MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 208
Chapter 208: ใช้มาตรการรุนแรงยังไงละ
“การโจมตีนี่มาจากไหนกัน?”
ผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นมองไปรอบๆ แต่พวกเขาก็ไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว
“เฮ้ ไอ้โง่! มองไปที่ไหนกันอยู่? พ่อของนายอยู่นี่!”เสียงเยาะเย้ยก็ดังขึ้นจากบนฟากฟ้า
อมิตตาบาจ้องไปยังทิศที่เสียงดังออกมา แล้วเขาก็เห็นคนสองคนที่ยืนอยู่บนกำแพง หนึ่งในนั้นเป็นหมอผีที่สวมชุดคลุมสีเขียว ในขณะที่อีกคนนั้นก็คือนักต่อสู้
“พวกนายคือใครกัน?”อมิตตาบาพูดติดอ่าง
“ฉันเป็นปู่ของนายยังละ!”หมอผีหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาแล้วเขาก็เอาคทาชี้ไปยังพวกเขาแล้วปีศาจหกตัวก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศและพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นที่ติดอยู่ใน [บิดเบือน] อย่างบ้าคลั่ง
“เหี้…เอ้ย! หมาฤดูใบไม้ผลิ! นายจะเชื่อฉันไหมว่าฉันจะขว้างนายออกไป..”ความทระนงตัวตะโกนอย่างโกรธเคือง
“เลิกทำตัววุ่นวายได้แล้ว พวกเราจะต้องจัดการกับเรื่องนี้ให้รวดเร็ว กองกำลังเสริมของพวกเขาจะมาถึงในเวลาไม่นาน”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับอย่างใจเย็น
“ฮึ่ม!”ความทระนงตัวส่งเสียงฮึดฮัดแล้วเขาก็พุ่งออกไป และเหยียบไปที่ใบหน้าของอมิตตาบาตรงๆ แต่เทมพลาร์อย่างเขาที่โฟกัสในพลังป้องกันนั้นจะจับความทระนงตัวได้อย่างไรกัน?
พร้อมกับการช่วยเหลือของดาบน้ำแข็งและดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ ทั้งสามคนนั้นก็ส่งอมิตตาบากลับไปยังจุดเกิดในชั่วพริบตา
[พอยซั่นโนวา] นั้นเป็นสกิลอันทรงพลังที่น่าหวาดหวั่น ควบคู่ไปกับความจริงที่พิษที่รัศมีฤดูใบไม้ผลิใช้นั้นเป็นพิษที่หาได้ยาก ผู้เล่นที่ติดกับใน [บิดเบือน] นั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นแสงสีขาว
ในชั่วพริบตา ผู้เล่นทั้งหมดที่เฝ้าจุดเกิดนั้นก็ถูกสังหาร…
“รีบไปยังรูปแบบเทเลพอร์ตเร็วเข้า!”ไร้ความกลัวตะโกนแล้วเขาก็นำสมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินไปด้วย
บนถนนด้านข้างนั้น บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นก็ได้รับข้อความของอมิตตาบา และก็นำคนของเขาไปยังรูปแบบเทเลพอร์ต แต่เขานั้นก็หยุดตาม เมื่อเขาพบกับคู่ต่อสู้ที่ไม่คาดคิด หวังหยู่!
“บุปผาอันโดดเดี่ยวอยู่ไหน?”หวังหยู่ถามอย่างใจเย็น เขานั้นไม่ได้มีความตั้งใจที่จะโจมตี แต่หวังหยู่นั้นต้องการที่จะรู้ก่อนว่าบุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นอยู่ที่ไหน
“นายหาเขาทำไมกัน?”บุปผาอันโดดเดี่ยวถามอย่างเย็นชา
“เพื่อฆ่าเขายังไงละ!”
