Mechanical God Emperor - ตอนที่ 305
305 – แทนที่จะปรับความเข้าใจ
ทันใดนั้นเหล่าเอลฟ์ไม่คิดว่าหยางเฟยจะเป็นคนเริ่มก่อน
มีเพียงแดนนี่ที่ไหวตัวทัน เธอมองหยางเฟยและเร่งพลังขึ้นมา ดาบพุ่งตรงไปยังแผ่นหลังของหยางเฟยราวกับอุกกาบาต
หยางเฟยไม่ได้หลบ เขาปรากฎตัวด้านหน้าเอลฟ์ผมเงินและเอื้อมมือออกไปคว้าผมของเอลฟ์ผมเงิน
แสงจันทร์สีเงินส่องสว่างออกมาจากสร้อยคอที่อยู่บนอกของเอลฟ์ผมเงินก่อตัวเป็นโล่แสงสีเงิน
หยางเฟยเหวี่ยงกำปั้นไปที่โล่แสงจันทร์สีเงิน พลังกายมหาศาลระเบิดโล่แสงจันทร์แหลกเป็นชิ้นๆ
โล่แสงจันทร์สีเงินเป็นเพียงเวทย์ป้องกันระดับ 2 จะไปสามารถป้องกันการโจมตีของมนุษย์ครึ่งมังกรอย่างหยางเฟยได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม การป้องกันของโล่แสงจันทร์สีเงินยังถ่วงเวลาหยางเฟยไว้ได้ ยังพอมีเวลาให้เอลฟ์หนุ่มได้หายใจ เขากรีดร้องออกมาด้วยความกลัว “ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย!!!”
เคร้ง!
ดาบของแดนนี่แทงไปที่เสื้อคลุมบนแผ่นหลังของหยางเฟย เสียงปะทะกับของเหล็กดังขึ้น สร้างความตกตะลึงบนใบหน้าของเธอ ดาบของเธอแฝงไปด้วยพลังอย่างเต็มเปี่ยม แม้แต่ปรมาจารย์ดาบยังไม่กล้าใช้ร่างกายรับดาบของเธอ
ดวงตาของหยางเฟยหรี่เล็กน้อย เขาเหวี่ยงมือไปที่หน้าท้องของแดนนี่
วู้ววว
แดนนี่ปลิวออกไปราวกับตุ๊กตาสายป่านขาด เลือดภายในร่างกายของเธอถูกพ่นออกมาทางริมฝีปาก
“หยุดนะ เจ้ามนุษย์ชั่วร้าย!!”
เสียงของเอลฟ์สาวผมเงิน 2 คนดังขึ้น ทั้งสองดูงดงามยิ่งกว่าเอลฟ์ทั่วไปที่หยางเฟยเคยเห็น จากนั้นพวกเธอดึงดาบออกมาจากข้างเอวของพวกเธอ พลังปราณระดับอัศวินแสงจันทร์ระเบิดออกมา แทงไปที่หยางเฟยอย่างรวดเร็ว
หยางเฟยไม่หลบเลี่ยง เขาเอื้อมมือไปคว้าเอลฟ์หนุ่มผมเงินและฟาดไปยังเอลฟ์สาวทั้ง 2
เอลฟ์สาวทั้ง 2 ใบหน้าบิดเบี้ยวทันที และถูกบังคับให้เก็บดาบลง
ความปราณตีกลับไปยังเอลฟ์สาวทั้ง 2 พวกเธอกระอักเลือดออกมา
หยางเฟยพุ่งไปยังเอลฟ์สาวทั้ง 2 และเหวี่ยงกำปั้นไปที่ท้องของเอลฟ์คนหนึ่ง เอลฟ์สาวกระเด็นไปกระแทกกับเอลฟ์สาวอีกคนหนึ่ง ทั้งคู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก และหยางเฟยจับเอลฟ์หนุ่มผมเงินไว้ เขานำมือบีบหัวของเอลฟ์หนุ่มไว้เตรียมพร้อมระเบิดหัวของเอลฟ์หนุ่ม หากมีภัยคุกคามถึงชีวิตของเขา
ดวงตาของหยางเฟยเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาจับเอลฟ์หนุ่มและชูขึ้น
บรรยากาศที่น่ากลัวเริ่มสงบลง
หยางเฟยมองไปยังนักรบเอลฟ์และตะโกนขึ้น “พวกเจ้าทั้งหมดจะยอมแพ้หรือจะให้ข้าสังหารไอ้โง่ผมเงินนี่!”
