MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 199
Chapter 199: ดินเนอร์วันปีใหม่
“นิกายซวนเฉิน? นายไม่ได้ล้อเล่นกันใช่ไหม…”ธงสงครามอันนองเลือดตอบกลับอย่างไม่พอใจ “ไอ้พวกบัดซบนั่นทำสิ่งที่แปลกที่สุดเพื่อเหตุผลประหลาดๆของพวกมัน แต่พวกมันนั้นก็ไม่เคยที่จะสร้างปัญหาให้กับฉัน ถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรให้กับพวกมัน และพวกฉันก็ไม่ได้ไปยั่วยุพวกมันเลยด้วยซ้ำในช่วงนี้
หนึ่งในกฏที่ไม่ได้พูดกันในพันธมิตรอันนองเลือดนั้นก็คือห้ามยั่วยุนิกายซวนเฉิน พันธมิตรอันนองเลือดนั้นต้องใช้ความอดทนอย่างมากกับท่าทางอันหยิ่งยโสโอหังของนิกายซวนเฉิน เนื่องจากกฏข้อนี้
“หนึ่งในผู้เล่นของพวกเรานั้นส่งสมาชิกไปรับคนเข้าใหม่นั้นมีข้อขัดแย้งกับใครบางคนในนิกายซวนเฉิน…ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นปัญหาเรื่องนี้”บุปผาอันโดดเดี่ยวอธิบาย
“ชิ!”พันธมิตรอันนองเลือดเย้ยหยัน “ถ้างั้นพวกเขานั้นจะจัดการกับพวกนาย ทำไมพวกเขาถึงลากพวกเราลงไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยกันละ?”
“บางที เนื่องจากว่าพวกเขานั้นไม่ได้มีความแข็งแกร่งในการจัดการกับพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะใช้ความแข็งแกร่งของพวกนายในการสู้กับพวกเรา…”บุปผาอันโดดเดี่ยวตอบกลับ
“ฮ่าๆๆ!”คนที่มีตำแหน่งสูงในพันธมิตรอันนองเลือดระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
กิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นไม่เชื่อจริงๆเหรอว่านิกายซวนเฉินนั้นไม่สามารถที่จะเอาชนะพวกเขาได้กัน? ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเทียบเท่าได้กับพันธมิตรอันนองเลือดเลย
หรือว่ากิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นเชื่อว่าพันธมิตรอันนองเลือดนั้นล่าถอย เนื่องจากข้อตกลงระหว่างผู้นำของกิลด์ว่าจะไม่ทำสงครามกิลด์กันละ? ไร้สาระ! นั่นเป็นข้อตกลงของกิลด์ใหญ่ พวกเขานั้นไม่สนใจกฏพวกนั่นหรอก ถ้าพวกเขาต้องการที่จะทำลายกิลด์เล็กๆเช่นนี้ แต่นิกายซวนเฉินนั้นจะถูกทำลายได้อย่างง่ายดายแบบนั้นเหรอ? ไม่เพียงแต่สมาชิกทั้งหมดนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ พวกเขานั้นมีแม้กระทั่งชายคนนั้น…
“ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้มันง่ายๆ…นิกายซวนเฉินนั้นเป็นยิ่งกว่าสิ่งที่พวกนายคาดคิด”ธงสงครามอันนองเลือดตอบกลับ
“ฉันคิดว่านายนั้นแค่หวาดกลัวนิกายซวนเฉิน!”