หลังจากคำพูดเหล่านั้นออกจากปากของเขา หวังหยู่ก็ลอยขึ้นบนอากาศ และตีลังกากลางอากาศแล้วเขาก็ดึงกริชออกมาจากมือของโจรทั้งสองคนที่ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา หวังหยู่นั้นก็บิดตัวอย่างเชี่ยวชาญและแทงไปที่ลำคอของโจรทั้งสองและส่งพวกเขาไปยังจุดเกิดก่อนที่เขาจะหล่นลงพื้น
ฉากที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของบุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว
บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นเคยพบกับหวังหยู่มาก่อนหน้านี้ ในภารกิจของค่ายอัศวิน ในช่วงเวลานั้น หวังหยู่และหมิงตู่เหมือนกับหมาจนตรอกที่หลบหนีโดยศัตรูของพวกเขา…ใครจะไปรู้ว่านักต่อสู้คนนั้นจะมีความสามารถมากเพียงนี้
โจรที่ถูกฆ่าสองคนนั้นยังคงใช้ [หลบซ่อน] อยู่ แต่ชายคนนี้ก็ยังคงเจอพวกเขา..
“จัดการเขาซะ!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกนออกมาอย่างเด็ดขาด แล้วลูกศรและเวทย์นั้นก็ลอยละล่องเต็มอากาศ
นักรบและอัศวินที่อยู่ในกลุ่มก็ก้มหัวของพวกเขาลงและใช้ [พุ่งเข้าชน] เพื่อร่นระยะระหว่างพวกเขาและหวังหยู่
หวังหยู่ก็รีบเอาพลองยาวของเขาออกมา และก็ปัดเวทย์และลูกศรออกไป ในขณะที่เขาฆ่านักรบและอัศวินที่พุ่งเข้ามาใส่เขา หวังหยู่ก็ทุบพลองยาวลงบนพื้นและส่งเขาลอยขึ้นกลางอากาศ และเขาก็ลงพื้นด้านหน้าบุปผาอันโดดเดี่ยวอย่างสง่างาม
“นายคือบุปผาอันโดดเดี่ยวใช่ไหม?”หวังหยู่ถามอย่างเย็นชาแล้วเขาก็จ้องอย่างเยือกเย็นใส่คนด้านหน้าของเขา
“ใช่ ใช่ ฉันเอง..”บุปผาอันโดดเดี่ยวพยักหน้า เขาจะแสร้งทำตัวอ่อนแอต่อหน้าลูกน้องของเขาได้ยังไงกัน?
“นายรู้เหตุผลไหมว่า ทำไมผมถึงต้องการที่จะฆ่านายหน่ะ?”หวังหยู่ถาม
“เนื่องจากว่านายเป็นสมาชิกของนิกายซวนเฉินอย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่ทั้งหมด!”
“ถ้างั้น ทำไมละ?”บุปผาอันโดดเดี่ยวถาม
“เนื่องจากว่านายเป็น ขยะยังละ!”หวังหยู่ตะโกนแล้วเขาก็เหวี่ยงพลองยาวอย่างรุนแรงและฟาดเข้าใส่หัวของบุปผาอันโดดเดี่ยวและเปลี่ยนเขากลายเป็นแสงสีขาว
“…”ผู้เล่นคนอื่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นมีการแสดงออกบนใบหน้าที่ซับซ้อน ถ้าผู้นำกิลด์ของพวกเขานั้นถูกฆ่าโดยการฟาดเพียงครั้งเดียวแบบนั้น ใครจะสามารถเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ได้กัน…
แต่หวังหยู่นั้นไม่ได้ยุ่งกับพวกเขา เขานั้นหันกลับและวิ่งไปยังจุดเกิดของนักรบ
“นายคิดว่าเขานั้นกำลังจะไปฆ่าบอสของพวกเราอีกไหม?”
