My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 630
ตอนที่ 630 สังหารผู้ฝึกยุทธ์ใต้สวรรค์ระดับกลาง !
“แกเป็นคนของตําหนักโกสคิงใช่ไหม ?” ฉิงเฟิงถามชายที่สวมหน้ากากปีศาจ
“ถูกต้อง ข้าคือกุ้ยสือ นายท่านเฮยหรู่ชางสั่งให้ข้ามาเอาชีวิตของแก” กุ้ยสือแสยะยิ้มอย่างหนาวเหน็บพร้อมกับจิตสังหารที่ไม่อาจเก็บซ่อน
เฮยหวี่ชาง ?
ฉิงเฟิงไม่ประหลาดใจกับชื่อนี้ คนผู้นั้นอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นใต้สวรรค์และสามารถทําให้เจ้าโล้นที่เปิดใช้พลังสายเลือดปลิวกระเด็นไปได้ด้วยฝ่ามือเดียว หากในวันนั้นลู่เต่าซางไม่ยื่นมือเข้าช่วย เขาและทีมเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดคงต้องจบสิ้น
” สรุปว่าเป็นไอ้หน้ากากผีเฮยหรู่ชางส่งแกมาตายสินะ” ฉิงเฟิงจ้องไปที่กุ้ยสือและกล่าวด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
เขาสังเกตระดับพลังของกุ้ยสืออย่างรอบคอบแล้วและพบว่าคนผู้นี้อยู่ในระดับแรกของขั้นใต้สวรรค์เช่นเดียวกับฉิงเฟิง แต่ในระดับพลังที่เท่ากันเขาย่อมไม่ใช่คู่มือของฉิงเฟิงอย่างแน่นอน
“แกมันโอหังนัก ! ข้าจะฆ่าแก !” กุ้ยสือกางฝ่ามือที่เล็กลีบของเขาออกมาและฟาดลงไปที่ฉิงเฟิงอย่างรุนแรง
ฝ่ามือของกุ้ยสือพาดผ่านอากาศและมาถึงตัวฉิงเฟิงในพริบตาพร้อมกับลมที่เย็นยะเยือก
ฉิงเฟิงไม่ได้หลบแม้แต่น้อย เขามีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากการต่อสู้กับโจวอี้ เขาคาดว่าไม่มีใครที่อยู่ในขั้นใต้สวรรค์ระดับแรกจะสามารถเอาชนะเขาได้
ฉิงเฟิงรวบรวมพละกําลังทั้งหมดของเขา เหวี่ยงหมัดที่ทรงพลังฉีกผ่านอากาศเข้าไปปะทะกับฝ่ามือของกุ้ยสือจนทําให้เกิดเสียงดังสนั่น
ครีด ครีด ครืด..
กุ้ยสือถูกบังคับให้ต้องก้าวถอยกลับไปสี่ก้าวก่อนที่เขาจะควบคุมสมดุลร่างกายได้ เขาตกใจมาก เขาไม่ได้คาดคิดว่าเลยฉิงเฟิงจะสามารถสกัดฝ่ามือที่ทรงพลังของเขาไว้ได้
“แก …. แกทะลวงผ่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว ?” กุ้ยสือถามด้วยความไม่เชื่อ
เมื่อตอนที่เฮยหรู่ชางสั่งให้เขามาฆ่าฉิงเฟิง เขาบอกเพียงแค่ว่าหลี่ฉิงเฟิงผู้นี้เป็นเพียงนักสู้ระดับ SSS ในหมู่ปุถุชนคนธรรมดาและเป็นราชันแห่งทวีปเท่านั้น กุ้ยสือตกใจมากที่เห็นกับตาว่ามันไม่ใช่อย่างที่เฮยหรู่ชางพูด
ฉิงเฟิงก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน ถึงแม้ว่าหมัดของเขาจะทําให้กุ้ยสือต้องถอย แต่หมัดของเขาที่ปะทะกับฝ่ามือของกุ้ยสือก็เย็นจัด
กุ้ยสือผู้นี้แข็งแกร่งกว่าโจวอี้หลายขั้นนัก เพราะฉิงเฟิงสามารถทําลายทั้งแขนของโจวอี้ได้เพียงหมัดแต่กับกุ้ยสือเขาทําได้เพียงแค่ให้คนผู้นี้ถอยไป 4-5 ก้าวเท่านั้น
ผ่านการประมือกันครั้งแรกของพวกเขา ฉิงเฟิงมีความรู้สึกว่าความจริงแล้วกุ้ยสือผู้นี้ ไปถึงขั้นใต้สวรรค์ระดับกลางแล้ว
โชคดีที่วิชาที่ฉิงเฟิงฝึกนั้นทรงพลังกว่าวิชาทั่วไป มิฉะนั้นเขาคงไม่มีทางเอาชนะภัยสือได้แน่นอน
ฉิงเฟิงรู้สึกขอบคุณลู่เต๋ซางเป็นอย่างมากที่มอบคัมภีร์และสอนวิทยายุทธให้แก่เขา เขามั่นใจว่าตราบใดที่เขาฝึกอย่างตั้งใจไปจนถึงหน้าสุดท้ายของคัมภีร์ เขาจะต้องเข้าสู่ขอบเขตแห่งขั้นแกรนด์มาสเตอร์ได้อย่างแน่นอน
กุ้ยสือเหวี่ยงฝ่ามือพร้อมด้วยสายลมที่หนาวเหน็บออกมาอีกครั้งและมุ่งเป้าไปที่ลิ้งเฟิงภารกิจของเขาวันนี้คือสังหารหลี่ฉิงเฟิง ถ้าหากเขาล้มเหลวเฮยหรู่ชางจะไม่ยกโทษให้เขาแน่นอน
เปรี้ยง !!
