Mechanical God Emperor - ตอนที่ 317

ตอนที่ 317 คลื่นระนาบ

หลังจากเหล่าปีศาจออกจากประตูมิติ พวกมันก็รีบตั้งแท่นบูชา

มนุษย์ เอลฟ์ กึ่งอสูร เลือดผสม อสูรและสิ่งมีชีวิตอื่นต่างออกจากประตูมิติ

หลังสิ่งมีชีวิตทั้งหมดออกมา ปีศาจก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาและฉีกเป็นชิ้นๆ เปลี่ยนแท่นบูชาเป็นนรกบนดิน

ธารแสงสีเลือดพุ่งขึ้นฟ้า

ใจกลางแสงสีเลือด เมืองหลวงแสงจันทร์ไม่ส่องแสงเหมือนเดิมอีก มันกลับยิงแสงสีดําสนิทขึ้นฟ้าแทน

สภาพอากาศเหนือป่าเอลฟ์เปลี่ยนไป ท้องฟ้ากลายเป็นมีเมฆหนา แสงแดดแทบทั้งหมดถูกบดบัง และลมพายุแรงที่ปลุกพลังแห่งฟ้าดินของทั้งดินแดนเฟย์สือก็ก่อตัว

ดวงดาวที่ลอยเหนือดินแดนเฟย์สือดูเหมือนจะหม่นแสง

“เกิดอะไรขึ้น?”หยางเฟยลืมตาขึ้น สัญชาตญาณของเขาทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เขาลุกขึ้น และพุ่งออกไปด้านนอก

ตอนเขาออกที่พักเขา หยางเฟยก็ตรวจพบความเย็นยะเยือกภายใต้ต้นแสงจันทร์ ไม่มีแสงจันทร์อีกต่อไป สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาก็เร่งความเร็วพุ่งออกต้นแสงจันทร์

“เกิดอะไรขึ้น?”หยางเฟยมองดูเสาแสงสีดําทะยานขึ้นฟ้าและก่อตัวเป็นวังวนขนาดใหญ่ในท้องฟ้าและพลันตื่นตัว เขามีลางสังหรณ์ไม่ดี

ทันใดนั้น พลังเทพอันน่าสะพรึงกลัวก็สําแดงจากด้านบน พอสัมผัสถึงพลังนี้ หยางเฟยก็ตัวสั่นสะท้าน นี่คือความเลวโดยสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่า

หยางเฟยหน้าซีดเทพ นี่คือแรงกดดันระดับเทพ ไม่ใช่ว่าเทพของดินแดนเฟย์สือได้ลงนามในสนธิสัญญาว่าห้ามแทรกแซงเรื่องของทางโลก? ทําไมเทพถึงมา?”

แสงสีทองตกลงมาจากด้านบน ทําลายชั้นเมฆมืดอย่างยากลําบาก

ศรสีทองตกลงมาจากฟากฟ้า ยิงใส่แท่นบูชา อัดแน่นไปด้วยพลังเทพที่สามารถทําลายได้ทุกอย่าง

“ไร้ยางอายเสียจริง!ไม่ใช่ว่าเจ้าลงนามในสนธิสัญญาที่กําหนดไม่ให้เจ้ามาแทรกแซงส่วนของทางโลกอีก? ทําไมเจ้าถึงมาแทรกแซงเอาตอนนี้?”เสียงหัวเราะน่าขนลุกดังขึ้น และกรงเล็บยักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดดําก็โผล่ออกมาจากรอยแยกบนท้องฟ้า ปราณปีศาจอันดํามืดห่อหุ้มกรงเล็บยักษ์เอาไว้

ตอนหยางเฟยเห็นกรงเล็บนี้จากระยะไกล ความกระหายเลือด ความต้องการฆ่า และความคิดชั่วร้ายอื่นๆก็เข้าครอบงําเขา ดวงตาของเขาแดงก่ําและปลดปล่อยเสียงคํารามเหมือนสัตว์ร้าย

[นายท่านถูกพลังชั่วร้ายกัดกร่อน!กําลังเริ่มการบําบัด!]

