MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 209
Chapter 209: หนึ่งคนที่ยังเหลืออยู่
“เหี้..อะไรวะ! นายกำลังจะบอกฉันว่าพวกเราไม่สามารถที่จะฆ่าพวกนิกายซวนเฉินที่ต่ำทรามพวกนั้นได้แม้ว่าพวกเราจะมีกองทัพผู้เล่นจำนวนสองพันคนงั้นเหรอ? ปิดทางเข้าออกของเมืองไว้! ฆ่าผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินทุกคนที่เจอ!”บุปผาอันโดดเดี่ยวออกคำสั่ง เขานั้นรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากกับความจริงที่เขาตายสองครั้งแล้วในวันเดียวกันนี้
กิลด์เล็กๆอย่างนิกายซวนเฉินจะสามารถเอาชีวิตรอดถึงตอนนี้ได้ยังไงกัน? สุดท้ายแล้วผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นต่างจดจำพวกเขาทั้งหมดได้แล้ว…
ผู้เล่นหลายพันคนนั้นจะไม่มีปัญหาในการเผชิญหน้ากับผู้เล่นหลายสิบคนในการต่อสู้ แต่ปัญหาของมันนั้นก็คือนิกายซวนเฉินยังคงใช้กลยุทธ์กองโจรในการสู้กับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กับพวกเขาในการต่อสู้ที่เป็นอย่างเหมาะสมก็ตามทีม ผู้เล่นหลายสิบคนของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา…
“แต่บอส นิกายซวนเฉินนั้นหนีไปแล้วนะ!”หนึ่งในผู้เล่นที่เฝ้ารูปแบบเทเลพอร์ตรายงาน
“พวกเขาหนีไปแล้วงั้นเหรอ? นายจริงจังใช่ไหม?”บุปผาอันโดดเดี่ยวถาม
“ผมจริงจังครับท่าน พวกเรานั้นมองพวกเขานั้นยานบินและบินหนีไป…แต่บางทีพวกเขาอาจจะกลับมา?”ผู้เล่นคนนั้นพูดต่อ
“วิ่งหนีไปแล้ว…”อารมณ์ของบุปผาอันโดดเดี่ยวดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อเขาได้รับข่าวใหม่นี้ ซึ่งทำให้พวกเขานั้นหวาดกลัวจนหนีไปนั้นอาจจะสามารถพูดได้ว่ามันเป็นชัยชนะ
ตั้งแต่ที่พวกเขาไล่ล่านิกายซวนเฉิน นี่เป็นข่าวดีข่าวแรกที่รายงานมายังบุปผาอันโดดเดี่ยว แต่บุปผาอันโดดเดี่ยวก็ยังรู้สึกว่าพวกเลวทรามพวกนั้นก็ไม่ได้สำเร็จมาจากการลงแรงที่มากสักเท่าไหร่ แม้ว่าพวกเขาจะชนะ มันก็ไม่ได้นำเอาชื่อเสียงมาให้กับพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาแพ้แล้วละก็ ชื่อเสียงของพวกเขานั้นก็จะจมดิ่งลงไปในก้นบึ้งของกองโคลน
ตั้งแต่ที่กิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นไล่พวกเขาหนีไปแล้วนั้น บุปผาอันโดดเดี่ยวก็คิดว่ามันเป็นชัยชนะของพวกเขา
มันไม่ใช่แค่เพียงบุปผาอันโดดเดี่ยวที่รู้สึกแบบนี้ คนอื่นที่ได้รับข้อความนี้ก็รู้สึกว่าแรงกดดันที่อยู่บนไหล่ของพวกเขานั้นก็ถูกยกออกไปด้วยเช่นกัน
มันเป็นเรื่องที่เด่นชัดที่การไล่ล่านิกายซวนเฉินนั้นทำให้ผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นไม่สามารถที่จะเข้าร่วมกินมื้อค่ำกับครอบครัวในวันปีใหม่ได้ ในตอนนี้ ปัญหานี้ก็จบลง พวกเขาก็สามารถที่จะไปเพลิดเพลินกับมื้ออาหารกับคนรักของพวกเขาได้
“ไอ้พวกบัดซบนั่นแม่งกลัวพวกเราจนหนีไปแล้ว!”