นักรบเอลฟ์ทั้งหมดมีใบหน้ามืดมนทันที พวกเขาทั้งหมดมองไปที่หยางเฟยและเอลฟ์หนุ่มผมเงินที่ถูกจับไว้
เอลฟ์หนุ่มผมเงินกรีดร้องออกมา “เจ้าชั่งกล้า! เอียน ข้าเป็นคนของตระกูลนิฟเฟ่น ท่านชายเบเนดิกต์ ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายข้าแม้แต่ปลายก้อย ตระกูลของข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!!!”
ในบรรดาเอลฟ์ทั้งหมด มีเอลฟ์ 2 ตระกูลที่ได้รับการสนับสนุนจากลอร์ดแห่งเอลฟ์ นั่นคือเอลฟ์แสงจันทร์และเอลฟ์พระอาทิตย์ ในบรรดาตระกูลใหญ่ 2 ตระกูล ตระกูลนิฟเฟ่นและตระกูลคอรัสเดลเป็นตระกูลที่ได้ชื่อว่าเป็นตระกูลเชื้อสายเทพ
เอลฟ์แสงจันทร์เป็นตระกูลเอลฟ์ราชวงศ์ มีเอลฟ์ชายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และเบเนดิกต์เป็นหนึ่งในนั้น ในตระกูลเอลฟ์แสงจันทร์มีการเก็บเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ไว้เพื่อสืบทอดพลังให้กับต้นไม้แม่ผู้ให้กำเนิด ดังนั้นในจักรวรรดิเอลฟ์ ตัวตนของเขาถือได้ว่าสูงส่งมาก
“ถ้างั้น ข้าขอหักนิ้วเจ้าก่อนเลยแล้วกัน!”
หยางเฟยยิ้ม เขานำมือของเขาไปหักนิ้วของเอลฟ์หนุ่มผมเงินทันที เลือดมากมายไหลทะลักออกมาจากนิ้วของเบเนดิกต์
ใบหน้าของเบเนดิกต์ซีดเผือด และร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว “นิ้วข้า!! เจ็บ!! มันเจ็บ!! นิ้วของข้า! เจ้ากล้-กล้าหักนิ้วของข้า!! เจ้ามันปีศาจ!! ปีศาจ……”
หยางเฟยตะโกนออกมา “หุบปาก!”
เบเนดิกต์เอามือปิดปากทันที เขามองหยางเฟยด้วยแววตาหวาดกลัว
หยางเฟยพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วางอาวุธลง!! หรือจะให้ข้าหักนิ้วมือเพิ่ม!”
เบเนดิกต์ตะโกนใส่ทหารเอลฟ์ทันที “พวกเจ้ากำลังทำอะไร ยังไม่ทิ้งอาวุธอีก! พวกเจ้าต้องการให้ข้าโดนหักนิ้วมือเพิ่มอีกงั้นหรือ?”
เหล่าทหารเอลฟ์มองหน้ากันอย่างลังเล และวางอาวุธลง
หยางเฟยวาดนิ้วออกมา ปลายนิ้วของเขาเปล่งแสงเวทมนตร์ อาวุธทั้งหมดของทหารเอลฟ์ลอยเข้ามาในแหวนเก็บของของหยางเฟยทันที
หยางเฟยหันไปมองยังต้นไม้สูงทางทิศตะวันตกและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เอลฟ์ที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้ ออกมา! พวกเจ้าที่หลบซ่อนกำลังทำให้ข้าหัวเสีย เมื่อข้าไม่มีความสุข ข้าจะหักนิ้วเพิ่มอีกสักนิ้ว”
บนต้นไม้มีเอลฟ์ผมเงินซ่อนอยู่ในพุ่มไม้สีเขียวมรกต ร่างที่งดงามเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอทำให้ชายหนุ่มทั้งจักรวรรดิตกหลุมรักได้ในพริบตา แม้ความงามจะเทียบไมได้กับคาริน่า แต่แฝงไปด้วยความงามแบบวีรบุรุษ
เอลฟ์สาวที่งดงามมองด้วยแววตาเย็นชา คันธนูสีเงินขนาดใหญ่ถูกเล็งมาที่หยางเฟย มันเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
หยางเฟยมองไปยังเอลฟ์สาวผมเงินและเอ่ยชมขึ้น “เป็นเอลฟ์ที่งดงามจริง เจ้าชื่ออะไร? เจ้ามาจากตระกูลอะไร? อย่าปฏิเสธคำถามของข้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะหักนิ้วของน้องชายเจ้า”
เบเนดิกต์อ้อนวอนด้วยความกลัวและเจ็บปวด “ท่านพี่คาฟาริน่า ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากถูหักนิ้วอีกแล้ว ข้าเจ็บ!! ข้ากำลังจะตาย!!”