“มันเหมือนกับว่าจะเป็นแบบนั้น…”
“อ๊า…ฉันรู้สึกแย่ๆชอบกลแหะ…”
หมิงตู่และคนที่เหลือนั้นก็ใช้ประโยชน์จากที่กิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ไม่ส่งคนของเขาไปยังรูปแบบเทเลพอร์ตทางทิศใต้ของเมือง และก็รีบพุ่งไปยังตรงนั้นอย่างบ้าคลั่ง
มันเป็นเรื่องที่ปลอดภัยอย่างมากที่ด้านในของรูปแบบเทเลพอร์ต ตั้งแต่ที่ศัตรูของพวกเขาไม่สามารถที่จะโจมตีพวกเขากลับมาได้ และทำได้เพียงดุด่าพวกเขา แต่หมิงตู่ที่หน้าด้านและหนังหนาทนทานอย่างเขานั้นก็ไม่แยแสกับการดุด่าเพียงเล็กน้อยแค่นี้ และก็นั่งอย่างโอหัง เหมือนกับว่าเขานั้นไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาดุด่าแม้แต่น้อย
“พวกเราอยู่ในรูปแบบเทเลพอร์ตแล้ว แล้วยังไงต่อละ?”หมิงตู่ถาม
“มายังทิศตะวันตกของเมือง!”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“โอเค!”แสงสีขาวก็ล้อมรอบผู้เล่นทั้งสี่คนแล้วพวกเขาก็หายไปจากรูปแบบเทเลพอร์ต
ผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์มองไปอย่างว่างเปล่าที่รูปแบบเทเลพอร์ตที่ไร้ผู้คน มันมีรูปแบบเทเลพอร์ตหลายแห่งในเมือง มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะคาดเดาว่าพวกหมิงตู่นั้นจะไปที่ไหน
“พวกเราควรที่จะไปไหนดี? พวกเราควรที่จะหนีไปได้แล้ว!”หมิงตู่ตะโกนอย่างไม่รีรอ เมื่อเขาพบกับไร้ความกลัว
“ผ่อนคลายหน่า พวกเรากำลังรออีกคนหนึ่งอยู่…”ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างไม่แยแส
เพียงแค่ไร้ความกลัวพูดเสร็จ ผู้หญิงที่สวยงามก็ปรากฏขึ้นตรงมุมถนนและกำลังรีบวิ่งมาหาพวกเขา
ผู้หญิงคนนั้นก็คือหยางนัว เนื่องจากกับดักที่ถูกติดตั้งไว้โดยผู้เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ นั้นก็ทำให้มีนักรบมากมายที่พุ่งมาหาเธอและล้อมร้อบเธอ
หยางนัวพุ่งเข้าใส่หนึ่งในนักรบ และเตะไปที่โล่ของเขาและส่งร่างของเธอลอยข้ามอัศวิน และก็รัดคอของเขาด้วยขาของเธอ
“หวา…”
นักธนูนั้นเป็นอาชีพที่นุ่งน้อยห่มน้อย แต่รูปร่างอันเซ็กซี่ของหยางนัวนั้นก็โดดเด่นออกมาจากชุดเกราะของเธอและทำให้ผู้ชายของนิกายซวนเฉินนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
แม้กระทั่งนักรบที่ถูกรัดคอนั้นก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา…
“ฉันก็ต้องการที่จะโดนแบบนั้นด้วย…”รัศมีฤดูใบไม้ผลิพึมพำ
“ฮึ่ม!”หยางนัวถอนหายใจแล้วเธอก็บิดร่างของเธอ และหักคอของนักรบและฆ่าเขาตายในทันที
“…”ทุกคนเหลือบมองไปที่รัศมีฤดูใบไม้ผลิอย่างเงียบๆแล้วเขาก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดของเขาเอง
“เอาเถอะ…ตั้งแต่ที่ทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว พวกเราจะไปไหนกันดี?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิหัวเราะออกมาอย่างอึดอัด
“เมืองพราหมณ์!”
“พวกเราจะไปที่นั่นทำไมกัน?”ทุกคนถามขึ้น ไม่เพียงแต่เมืองพราหมณ์นั้นจะเป็นเมืองที่อยู่ทิศใต้ที่สุดของทวีป มันก็ยังอยู่ห่างจากเมืองรัตติกาลไปสี่เขตที่พวกเขาอยู่
“ใช้มาตรการรุนแรงยังไงละ!”ไร้ความกลัวยิ้ม