MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 204
Chapter 204: ขอความช่วยเหลือ
“โอ้ ได้เลย!”โบซอนและขุนนางครอทนั้นตกลงในทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดที่เกี่ยวกับกระทิงเหล็ก
ตั้งแต่ที่มีผู้เล่นเพียงแค่หนึ่งร้อยคนในซอยนี้ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากที่หวังหยู่จะฝ่าวงล้อม แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ก็ตาม
บุปผาอันโดดเดี่ยวกัดฟันแล้วเขาก็ออกคำสั่งให้คนของเขาปีนขึ้นไปบนตึกด้วยเช่นกัน เป้าหมายสูงสุดของพวกเขานั้นก็คือฆ่าผู้เล่นทั้งสามของนิกายซวนเฉินลง
แต่พวกสามคนนี้นั้นสามารถปีนได้ด้วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก…
ใครก็ตามที่พยายามจะเข้าใกล้ตึกนั้นก็จะโดนลูกบอลไฟ โล่ หรือแม้กระทั่งดาบ…
นักรบจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นพยายามที่จะปีนขึ้นไปบนตึกนั้นก็ถูกผลักกระเด็นลงมา…พวกเขานั้นกลายเป็นของเล่นของพวกนิกายซวนเฉิน
ความคิดที่พวกเขานั้นเป็นของเล่นในวันขึ้นปีใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขานั้นกราดเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
“เพิ่มกำลังโจมตีซะ!”บุปผาอันโดดเดี่ยวออกคำสั่ง
นักเวทย์จากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ก็ก้าวออกมาด้านหน้าในทันที ยกคทาของพวกเขาขึ้นและพวกเขาก็เริ่มโจมตี…
“ฮ่าๆๆ! พวกนายแกล้งว่าปัญญาอ่อนหรือพวกนายปัญญาอ่อนจริงๆกัน?”หมิงตู่เยาะเย้ยแล้วเขาก็ก้าวออกมา และก็ยกคทาขึ้นมาร่าย [เปลวเพลิงนรก] และ [ฝนลูกศรเปลวเพลิง] และฆ่านักเวทย์พวกนั้นตายทั้งหมดในทันที
มันเป็นความโชคดีของนิกายซวนเฉินที่มีแต้มคุณธรรมเป็นจำนวนมากในเมืองรัตติกาล ในขณะที่พวกเขานั้นทำเควสป้องกันสำนักงานกิลด์ มิฉะนั้นแล้วละก็ยามเมืองนั้นก็คงมาหาพวกเขาแล้ว…
“เหี้…! นักธนู ยิงพวกมันซะ!”บุปผาอันโดดเดี่ยวออกคำสั่งในทันที ให้นักเวทย์ที่เหลือล่าถอย และเลือกกองกำลังธนูมาแทน
ขุนนางครอทก็ยกโล่ของเขาขึ้น และป้องกันพวกเขาทั้งสามคนอย่างยอดเยี่ยม
สกิล [เจาะทะลุ] ของนักธนูนั้นสามารถที่จะเจาะทะลุได้เพียงแค่เกราะ ไม่ใช่โล่ โล่ของขุนนางครอทนั้นป้องกันการโจมตีที่เข้ามาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แม้ว่าโล่ขนาดมหึมาของขุนนางครอทนั้นจะมีพลังโจมตีที่ต่ำเป็นอย่างมากและไม่ได้มีการต้านทานเวทย์ที่สูง พลังป้องกันกายภาพของมันนั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่สำคัญว่าลูกศรหรือสกิลของนักธนูนั้นใช้ไปกี่ครั้ง พวกมันก็ไม่สามารถที่จะเจาะทะลุการป้องกันของเขาได้เลย