“มันเป็นเรื่องที่เด่นชัดว่า พวกเขานั้นหวาดกลัวพวกเรา หลังจากที่เห็นคนจำนวนมากไล่ล่าพวกเขา…”
“ใครจะไปคิดว่าพันธมิตรอันนองเลือดนั้นจะหวาดกลัวกลุ่มคนที่ขี้ขลาดเช่นนี้ ฉันเดาว่าหัวหน้าธงสงครามอันนองเลือดนั้นก็ไม่เท่าไหร่…”
ในขณะที่พวกเขานั้นต่างเฉลิมฉลองกับชัยชนะของพวกเขา กลุ่มผู้เล่นพวกนี้ก็ไม่ลืมที่จะเหยียดหยามพันธมิตรอันนองเลือด
“ฮ่าๆๆ เฮ้ ธงสงคราม ฉันไล่พวกมันจนหนีไปแล้ว! นายคิดว่ายังไงบ้างละ? นายนั้นพลาดโอกาสที่ดีงามเช่นนี้เลยนะ…”บุปผาอันโดดเดี่ยวส่งข้อความให้กับธงสงครามอันนองเลือดและโอ้อวดกับชัยชนะของเขา
ความพึงพอใจของบุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นเป็นเรื่องที่เห็นได้เด่นชัด ตั้งแต่ที่เขานั้นกำจัดกิลด์ที่ทำลายพันธมิตรอันนองเลือดได้โดยแทบไม่ลงแรงเลยนั้นก็เหมือนกับพิสูจน์ว่ากิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าพันธมิตรอันนองเลือด
“เหี้…! ไอ้พวกบัดซบจากนิกายซวนเฉิน! ทำไมพวกเขาถึงยอมแพ้ได้ง่ายดายขนาดนั้นกัน?”ธงสงครามอันนองเลือดตะโกน
“ฮ่าๆ นายนี่มันอะไรกัน บุปผา นายทำลายกิลด์เล็กๆด้วยจำนวนที่มากกว่าและนายก็เอามาโอ้อวดกับฉันนี่นะ….โอ้ ยังไงก็ตาม ฉันได้ยินมาว่านายถูกฆ่าไปสองรอบแล้วในวันนี้…”ธงสงครามอันนองเลือดตอบกลับ
“เหี้…เอ้ย…”บุปผาอันโดดเดี่ยวด่า แล้วเขาก็ตอบกลับอย่างหน้าด้าน “ในสงครามเกมแห่งความรักและสงครามนั้นไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะหรอก พวกเรานั้นกำจัดศัตรูของนายที่นายไม่สามารถเอาชนะได้! ฮ่าๆๆ…”
“เหี้…!”การตอบกลับของบุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นเกือบทำให้ธงสงครามอันนองเลือดกระอักเลือดออกมา ธงสงครามอันนองเลือดไม่ได้ตอบกลับไป และมันก็เป็นที่ชัดเจนว่าบทสนทนานี้ไม่ได้มีต่อ
“ฮ่าๆ นี่มันเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ ตั้งแต่ที่พวกเรากำจัดนิกายซวนเฉินได้แล้ว ฉันจะเลี้ยงเหล้าพวกนายเอง!”บุปผาอันโดดเดี่ยวประกาศอย่างมีความสุข
“นายมีความสุขอะไรกัน? ผมยังไม่จบกับนายนะ!”เสียงอันเย็นชาก็กระซิบมาที่หูของบุปผาอันโดดเดี่ยวท่ามกลางการเฉลิมฉลองของเขา
“มันเป็นนาย!!!”เสียงนี้ทำให้เขานั้นตื่นตระหนกเป็นอย่างมากจนเขาเกือบที่จะล้มลงไป เมื่อเขามองขึ้นไป บุปผาอันโดดเดี่ยวก็เห็นนักต่อสู้ที่ยืนอยู่ไม่ห่างไปจากเขาพร้อมกับการจดจ้องอันเย็นชาบนใบหน้าของเขา ไม่ใช่ว่าเขานั้นก็คือหวังหยู่งั้นเหรอ?
