Mechanical God Emperor - ตอนที่ 292
292 – การก่อกบฎของอังเดร
การ์ซ่าเผยรอยยิ้ม “ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้อำนวยการคนแรกของสถาบันเวทมนตร์ประจำเมืองโฮลี่ ผู้อำนวยการเอียน เจ้าต้องสรรสร้างผู้มีพรสวรรค์ในด้านเวทมนตร์ให้กับจักรวรรดิได้มากมายอย่างแน่นอน!”
เมื่อการ์ซ่าพูดจบ รัฐมนตรีทุกคนมองหยางเฟยด้วยแววตาอิจฉาริษยา
ตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันเวทมนตร์เป็นตำแหน่งที่สูงส่งมาก เป็นจุดกำเนิดของผู้มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของจักรวรรดิ การได้ควบคุมสถาบันเวทมนตร์เท่ากับได้ควบคุมจอมเวทย์จำนวนมหาศาล นี่เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ ในตอนแรกคนที่จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 เลือกมารับตำแหน่งนี้ถูกสังหารด้วยน้ำมือของหยางเฟย
หยางเฟยรับคำ “ขอรับ ฝ่าบาท!”
นอกจากหยางเฟยแล้ว การ์ซ่ายังแต่งตั้งตำแหน่งต่อไปให้กับคนอื่นๆ
กอยน่าได้รับตำแหน่งมาควิส ผู้บัญชาการทหารวังหลวง มีทหารวังหลวงใต้การควบคุม 20,000 นาย
คาทาโลได้รับตำแหน่งดยุค และเป็นผู้บัญชาการกองทัพปกป้องจักรวรรดิที่ 1
บูโซ่ได้รับตำแหน่งเจ้าอาณาจักรกิลเลย์ เป็นอาณาจักรที่ใกล้กับเมืองหลวงและรุ่งเรืองมาก
ทั้งบารอสและแมคเคนได้รับตำแหน่งเป็นจอมเวทย์ประจำพระราชวัง
เหล่ารัฐมนตรีที่เข้าร่วมกับกลุ่มของการ์ซ่า ทั้งหมดได้รับการเลื่อนตำแหน่งและกลายเป็นรัฐมนตรีแห่งจักรวรรดิมอร์ริสเต็มตัว
ทางทิศใต้ของจักรวรรดิมอร์ริสนั้นอยู่ติดกับจักรวรรดิทะเลทรายใต้ ซึ่งได้ต่อสู้กับมาเป็นเวลานาน
ในดินแดนเฟย์สือ มีจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่อยู่ 2 จักรวรรดิที่ถูกครอบครองโดยมนุษย์ นั่นคือจักรวรรดิมอร์ริสและจักรวรรดิไททัน ทั้งสองเป็นจักรวรรดิมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเฟย์สือ
อย่างไรก็ตาม นอกจากจักรวรรดิมอร์ริสและจักรวรรดิไททันแล้ว ยังมีอาณาจักรอื่นๆอีกมากมายในดินแดนเฟย์สือ ซึ่งจักรวรรดิทะเลทรายใต้ถือเป็นหนึ่งในนั้น
แม้ว่าความแข็งแกร่งของจักรวรรดิทะเลทรายจะไม่สามารถนำมาเทียบกับจักรวรรดิมอร์ริสได้ แต่พวกเขายังสามารถมีชีวิตรอดจากสภาพแวดล้อมที่เลวเร้ายของทะเลทรายได้ เกือบทุกคนเป็นนักรบแต่กำเนิด พวกเขาเริ่มมีความคิดบุกโจมตีจักรวรรดิมอร์ริส ปล้นอาหารจากผู้คนและแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่าง
จักรวรรดิมอร์ริสจึงจัดตั้งกองทัพแดนใต้ขึ้นมา เพื่อรับมือการโจมตีของจักรวรรดิทะเลทราย กองทัพแดนใต้ถูกตั้งอยู่ในอาณาจักรกาเฮล กองทัพแดนใต้มีทหารทั้งสิ้น 200,000 นาย และหากรวมกำลังเสริมจะมากถึง 1,000,000 นาย
ป้อมปราการเกราะศิลาเป็นศูนย์บัญชาการของกองทัพแดนใต้
อังเดรถือเอกสารและอ่านอย่างรอบคอบ เขาหัวเราพออกมา “ให้ข้าและไปเมืองโฮลี่เพื่อรับการสอบสวน การ์ซ่าน้องชายข้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่โตขึ้นเลย แม้ว่าจะได้ครองบัลลังก์ไปแล้ว เขาสั่งจับกุมข้าแน่นอน”
ร่างผอมบาง ราวกับชายวัยกลางคนทั่วไป เขาพูดขึ้น “ฝ่าบาท ไม่ต้องสนใจ ถ้าท่านกลับไป การ์ซ่าประหารท่านอย่างแน่นอน”
ร่างผอมนั้นคือแอนโซเลฟ เป็นเสนาธิการของอังเดร
อังเดรพูดขึ้นเบาๆ “แอนโซเลฟ เจ้าไปคุยกับพวกคนเถื่อนทะเลทรายมาเป็นอย่างไร?”
