Mechanical God Emperor - ตอนที่ 304

304 – ถูกจับกุม

หยางเฟยถามขึ้นอย่างสงสัย “บุตรแห่งธรรมชาติ! เผ่าพันธุ์เอลฟ์เป็นบุตรแห่งธรรมชาติจริงหรือ? แล้วบุตรแห่งธรรมชาติคนอื่นๆล่ะ?”

บุตรแห่งธรรมชาติเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดที่สุดในดินแดนเฟย์สือ พวกเขาเกิดขึ้นจากธรรมชาติ พวกเขาเรียนรู้จากธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องมีอาจารย์สอน พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีโครงสร้างเวทมนตร์ในทะเลวิญญาณเพื่อที่จะร่ายเวทย์

บุตรแห่งธรรมชาติเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเฟย์สือ และจะยิ่งแข็งแกร่งเมื่อพวกเขาต่อสู้ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน เช่น บนต้นไม้ ในป่าและในบึง

มากกว่า 2 ใน 3 ของเอลฟ์ที่อยู่ในดินแดนเฟย์สือได้ชื่อว่าเป็นบุตรแห่งธรรมชาติ

ฟลาดิน่าพูดกับหยางเฟย “บุตรแห่งธรรมชาติงั้นรึ เผ่าพันธุ์เอลฟ์อาจจะไม่ได้ให้กำเนิดบุตรแห่งธรรมชาติมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วก็ได้ อย่างที่บอก ใครก็อ้างตัวว่าเป็นบุตรแห่งธรรมชาติได้ ใช่ไหมล่ะ?”

หยางเฟยพยักหน้าอย่างยิ้มๆและพูดขึ้น“อ่า เข้าใจแล้ว”

ฟลาดิน่าไม่ได้สนใจรอยยิ้มของหยางเฟย เธอเพียงมองออกไปนอกหน้าต่างและเพลิดเพลินกับเมืองโบราณกรีนฟอเรส

“ที่นี่เป็นอาณาเขตของเมืองโบราณกรีนฟอเรส ได้โปรดแสดงตัวตนของท่านด้วย!”

ก่อนที่กองคาราวานจะเดินทางถึงเมืองกรีนฟอเรส ทหารเอลฟ์ 2 คนเข้ามาขวางรถม้า

“ข้าไม่คิดว่าเราจะเจอเอลฟ์เร็วขนาดนี้!” หยางเฟยมองทหารเอลฟ์ทั้ง 2 คนที่ขวางถนนด้วยสายตาชื่นชม

เผ่าพันธุ์เอลฟ์มีหยินมากกว่าหยาง และนั่นทำให้จำนวนเอลฟ์หญิงสาวมีมากกว่าเอลฟ์ผู้ชาย ทหารเอลฟ์ทั้ง 2 ก็เป็นเอลฟ์หญิงสาว พวกเธอทั้งสองสง่างามและเจิดจรัสมาก

หยินและหยางของตระกูลเอลฟ์มีความเกี่ยวข้องกับวอร์ล็อคในดินแดนคังฉี เมื่อครั้งที่วอร์ล็อคมนุษย์ในดินแดนคังฉีได้ยึดครองดินแดนเฟย์สือ มีวอร์ล็อคมนุษย์ใช้เคล็ดวิชาลดทอนความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ให้กำเนิด ส่งผลให้กว่า 95% ของเผ่าพันธุ์เอลฟ์ที่เกิดมาจากต้นไม้แม่เป็นเอลฟ์ผู้หญิง

ตำแหน่งราชาเอลฟ์ในอดีตเคยเป็นเอลฟ์ผู้ชาย เมื่อถูกควบคุมโดยวอร์ล็อคในดินแดนคังฉี ก็ถูกเปลี่ยนเป็นเอลฟ์ผู้หญิงและสืบต่อกันมาเป็นขนบธรรมเนียมจนถึงปัจจุบัน