“ฮ่าๆๆ แน่นอนว่ามันเป็นผมเองละ!”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็ฟาดเข้าใส่ลำคอของบุปผาอันโดดเดี่ยว และเปลี่ยนเขากลายเป็นแสงสีขาวไป
“ทุกคน! ระวังตัวด้วย! มันยังมีผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินอยู่! ล่าเขาและฆ่าเขาทิ้งซะ!”บุปผาอันโดดเดี่ยวออกคำสั่งทันทีที่เขากลับไปเกิดที่จุดเกิด
“เฮ้ นายกำลังทำอะไรอยู่กัน?”
เพียงแค่วินาทีนั้นนี่เอง เสียงอันหลอกหลอนก็ดังขึ้นมาที่หูของเขาอีกครั้งหนึ่ง
ตั้งแต่ที่บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นยืนอยู่ด้านนอกจุดเกิดของนักรบก่อนหน้านี้ มันก็ไม่ได้ใช้เวลามากสักเท่าไหร่สำหรับหวังหยู่ที่จะไปหาเขาอีกครั้งหนึ่ง
“นายต้องการอะไร? นายจะฆ่าฉันในจุดเกิดนี่นะ?”บุปผาอันโดดเดี่ยวพูดติดอ่าง
แม้ว่าจุดเกิดนั้นจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ผู้เล่นไม่สามารถที่จะถูกฆ่าได้ เพียงแค่สายตาของหวังหยู่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นสั่นไปด้วยความกลัว เขานั้นก็รีบส่งอีกข้อความในแชทกิลด์ “รีบมายังจุดเกิดของนักรบเร็วเข้า! เขาอยู่ที่นี่!”
“นายโง่หรือเปล่า? ผมจะสามารถฆ่าใครสักคนในจุดเกิดได้ยังไงกัน?”หวังหยู่หัวเราะ
บุปผาอันโดดเดี่ยวก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยไอ้สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำลายกฏของระบบได้
แต่ประโยคต่อมาที่หวังหยู่พูดนั้นทำให้เขาน้ำตาตกใน
หวังหยู่เรียกยามเมืองสองคนมายังจุดเกิดและออกคำสั่งกับพวกเขาอย่างชัดเจน “ลากไอ้บัดซบนั่นออกมาให้ผม!”
“ได้ครับ!”ยามเมืองตอบกลับอย่างหนักแน่น และพุ่งเข้าใส่บุปผาอันโดดเดี่ยวแล้วพวกเขาก็ลากเขาออกมาจากจุดเกิด
พร้อมกับการโจมตีอันไหลลื่น หวังหยู่นั้นก็ตัดแขนของบุปผาอันโดดเดี่ยวออกและทำให้เขาตายอีกครั้งหนึ่ง….
หลังจากผ่านไปยี่สิบวินาที บุปผาอันโดดเดี่ยวก็เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง…แล้วเขาก็พูดตะกุกตะกัก แล้วเขาก็ชี้ไปยังหวังหยู่และยามเมือง “ฉันจะไปรายงานเรื่องทั้งหมดนี่!”
ยามเมืองมองมายังหวังหยู่ แล้วก็รอคอยอย่างกระตือรือร้นที่จะให้เขาออกคำสั่ง
“นี่มันโกงแล้ว! นายจะโดนแบนจากการโกงอย่างแน่นอน!”บุปผาอันโดดเดี่ยวพูดต่อ
NPC ที่ฟังคำสั่งจากผู้เล่นนั้นเป็นบางสิ่งที่บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นพบว่ามันเป็นไปไม่ได้ เหตุผลเดียวที่อธิบายได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือหวังหยู่นั้นกำลังโกงเกมอยู่!
“ถ้างั้น ทำไมนายไม่เดินออกมาด้วยตัวเองและมาสู้กับผมแบบลูกผู้ชายละ!”
“รอก่อนละกัน!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกนแล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและแสร้งใช้ [พุ่งเข้าชน] หวังหยู่หัวเราะออกมาแล้วเขาก็ยืดขาซ้ายออกมาและเตะเข้าใส่อากาศที่อยู่ข้างเขา แล้วนักฆ่าก็ล่วงหล่นลงบนพื้นและเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีขาว ในขณะที่หวังหยู่นั้นกลิ้งเข้ามาในจุดเกิด…