MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 189
Chapter 189: ตัวตนที่แท้จริง
หลังจากที่พวกเขานั้นเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จแล้ว หลี่ซัวและอีกสามคนก็บอกลานิกายซวนเฉินและกลับไปยังสำนักงานกิลด์ของพวกเธอและเริ่มสร้างของต่อ พวกเธอทั้งสี่คนนั้นอุทิศชีวิตของพวกเธอกับการสร้าง…
“แล้วคุณละ คุณหิมะ? คุณต้องการที่จะเข้าร่วมนิกายซวนเฉินของพวกเราไหม?”ไร้ความกลัวถามหยางนัวขึ้นอย่างฉับพลัน
ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นต่ากง็รู้ว่าไร้ความกลัวนั้นเป็นคนมักมากในกาม โบซอนก็หยุดเขา ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่น อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้นั้นไม่มีใครที่จะกล้าปฏิเสธข้อเสนอของเขากับหยางนัว
หลังจากที่พวกเขาเห็นความสามารถของหยางนัวเมื่อเผชิญหน้ากับแกซอลแล้ว ทุกคนต่างก็ถูกโน้มน้าวใจโดยความสามารถของเธอ
ก่อนที่หยางนัวนั้นจะมีโอกาสจะได้ตอบ หวังหยู่ก็ตะโกนออกมาเสียงดังก้อง “เธอจะไม่เข้าร่วม!”
ความสัมพันธุ์ของพวกเขาที่มีต่อกันนั้นเป็นที่อึดอัดอย่างมาก ถ้าเธอเข้าร่วมนิกายซวนเฉินแล้วละก็ ไม่ใช่ว่าหวังหยู่นั้นจะต้องเล่นกับไฟทุกวันงั้นเหรอ? ถ้าความอาละวาดอันชั่วร้ายเห็นแล้วละก็ คนปากพล่อยแบบเขาก็คงที่จะกระจายข่าวไปให้ทั่วทั้งสี่ตระกูลได้รับทราบกันอย่างเป็นแน่แท้
“มันเกี่ยวอะไรกับนายกัน? ไปดูแลภรรยานายก่อนที่จะสนใจผู้หญิงคนอื่น!”ไร้ความกลัวพูดอย่างเย็นชา
ทันทีที่เขาพูดเสร็จ เขาก็สังเกตเห็นถึงการแสดงออกอันมืดมนบนใบหน้าของหวังหยู่และมู่จี่เซียน และเขาก็รีบวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังขุนนางครอท
หยางนัวนั้นเล่นอยู่คนเดียวเสมอมา ตั้งแตที่เธอเข้าเกม มีเพียงครั้งเดียวที่เธอตั้งปาร์ตี้ก็คือตอนที่อยู่กับมู่จี่เซียน ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกิลด์ เมื่อเธอได้ยินการตอบกลับของหวังหยู่ เธอก็รีบพูดขึ้น “นิกายซวนเฉินงั้นเหรอ…น่าสนใจ…. ตั้งแต่ที่มีใครบางคนไม่ต้องการให้ฉันเข้าร่วมมันแล้วละก็ มันก็ยิ่งทำให้ฉันอยากเข้าร่วมไปมากเท่านั้น!”
“ทำไมนายถึงต้องสร้างปัญหาให้กับผมด้วย!”หวังหยู่ขมวดคิ้ว
“มันก็เป็นแค่เกมอยู่ดี ถ้าฉันไม่ได้มีเพื่อนแล้วละก็ มันก็จะมีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ฉันไม่สามารถที่จะจัดการได้!”
“ก็ได้! ถ้างั้นภรรยาของผมก็จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน! ผมมั่นใจว่ามันจะไม่มีใครมีข้อขัดแย้งใช่ไหม?”หวังหยู่โต้
“นี่มัน…”คนอื่นมองไปที่หวังหยู่และมู่จี่เซียนก่อนที่จะตอบกลับ “ไม่มีข้อขัดแย้ง…”
อย่างไรก็ตาม ในหัวใจของพวกเขานั้นกรีดร้องออกมาถึงการล่วงหล่นของทีมชั้นยอดของพวกเขา
ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่พวกเขารับมู่จี่เซียน แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลหลัก ความสามารถที่แท้จริงของมู่จี่เซียนนั้นเกี่ยวข้องกับความรู้ของเธอและความสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลอันไร้ประโยชน์ ถ้ามันไม่ใช่เพราะเธอแล้วละก็ พวกเขาก็คงจะไม่สามารถหาบอสตัวสุดท้ายในดันเจี้ยนได้เจอ ความสามารถเช่นนี้นั้นดียิ่งกว่าพลังในการต่อสู้ของหวังหยู่เสียอีก
หลังจากที่เพิ่มมู่จี่เซียนและหยางนัวเข้าสู่กิลด์แล้ว รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ถามขึ้น “นี่เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมแล้ว พวกเราควรที่จะออกไปล่าบอสเนียนอีกครั้งไหม?”
