Mechanical God Emperor - ตอนที่ 313

ตอนที่ 313 มังกรทองสามหัว

**เดี๋ยวตอนหน้าจะแปะตารางพลังบ่มเพาะให้นะครับจะได้เข้าใจกันบางขั้นอาจเรียกไม่เหมือนคนก่อนหน่อย**

เอสราเมียพูดเสียงเบา“เริ่มได้!”

ดวงตาของซิดทอแววดุร้ายจากนั้นสายเลือดมังกรทองสามหัวในตัวของเขาก็ปะทุเงาสัตว์ประหลาดสามหัวปรากฏด้านหลังเขากระจายแรงกดดันน่าสะพรึงกลัว

ทันทีที่พลังมังกรทองสามหัวปะทุ สายเลือดมังกรดําภายในหยางเฟยก็โดนสะกด

นั่นคือการสะกดข่มทางสายเลือด หนึ่งในจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่สุดของสายเลือดวอร์ล็อคคือการสะกดข่มทางสายเลือดและการยับยั้งทางสายเลือดนั่นเองเฉพาะฐานบ่มเพาะของหยางเฟยเหนือกว่าซิดหรือถ้าเขาเลื่อ นเป็นเทพ เขาถึงกําจัดการสะกดข่มทางสายเลือดได้

หยางเฟยขมวดคิ้ว จากนั้นก็ร่ายคาถาเงียบๆและชี้ อักขระเวทย์เบ่งบานบนตัวเขา หัวมังกรดําบนหน้าอกเขาลืมตาและพลังมังกรดําอันยิ่งใหญ่ก็หลั่งไหลเข้าตัวเขาจากเกราะมังกร

พอได้รับเสริมพลังโดยพลังมังกรดําร่างกายของหยางเฟยก็ทะลุขีดจํากัดและไปถึงระดับวอร์ล็อคผู้ยิ่งใหญ่

ภายใต้การเพิ่มพลังอย่างบ้าคลั่ง การสะกดข่มทางสายเลือดจึงอ่อนลงมาก

“เกราะนี้คือสมบัติจริงๆ!น่าเสียดายเจ้าอ่อนแอเกินกว่าจะรักษามันไว้ได้!”ซิดหัวเราะเสียงเย็นเขาแตะเท้าเบาๆและก็ปรากฏตัวห่างออกไปหลายสิบเมตรในเสี้ยววินาทีเขาปรากฏต่อหน้าหยางเฟยในชั่วพริบตาและ ปล่อยหมัดออกไป

ความเร็วของซิดสูงมาก หยางเฟยไม่มีเวลาร่ายคาถา และก็ทําได้แค่กระตุ้นพลังมังกรดําในตัวและสวนหมัด

บูม!

ตอนพลังแข็งแกร่งปะทะกัน หยางเฟย ผู้มีกายระดับวอร์ล็อคผู้ยิ่งใหญ่แล้ว และยังสวมเกราะมังกรดําแม้แต่เซซินผู้ปลุกสายเลือดเฮอร์คิวลิสก็อาจเทียบกับหยางเฟยในแง่พละกําลังไม่ได้อย่างไรก็ตาม ซิดกลับยังเหนือกว่าเขาซึ่งไม่สมเหตุสมผลเลย

“ฮ่าๆปน่าสนใจ!เกราะนี้สุดยอดมาก!หลังข้าฆ่าเจ้า ข้าจะเอามันไปจากศพเจ้า!!”ดวงตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยจิตสังหาร ซิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจว่าคําพูดของเขาจะทําให้คาริน่าหงุดหงิดแค่ไหน

พอได้ยินคําพูดของซิด คิ้วของคาริน่าก็ขมวดเล็กน้อยและดวงตานางก็ฉายแววไม่พอใจ เหนือสิ่งอื่นใดมันเป็นเพราะนางหยางเฟยถึงต้องมายุ่งกับเรื่องนี้ นางไม่อยากเห็นเขาโดนฆ่า

ซิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แผ่ปราณมังกรทอง ราวกับมังกรทองสามหัวที่น่าเกรงขามได้มาเอง เขาปล่อยหมัดคล้ายดาวหางใส่หยางเฟย ซึ่งแต่ละหมัดมีพลังมหาศาล

หยางเฟยกระตุ้นพลังมังกรดําภายในตัวเขาจนถึงขีดจํากัด ใช้วิชาลับที่บันทึกไว้ในตารามังกรดําหยางเฟยดูเหมือนมนุษย์กึ่งมังกรดําขณะที่เขาสู้กับซิดในระยะประชิด

ใจกลางโถง มังกรทองสามหัวกับมังกรดําโบราณบดขยกันถี่ยิบ เสียงคํารามของมังกรดังกระจายไปทั่ว

แคสเซียส(แคสซัส)กับสองปรมาจารย์ดาบจับจ้องหยางเฟย ที่เหมือนร่างจุติของมังกรดําด้วยความตกใจแข็งแกร่งมาก!นายท่านแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว!น่ากลัวมาก!”

