MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 280

Chapter 280: แผนการใหญ่

“พวกเราโชคดีที่มีพวกคุณอยู่ในวันนี้” ธงสงครามอันนองเลือดแสดงความขอบคุณให้กับนิกายซวนเฉิน

“ใช่ ฉันน้อมรับไว้ แต่เงินมันจะต้องจ่ายนะ หรือไม่อย่างนั้นฉันจะออกไปจากที่นี่แบบเป็นๆไม่ได้”ไร้ความกลัวพยักหน้า

“แน่นอน แน่นอนครับ…” ธงสงครามอันนองเลือดตอบกลับ

ธงสงครามอันนองเลือดเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ แต่เขาไม่เคยเห็นอะไรที่เหมือนกับนิกายซวนเฉินแบบนี้มาก่อนที่ที่สมาชิกนั้นต้องการที่จะกระทืบหัวหน้ากิลด์

“มีอะไรอย่างอื่นอีกไหม?”ไร้ความกลัวถาม

พวกเขานั้นอยู่ในที่ที่ห่างไกล ถ้าธงสงครามอันนองเลือดต้องการที่จะจ่ายเงินหรือแสดงความขอบคุณ เขาก็สามารถที่จะทํามันในบาร์แล้วที่ที่บรรยากาศมันจะดีกว่านี้มาก เขาจะต้องมีความตั้งใจอย่างอื่นเป็นแน่ ถ้าเขารีบร้อนแช่นนี้

“ผมต้องการที่จะเพิ่มกิลด์คุณเป็นกิลด์พันธมิตร คุณรู้สึกยังไงกับมันบ้าง?” ธงสงครามอันนองเลือดถามหาความคิดเห็นของไร้ความกลัว

ระบบพันธมิตรกิลด์ใน {REBIRTH3 หลังจากที่กิลด์ทําเควสป้องกันสํานักงานกิลด์สําเร็จ พวกเขาก็จะมีช่องว่างสามช่องให้เพิ่มพันธมิตรกิลด์เข้าไป

หลังจากที่กลายมาเป็นกิลด์พันธมิตรกัน ทั้งสองกิลด์ก็สามารถที่จะเพลิดเพลินไปกับระดับลดระดับเดียวกันรวมทั้งการทําเควสกิลด์ด้วยกัน มันค่อนข้างที่จะสะดวกสบายมาก

“กิลด์พันธมิตรงั้นเหรอ นายควรที่จะคิดมันอย่างระมัดระวังนะ…”เสียงของไร้ความกลัวดูไม่ได้สนใจและแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ทั้งปฏิเสธและไม่ตกลง

พันธมิตรกิลด์นั้นจะต้องแบ่งปันภาระและผลประโยชน์ร่วมกัน ในขณะที่แต่ละฝั่งได้ประโยชน์ร่วมกันนั้น ถ้าหนึ่งในสองกิลด์ถูกโจมตี อีกฝ่ายหนึ่งก็จะต้องช่วยเหลือหรือไม่อย่างนั้นก็จะสูญเสียครั้งใหญ่

มันมีช่องสําหรับพันธมิตรกิลด์ที่จํากัด ไม่มีใครที่จะมองหากิลด์ขยะเพื่อที่จะเป็นพันธมิตร กิลด์เล็กๆอย่างนิกายซวนเฉินที่มีสมาชิกเพียงแค่สิบคนนั้นต่างโดนดูถูกโดยโดยผู้เล่นคนอื่นอยู่เสมอๆ ไม่มีใครคิดจะเป็นพันธมิตรกับพวกเขา

ธงสงครามอันนองเลือดก็รู้ดีเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่เขาก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของนิกายซวนเฉินดี และถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป มันก็อาจจะไม่กลับมาอีกครั้งแล้ว

“พวกเรามั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก พี่น้องของพวกเราทั้งหมดจากกิลด์นั้นสนับนสนุนเกี่ยวกับการตัดสินใจนี้!” ธงสงครามอันนองเลือดพูด

หลังจากที่เห็นถึงความสามารถของนิกายซวนเฉินแล้ว ทุกคนในพันธมิตรอันนองเลือดก็ต่างนับถือความแข็งแกร่งของพวกเขา