“โอ้ นั่นเหรอ? ลืมมันไปเถอะ ถ้าพวกเราพยายามที่จะสู้กับเมืองทั้งเมืองและกิลด์ใหญ่ๆทั้งหมดเพื่อมัน มันเป็นปัญหามากเกินไป”ไร้ความกลัวหัวเราะ
“ถ้างั้น พวกเราควรที่จะไปไหนดี?”
“ทำอะไรก็ได้ตามที่นายต้องการ! ฉันจะกลับไปหาพริมโรสอันนองเลือดในโรงเตี๊ยมฮันเพื่อที่จะดื่ม!”ไร้ความกลัวพูดอย่างมีความสุข
“แล้วนายละ กระทิงเหล็ก นายต้องการที่จะไปเก็บปืนคาบศิลาพวกนั้นไหม?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิหันกลับไปถามหวังหยู่
“โอ้ ได้โปรดละ เฒ่าฤดูใบไม้ผลิ ใครจะต้องการที่จะไปกับนายแทนที่ภรรยากัน?”หมิงตู่เตือนอย่างดูถูก
“อึ้ก…นั่นมันเรื่องจริง…”
“ไปส่งเควสก่อนเป็นอย่างแรก ผมจะไปหาโบซอนเพื่อสร้างอุปกรณ์ให้เขาในภายหลัง ดังนั้นผมจะส่งข้อความหาพี่ ถ้าผมว่าง”หวังหยู่หัวเราะ
หลังจากนั้น หวังหยู่และมู่จี่เซียนก็บอกลาคนที่เหลือและกลับไปยังเมืองรัตติกาล
“น้องสาวหิมะ เธอต้องการที่จะไปเก็บระดับกับพวกเราไหม?”หมิงตู่เสนอ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หมิงตู่จะพูดได้จบประโยค หยางนัวก็ไล่ตามหลังมู่จี่เซียนไปแล้ว “พี่สาวเซียน รอก่อน! ฉันก็ต้องการกลับไปด้วยเช่นกัน..”
“เหี้..!”
…
หลังจากที่กลับไปยังเมืองรัตติกาล หยางนัวและมู่จี่เซียนก็เดินเล่นไปที่ร้านค้าสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะออกจากเกมไป
“ช็อปปิ้ง… ผู้หญิงนั้นแปลก….. การช็อปปิ้งนั้นมันสนุกกว่าเล่นเกมจริงๆได้ยังไงกัน?”หวังหยู่ส่งเข้าไปในแชทกิลด์
“ช็อปปิ้งสำหรับพวกเธอนั้นก็เหมือนกับควานวุ่นวายสำหรับพวกเรา!”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“นายกำลังทำอะไรอยู่กัน?”
