Mechanical God Emperor - ตอนที่ 298
298 – เมืองบัททอนทาวน์แตก
ภายในเมืองบัททอนทาวน์ ณ จวนเจ้าเมือง
เจ้าอาณาจักรทันดู แอสซินี่ นั่งอยู่ในห้องสมุด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ร่างที่บอบบางของเขานั่งอยู่บนโซฟาขนาดใหญ่
หลายวันที่ผ่านมา อังเดรได้บุกโจมตีทั้ง 2 เมืองอย่างกะทันหัน ทุกครั้งที่อังเดรบุกเข้ามาแอสซินี่จะใช้กำแพงตั้งรับไว้อย่างมั่นคง แต่อย่างไรก็ตาม ทหารของอังเดรได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญ ทำให้แอสซินี่รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
ในฐานะที่เป็นเมืองตั้งรับ แอสซินี่ได้รับเปรียบมหาศาล แต่ในการต่อสู้จริงๆแล้ว เขาต้องสูญเสียกองทัพ 1 ต่อ 3 ก็คือทหารภายในเมืองบัททอนทาวน์ต้องตายถึง 3 คน ถึงจะสังหารทหารของอังเดรได้ 1 คน
ถ้าไม่ใช่เพราะอังเดรไม่ต้องการกองทัพในเมืองบัททอนทาวน์ เมืองบัททอนทาวน์คงถูกยึดครองไปนานแล้ว
แอสซินี่ ในฐานะเจ้าเมือง เขาต้องแบกรับแรงกดดันมากมายในหลายวันที่ผ่านมา เขามักสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะกลัวว่าอังเดรจะส่งคนลอบเข้ามาในเมือง
แอสซินี่เป็นผู้สนับสนุนหลักของตระกูลเอรีดอส เขาไม่รู้ว่าอังเดรเป็นคนเช่นไรและเขาก็ไม่กล้ายอมแพ้ต่ออังเดร เขาทำได้เพียงใช้กองทัพทั้งหมดต้านรับการโจมตีของอังเดรให้ได้
แอสซินี่มองไปยังวิหารและคิดในใจ “ไม่ดีแล้ว ดูเหมือนว่าต้องรับสมัครทหารเพิ่มในวันพรุ่งนี้อีก 50,000 นาย ไม่สิ 100,000 นาย!!!”
ประตูถูกเปิดออก หญิงสาววัย 17 ปี รูปร่างอ่อนช้อย งดงาม เธอกำลังถือซุปไก่เดินเข้ามา
แอสซินี่เหลือบตามองอย่างเคร่งขรึม “เป็นเจ้าเองรึ? ซูย่า ข้าไม่ได้อนุญาต เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
ซูย่าเป็นภรรยาน้อยของแอสซินี่ เธอเป็นภรรยาน้อยคนโปรดของเขา เขาได้สั่งการเพิ่มทหารและเวรยามมากขึ้นเพื่อปกป้องคนสำคัญของเขา ใครก็ตามหากไม่ได้รับอนุญาต ไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ในใจของเขาครุกรุ่นไปด้วยความโกรธ
น้ำเสียงที่นุ่มนวลพูดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่ ท่านไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน! ข้านำซุปไก่นี้มาให้ท่าน ข้าลงมือทำตัวตัวเองเลยนะ”
แอสซินี่มองไปยังรอยยิ้มของซูย่า ความโกรธในจิตใจของเขาค่อยๆสลายหายไป
ซูย่าเดินตรงเข้ามาหาแอสซินี่
“อื้มม ดี!” แอสซินี่กลืนน้ำลายลงไป ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง เมื่อซูย่าเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เมื่อซูยาสตกอยู่ในอ้อมกอดของแอสซินี่ แววตาของเธอเปลี่ยนไป มันเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีดำขลับ เขาแพะงอกออกมาจากหัวของเธอ ใบหน้าที่ขาวเนียนเริ่มปรากฎอักขระเวทมนตร์แปลกประหลาด
“เจ้า…..”