“ฮ่าๆ นายสามารถที่จะพูดอะไรก็ได้ แต่ถ้านายไม่ได้มีหลักฐาน ถ้างั้นฉันก็จะไม่เชื่อนายอีกด้วย”ธงสงครามอันนองเลือดโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
พันธมิตรอันนองเลือดก็ยกหอกของเขาขึ้นอย่างไม่รีรอ และก็แทงลงไปบนพื้นด้านหน้าเขา
“เดี๋ยวก่อน ตามที่ฉันรู้มา พวกนายนั้นก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน! ฉันมีพยาน!”บุปผาอันโดดเดี่ยวรีบพูด
“พยาน? ใครคือพยานกัน?”ธงสงครามอันนองเลือดถาม
“โรสอันนองเลือด!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกนแล้วเขาก็ส่งสัญญาณให้หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามา
ภูเขาตะวันตกนั้นได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้กับโรสแล้ว ถ้าปัญหานี้มันถูกเริ่มต้นขึ้นมาจากนิกายซวนเฉินจริงๆ ถ้างั้นเธอก็สามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่าเธอนั้นบริสุทธิ์
“โรส มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?”ธงสงครามอันนองเลือดเหลือบตาไปมองโรส เมื่อเขาหันไปพูดกับเธอ
“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น…”โรสอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยน รวมไปทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยม และการสนับสนุนของภูเขาตะวันตกนั้นทำให้เรื่องเล่าของเธอนั้นน่าเชื่อถือ
แต่เธอก็ยังคงเป็นเพียงแค่หญิงสาว เธอนั้นก็เล่าเรื่องเกินจริงและทำให้สมาชิกทุกคนของนิกายซวนเฉินนั้นดูชั่วร้ายต่ำทรามเป็นอย่างมาก และไม่พูดถึงตอนที่เธอนั้นเอาอุปกรณ์ไปจากนิกายซวนเฉินอย่างไม่ยุติธรรม
ผู้นำกิลด์ทั้งสองคนนั้นดูจมไปกับความคิด เมื่อพวกเขานั้นได้ยินเรื่องราวที่เธอเล่า
มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นตกกับดักของนิกายซวนเฉิน ทั้งสองกิลด์ที่มีผู้เล่นหลายพันคนนั้นต่างเต้นบนฝ่ามือของพวกเขา…
“มีอะไรเหรอ? นายจะไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้จริงๆงั้นเหรอ ธงสงคราม? ไอ้บัดซบพวกนั้นแม่งหลอกพวกเราทั้งคู่เลยนะ!”บุปผาอันโดดเดี่ยวก็ดูท่าทางใจเย็น
“ฮ่าๆๆ แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น พวกเรานั้นจะไม่ยั่วยุพวกเขา!”
ถ้าโรสอันนองเลือดนั้นไม่ได้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนและโรงเตี๊ยมแบบนั้นแล้วละก็ ธงสงครามอันนองเลือดนั้นอาจจะจู่โจมนิกายซวนเฉินร่วมกับกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์
แต่เรื่องเล่าของโรสนั้นทำให้ธงสงครามอันนองเลือดนั้นสงสัย ไม่ว่าพวกเขานั้นจะต่ำทรามมากขนาดไหน ผู้เล่นจากนิกายซวนเฉินนั้นก็จะไม่ไปยั่วยุคนผู้อื่น
ไม่ว่ากระทิงเหล็กนั้นจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขานั้นก็เป็นแค่ชายเพียงคนเดียว ตราบเท่าที่พวกเขานั้นรวบรวมผู้คนมามากเพียงพอแล้วละก็ พวกเขาก็จะสามารถฆ่าเขาได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้ธงสงครามอันนองเลือดนั้นลังเลก็เป็นเพราะกลยุทธ์ของนิกายซวนเฉินที่หลอกล่าได้ทั้งพันธมิตรอันนองเลือดและกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์