แต่ธงสงครามอันนองเลือดพูดเข้าใจผิดอย่างชัดเจน ไร้ความกลัวไม่ได้ถามเขา เพราะไร้ความกลัวคิดว่านิกายซวนเฉินนั้นอ่อนแอ ถ้าพันธมิตรอันนองเลือดรู้ว่านิกายซวนเฉินนั้นมีศัตรูมากขนาดไหน พวกเขาก็จะรู้ว่าการเป็นพันธมิตรกับนิกายซวนเฉินนั้นจะทําให้พวกเขายุ่งอย่างมากในอนาคต

ไร้ความกลัวไม่มีเหตุผลที่จะบอกกับธงสงครามอันนองเลือดพูด เขาก็ตอบตกลงอย่างสุภาพแทน “ตั้งแต่ที่นายนั้นพูดออกมาด้วยความจริงใจ มันก็จะเป็นเรื่องที่หยาบคายสําหรับพวกเราที่จะปฏิเสธนาย มาเป็นพันธมิตรกันเถอะ พวกเราจะต้องการความช่วยเหลือของนายในอนาคตอย่างแน่นอน!”

“อย่าถ่อมตัวไปเลยครับ พวกเราต่างหากที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากคุณ…”ธงสงครามอันนองเลือดพูดไม่รู้อย่างแน่นอนถึงเส้นทางที่เขากําลังจะเดินไป

การเป็นพันธมิตรกิลด์กันนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดาย เพียงแค่ผู้เล่นเพิ่มเพื่อนกันและกัน ผู้นํากิลด์ของทั้งสองกิลด์ก็เพิ่มเพื่อนระหว่างกัน

หลังจากที่เป็นพันธมิตรกิลด์กัน ธงสงครามอันนองเลือดพูดก็ถามขึ้น “พวกเรากําลังจะเฉลิมฉลองกัน พวกคุณต้องการเข้าร่วมกับพวกเราไหม?”

“ไม่เป็นไรละ ขอให้สนุกละ พวกเรามีเรื่องที่จะต้องทํา” สมาชิกของนิกายซวนเฉินส่ายหัว

ผู้เล่นของนิกายซวนเฉินรู้ที่ยืนของพวกเขาดี พวกเขาจ่ายเงินให้พวกเขามาช่วยเหลือ ในตอนนี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นลง พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทําลายงานเลี้ยงของพันธมิตรอันนองเลือด

นอกจากนี้ หลังจากที่เควสป้องกันสําเร็จลง ผู้เล่นของกิลด์ก็จะมีรางวัลที่จะต้องไปรับ ทีมของนิกายซวนเฉินก็ไม่ต้องการที่จะดูคนอื่นรับรางวัล

“ก็ได้ ถ้างั้นผมจะเลี้ยงเหล้าพวกคุณครั้งหน้าละกัน” ธงสงครามอันนองเลือดพูดคิดไว้แล้วว่า พวกเขาจะปฏิเสธและหลังจากนั้นก็ขอตัวออกมาอย่างสุภาพ

ธงสงครามอันนองเลือดพูดก็จากไปและกลุ่มคนก็เริ่มที่จะรุมล้อมไร้ความกลัว “ไอ้บัดซบไร้ความกลัว จ่ายพวกเรามาซะ!”

ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างดูถูก “จะรีบอะไรกัน พวกเราไม่กลับไปก่อนละ? ไอ้พวกหน้าด้านเอ้ย..”

“ถ้างั้นรีบกลับไปเร็วเข้า!” หมิงตู่ตะคอกออกมา

รูปแบบเทเลพอร์ตของพันธมิตรกิลด์นั้นเชื่อมต่อระหว่างกัน ทีมของนิกายซวนเฉินก็กลับไปยังสํานักงานกิลด์ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

“เงิน! เงิน! เงิน!”

หวังหยู่และคนอื่นนั่งลงกันอย่างตื่นเต้น ในขณะที่รอไร้ความกลัวแบ่งเงิน ไร้ความกลัวก็หัวเราะออกมา “ฉันมีแผนใหญ่ที่วางไว้ ฉันสงสัยว่าพวกนายจะสนใจมันไหม?”