แอสซินี่ตกตะลึงอย่างมาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กรงเล็บที่คมกริบทะลวงไปยังหน้าอกและกระชากหัวใจของเขาออกมา
ร่างของแอสซินี่กระตุก 2-3 ครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างไร้จุดจบ เขามอวไปยังรอยยิ้มของซูย่าที่กำลังกลืนกินหัวใจของเขาเข้าไป
“หัวใจของเจ้ามนุษย์นี้ไม่ได้เรื่องเลย ต้องเป็นหัวใจของมนุษย์ชั้นสูงกระมั้ง”
ซูย่าแลบลิ้นออกมาและเลียคราบเลือดของแอสซินี่ที่อยู่บนมือของเธอ เธอยิ้มออกมาอย่างอันตรายและน่ารังเกียจ
ปีศาจในคราบของหญิงสาวเดินไปหาร่างของชายวัยกลางคน ก่อนจะสร้างภาพลวงตาขึ้น
ซูย่าสะบัดมือ ดาบยาวปรากฎขึ้นในมือของเธอ ดางยาวฟันไปยังร่างของแอสซินี่ หัวของแอสซินี่กระเด็นออกมา จากนั้นเธอคว้ามันขึ้นมา ต่อมาเธอคว้าร่างของเขาและเก็บมันลงไป
ร่างของซูย่าปกคลุมไปดเวยควันสีดำบางๆ ไม่นานความผิดปกติบนร่างกายของเธอก็จางหายไป กลายเป็นหญิงสาวผู้งดงามคนเดิม
ซูย่าผลักประตูออกและพูดกับทหารทั้ง 2 “นายท่านเหนื่อยมาก จำเป็นต้องพักผ่อน เจ้าต้องเฝ้าสถานที่แห่งนี้ ภายใน 2 ชั่วโมง ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาที่นี่”
ทหารทั้ง 2 คนรับคำอย่างสุภาพ “ขอรับ!”
ภายใต้การเฝ้าระวังของบุคคลแข็งแกร่งมากมาย ซูย่าเดินออกจากจวนเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว
เมื่อออกไปจากจวนเจ้าเมืองสำเร็จ ซูย่าหายตัวเข้าไปในเงามืด
ต่อมา ดอกไม้ไฟจำนวนมากถูกยิงขึ้นมาจากภายในเมืองบัททอนทาวน์
“บุก!!!!!”
อังเดรสั่งการอย่างเด็ดขาด หลังจากที่มองเห็นดอกไม้ไฟถูกยิงออกไป
อาวุธสงครามมากมายเริ่มทำงาน อุปกรณ์ตีเมืองถูกยิงไปยังเมืองบัททอนทาวน์ทันที
จวนเจ้าเมือง เมืองบัททอนทาวน์
“เจ้าอาณาจักร ท่านเจ้าอาณาจักร!!”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งตรงเข้าไปยังห้องสมุด
ทหารนายหนึ่งหยุดร่างของเจ้าหน้าที่คนนั้นเอาไว้ “เบโก้ ท่านเจ้าอาณาจักรกำลังพักผ่อน ห้ามใครเข้าพบ”
เบโก้ตะโกนออกมา “ถอยไปซะ ตอนนี้เจ้ากบฏอังเดรเริ่มบุกโจมตีเมืองแล้ว ข้าจำเป็นต้องรายงานสถานการณ์ทั้งหมดให้ท่านเจ้าอาณาจักรฟัง”
ใบหน้าของนายทหารคนนั้นเปลี่ยนไป เขาเปิดทางให้เจ้าหน้าที่คนนั้นเข้าไป
เบโก้ผลักประตูห้องสมุดเข้าไป แววแรกที่เห็น เขาเห็นการตายของแอสซินี่ที่หน้าประตู ศีรษะของเขาถูกวางไว้บนโต๊ะ ทันใดนั้นเขากรีดร้องออกมา “ท่านเจ้าอาณาจักรถูกสังหาร!! ใครกัน ใครเป็นคนสังหารท่านเจ้าอาณาจักร?!!”