“ทำไมนายถึงขี้ขลาดได้ขนาดนั้นกัน? นายไม่ใช่หนึ่งในผู้นำกิลด์ระดับสูงของประเทศนี้งั้นเหรอ? ทำไมนายถึงหวาดกลัวพวกต่ำช้าแบบนั้นกัน?”บุปผาอันโดดเดี่ยวด่า
ธงสงครามอันนองเลือดนั้นไม่ได้กราดเกรี้ยวไปกับคำพูดของบุปผาอันโดดเดี่ยว แล้วเขาก็ทำเพียงแค่ถอนหายใจ “เอาเหอะ บุปผา มันมีเรื่องบางอย่างที่นายไม่เข้าใจ ฉันจะไม่หยุดนาย ถ้านายต้องการที่จะสู้กับพวกเขา แต่ให้ฉันแนะนำอะไรพวกนายสักอย่างนะ ถ้านายมีความตั้งใจที่จะสู้กับพวกเขาจริงๆแล้วละก็ การเตรียมพร้อมแล้วนั้นจะไม่หวาดกลัวการลอบโจมตี…”
“เหี้…เอ้ย มึงมันขี้ขลาด!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกนอย่างโกรธเคืองแล้วเขาก็ผลักธงสงครามอันนองเลือดผลักไปด้านข้าง
ผู้เล่นจากพันธมิตรอันนองเลือดนั้นก็รีบยกอาวุธของพวกเขาขึ้นมาในทันทีและเตรียมที่จะสู้
ผู้เล่นจากกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นก็ปฏิบัติตัวในทันที และยกอาวุธของพวกเขาเตรียมที่จะพุ่งเข้าชน
“ลืมมันไปซะ ใครบางคนจะจัดการกับพวกเขาแทนพวกเราเอง กลับกันเถอะ!”ธงสงครามอันนองเลือดโบกมือและส่งสัญญาณให้กิลด์ของเขานั้นล่าถอย
ถ้าพวกเขาต้องการมีความกระตือรือร้นที่จะตายจริงๆแล้วละก็ ธงสงครามอันนองเลือดนั้นก็จะไม่หยุดพวกเขา
บุปผาอันโดดเดี่ยวไม่กล้าที่จะให้คนของเขาไล่ล่าพวกเขาไป สุดท้ายแล้วเป้าหมายของพวกเขานั้นก็คือนิกายซวนเฉิน ถ้าพวกเขานั้นยั่วยุพันธมิตรอันนองเลือดในตอนนี้ มันก็ไม่ต้องบอกเลยว่า พันธมิตรอันนองเลือดนั้นจะร่วมมือกับนิกายซวนเฉินเพื่อจัดการพวกเขาหรือไม่
“เหี้…เอ้ย ไอ้พวกขี้ขลาดเอ้ย!”บุปผาอันโดดเดี่ยวตะโกนอย่างโกรธเคืองแล้วเขาก็มองไปที่พันธมิตรอันนองเลือดที่ล่าถอยกลับไป “พันธมิตรอันนองเลือดนั้นแม่งเป็นกลุ่มของคนขี้แพ้! ถ้าพวกเขาไม่ทำมันแล้วละก็ ฉันจะทำมันเอง!”
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือน มู่จี่เซียนนั้นได้บอกหวังหยู่แล้วว่าไม่ต้องเล่นเกมให้นานเกิน แล้วพวกเขานั้นก็จัดดินเนอร์ด้วยกันเพื่อฉลองวันปีใหม่
หวังหยู่นั้นทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟังและก็รีบออกจากเกมหลังจากที่สร้างอุปกรณ์ให้กับโบซอนเสร็จ
เมื่อหวังหยู่ออกจากเกม เขาก็สังเกตเห็นว่ามีอาหารมากมายเต็มไปหมดในห้องนั่งเล่น แต่มู่จี่เซียนนั้นก็ยังคงยุ่งกับการทำอาหารให้มากกว่านี้
“ที่รัก มันไม่ได้เยอะเกินไปหน่อยเหรอ?”หวังหยู่ถามอย่างสับสน
“คนโง่ นี่มันวันปีใหม่!”มู่จี่เซียนหัวเราะ
“แต่ผมคิดว่าพวกเรานั้นไม่สามารถที่จะกินพวกมันได้หมด ไม่ใช่ว่ามันจะเสียประโยชน์งั้นเหรอ?”หวังหยู่ถามอีกครั้ง
แม้ว่าหวังหยู่นั้นจะมีกระเพาะที่จุเป็นอย่างมาก แต่มันก็ยังมีอาหารมากเกินไปสำหรับสองคนที่จะกินมันให้หมด
“คุณหมายความว่าอะไรกับสองคน? อย่าลืมว่าจะต้องเรียกหลี่ซัวและเพื่อนเธอมาด้วยในภายหลัง และหยางนัวด้วยเช่นกัน..”