MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 207
Chapter 207: ลอบโจมตี
“เหี้..!”
มันเหมือนกับว่าการเสียสละของผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นสามารถที่จะผลักดันผู้เล่นทั้งสามคนจนมุมนั้นปล่อยให้พวกเขาหลบหนีไปง่ายๆแบบนั้น…
“ปัง!”
บุปผาอันโดดเดี่ยวเตะประตูหน้าร้านอย่างโกรธเคือง
แต่ร้านส่วนตัวที่ผู้เล่นคนอื่นเป็นเจ้าของนั้นมีระบบที่จำกัดไว้ว่าร้านนี้ไม่สามารถที่จะถูกทำลายได้
ประตูของร้านค้านั้นเปิดออกมาเพียงแค่เล็กน้อย แต่มันก็เพียงพอที่หมิงตู่นั้นจะยื่นมือออกไปแล้วเขาก็กวักมือชักชวนบุปผาอันโดดเดี่ยวให้เข้ามาแล้วเขาก็เยาะเย้ย “บุปผา ทำไมนายไม่เข้ามาละ”
บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นตามืดบอดจากความกราดเกรี้ยวแล้วเขาก็ก้าวไปด้านหน้า และเดินเข้าไปหาประตูแล้วมันก็เปิดออกมากว้างขึ้น
ทันใดนั้น มือใหญ่ๆสี่มือก็ยืดออกมาจากด้านในร้านและลากบุปผาอันโดดเดี่ยวเข้าไปด้านใน
“โอ้พระเจ้า! เร็วเข้า ช่วยฉันด้วย!”
บุปผาอันโดดเดี่ยวตื่นตระหนก และตะโกนใส่สมาชิกกิลด์ของเขาแล้วมือที่จับเขาอยู่นั้นก็ทำร้ายเขาอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้หมัดอันต่อเนื่องของโบซอนและขุนนางครอท บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นแสงสีขาว ก่อนที่สมาชิกกิลด์ของพวกเขานั้นจะได้ทำอะไร…
“นิกายซวนเฉิน มีแค่หนึ่งในพวกเราที่จะยังคงมีอยู่บนโลกใบนี้!!!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกนอย่างโกรธเคืองจากจุดเกิด
ฝูงผู้เล่นจากเมืองรัตติกาลส่ายหัว เมื่อพวกเขาเห็นฉากที่เกิดขึ้น
ครึ่งหนึ่งในพวกเขานั้นส่ายหัวเนื่องจากความสงสารกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ ทำไมพวกเขาจะต้องไปยั่วยุนิกายซวนเฉินด้วยกัน…
ที่เหลือนั้นส่ายหัวกับความปัญญาอ่อนของนิกายซวนเฉิน…มันเหมือนกับว่าพวกบัดซบนี่ไม่เคยที่จะเรียนรู้บทเรียนเลย…
“พวกเราจะทำยังไงต่อดี? พวกเขานั้นล้อมรอบร้านของพวกเราแล้ว…”มู่จี่เซียนถาม
“ไม่มีปัญหา พวกเขาจะจากไปในเวลาไม่นาน และคิดวิธีอื่นในการจัดการกับพวกเรา สำหรับพวกนายที่อยู่ในร้าน พวกนายควรที่จะไปยังรูปแบบเทเลพอร์ตที่ใกล้ที่สุด เมื่อมันปลอดภัย ทุกคนนอกจากกระทิงเหล็กมาเจอฉันที่โบสถ์”ไร้ความกลัวแนะนำ
“ถ้างั้น ผมควรที่จะทำอะไรละ?”หวังหยู่ถามอย่างไม่พอใจ
“ไม่ว่านายจะไปไล่ล่าบุปผาอันโดดเดี่ยวงั้นเหรอ? ไม่เพียงแต่เขานั้นสั่งคนของเขาให้ยิงภรรยาของนาย เขานั้นพยายามที่จะแตะต้องตัวของเธออีกด้วย…”
“เหี้…เอ้ย! ไอ้ลูกกระห..! รอให้กูจับมึงได้ก่อนเถอะ!”หวังหยู่คำราม
“…”ทุกคนพูดไม่ออก ใครจะไปคิดว่าไร้ความกลัวนั้นจะโหดเหี้ยมกับศัตรูของเขามากขนาดนี้กัน
มันเป็นดั่งที่ไร้ความกลัวนั้นได้คาดการณ์ไว้ ผู้เล่นจากกิลด์อันบริสุทธิ์ที่อยู่นอกร้านนั้นก็จากไปในเวลาไม่นาน ตั้งแต่ที่พวกเขารู้ว่ามันไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถข้ามผ่านพื้นที่ส่วนบุคคลอย่างร้านค้าได้ พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะสลายตัวและไล่ล่าผู้เล่นคนอื่นของนิกายซวนเฉินแทน