“ไปร้านค้าพร้อมกับผู้หญิงอยู่!”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“เหี้..เอ้ย นายเอาจริงดิ? นายสนใจในตัวเธอจริงๆเหรอ?”หวังหยู่อ้าปากค้าง
หวังหยู่นั้นเจอพวกเธอสามคนบ่อยครั้ง ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับลักษระนิสัยส่วนตัวของพวกเธอ ไม่สำคัญว่าเขาจะมองดูยังไงก็ตาม หวังหยู่ก็ไม่สามารถที่จะคิดออกได้เลยว่าไร้ความกลัวนั้นจะสนใจในตัวพริมโรสอันนองเลือด…
“ไม่! นี่เป็นแค่เรื่องหนึ่งในกระบวนการ! หลังจากที่พวกเราไปถึงโรงเตี๊ยม โชว์ที่แท้จริงนั้นจะเริ่มขึ้น!”ไร้ความกลัวพูด
“….นายวางแผนบางสิ่งอีกแล้วสินะ…”หวังหยู่กลืนน้ำลาย มันไม่มีจุดจบที่ดีเลยกับใครก็ตามที่ข้ามผ่านสมาชิกของนิกายซวนเฉิน…
หลังจากมาถึงคฤหาสน์เจ้าเมือง หวังหยู่ก็ส่งสมญษนามให้กับเคานต์ไวลี่
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้ทำเควส “เปิดเส้นทางการค้า” ได้สำเร็จ ความยากระดับ A ได้รับค่าประสบการณ์ 1000000 หน่วย}
หลังจากที่แจ้งเตือนระบบมันปรากฏขึ้น แสงสีทองก็ล้อมรอบไปที่ร่างกายของหวังหยู่ แล้วหวังหยู่ก็เลื่อนระดับไปที่ 21
หลังจากที่เลื่อนระดับไปที่ 21 หวังหยู่นั้นก็ยืนอยู่ที่นั่นและก็ยืนรอเคานต์ไวลี่นั้นให้รางวัลเควสกับเขา
“เฮ้ ผมทำเควสเสร็จแล้วนะ รางวัลผมละ?”หวังหยู่ถามไม่มีความอดทน
“ไม่ใช่ว่านายได้รับค่าประสบการณ์ไปแล้วงั้นเหรอ?”เคานต์ไวลี่นั้นถามอย่างใสซื่อ
“เหี้.. ไม่ใช่ว่านายพูดว่านายจะให้ร้านค้ากับผมงั้นเหรอ ถ้าผมทำเควสเสร็จหน่ะ?”หวังหยู่นั้นสันนิษฐานมาตลอดว่าเคานต์ไวลี่นั้นเป็นหนึ่งใน NPC ที่ซื่อสัตย์ที่หายากคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้คาดไว้ว่าเคานต์ไวลี่นั้นจะเปิดเผยตัวตน หลังจากที่ได้พบกันแค่สองครั้ง…
แต่ว่านี่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่คาดคิดซักเท่าไหร่ สำหรับใครบางคนที่มีตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงนั้นก็หมายความว่าเขานั้นจะต้องมีความฉลาดเฉลียวในตัวของเขา
“โอ้ ร้านนั่น! นายจะต้องซื้อสมญานามเพื่อมัน”ไวลี่หัวเราะอย่างหน้าด้าน
“ไม่ใช่ว่าผมพึ่งให้สมญานามไปกับคุณงั้นเหรอ?”
“นั่นมันถูกแล้ว นายจะต้องซื้อสมญานามมาจากฉัน ถ้ามันเป็นคนอื่นแล้วละก็ ราคาของมันนั้นก็เป็น 10000 ทอง! แต่สำหรับวีรบุรุษของเมืองรัตติกาล 5000 นั้นก็เพียงพอแล้ว!”ไวลี่พยักหน้า
“แต่ผมพึ่งให้สมญานามกับคุณไปนะ!”
“นายพูดจาเด็กน้อยอะไรกัน! สมญานามอยู่ในมือฉัน ดังนั้นมันจะเป็นของนายได้ยังไงกัน?”ไวลี่หัวเราะ
ไวลี่ก็หันกลับไปหาหนึ่งในยามและถามขึ้น “เฮ้ ยาม! นายสามารถที่จะยืนยันว่าสมญานามนี้ถูกส่งมาจากเพื่อนของพวกเราใช่ไหม?”
แล้วเอไอระดับต่ำที่เป็นยามเมืองจะเข้าใจคำพูดของไวลี่ได้ยังไงกัน? หลังจากที่ได้ยินไวลี่พูด พวกเขาก็ล้อมรอบหวังหยู่พร้อมกับชักอาวุธออกมา
“แม่งเอ้ย…ลืมมันไปซะ! คุณมีร้านที่ถูกกว่านี้ไหม? ผมมีแค่ 2000 ทองที่ติดตัวผมอยู่เอง”หวังหยู่กัดฟันพูด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจ เขาก็ยังอ่อนแอเกินไปที่จะจัดการกับยามเมืองจำนวนมาก
“มันมีร้านหนึ่งอยู่ด้านนอกประตูเมือง ฉันจะคิดกับนายแค่ 1000 ทอง!”