ทหารด้านนอกประตูรีบวิ่งเข้ามาภายใน พวกเขามองเห็นแอสซินี่ที่ถูกสังหาร แววตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ข่าวการตายของแอสซินี่แพร่กระจายไปทั่วเมืองบัททอนทาวน์ เมื่อเหล่าทหารได้ยินข่าว ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว แม่ทัพหลายคนเลือกที่จะยอมแพ้ให้กับอังเดร สถานการณ์ในตอนนี้พลิกผันไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน เมืองบัททอนทาวน์ตกอยู่ในการควบคุมของอังเดรโดยสมบูรณ์
เมื่อเมืองบัททอนทาวน์ถูกยึดครองสำเร็จ ทั่วทั้งอาณาจักรทันดูต่างยอมศิโรราบ ผู้ส่งสารของอังเดรได้กระจายข่าวไปทั่วทุกเมือง มีเมืองมากมายประกาศยอมแพ้ต่ออังเดร
หลังจากที่อังเดรยึดครองเมืองบัททอนทาวน์ เขาทิ้งลูกหลานของเขาให้ดูแลเมืองบัททอนทาวน์ต่อไป เขาสั่งการทหารให้บุกโจมตีอาณาจักรนิวทิสทันที
ตลอดทาง เมืองของอาณาจักรนิวทิสต่างยอมแพ้กันอย่างรวดเร็ว เมื่อกองทัพของอังเดรมาถึง เมืองเหล่านั้นต่างเปิดประตูต้อนรับ เหล่าแม่ทัพและทหารต่างยอมแพ้
กองทัพหลักของอาณาจักรนิวทิสมารวมตัวกันทั้งหมดที่เมืองโบรกัส กองทัพประจำเมืองที่เหลือต่างยินยอมทำตามที่หยางเฟยสั่งอย่างไม่มีใครต่อต้าน
หลังจากที่กองทัพหลักของอังเดรเดินทางเข้ามาในอาณาจักรนิวทิส เขาเดินทางช้าลงและระมัดระวัง มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองโบรกัส
อังเดรระวังตัวอย่างมาก เขาไม่ต้องการให้หยางเฟยมีโอกาสลอบโจมตีเขา ในเวลาเดียวกัน กองทัพหลักของเขาค่อยๆเดินทางเข้ามาในอาณาจักรนิวทิสตามหลังมาอย่างช้าๆ
ตราบใดที่เขาสามารถเอาชนะหยางเฟยในอาณาจักรนิวทิสได้ จะไม่มีกองทัพใดสามารถขัดขวางกองทัพของอังเดรให้มุ่งหน้าสู่เมืองโฮลี่ได้อีกต่อไป
กองทัพมากมายของจักรวรรดิมอร์ริสตอนนี้ต่างกระจายตัวอย่างตามแนวชายแดน และกำลังมองดูสงครามระหว่างอังเดรและการ์ซ่า สองเจ้าชายในศึกชิงบัลลังก์ในครั้งนี้
ถ้าหยางเฟยพ่ายแพ้ อังเดรจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลและอีกไม่กี่ก้าว เขาจะได้ขึ้นครองบัลลังก์ของจักรวรรดิมอร์ริส
ในขณะที่อังเดรกำลังเดินเข้าใกล้มาทีละก้าว หยางเฟยกำลังวุ่นวายอยู่ในเมืองโบรกัส และยุ่งอยู่กับการฝึกฝนทหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้
เดิมทีเมืองโบรกัส ผู้คนต่างอยากยอมแพ้ แต่เมื่อเห็นหยางเฟยมั่นใจในการฝึกฝนทหาร ผู้คนเหล่านั้นเริ่มมีความหวังขึ้นมา
ในเวลาเดียวกัน เนโด้ได้นำกลุ่มคนลึกลับสร้างม่านพลังปกคลุมทั่วเมืองโบรกัส
คนก็ตามที่พยายามเข้ามใกล้กลุ่มคนเหลั้นจะหายตัวไปในความมืด และไม่มีใครพบร่างของพวกเขาอีกต่อไป
อีกด้านหนึ่ง เมืองโฮลี่ ผู้บัญชาการของกองทัพทั้ง 6 ที่หยางเฟยได้กำจัดไป ตอนนี้เขาได้บุคคลที่เพรียบพร้อมมาเข้ารับตำแหน่งของพวกเขา
ในห้องสมุดพระราชวัง
การ์ซ่ากำลังเดินไปมาอย่างวิตกกังวล และพูดขึ้น “เบอร์เลย์ เอียนตอนนี้กำลังฝึกทหารทั้งวันทั้งคืนอยู่ที่เมืองโบรกัสอย่างนั้นรึ หรือว่ามันเป็นข่าวลือ?”