การแจ้งเตือนดังขึ้นในทะเลความรู้ของหยางเฟย และความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านไปทั่ว ทําให้เขามีสติสัมปชัญญะ

“ช่างเป็นตัวตนที่ชั่วร้ายมาก!”หยางเฟยตื่นตัว ใช้วิชาลับต้านทานพลังชั่วร้ายที่แผ่จากกรงเล็บ

ท่ามกลางดินแดนนับไม่ถ้วน มีตัวตนที่น่ากลัวมากมาย ซึ่งสามารถฆ่าวอร์ล็อคระดับสามได้เพียงชําเลืองมอง พลังที่ปลดปล่อยจากสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเหล่านี้ก็สามารถทําได้เช่นกัน

กรงเล็บน่ากลัวคว้าจับลูกศรสีทองนับไม่ถ้วนกลางอากาศ

ศรทองกระทบกรงเล็บ ในชั่วพริบตา ศรก็ระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์แสนน่ากลัวออกมาและเจาะทะลุกรงเล็บ

เลือดสีดําไหลหยดลงพื้น

พื้นที่ที่เลือดหยดใส่จะปกคลุมไปด้วยปราณปีศาจ

“วิชาลับเผ่าเอลฟ์ ศรเทพจันทราช่างทรงพลังจริงๆ!แม้จะอยู่ไกล เจ้าก็ยังทําร้ายข้าได้ มอฟีซีราจา น่าเสียดาย เจ้ามาช้าไป!คลื่นระนาบได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อมันเริ่ม ไม่มีทางที่จะหยุดมันได้ สนธยาแห่งทวยเทพใกล้เข้ามาแล้ว ข้ากําลังตั้งตารอจะจับเจ้ามาเพิ่มในฮาเร็มของข้า!”

เสียงที่น่ารังเกียจดังจากรอยแยกที่กรงเล็บยักษ์ปรากฏ และกรงเล็บก็เคลื่อนไปที่ท้องฟ้า

ตามด้วยเสียงผ้าฉีกขาด รูขนาดใหญ่ดูเหมือนจะโดนฉีกในท้องฟ้า และอุกกาบาตก็พุ่งออกมาจากรูใหญ่กระจัดกระจายไปทั่วดินแดนเฟย์สือ

หอกแห่งแสงที่น่ากลัวพุ่งลงมาจากฟ้า เจาะทะลุกรงเล็บยักษ์ ระเบิดด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ไร้ขอบเขต

“พราดอส เจ้ากล้าทําลายมือขวาของข้า ข้าจะเฝ้าดูอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าล่มสลายจากขุมนรก และผู้ศรัทธาของเจ้าจะเปลี่ยนเป็นอาหารให้ผู้ติดตามของข้า”เสียงคํารามดังขึ้นจากรอยแยกที่กรงเล็บยักษ์ปรากฏ

“ดยุคปีศาจ ดรอดด์ หลังคลื่นระนาบจบลง ข้าจะไปเยือนขุมนรก ตัดหัวเจ้าและนํามาแขวนบนกําแพงเมืองของข้า!”เสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้นจากด้านบน ดังสะท้อนไปทั่วโลก

หลังได้ยินเสียงนี้ นอกจากสิ่งมีชีวิตที่แกร่งกล้าพอสมควร ที่เหลือต่างคุกเข่าลงกับพื้น

ดยุคปีศาจยิ้มเยาะ“หลังคลื่นระนาบจบลง เจ้าอาจไม่มีชีวิตอยู่อีก แต่ก็เถอะ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นรกขุมที่93!”

รอยแยกขนาดใหญ่หายไป และพลังเทพไร้ขอบเขตก็หดถอยไปเหมือนคลื่น

ดวงตาของหยางเฟยแผดเผา หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คลื่นระนาบ นี่คือโอกาสของข้า!”

คลื่นระนาบคือปรากฏการณ์พิเศษในโลกต่างๆที่เทพอาศัย และมันก็จะเกิดขึ้นทุกๆสองสามหมื่นปี

พอเจอกับคลื่นระนาบ ยอดฝีมือระดับเทพจะโดนสะกดพลังและลดพลังเป็นระดับตํานานหรือกึ่งเทพเท่านั้น

ตามการคาดการณ์ของวอร์ล็อคแห่งดินแดนกังฉี คลื่นระนาบอาจเป็นกลไกปกป้องตัวเองของแต่ละโลก

ตามที่จอมเวทย์ของดินแดนทั้งฉีเห็น ทวยเทพคือปรสิตของแต่ละดินแดน พวกเขาแข็งแกร่งเกินไปและมีชีวิตได้นานเกินไป ล้านปีถึงสิบล้านปี และตราบเท่าที่พวกเขาอาศัยในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ มันก็ยากมากที่จะฆ่าพวกเขา

ภายในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แม้กระทั่งเทพขั้นต่ําก็อาจฆ่าเทพขั้นกลางได้ แต่ด้านนอก เทพขั้นต่ําจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพขั้นกลาง

ในทางทฤษฎี วอร์ล็อคแสงจันทร์จะอยู่ในอาณาจักรเดียวกับเทพขั้นต่ํา แต่ในความเป็นจริง วอร์ล็อคแสงจันทร์ไม่มีโอกาสต่อต้านเทพขั้นต่ําเลย นอกจากนี้ ถ้าเทพขั้นต่ําผู้นั้นเก่งการต่อสู้ พวกเขาจะสามารถปะทะกับวอร์ล็อคแสงจันทร์สามคนได้พร้อมกัน