แม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่สามารถที่จะเจาะทะลุโล่ของเขาได้ คลื่นการโจมตีของนักธนูนั้นก็ยังทำให้พลังชีวิตของขุนนางครอทลดลงอย่างช้าๆ
หลังจากหลายนาทีนั้นผ่านพ้นไป นักธนูนั้นก็ทำให้พลังชีวิตของขุนนางครอทลดลงไป 50% ได้ในที่สุด แต่ก่อนที่พวกเขานั้นจะได้มีโอกาสฉลองกับความสำเร็จของพวกเขา ขุนนางครอทก็ดื่มยาฟื้นฟูระดับกลางไปแล้ว
นักธนูนั้นเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว และแทบจะขว้างธนูของเขาลงบนพื้นด้วยความหงุดหงิด
“บอส แม่ของผมเรียกให้ผมกลับไปหาครอบครัวเพื่อกินข้าวมื้อเย็นของวันปีใหม่ครับ…”นักธนูนั้นบอกกับบุปผาอันโดดเดี่ยว
“ผ่อนคลายหน่า ยาฟื้นฟูระดับกลางนั้นเป็นเรื่องยากที่จะได้มันมา พวกเขานั้นไม่ได้มีมันมากสักเท่าไหร่หรอก!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตอบกลับ
เหมือนกับว่าเขานั้นรู้ว่าบุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นคิดอะไรอยู่ หมิงตู่ก็ขว้างยาฟื้นฟูระดับกลางไว้บนดาดฟ้าแล้วเขาก็เยาะเย้ยพวกเขา “มันก็เป็นแค่ยาฟื้นฟูระดับกลาง ไม่ใช่ว่าพวกเราขาดแคลนมันสักหน่อย…นี่ พวกนายเอาไปสิ!”
“อย่าไป! มันเป็นกับดัก!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกน
“โอ้พระเจ้า มันเป็นยาฟื้นฟูระดับกลางจริงๆด้วย!”
ผู้เล่นหลายคนนั้นก็พุ่งไปด้านหน้าแล้ว และเมินเฉยกับคำเตือนของบุปผาอันโดดเดี่ยว ในขณะที่พวกเขานั้นตามืดบอดจากความละโมภ
เสาเพลิงก็ปะทุขึ้นมาจากพื้นดินและเผาผู้เล่นพวกนั้นจนเป็นผุยผง…
“อุ๊ปส์ มือของฉันมันลื่นหน่ะ….ฉันขอโทษ พวกนายสามารถมาเอาได้นะ…”หมิงตู่หัวเราะ
ผู้เล่นคนอื่นที่ไม่โดนเสาเพลิงนั้นก็รีบวิ่งออกมาจากระยะการโจมตีของหมิงตู่ เมื่อเห็นเพื่อนของพวกเขานั้นโดนเผาเป็นๆนั้นทำให้พวกเขายับยั้งตัวเองได้เป็นอย่างดี….
ผู้เล่นทั้งสามคนของนิกายซวนเฉินนั้นหัวเราะออกมา เมื่อเห็นความหวาดกลัวในสายตาของผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์แล้วพวกเขาก็นั่งลงและนั่งคุยกัน
“นายคิดว่ากระทิงเหล็กจะมาเมื่อไหร่กัน เขาจะไม่ใช้เวลาทั้งคืนไปใช่ไหม….แม่ของนายถามนายให้ไปกินข้าวมื้อเย็นกับเธอหรือยัง?”ขุนนางครอทถาม
“ไม่ ไร้ความกลัวนั้นได้แจ้งแม่ของฉันแล้ว…”โบซอนส่ายหัว “แล้วนายละ? คนในครอบครัวนายไม่เรียกงั้นเหรอ?”
“ฉันไม่ได้มีครอบครัวหน่ะ…”ขุนนางครอทตอบกลับอย่างเศร้าสร้อย
“โอ้ ฉันขอโทษ….แล้วนายละเฒ่าหลี่?”
“ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญการเล่นเกม ไม่มีใครกล้าที่จะเรียกฉันหรอก ถ้าฉันไม่กลับบ้าน…”หมิงตู่ตอบกลับ
บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นแทบจะเป็นบ้าด้วยความโกรธ เมื่อเขาเห็นพวกเขาสามคนกำลังนั่งพูดคุยอย่างสบายใจด้านบนดาดฟ้า นักรบนั้นสามารถที่จะปีนขึ้นไปได้ นักเวทย์นั้นก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้ได้และแม้กระทั่งนักธนูก็ไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้….พวกเขานั้นตะกุกตะกักขนาดนี้ได้อย่างไรกันกับเพียงแค่ผู้เล่นสามคนจากนิกายซวนเฉิน
“ทุกคนมารวมตัวกันในซอยทางส่วนใต้ของเมือง ฉันไม่เชื่อว่าพวกเราไม่สามารถที่จะฆ่าพวกเขาได้…”บุปผาอันโดดเดี่ยวส่งเข้าไปในแชทกิลด์
ผู้เล่นจากจุดเกิด รูปแบบเทเลพอร์ต และแม้กระทั่งประตูเมืองก็รีบวิ่งมาทางทิศใต้ของเมือง หลังจากที่ได้รับคำสั่งของบุปผาอันโดดเดี่ยว
ตั้งแต่ที่มันเป็นวันขึ้นปีใหม่ มันจึงไม่ได้มีผู้เล่นมากเท่าไหร่ที่ออนไลน์อยู่ เมื่อมองผู้เล่นนับพันคนกำลังวิ่งไปทางใต้ของเมืองนั้นทำให้เป็นที่สงสัยของผู้เล่นจากเมืองรัตติกาล
“มันมีเควสบางอย่างในทิศใต้งั้นเหรอ?”ผู้เล่นคนหนึ่งถามขึ้น
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย ก่อนหน้านี้มันมีการต่อสู้ระหว่างพันธมิตรอันนองเลือดและกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์อยู่นะ”
“ไร้สาระ ฉันมาจากพันธมิตรอันนองเลือด กิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์กำลังล้อมรอบนิกายซวนเฉินอยู่…”
“ล้อมรอบนิกายซวนเฉินงั้นเหรอ? โอ้ คนนอกพวกนั้นแม่งบ้าไปแล้ว…”
“ใครจะไปรู้กันละ…”
ผู้เล่นจากเมืองรัตติกาลนั้นต่างคุ้นเคยกับสิ่งที่นิกายซวนเฉินนั้นทำมาก่อน กิลด์ใหญ่นั้นล้อมรอบกิลด์เล็กๆแบบนิกายซวนเฉินนั้นไม่ใช่บางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ผู้เล่น 2987 คนของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นมี 2400คนที่กำลังล้อมรอบคนสามคนของนิกายซวนเฉิน
และในตอนนี้ก็มีนักธนูจำนวนห้าร้อยคนอยู่…
ห่าลูกศรที่มาจากนักธนูจำนวนมากนั้นเป็นบางสิ่งที่ไม่สามารถที่จะดูถูกได้เลย มันจำเป็นต้องใช้แค่เพียงแค่สามรอบนั้นก็ทำให้พลังชีวิตของขุนนางครอทลดลงไป 50% และผลักดันให้เขาต้องดื่มยาฟื้นฟูระดับกลางอีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่าผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินนั้นจะมียาฟื้นฟูระดับกลางเป็นจำนวนมาก มันก็ไม่ใช่ว่ามันไม่มีหมด มันก็ไม่ใช่เวลานานที่ขุนนางครอทนั้นจะดื่มยาฟื้นฟูระดับกลางที่เขามีในช่องเก็บของจนหมด แม้ว่าจะมีเพิ่มเติมจากหมิงตู่และโบซอน พวกเขานั้นก็อยู่ได้ไม่เกินสิบนาที
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หวังหยู่ที่พึ่งกินข้าวเย็นเสร็จและกำลังช่วยทำความสะอาดโต๊ะอาหารก็มีคนโทรมาหา
“พี่หยู่ นี่ของพี่ค่ะ”หลี่ซัวหยิบมือถือให้และส่งมันให้กับหวังหยู่
“อื้ม อื้ม!”หวังหยู่รับสาย เขาพูดคุยอยู่ไม่กี่นาทีแล้วเขาก็วางมันลง
“พี่หยู่ ทำไมหัวหน้ากิลด์ไร้ความกลัวถึงโทรหาพี่กันคะ? เขามาอวยพรวันปีใหม่กับพี่งั้นเหรอ?”
“โอ้ ได้โปรดละ พวกเขาเริ่มสู้กันในเกมและพวกเขาจำเป็นต้องให้ผมช่วยเหลือพวกเขาหน่ะ..”หวังหยู่ถอนหายใจแล้วเขาก็เดินเข้าไปในห้องของเขา