แคสเซียสกับสองปรมาจารย์ดาบแค่ติดตามหยางเฟยเพราะอยากเป็นขุนนางชั้นสูงของจักรวรรดิมอร์รินซ์ในฐานะปรมาจารย์ดาบมนุษย์ นักสู้ระดับสูงสุดของดินแดนเฟย์สือ พวกเขามีอัตตาของตน พวกเขามีความรู้สึกที่ว่าถ้าไร้เวทมนตร์หยางเฟยจะสู้พวกเขาไม่ได้

พลังต่อสู้ที่หยางเฟย ผู้กลายเป็นร่างจุติของมังกรดํานั้นเกินกว่าจินตนาการของพวกเขา จากนั้นพวกเขาถึงตระหนักว่านายท่านที่ตัวเองติดตามแข็งแกร่งแค่ไหนถึงกับสามารถสู้กับสัตว์ประหลาดที่ปลุกสายเลือดเทพได้

ดวงตาคู่งามของคาริน่าเป็นประกาย“น่าทึ่ง!ดูเหมือนเอียนจะมีของ!”

การโจมตีต่อเนื่องของซิดทําให้หยางเฟยไม่มีโอกาสร่ายคาถา หยางเฟยทําได้แค่ต่อต้าน ไม่มีเวลาไปรายคาถาและปลดปล่อยยพืชพิเศษ

“วิเศษ!นี่คือพลังของตัวประหลาด!น่าทึ่งมาก!ด้วยเกราะมังกรดํา บวกกับข้าที่ครอบครองพลังของวอร์ล็อคผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังเสียเปรียบโดยปราศจากเกราะมังกรดําข้าคงแพ้ภายในสิบกระบวนท่า”ขณะที่เขาบีบเค้นศักยภาพสุดความสามารถเพื่อต้านทานซิด ความคิดก็แวบในหัวของหยางเฟย

เลือดไหลซึมจากปากของหยางเฟยและหยดลงพื้น

หมัดของซิดหนักเหมือนภูเขา และหยางเฟยก็ต่อต้านได้ยากมาก ถึงแม้จะมีเกราะมังกรดําที่ลดพลังโจมตีไป 7 ส่วน แต่ส่วนที่เหลือก็ยังทําให้หยางเฟยบาดเจ็บ

หลังมาถึงดินแดนเฟย์สือ มีแค่เทพถึงรู้ว่ามีศัตรูที่แข็งแกร่งมากแค่ไหนยอมจํานนต่อความรู้วอร์ล็อคแสนกว้างขวางของหยางเฟย ทําให้เขามั่นใจเล็กน้อย

ท่าทางคลุ้มคลั่งและเผด็จการทําให้หยางเฟยเสียท่า โดยปราศจากความช่วยเหลือของพลังภายนอกและอุปกรณ์เขาคงสู้ตัวประหลาดนี้ไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ก่อนเขาจะมาดินแดนคังฉีเขาเป็นแค่มนุษย์โลกธรรมดาการมาถึงระดับนี้ได้ในสามปีก็ดีแล้ว

ซิด ผู้ไม่อาจเอาชนะได้สักที่เริ่มวิตก“มนุษย์คนนี้ไม่ธรรมดา!ถ้าข้าไม่อาจล้มเขาได้ในเร็วๆนี้ข้าจะแสดงฝีมือของข้าได้ยังไง?!”

ขณะที่พึมพํา ซิดก็คํารามและชกหมัด บังคับให้หยางเฟยถอน ต่อมาตัวของเขาก็ถอยออกไปและกระตุ้นพลัง

ในหนึ่งลมหายใจ ซิดพลันห่อหุ้มด้วยแสงสีทองนับไม่ถ้วน ก่อนแสงสีทองจะกระจายสมบูรณ์เงามังกรทองสามหัวที่ยาวสิบเมตรที่แผ่พลังมังกรไร้ขอบเขตก็ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่าง

พลังระดับวอร์ล็อคดวงดาวค่อยๆแผ่ออกจากเงามังกรทองสามหัว

แรงกดดันระดับดวงดาวที่แผ่ออกจากเงามังกรทองสามหัวนั้นด้อยกว่าแรงกดดันของร่างแยกจักรพรรดิปีศาจมากอย่างไรก็ตาม แรงกดดันของมังกรสายเลือดกึ่งเทพนี้ก็ยังทําให้หยางเฟยหายใจลําบาก