คาฟาริน่ามองไปยังเบเนดิกต์ด้วยแววตาแข็งกล้า จากนั้นเธอถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “ข้าชื่อคาฟาริน่า เกิดในตระกูลนิฟเฟ่น น้องชายของข้าไม่ใช่เครื่องมือของเจ้า”
หยางเฟยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “คาฟาริน่า ทิ้งคันธนูในมือของเจ้าซะ ถ้าเจ้าอยากให้น้องชายของเจ้าปลอดภัย!”
ด้วยสัมผัสของวอร์ล็อคระดับ 3 หยางเฟยรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่แฝงอยู่ในคันธนูสีเงิน
คาฟาริน่าเงยหน้าและพูดขึ้น “นี่คือสมบัติของตระกูลข้า ไม่เคยถูกส่งมอบให้กับผู้ใด เอียน เจ้าเป็นแค่อัศวินดวงดาว ในป่าเอลฟ์ เจ้าไม่สามารถหลบหนีไปได้ ส่งน้องชายของข้ามา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
เพียงคำพูดของเธอ เหล่าทหารเอลฟ์ทั้งหมดต่างเร่งพลังขึ้น เอลฟ์แต่ละคนมีพลังระดับอัศวินดวงดาวกำลังระเบิดพลังออกมา
เมื่อเผชิญหน้ากับเอลฟ์ที่แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ แม้แต่ปรมาจารย์ดาบทั้ง 3 คนและจอมเวทย์ระดับตำนาน 1 คนที่มีความสามารถเทียบเคียงสวรรค์ยังต้องหวั่นเกรง
ปรมาจารย์ดาบสายฟ้า แคสเซียสและปรมาจารย์ดาบคนอื่นๆเริ่มมีใบหน้าเปลี่ยนไป พวกเขามีประกายตาแวววาว
ฟลาดิน่ามองหยางเฟยด้วยรอยยิ้มและไม่เห็นเอลฟ์เหล่านั้นอยู่ในสายตา
“โอ้! อย่างนั้นรึ? น่าสนใจจริงๆ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะทำอะไร?”
หยางเฟยยิ้ม ประกายเย็นชาในแววตาของเขาหายไป ดาบเวทมนตร์ที่ถูกตีขึ้นจากเหล็กโลหิตเทพแทงไปที่ท้องของเบเนดิกต์ เลือดไหลทะลักออกมาจากช่องท้อง
เบเนดิกต์มองไปยังท้องของตนที่มีดาบเสียบอยู่ เขากรีดร้องออกมาอย่างทรมาน “ช่วยข้าด้วย ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย!!”
ใบหน้าของคาฟาริน่าซีดลงทันที เธอตะโกนออกมา “หยุด!! เอียน เจ้าต้องการอะไร!! เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับจักรวรรดิเอลฟ์ของพวกเราจริงๆหรือ!!”
“น่าสนใจ! ข้าอยากจะรู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป! ก่อนหน้านั้น ข้าขอสังหารเอลฟ์หนุ่มของตระกูลนิฟเฟ่นก่อน ตระกูลนิฟเฟ่นคงจะสูงขึ้น! ข้าคิดว่าถ้าเขาตายไป เหล่าเทพที่เอลฟ์อย่างพวกเจ้าศรัทธานักจะลงมาช่วยนะ!”
“และถูกต้อง ข้าคือดยุคแห่งดินแดนรกร้างเรดเคลย์ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิมอร์ริส ในดินแดนของข้ามีกองทัพ 500,000 นายรอต้อนรับการโจมตีของเผ่าพันธุ์เอลฟ์! ข้าคิดว่าคงมีขุนนางชั้นสูงมากมายอยากมีทาสเป็นเอลฟ์” หยางเฟยคว้าร่างของเบเนดิกต์และเผยรอยยิ้มอย่างเย็นชา
คาฟาริน่าได้ยินดังนั้น เธอมองหยางเฟยด้วยแววตาอิจฉา
เอลฟ์ในป่าเอลฟ์นั้นมีความสามารถในการต่อสู้สูงส่งมาก แม้ว่าจะมีกองทัพมนุษย์มากมายเข้ามาในป่า มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ แต่หากเหล่าเอลฟ์ออกไปต่อสู้ข้างนอก แม้ว่าพวกเขาจะมีมือธนูที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานกองทัพมนุษย์ได้
หากเบเนดิกต์ถูกสังหารโดยหยางเฟย ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของจักรวรรดิเอลฟ์ เหล่าเอลฟ์จะถูกบังคับให้ออกไปโจมตี เมื่อถึงตอนนั้น ความได้เปรียบของเอลฟ์ทั้งหมดจะหายไป และไม่รู้ว่าจะมีเอลฟ์มากมายเท่าไหร่ที่จะตายในสงคราม ไม่มีใครรู้ว่าจะมีเอลฟ์เท่าไหร่ถูกจับไปเป็นของเล่นของเหล่าขุนนางชั้นสูง