เบอร์เลย์ตอบกลับมา “ฝ่าบาท นี่เป็นเพียงการยุยงของเจ้าชายลำดับที่ 1 ดยุคเอียนจะไม่ทรยศท่านในเวลาเช่นนี้! ท่านไม่ต้องกังวลไป!!”
การ์ซ่าลดความคิดที่จะเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการออกไป และยิ้มออกมาเล็กน้อย “ข้ารู้ว่านี่เป็นการยุยงของอังเดร แต่เอียนทำไมอยู่แต่ในเมืองโบรกัสและไม่ออกไปสู้กับอังเดร แล้วเช่นนี้ พวกเราจะชนะได้อย่างไร?”
เบอร์เลย์ยิ้มเล็กน้อย “ฝ่าบาท ดยุคเอียนมีกองทัพหลายแสนนาย แต่กองทัพของเขานั้นแตกต่างกันมากเกินไป การควบคุมพวกเขานั้นยากมาก ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่ากองทัพหลายแสนนายนั้นจะมีจำนวนมากกว่า แต่เรื่องความแข็งแกร่งของกองทัพไม่สามารถเทียบกับกองทัพกบฏของอังเดรได้ ข้าคิดว่าดยุคเอียนทำถูกแล้ว ตราบใดที่อังเดรยังเดินทางมาที่เมืองโบรกัส พวกเราจะรอความตายของอังเดรอย่างช้าๆ จากนั้นพวกเราจะได้ครอบครองทั้งจักรวรรดิมอร์ริส”
การ์ซ่าได้ครอบครองบัลลังก์อย่างเป็นทางการในเมืองโฮลี่ในนามของจักรพรรดิมอร์ริส แม้ว่าทั่วทั้งจักรวรรดิมอร์ริสจะมองดูศึกระหว่างเจ้าชายทั้งสอง แต่คำสั่งของการ์ว๋ษถือเป็นประกาศิต ตราบใดที่ไม่เกิดความวุ่นวายขึ้น อาณาจักรต่างๆยังปฏิบัติตามเขา
นั่นหมายความว่าการ์ซ่าจะได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิมอร์ริส ประชากรและเงินมากมายอยู่ที่เขา เขาเพียงแค่เปลี่ยนเงินให้กลายเป็นกองทัพก็เท่านั้น
และตลอดเวลาที่การ์ซ่าอยู่ในเมืองโฮลี่ ตำแหน่งจักรพรรดิของเขาจะมั่นคงมากขึ้น ความนิยมของการ์ซ่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นประโยชน์จาการได้ควบคุมจักรวรรดิที่ใหญ่โตเช่นนี้
ตอนนี้การ์ซ่าได้ใช้เงินในคลังสมบัติจัดตั้งกองทัพใหม่ 10 กองทัพและเริ่มฝึกฝนทันที ด้วยระยะเวลาไม่นาน เขาจะมีกองทัพเพิ่มขึ้นอีก 200,000 นาย แน่นอนว่าความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพ 200,000 นายนี้ยังคงอ่อนด้อยว่ากองทัพหลักอยู่มาก