, เสี่ยน้อยเป็นลูกสาวคนเดียวของฉัน ฉันหวังว่างานแต่งงานครั้งนี้จะดีกว่าเดิมและไม่มีปัญหาใดๆนะ” หลินจือกล่าว
“พ่อตา คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย ผมจะจัดงานระดับโลกอย่างยิ่งใหญ่และจะเชิญประธานาธิบดีของทวีปหมาป่า รวมถึงเจ้าหญิงเดนมาร์กมาร่วมงานให้เป็นเกียรติด้วยอย่างแน่นอน” ฉิงเฟิงหัวเราะ
อะไรนะ!? ประธานาธิบดี ?
“เจ้าลูกชาย ฉันรู้ว่าเธอเป็นลูกชายของตระกูลหลี่และเป็นที่นับหน้าถือตา แต่อย่ามาต้มฉันเลย จะเป็นไปได้อย่างไรที่ประธานาธิบดีของทวีปแอฟริกาจะมางานแต่งงานของคนผู้หนึ่งที่ประเทศจีน ?”
ถ้าฉิงเฟิงบอกว่านายกเทศมนตรีจะมาร่วมงาน หลินจืออาจจะเชื่อเรื่องนี้ แต่นี่เขาบอกว่าประธานาธิบดีของแอฟริกาจะมางั้นหรือ ? หลินจือไม่มีทางเชื่อแน่นอน
เขาเป็นนักธุรกิจ ดังนั้นเขาย่อมรู้ขั้นตอนทางสังคมดี แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนแต่งงานประธานาธิบดียังไม่มาเลย แล้วฉิงเฟิงเป็นใคร ?
“พ่อตา คุณก็แค่รอให้ถึงเวลา แล้วคุณจะรู้เองว่าผมโม้หรือเปล่า” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความมั่นใจ
“ที่รัก, คุณแม่ยังไม่ได้กินอะไรมาเลย คุณไปทำอะไรให้เธอกินหน่อยสิ” หลินเสวี่ยกล่าว เธอสังเกตเห็นสามีของเธอกำลังพูดโอ้อวดอยู่ ดังนั้นเธอจึงอยากจะกลบเกลื่อนตัดบทด้วยการบอกให้เขาไปทำอาหาร
เฉิงเฟิงพยักหน้าและเดินไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมทำอาหาร
ในห้องนั่งเล่น
มู่เสี่ยวหยุนขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ลูกแม่ แม่ชอบทุกอย่างในตัวฉิงเฟิงนะ เรื่องที่เขาโม้เมื่อกี้ถ้าแค่พูดกับพวกเราก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้เขาเอาไปพูดสนุกปากกับคนอื่นก็แล้วกันแม่กลัวจะขายหน้าชาวบ้าน”
หลินเสวี่ยหน้าแดงด้วยความอับอาย เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับแม่ของเธออย่างไร เธอจึงเงียบ
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว แต่เขาก็ได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขากำลังพูดกัน เขาขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
“ทำไมไม่มีใครเชื่อฉันเลยเวลาฉันพูดความจริง ??? มันน่าน้อยใจนัก”
ฉิงเฟิงหดหูใจ เขารู้สึกว่าในทุกๆครั้งที่เขาพูดความจริงไม่มีใครเชื่อเขาเลย ในทางกลับกันพวกเขากลับเชื่อสนิทใจยามที่ฉิงเฟิงพูดเรื่องโกหก
“เอาเถอะ… เดี๋ยวถึงเวลาที่ประธานาธิบดีปรากฏตัวขึ้นที่งานพวกเขาก็เชื่อเองละมั้ง”
ฉิงเฟิงส่ายหัวและทำอาหารต่อ เขาทำกับข้าว 2 จานและซุป 2 ชาม
เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะและเริ่มกินกันทั้งพ่อตาและแม่ยายต่างเอ่ยชมฉิงเฟิงไม่ ขาดปากเกี่ยวกับความเลิศรสของอาหารที่ฉิงเฟิงทำ
“ฉิงเฟิง เธอเป็นพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมมาก ! เธอเปิดร้านอาหารได้เลยนะฉันรับรอง”
มู่เสี่ยวหยุนชูนิ้วโป้งและชมเชยเขา เธอก็เป็นคนทำอาหารและเข้าครัวบ่อยๆ เธอคิดว่าฉิงเฟิงทำอาหารได้อร่อยกว่าเธอด้วยซ้ำ
“อื้มๆๆ ! พี่เขยคุณทำอาหารเก่งมาก พี่สาวของผมโชคดีมากเลยที่ได้เป็นภรรยาของคุณ!” หลินไห่ย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะเลียแข้งเลียขา แต่แน่นอนว่าอาหารที่ฉิงเฟิงทำก็อร่อยจริงๆ