ในดินแดนเฟย์สือ มีสถานที่มากมายที่บ่งบอกได้ว่าในอดีตวอร์ล็อคจากดินแดนคังฉีเคยมาที่นี่

ทหารเอลฟ์สาวที่งดงามตรวจสอบบัตรประจำตัวของหยางเฟยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปได้! แต่ข้าขอเตือนว่านี่ไม่ใช่อาณาจักรมนุษย์ของพวกเจ้า ถ้าหากพวกเจ้าพยายามต่อต้านหรือเป็นปฏิปักษ์ พวกเจ้าจะถูกลงโทษ บทลงโทษจะเกี่ยวพันไปถึงเพื่อนและคนรับรองของเจ้า จงระวังการกระทำของพวกเจ้าให้ดี!”

มนุษย์ที่ต้องการเข้ามาในเมืองโบราณกรีนฟอเรสเพื่อค้าขายกับเหล่าเอลฟ์ ไม่เพียงแต่จำเป็นต้องมีบัตรแสดงตัวตน แต่ต้องไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน และยังจำเป็นต้องมีผู้รับรองที่มีชื่อเสียง

เมื่อมีใครบางคนพยายามล่าเอลฟ์ในกรีนฟอเรส จักรวรรดิเอลฟ์จะฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนเดินทางนั้นและผู้รับรองต้องถูกสังหารด้วย

แต่เมื่อมนุษย์ที่ไม่มีบัตรแสดงตัวตน รวมถึงไม่มีรู้รับรองเข้าใกล้กรีนฟอเรส พวกเขาจะได้รับการเตือนจากเหล่าเอลฟ์และมีโอกาสถูกโจมตีได้ในทันที

เนื่องด้วยผลกำไรมหาศาลจากการล่าเอลฟ์ ยังคงมีมนุษย์นับไม่ถ้วนใช้วิธีการต่างๆนานาเพื่อเข้ามาในเมืองกรีนฟอเรสและไล่ล่าเอลฟ์ คนที่ถูกจับได้หลังจากพบว่าพยายามล่าเอลฟ์ หัวของเขาจะถูกเสียบประจาน แต่ก็ยังมีคนพยายามจับตัวเอลฟ์จากเมืองกรีนฟอเรสอยู่ดี ส่งผลให้ทหารเอลฟ์สาวจึงไม่ค่อยเป็นมิตรกับหยางเฟย

ขบวนเดินทางขนาดใหญ่ได้เดินทางเข้าสู่กรีนฟอเรสอย่างช้าๆ

ทันทีที่เข้าสู่เมืองโบราณกรีนฟอเรส หยางเฟยเห็นสิ่งที่แตกต่างไปจากเมืองของมนุษย์ในดินแดนเฟย์สือ

ในเมืองโบราณกรีนฟอเรส ถนนจะมีขนาดกว้างมากและยังถูกปกคลุมด้วยกอหญิงนุ่มๆที่สูงเพียง 5 เซนติเมตร

ทั้งสองฝั่งของถนน มีต้นไม้กลวงขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 30 เมตรและมีหลายต้นที่มีความกว้างหลายสิบเมตร ต้นไม้กลวงเหล่านั้นเป็นต้นไม้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นบ้านพัก โรงแรมและร้านค้า

ทั้งเมืองกรีนฟอเรสเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้และใบหญ้า อีกทั้งอากาศก็สดชื่น หยางเฟยรับรู้ได้ถึงพลังธรรมชาติในเมืองกรีนฟอเรสที่บริสุทธิ์กว่าที่อื่นๆ 2-3 เท่า ซึ่งเหมาะต่อการบ่มเพาะพลังและอยู่อาศัยอย่างมาก

ทั้งเมืองโบราณกรีนฟอเรสเปรียบเสมือนป่าขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเต็มไปด้วยเอลฟ์และพ่อค้ามากมายภายในป่า