ฉิงเฟิงออกหมัดเข้าปะทะอีกครั้งและบังคับให้กู้ยสือถอยกลับไป ระหว่างที่พวกเขากําลังสู้กันไอเย็นที่แฝงมาจากฝ่ามือของกุ้ยสือก็ทะลุเข้าสู่ร่างกายของฉิงเฟิงและสร้างความเสียหายให้เขา
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าแปลกประหลาดที่ปราณฉีในร่างของฉิงเฟิงกลับบันเทิงไปกับไอเย็นจากพลังฝ่ามือของกุ้ยสือที่แทรกเข้ามาในร่าง ยิ่งไปกว่านั้น ฉิงเฟิงก็ยังรู้สึกอีกด้วยว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ดูดซับพลังปราณฉีที่เยือกเย็นนั้นเข้าไป
มันเป็นความประหลาดใจที่น่ายินดีสําหรับฉิงเฟิง เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าวิทยายุทธ์จากในคัมภีร์จักรพรรดิยุทธ์จะมีความสามารถในการดูดซับพลังฉีของคู่ต่อสู้และเปลี่ยนให้มันมากลายเป็นพลังของเขาได้ !
“มาต่อกัน กุ้ยสือ !!”
ฉิงเฟิงระงับความตื่นเต้นของเขาเอาไว้และเปิดฉากสัประยุทธ์กับกุ้ยสืออีกครั้งด้วยหมัดแล้วหมัดเล่า
เปรี้ยง !
เปรี้ยง !!
เปรี้ยง !!
หมัดและฝ่ามือของพวกเขาปะทะกันอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเสียงดังลั่นราวกับฟ้าร้อง โชคดีที่มันเป็นเวลาเที่ยงคืนในช่วงฤดูหนาว ซึ่งคนส่วนใหญ่ได้เข้านอนกันไปหมดแล้ว มิฉะนั้นการต่อสู้ที่รุนแรงขนาดนี้จะดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก
ยิ่งสู้กันนานเท่าไรกู้ยสือก็ยิ่งหวั่นวิตกมากขึ้น เขากลายเป็นฝ่ายที่ต้องป้องกันต่อการรุกไล่อย่างเกรี้ยวกราดของฉิงเฟิง เขาวางแผนที่จะใช้พลังไอเย็นของเขาแทรกซึมเข้าสู่ร่างของฉิงเฟิงเพื่อกัดกร่อนร่างกาย แต่กลับพบว่ามันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
หลังจากประมือกันไปร่วมร้อยกระบวนท่า ฉิงเฟิงสัมผัสได้ว่าพลังในตัวของเขาได้เพิ่มขึ้นจนถึงขีดขั้นที่จะทะลวงเข้าสู้ใต้สวรรค์กลางได้แล้ว เหตุผลเบื้องหลังของปรากฏการณ์นี้ก็คือวิชาจักรพรรดิยุทธ์นั่นเอง
วิชาจักรพรรดิยุทธ์ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับฉิงเฟิงอย่างกลมกลืน ราวกับว่าวิชานี้ปรับตัวของมันเองให้เหมาะสมกับร่างกายฉิงเฟิง มันสร้างบางอย่างขึ้นและส่งสิ่งนั้นให้ก้องกังวาลในสายเลือดและเส้นลมปราณของเขา
ฉิงเฟิงรู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมากที่พบว่า สายเลือดแห่งราชันหมาป่าของเขานั้นเชื่อมต่อกับวิทยายุทธ์โบราณอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเพื่อนสนิทสองคนมาพบกันโดยไม่คาดคิด !