พลังต่อสู้ที่น่ากลัวกับอายุขัยยืนยาวคือเหตุผลว่าทําไมวอร์ล็อคมนุษย์หลายคนถึงอยากเดินบนวิถีแห่งเทพ

แน่นอน เพราะเทพจะใช้ทรัพยากรจํานวนมาก แต่ละดินแดนจึงมีเทพจํากัด มันคือเหตุผลนี้ที่เอลฟ์เจอกับการต่อต้านจากเทพแห่งดินแดนเฟย์สือตอนพวกเขามาถึงดินแดนเฟย์สือ

ยิ่งมีเทพเยอะ ความถี่ของคลื่นระนาบก็ยิ่งเยอะ ท่ามกลางสนธิสัญญาที่เหล่าเทพแห่งดินแดนเฟย์สือลงนาม มันมีการกําหนดให้ยอดฝีมือต่างถิ่นที่อยากกลายเป็นเทพบนดินแดนเฟย์สือถูกสะกด ดังนั้น มันจึงยากมากที่จะกลายเป็นเทพบนดินแดนเฟย์สือ เฉพาะคนโชคดีและมีพรสวรรค์มากถึงมีโอกาส

ในหลายดินแดน คลื่นระนาบยังเป็นที่รู้จักกันในนามสนธยาแห่งทวยเทพ มันคือเวลาตอนเหล่าเทพผู้ควบคุมเหนือโลกอยู่ในช่วงอ่อนแอสุด

ตอนคลื่นระนาบก่อตัวเต็มที่ เทพท่ามกลางหมู่ดาวจะไม่อาจเข้าแทรกแซงโลกได้อีก พวกเขาทําได้แค่เตรียมตัวล่วงหน้า หรือส่งต่อหน้าที่ให้ทูตสวรรค์ที่ทรงพลังไปยังโลก

ระหว่างคลื่นระนาบ เทพจะเดือดร้อนหนัก ถ้ากายแท้จริงพวกเขาไปยังโลก พวกเขาอาจโดนฆ่าตายได้

สมบัติลับระดับเทพมากมายที่อยู่ในโลกคือมรดกที่เทพผู้โดนฆ่าตายในคลื่นระนาบทิ้งไว้

เทพที่ทะเยอทะยานจะจุติลงโลกด้วยกายแท้จริงเพื่อพยายามรวมขุมกําลังทางโลก และเสริมพลังเทพพวกเขา พลังของกายแท้จริงของเทพจะเหนือกว่าร่างจุติมาก บรรดาผู้แสวงหาความมั่นงคงจะใช้ร่างจุติเพื่อจุติลงโลก ส่วนพวกที่อยากก้าวหน้าจะใช้กายแท้

เมื่อใดก็ตามที่คลื่นระนาบบังเกิด ดินแดนเฟย์สือจะตกอยู่ในความวุ่นวาย

อุกกาบาตที่ตกลงมาจากด้านบนหมายถึงยอดฝีมือระดับตํานานและกึ่งเทพของดินแดนอื่นที่เข้าสู่ดินแดน เฟย์สือ บ้างยังเป็นเทพที่กล้าเสี่ยงอันตราย และบุกเข้าดินแดนเฟย์สือ

ในฐานะหนึ่งในโลกหลักทั้ง 36 แห่ง ดินแดนเฟย์สือมีเทพเป็นจํานวนมาก นอกจากโลกหลักแล้ว มีโลกน้อยมากที่จะมีเทพถึงร้อย หลายโลกยังไม่มีเทพสักองค์

วอร์ล็อคของดินแดนทั้งนี้ได้แบ่งดินแดนเป็นเก้าระดับ ระดับหนึ่งคือดินแดนทั้งฉีนั่นเอง ซึ่งรองรับการเกิดขึ้นของเทพได้ถึงล้านองค์

ระดับสองก็คือโลกหลักทั้ง 36 แห่งและสามารถรองรับการเกิดของเทพได้มากถึงหมื่นองค์

ดินแดนระดับสามจะมีเทพไม่ถึงพัน

ระดับสี่ไม่ถึงร้อย

ระดับห้าจะมีเทพได้ไม่เกิน 36 คน

ระดับหกจะมีเทพได้ไม่เกิน 10

ดินแดนระดับเจ็ดจะมีเทพได้แค่องค์เดียว

ดินแดนระดับแปดจะให้กําเนิดได้แค่กึ่งเทพ

ดินแดนระดับเก้าจะมีได้แค่ยอดฝีมือระดับตํานานเท่านั้น