เหล่าเอลฟ์มากมายในจักรวรรดิเอลฟ์ถูกเทรเทศออกไปยังโลกภายนอก พวกเขาจะรวมตัวเป็นกลุ่มเล็กๆอาศัยอยู่ในเมือง มีเอลฟ์มากมายที่ติดต่อกับมนุษย์ เมืองโบราณกรีนฟอเรสแห่งนี้เป็นหน้าต่างที่เหล่าเอลฟ์ใช้ในการติดต่อกับโลกภายนอก ดังนั้นเอลฟ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นในโลกภายนอกสามารถพบได้ที่นี่ราวกับเป็นเรื่องปกติ

ทหารคุ้มกันถูกเตรียมพร้อมไว้ในเมืองกรีนฟอเรส หยางเฟยลงจากขบวนเดินทางก่อนที่จะไปถึงจุดขนย้ายสินค้า

หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย หยางเฟยนำฟลาดิน่าและปรมาจารย์ดาบทั้ง 3 เข้าไปสู่ทางเข้าป่าเอลฟ์

ทางเข้าป่าเอลฟ์อยู่ด้านหลังเมืองกรีนฟอเรส ที่ทางเข้านั้น มีทหารเอลฟ์ชั้นยอด 1,000 นายและทั้ง 1,000 นายเป็นทหารที่แข็งแกร่งอย่างมาก

“นี่คือทางเข้าป่าเอลฟ์สินะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้กว่า 500 เมตร”

ทั้ง 5 คนเดินมาถึงทางเข้าป่าเอลฟ์ เอลฟ์หญิงสาวที่งดงาม ขาอันเรียวยาว ร่างกายสวมด้วยชุดเกราะหนังสีเขียวเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ทั้งหมดกำลังขวางทางเขาอยู่

ในเวลาเดียวกัน เสียงตะโกนดังขึ้น นักรบเอลฟ์ 100 นายง้างธนูขึ้นอย่างรวดเร็ว ลูกธนูแต่ละดอกชี้เป้าไปที่จุดตายของหยางเฟยและคนทั้ง 5

หยางเฟยนำใบไม้สีเขียวที่คาริน่ามอบให้เขาออกมา “ข้าเป็นเพื่อนของเบลินด้าและคาริน่า ดยุคเอียนแห่งดินแดนรกร้างเรดเคลย์ นี่คือสัญลักษณ์ของข้า”

ทันทีที่ใบไม้สีเขียวปรากฏขึ้น พวกมันเปล่งแสงสีเขียวและกลิ่นหอมออกมา

หลังจากที่มองเห็นใบไม้เหล่านั้น ใบหน้าของผู้บัญชาการกองทัพเอลฟ์เปลี่ยนไปทันที เธอมองไปที่ดวงตาของหยางเฟยอย่างแปลกประหลาด

เอลฟ์สาวพูดขึ้นเสียงเรียบ “เจ้าคือเอียน ชื่อของข้าคือแดนนี่ โปรดรอสักครู่ ข้าจะไปแจ้งให้คนอื่นทราบ”

แดนนี่ยกมือขึ้น นักรบเอลฟ์ทั้ง 100 นายด้านหลังเธอเก็บธนูลง เธอหันไปพูด 2-3 คำกับเอลฟ์รอบๆตัว

เอลฟ์สาวคนหนึ่งไปที่ต้นไม้ด้านข้างด้วยการโหนเถาวัลย์ที่ห้อยลงมา

ในบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ มีเสียงพูดคุยดังออกมา แต่ทว่าวอร์ล็อคระดับ 3 อย่างหยางเฟยยังไม่สามารถได้ยินว่าพวกเธอพูดคุยสิ่งใดกัน

ไม่นาน เอลฟ์หนุ่มที่มีผิวขาวราวกับหิมะ มีผมสีเงินสวมด้วยชุดที่สง่างามเดินมาที่ทางเข้าป่าเอลฟ์พร้อมด้วยเอลฟ์สาวผมสีเงินหลายสิบคน

เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลามากที่สุดที่หยางเฟยเคยเห็นมา เป็นชายที่หล่อเหลาที่สุดในจักรวรรดิมอร์ริส เอลฟ์หนุ่มเดินมาด้วยท่าทางหยุ่งผยอง เขาเหลือบมองหยางเฟยด้วยสายตาหยิ่งยโส ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต จากนั้นเขาตะโกนขึ้น “เจ้าคือเอียน! เจ้าคนต้อยต่ำ โสโครก น่าขยะแขยง เจ้ากล้ามาที่จักรวรรดิเอลฟ์ของพวกเรา! ไปนำตัวเขามา!”