ในระหว่างต่อสู้กับกุ้ยสือ ฉิงเฟิงก็ลองพยายามเชื่อมต่อพลังในร่างที่ฝึกฝนมาด้วยวิทยายุทธ์โบราณให้มันเข้ากับสายเลือดราชันหมาป่า ผลที่ได้ก็คือพลังของเขาเพิ่มอีกขั้นเมื่อพลังทั้งสองสายหลอมรวมกัน
“กุ้ยสือ เราเล่นกันมาพอแล้วไปพบบรรพบุรุษของแกได้แล้ว !” พลังฉีที่ดุร้ายเกรี้ยวกรา ดระเบิดออกมาจากฉิงเฟิง
โฮกกกกกกกกกก !!
ด้วยดวงตาสีแดง ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดง และท่าทางดุร้ายเหมือนอสูรกายของฉิงเฟิง เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเขาเปิดใช้งานพลังสายเลือดจากรอยสักหมาป่าบนหน้าอกของเขาแล้ว เขาง้างหมัดที่หลอมรวมพลังทั้งสองสายไว้ด้วย พลังสายหนึ่งเป็นพลังที่ได้มาจากการฝึกวิทยายุทธ์โบราณส่วนอีกหนึ่งมาจากพลังสายเลือดแห่งราชันหมาป่า
เปรี้ยง !!!
เมื่อหมัดของเขากระทบฝ่ามือกุ้ยสือในครั้งนี้ก็ทําให้แขนทั้งข้างของกุ้ยสือแหลกละเอียดพลังของหมัดยังส่งให้กู้ยสือลอยละล่องไปบนฟ้าแล้วร่วงหล่นกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
“ลั่ก ! ทําไมจู่ๆมันถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ถึงขนาดนี้?” กุ้ยสือกระอักเลือดคําโตออกมาพร้อมกับความหวาดกลัว
เมื่อครู่ฉิงเฟิงเพิ่งจะมีพลังอยู่ในระดับเดียวกับเขาแท้ๆ แต่ตอนนี้พลังของเขากลับเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ฉิงเฟิงเดินเข้าหากู้ยสือด้วยจิตสังหารที่รุนแรง ตอนนี้เขาเหมือนกับเทพเจ้าล่าสังหาร
“ไม่ๆๆ อย่าฆ่าข้า ข้ายังไม่อยากตาย” เมื่อรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าในแววตาที่ดุร้ายของฉิงเฟิงกุ้ยสือก็ใบหน้าซีดขาวด้วยความหวาดกลัว เขากําลังร้องขอชีวิต
“ให้ปล่อยแก ? ไม่มีทาง ถ้าหากคนที่นอนตรงนี้เปลี่ยนเป็นฉัน ฉันมั่นใจว่าแกจะ ฆ่าฉันในทันทีโดยไม่ลังเลดังนั้นไปตายซะ ”
กรอบ !
ฉิงเฟิงยกขาขึ้นพาดคอของกุ้ยสือและเหยียบลงไปเต็มแรงทันที
“ตําหนักโกสคิง รอก่อนเถอะ ฉันจะทําลายล้างพวกแกให้สิ้นซาก !
ฉิงเฟิงคํารามออกมาและหันหลังเดินออกไป
แต่สิ่งที่ฉิงเฟิงไม่รู้ก็คือ เขามีศัตรูมากกว่าตําหนักโกสคิงเสียแล้ว เขาลืมนึกถึงกาโตร์คิงและราชันมือสังหาร หวังชีเค่อ คนเหล่านี้จะต้องมาฆ่าเขาอย่างแน่นอนวันใดวันหนึ่ง
วูฟคิงมิเคยไร้ศัตรูและเขาก็ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด
ในคืนที่หนาวเหน็บเช่นนี้ผู้คนตามท้องถนนและรถแท็กซี่ก็หายากมาก ฉิงเฟิงยืนอยู่ บนถนนเป็นเวลานานเพื่อจะเรียกรถแท็กซี่
เขารู้สึกเย็นๆจึงตัดสินใจที่จะเดินเล่นสักพักเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
จากนั้นเมื่อเขาเดินมาถึงสะพานแห่งหนึ่ง เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่บนนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่งามหยดย้อยเป็นอย่างยิ่ง
*มีอีกหนึ่งคนที่จะโดนกินในคืนนี้ ใครหว่า…*