“แผนการ? แผนการอะไร?” คนอื่นที่เหลือถามอย่างสับสน

“แผนการที่สามารถที่จะเพิ่มเงินเก็บของนาย!”ไร้ความกลัวยิ้มออกมา

“อย่าพูดเล่นไปหน่อยเลยน่า มันไม่ใช่ว่านายสามารถเปลี่ยนเงินเป็นทองได้ในเกมนี้สักหน่อย” หมิงตู่ไม่สนใจ

ไร้ความกลัว “ฉันจะเป็นนายไปซะ พวกนายรู้ไหมว่าเกมจะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการในอีกสองสัปดาห์?”

“พวกเรารู้ แล้วทําไมละ?” หมิงตู่ถาม

รัศมีฤดูใบไม้ผลิหยุดคิดและหลังจากนั้นก็พูดเพิ่มเติมเข้ามา “เมื่อเกมมันเปิดอย่างเป็นทางการ มันก็จะเริ่มเปิดระบบแลกเปลี่ยนเงิน…”

“ใช่!” หวังหยู่พยักหน้า เมื่อเป็นพ่อค้าที่มีร่ํารวยมากที่สุดในเกม หวังหยู่ก็เคยพูดคุยกันกับดาบน้ําแข็งก่อนหน้านี้

“อัตราแลกเปลี่ยนเงินเท่าไหร่กัน?”ไร้ความกลัวหันกลับไปถามดาบน้ําแข็ง

“100ดอลลาร์ต่อ 1 เหรียญทอง และมันเป็นการแลกเปลี่ยนฝั่งเดียว”ดาบน้ําแข็งพูด

ในช่วงเวลานี้ ทุกคนก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ในตอนนี้ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 950ดอลลาร์ต่อ 1 เหรียญทอง ถ้าหลังจากเกมเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ทุกคนก็สามารถที่จะซื้อทองได้จากเว็บทางการ หลังจากนั้นมันก็จะถูกกว่าการซื้อทองในปัจจุบันไปสิบเท่า

ถ้าเป็นแบบนั้น ค่าของทองในปัจจุบันก็จะลดลงไปอย่างมาก มันอาจจะสามารถที่จะซื้อ 1ทองได้ด้วยเงิน 90 ดอลลาร์จากสถานที่การค้าบางแห่ง ทองจํานวนมากนั้นก็จะไม่มีความหมายในช่วงเวลานั้น

บริษัทเกมสามารถที่จะถูกโทษได้จากวิกฤติเศรษฐกิจนี้ แต่ผู้เล่นก็ไม่สามารถที่จะทําอะไรได้ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้นถูกเผยแพร่บนเว็บทางการตั้งนานแล้ว เหตุผลที่ว่าทําไมเหรียญทองจึงแพงมากในตอนนี้ เป็นเพราะว่าเงินนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของคน ผู้พัฒนาจึงไม่ได้ออกมาอธิบาย

มันสามารถที่จะถูดได้ว่าเกมที่ไม่สร้างเงินนั้นจะเป็นแกมที่ย่ําแย่

เมื่อเห็นทุกคนจมอยู่ในความคิด ไร้ความกลัวก็พูดออกมา “ทุกคนก็เข้าใจมันแล้วสินะ! อีกครึ่งเดือน เงินที่พวกนายหามาอย่างยากลําบากจะเหลือค่าเพียงแค่ 10%ของค่าเงินปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ยิ่งพวกนายรวยมากแค่ไหน พวกนายก็จะเสียเงินไปมากเท่านั้น…”

ทุกคนมองไปที่หวังหยู่พร้อมๆกัน เมื่อไร้ความกลัวพูดเสร็จ

หวังหยู่มีเงินมากกว่าสองหมื่นเหรียญทองและเมื่อเกมถูกเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว หวังหยู่ก็จะเสียเงินไปสิบแปดล้านดอลลาร์

ในยุคนี้ เงินจํานวนเท่านั้นก็เพียงพอที่จะทําให้หวังหยู่ที่ปราศจากเป้าหมายนั้นเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่สุขสบายที่เหลืออยู่กับภรรยาของเขาได้เลย

“แล้วพวกเราควรที่จะทํายังไงดีละ?” หวังหยู่นั้นเคยมีประสบการณ์ยากจนมาก่อนและรู้ดีถึงความเจ็บปวด เมื่อเรียนรู้ว่าเงินที่หามาอย่างยากลําบากนั้นจะสูญเสียคุณค่าไป เขาก็เริ่มที่จะตื่นตระหนก