ใบหน้าของแดนนี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย คิ้วของเธอขมวดขึ้น เธอยกมือขึ้นทันที นักรบเอลฟ์ 100 คนด้านหลังเธอยกธนูขึ้นและเล็งไปที่หยางเฟยทันที

ท่ามกลางความเย็นชาของแดนนี่ เธอพูดขึ้นด้วยสายตาเย็นชาแฝงด้วยความเด็ดขาด “เอียน อย่าขัดขืน! นี่เป็นคำสั่ง!”

เอลฟ์ที่ทางเข้าป่าเอลฟ์ได้ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ละคนแข็งแกร่งดุจหินผา ไม่มีใครรู้ว่ามีนักฆ่าพยายามล่าเอลฟ์มากเท่าไหร่ ตราบเท่าที่มีคำสั่งลงมา นักรบเอลฟ์เหล่านี้สามารถสังหารชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธได้โดยไม่ลังเล พวกเขาเป็นนักรบที่โหดเหี้ยมมากที่สุดในบรรดาเอลฟ์นักรบ

หยางเฟยยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองแดนนี่ช้าๆ “ตระกูลเอลฟ์กำลังปฏิบัติกับแขกผู้มาเยือนเช่นนี้หรือ?”

แววตาของแดนนี่เปล่งประกายเย็นชา “ข้าเป็นเพียงผู้บัญชาการ มีคำสั่งลงมา ข้าเพียงทำตามเท่านั้น! เอียน อย่าขัดขืน มิเช่นนั้น เจ้าจะถูกฆ่า”

หยางเฟยกรอกตามองไปยังเอลฟ์หนุ่มที่หล่อเหลาและพูดขึ้น “เดี๋ยวก่อน ท่านเอลฟ์ ท่านเป็นใคร? เราไม่เคยพบกันมาก่อน ข้าเคยไปรุกรานท่านที่ไหนกัน? ท่านเพียงพบข้า ทำไมท่านสั่งจับกุมตัวข้ากัน?”

เอลฟ์หนุ่มผมสีเงินพูดขึ้นด้วยความเบื่อหน่าย “มือของเจ้าทั้งสองข้างมีคราบเลือดเอลฟ์ เจ้าไม่มีคุณสมบัติมาถามชื่อของข้า พวกเจ้าจับกุมเขาไว้ หรือต้องการขัดคำสั่งของข้า?”

ทหารเอลฟ์ที่อยู่บริเวณทางเข้าป่าเอลฟ์เริ่มฉายแววเย็นชาและมีจิตสังหารอ่อนๆในแววตา และมองไปยังหยางเฟยด้วยควาฒโกรธแค้น

เอลฟ์มีประชากรค่อนข้างน้อย จำนวนเอลฟ์ทั้งจักรวรรดิเอลฟ์มีเพียง 20 ล้านคน ไม่สามารถนำมาเทียบกับจักรวรรดิมอร์ริสที่มีประชากรสูงที่สุดได้

เมื่อมีประชากรเบาบางจึงนำไปสู่ความสามัคคีของเหล่าเอลฟ์ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหยางเฟยเป็นฆาตกรของเผ่าพันธุ์ตน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

คำพูดของเอลฟ์หนุ่มผมสีเงินยังไม่จบลง หยางเฟยพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด ตรงไปยังเอลฟ์หนุ่มผมเงินตรงหน้า