ไร้ความกลัวที่อยู่ในจุดเกิดด้านในโบสถ์นั้นถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดยี่สิบห้าคนของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์
สิบนาทีต่อมา กิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นก็ล้อมรอบรูปแบบเทเลพอร์ตทั้งหมดและจุดเกิดในเมือง
เมื่อเป็นแบบนี้ มันจึงไม่มีทางที่จะออกจากเมืองหรือออกจากจุดเกิด บุปผาอันโดดเดี่ยวคิดว่ามันเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะต้อนนิกายซวนเฉินให้จนมุม…
นี่เป็นครั้งแรกที่นิกายซวนเฉินนั้นถูกผลักดันให้ตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบากโดยศัตรูของพวกเขา
มันเป็นแค่ความคิดอันเพ้อฝันที่นิกายซวนเฉินนั้นจะพยายามสู้กับกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้นี่เอง ไร้ความกลัวจึงตัดสินใจให้คนที่เหลือมาหาเขาก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยทางนี้ พวกเขานั้นก็สามารถที่จะจดจ่อกับการต่อสู้ได้
นอกจากผู้เล่นตรงประตูเมือง ผู้เล่นคนอื่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นก็ตั้งทีมขึ้นมาห้าสิบทีม และกระจัดกระจายไปรอบเมืองเพื่อค้นหานิกายซวนเฉิน
แม้กระทั่งบุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นก็นำทีมผู้เล่นชั้นยอดเฝ้าถนน
จุดเกิดของโบสถ์นั้นถูกป้องกันโดยอมิตตาบาและกฏอันว่างเปล่า และทีมของเขายี่สิบคน
เมื่อรู้ถึงความแข็งแกร่งของหวังหยู่แล้ว อมิตตาบานั้นก็เลือกผู้เล่นยี่สิบคนเพื่อทีมของเขา และแต่ละคนนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขาเลย
อมิตตาบานั้นมีความมั่นใจที่เขาจะฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นนิกายซวนเฉินทั้งกิลด์ก็ตาม
เมื่อยืนเฝ้ายามนั้นเป็นงานที่น่าเบื่ออย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้คนของเขานั้นเริ่มที่จะเบื่อหน่าย อมิตตาบาและผู้เล่นอีกหลายคนนั้นกำลังนั่งอยู่บนพื้นและกำลังพูดคุยกันอยู่ พวกเขาคิดว่าตราบเท่าที่ไร้ความกลัวนั้นไม่ใช่คนโง่ เขาก็คงไม่วิ่งออกมาจุดเกิดอย่างแน่นอน
แต่ไร้ความกลัวนั้นก็เปิดประตูโบสถ์ออกมาอย่างรุนแรง แล้วเขาก็ยกนิ้วกลางให้กับผู้เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์แล้วเขาก็เดินออกมาจากโบสถ์
“เหี้…อะไรวะ! ไอ้โง่นั่นร้องหาที่ตายแล้ว!”กฏอันว่างเปล่าตะโกนแล้วเขาก็ใช้ [พุ่งเข้าชน] เพื่อเร่งความเร็วเข้าหาไร้ความกลัว
ไร้ความกลัวยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วเขาก็ร่าย [หวาดกลัว] ใส่เขา และก็รีบรีบร่ายแสงสีเขียวใส่กฏอันว่างเปล่าแล้วพลังชีวิตของเขานั้นก็ค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง
มันมีนักเวทย์สองคนในทีมนี้ของผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ หนึ่งในนั้นคือฝุ่นอันล่องลอย ในขณะที่อีกคนนั้นถูกเรียกว่า ความมัวหมองอันล่องลอย พวกเขานั้นต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ20 แม้ว่าพวกเขานั้นจะทำเควสเลื่อนอาชีพยังไม่เสร็จก็ตาม
ความขัดแย้งของพวกเขาทั้งสองคนต่อนิกายซวนเฉินนั้นมากยิ่งกว่าบุปผาอันโดดเดี่ยว โดยปราศจากการรอคอยสัญญาณ พวกเขานั้นก็ยกคทาของพวกเขาขึ้นอย่างฉับพลันและร่ายเวทย์ออกมามากมายเพื่อฆ่าไร้ความกลัว
“อ๊า! อ๊า!”