พอโดนแรงกดดันของมังกรทองสามหัวกึ่งเทพเข้า สายเลือดมังกรดําในตัวหยางเฟยก็สั่นสะท้านไม่หยุดราวกับอยากยอมจํานนต่อมังกรทองสามหัวผู้ยิ่งใหญ่

เอสราเมียตกตะลึง“จําแลงกายบรรพชนน่าทึ่ง ซิดผู้นี้สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะแห่งอาณาจักรมังกรเขาไม่ใช่ระดับตํานาน แต่ก็จําแลงกายบรรพชนได้แล้ว น่าทึ่งมาก”

การจําแลงกายบรรพชนคือเคล็ดวิชาลับที่ช่วยให้ผู้สืบสายเลือดนั้นสามารถแสดงพลังของต้นกําเนิดสายเลือดได้ เมื่อหยางเฟยบ่มเพาะจนถึงระดับวอร์ล็อคผู้ยิ่งใหญ่ เขาก็จะใช้การจําแลงกายเพื่อแปลงเป็นมังกรดําโบราณได้

ซิด ผู้ยังไม่ถึงแม้แต่ระดับตํานานกลับสามารถจําแลงกายและเปลี่ยนร่างเป็นมังกรทองสามหัวได้นี่มันเกินจริงไป

เซซิน ซิเซโร่ เรย์โร่ คาฟาเลน่าและคาริน่า ห้าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ต่างมองมังกรทองสาหัมวกลางอากาศด้วยสายตาขมขึ้น

พลังของซิดถึงจุดสูงสุดแล้ว ตอนนี้ที่เขาปลดปล่อยการจําแลงกายอีก นอกจากเอสราเมียแล้วไม่มีใครที่นี่จะสู้เขาได้

สีหน้าของหยางเฟยเปลี่ยนไป ร่างของเขาเลือนราง และเขาก็พุ่งใส่ซิดเหมือนผี เขาถ่ายเทพลังของเขาเข้าดาบสมบัติลับที่หลอดจากเหล็กโลหิตเทพและฟันออกไป

โล่สีทองพลันปรากฏขวางด้านหน้าซิด ตอนดาบของหยางเฟยกระทบโล่ พลังมหาสาลก็ถูกส่งผ่านจากโล่ส่งหยางเฟยให้ม้วนตบอกไปไกล

จากแสงสีทอง เสียงของซิดดังขึ้น“เปล่าประโยชน์!เอียน ตอนข้าใช้การจําแลงกายบรรพชนพลังป้องกันข้า จะเทียบได้กับกึ่งเทพเจ้า ผู้พึ่งพาพลังภายนอกเพื่อเพิ่มพลังให้เป็นระดับตํานานไม่สามารถทําร้ายข้าได้หรอก!”

คิ้วของเอสราเมียขมวดเป็นปมและดวงตางามของนางก็ทอประกายเอียน มันไม่สายที่จะยอมแพ้ ไม่มีประโยชน์ที่จะสู้ต่อ ถ้าเจ้าสู้ต่อ ต่อให้เป็นข้า ข้าก็อาจช่วยเจ้าไม่ทัน!”

สีหน้าของแคสเซียสเปลี่ยนไป และเขาก็ตะโกน “นายท่าน กลับมาเถอะ!”

ถ้าหยางเฟยตายที่นี่ งั้นฝันของพวกเขาก็คงตายไปด้วย ปัจจุบัน พวกเขาเป็นแค่อัศวิน ถ้าไม่มีหยางเฟยมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะกลายเป็นบารอน

ใบหน้าสวยของคาริน่าเองก็เปลี่ยนไป จากนั้นนางก็ลุกขึ้นตะโกนเอียน ช่างมัน!เขาแข็งแกร่งเกินไป!”

ยอดฝีมือกึ่งเทพคือตัวตนที่ทรงพลังสุดในโลกสามัญ ถ้าพวกเขามีสมบัติเทพ กึ่งเทพที่น่ากลัวบางคนอา จสังหารเทพได้ด้วยซ้ํา

แม้ว่าจะด้วยร่างจําแลง ไม่ใช่กึ่งเทพแท้จริง แต่พลังของมังกรทองสามหัวก็ไม่ใช่อะไรที่ยอดฝีมือระดับตํานานจะแข่งขันได้

คิ้วของหยางเฟยขมวดเป็นปม เขาถอนหายใจ สะบัดข้อมือ จากนั้นร่มสีดําสนิทก็ปรากฏในมือเขา เขาชี้ร่มไปที่มังกรทองสามหัวกลางอากาศและร่ายคาถาเบาๆ

ร่มสีดํากางออกทันใดนั้นรูนลี้ลับก็ปรากฏบนร่มและจุดสีดําราวกับแสงดาวสีดําก็ควบรวมกันที่ปลายร่ม