ก่อนที่พวกเขานั้นจะมีโอกาสได้โจมตี ฝุ่นอันล่องลอยนั้นก็ถูกกริชแทงทะลุลำคอ ในขณะที่ ความมัวหมองอันล่องลอยนั้นถูกฟันที่อก ทั้งคู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นแสงสีขาวในทันที
“ลอบโจมตี!”
เหตุผลเดียวที่ไร้ความกลัวนั้นเดินออกมาจากโบสถ์นั้นก็เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจของผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์มายังตัวเขา และทำให้พวกเขานั้นไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้านข้าง เพียงหลังจากที่พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้อง พวกเขาก็หันกลับไปและเห็นนักฆ่ากำลังสังหารแถวหลังของพวกเขาอยู่
นักฆ่าคนนั้นก็คือดาบน้ำแข็ง ไม่เพียงอุปกรณ์ของเขานั้นจะอยู่ในระดับสูง แต่ความสามารถของเขานั้นก็ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ทุกการฟันของเขานั้นจะทำให้นักธนูหรือนักเวทย์เสียชีวิตไป เมื่อเวลาค่อยๆผ่านไป ผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ก็ฟื้นสติจากความตกตะลึงได้ ดาบน้ำแข็งนั้นก็ฆ่านักธนูคนสุดท้ายไปเสียแล้ว ก่อนที่เขาจะหายตัวไปพร้อมกับ [หลบซ่อน]
“ยืนหันหลังเข้าด้วยกัน! มีใครบางคนกำลังเลียนแบบฉันอยู่!”
“ใครวะ? มึงคือใครกัน?”
สองเสียงที่คล้ายคลึงกันก็ดังขึ้น
ผู้เล่นก็หันกลับไปมอง…และพบอมิตตาบาสองคนกำลังตะโกนใส่กันเอง
“หื้อ? ทำไมพวกเขามีสองคนกันละ?”
“เขากำลังเลียนแบบฉันอยู่! เมินฉันไปซะ ทุกคนหันหลังเข้าหากัน! ระวังนักฆ่า!”หนึ่งในอมิตตาบาตะโกนออกมา
“รีบฆ่าเขาให้ฉันซะ!”อีกคนตะโกน
ผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นต่างอ้าปากค้างแล้วพวกเขาก็เริ่มที่จะหันหลังเข้าหากัน…
พวกเขานั้นไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี…
ทันใดนั้น หนึ่งในอมิตตาบาก็กระโดดถอยหลังและหายไปจากสายตาของพวกเขา เมื่อ [บิดเบือน] นั้นพันเข้าไปที่ผู้เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์
“ฉัวะ!”
หมอกสีเขียวก็กระจายไปท่ามกลางผู้เล่นพวกนั้นและทำให้พลังชีวิตของพวกเขาลดลงอย่างต่อเนื่อง