แอนโซเลฟตอบ “พวกทะเลทรายเหล่านั้นสัญญาว่าจะลงนามสงบศึกกับพวกเรา ภายใน 1 ปีนี้ พวกเขาจะไม่บุกเข้ามาในอาณาจักรกาเฮล”
อังเดรเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ และพูดขึ้น “เจ้าคิดว่าพวกมันจะปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่?”
แอนโซเลฟส่ายศีรษะเล็กน้อย “พวกทะเลทรายเหล่านี้เป็นพวกป่าเถื่อน ไม่มีกฎเกณฑ์ พวกมันไม่ทำตามสัญญาแน่นอนขอรับ พวกมันยังมีคนฉลาดๆอยู่ พวกมันปล่อยให้พวกเราบุกโจมตีเมืองโฮลี่และพวกมันจะลอบเข้ามาโจมตีอาณาจักรกาเฮล ข้ามั่นใจกว่า 80% ว่าเมื่อพวกเราออกไป พวกคนเถื่อนเหล่านั้นจะฉีกสัญญาและบุกโจมตีพวกเรา”
อังเดรยิ้มเล็กน้อย “ไม่ผิดหรอก ชาวทะเลทรายไม่สามารถเชื่อใจได้ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกเขาอยู่แล้ว เจ้าคิดต่อชนเผ่าเหล่านี้หรือยัง?”
แอนโซเลฟตอบ “ข้าติดต่อแล้วขอรับ!”
ประกายตาของอังเดรเป็นประกาย และพูดขึ้น “ถ้าพร้อมแล้ว ให้เริ่มได้เลย!”
วันที่ 6 หลังจากการ์ซ่าได้ขึ้นครองบัลลังก์ ผู้บัญชาการกองทัพแดนใต้ได้ประกาศออกมาว่าการ์ซ่าเป็นคนลอบสังหารจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 เป็นกบฏของจักรวรรดิและจะส่งกองทัพ 100,000 นายมายังเมืองโฮลี่
อาณาจักรกาเฮลถูกครอบครองโดยอังเดร ทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาจักรเป็นสมบัติของอังเดร
การ์ซ่าได้รวบรวมกองทัพทั้ง 4 จากอาณาจักรกัลโลและอาณาจักรมอร์ตันเพื่อตั้งรับการโจมตีของอังเดร
กองทัพทั้ง 4 ของทั้ง 2 อาณาจักรต่อสู้กับกองทัพแดนใต้ของอังเดรที่แม่น้ำเบช่า
ในการต่อสู้นั้น หนึ่งในกองทัพของอาณาจักรมอร์ตันได้เข้าร่วมกับกองทัพแดนใต้ของอังเดรบุกโจมตีกองทัพที่เหลือทั้ง 3 มีทหารล้มตายมากมายนับไม่ถ้วน
หลังจากได้รับทหารเพิ่ม กองทัพของอังเดรจาก 100,000 นายเพิ่มขึ้นเป็น 160,000 นาย
ทหารจากกองทัพอื่นๆที่ไม่เห็นหนทางรอดชีวิต พวกเขาเลือกที่จะเข้าร่วมกับเจ้าชายอังเดร
จักรวรรดิมอร์ริสนั้นเน่าเฟะตั้งแต่บนลงล่าง เมื่อเกิดสงครามกลางเมือง ทหารมักหาหนทางรอดชีวิตของตนเองเสมอ
อาณาจักรกัลโลและอาณาจักรมอร์ตันได้ยอมแพ้และเปิดทางสู้เมืองโฮลี่ให้กับกองทัพแดนใต้
กองทัพทั้ง 160,000 นายของอังเดรสามารถเข้ามาในเมืองโฮลี่ได้ต้องผ่าน 3 อาณาจักรนี้ อาณาจักรทันดู อาณาจักรนิวทิส อาณาจักรโบวี่
หลังจากที่กองทัพทั้ง 4 ของอาณาจักรกัลโลและอาณาจักรมอร์ตันพ่ายแพ้และยอมเข้าร่วมกับอังเดร อาณาจักรที่เหลือเริ่มจิตใจสั่นคลอน
ผู้สนับสนุนหลักของอังเดร โบวีเนีย เขาส่งกองทัพทั้ง 2 ไปไล่สังหารการ์ซ่า
จักรวรรดิมอร์ริสแข็งแกร่งที่สุดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจากภายนอก ไม่มีกองทัพชั้นยอดในเมืองโฮลี่ แต่กลับกัน การเดินทัพของกองทัพต่างๆมายังเมืองโฮลี่นั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก
สถานะของการ์ซ่าตอนนี้อยู่ในอันตราย เกิดความปั่นป่วนมากมาย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่กล้าสังหารเจ้าชายทั้ง 3
หากการ์ซ่าสังหารเจ้าชายทั้ง 3 ผู้สนับสนุนของเจ้าชายทั้ง 3 จำหันไปสนับสนุนเจ้าชายลำดับที่ 1 อังเดร จากนั้นการ์ซ่าจะถูกบังคับให้ต้องต่อสู้
ภายในพระราชวังแห่งชัยชนะ
ใบหน้าของการ์ซ่าเต็มไปด้วยความอึดอัด เขาวิตกกังวลอยู่ในห้องสมุดพระราชวัง
คนที่ยืนอยู่ด้านข้างการ์ซ่าเป็นชายวัยกลางคนมีผมยาวสีฟ้า เขาเป็นมันสมองของการ์ซ่า เบอร์เลย์
ในจุดนี้ เบอร์เลย์มองไปที่เอกสารอย่างรอบคอบและวางมันลงไป
การ์ซ่าเต็มไปด้วยความกังวลและพูดขึ้น “เบอร์เลย์ ข้าควรทำอย่างไรดี?”
เบอร์เลย์ปลอบโยน “ไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้อาณาจักรกว่า 95% เป็นของพวกเรา กองทัพในมือของเรามีมากกว่ากองทัพของอังเดรถึง 20 เท่า ยังมีหอคอยสีขาวที่อยู่ข้างเดียวกับเรา กองทัพในเมืองโฮลี่มีมากกว่า 300,000 นายอังเดรไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเราอย่างแน่นอนขอรับ”
ดวงตาของการ์ซ่าเต็มไปด้วยความเย็นชา เขากัดฟัน “เบอร์เลย์ ไม่ต้องมาปลอบข้า กองทัพแดนใต้ของอังเดรเป็นกองทัพชั้นยอดที่ทำสงครามกับจักรวรรดิทะเลทรายมาหลายศตวรรษ แม้ว่าเขาจะส่งกองทัพมาเพียงส่วนเดียว แต่นั่นยังคงเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง กองทัพของเขาเป็น 1 ใน 10 กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ มีไม่ถึง 10 กองทัพที่สามารถสู้กับพวกเขาได้ แล้วกองทัพพวกนั้น มันจะมาช่วยข้าไหมม!!!”
อังเดรเป็นดวงดาวของจักรวรรดิมอร์ริส อย่างไรก็ตาม กองทัพในจักรวรรดิมอร์ริสมีมากมาย ผู้คนที่แข็งแกร่งมากมายมีชื่อเสียงโด่งดังเทียบเคียงกับเจ้าชายอังเดร พวกเขาถูกดึงตัวไปเข้าร่วมกับกองทัพแถบชายแดน พวกเขาเหล่านี้ไม่สนใจเข้าร่วมศึกชิงบัลลังก์ การสนับสนุนการ์ซ่าขึ้นเป็นจักรพรรดิเป็นเรื่องใหญ่โต
การ์ซ่าไม่เคยคิดที่จะดึงกองทัพอื่นๆในจักรวรรดิมอร์ริส พลังอำนาจของเขาใช้ไปกับการแทรกซึมกองทัพปกป้องจักรวรรดิที่ 3 ซึ่งกองทัพปกป้องจักรวรรดิที่ 3 ได้เข้ามาช่วยเขาในช่วงวิกฤต
เบอร์เลย์พูดต่อทันที “ฝ่าบาท ยังมีคนที่สามารถต่อสู้กับอังเดรได้อยู่นะขอรับ!”
การ์ซ่าลังเลไปชั่วขณะ เขาพูดขึ้นช้าๆ “เจ้าหมายถึงเอียนอย่างนั้นรึ?”
เบอร์เลย์พูดช้าๆ “ใช่ขอรับ ดยุคเอียนเป็นบุคคลที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ เขาสามารถเอาชนะกองทัพนักล่าและกองทัพดาบสีเงิน ด้วยกองทัพของเมืองแห่งปาฏิหาริย์ ด้วยความสามารถของเขา เป็นไปได้ที่เขาจะสามารถเอาชนะอังเดรได้ขอรับ”
การ์ซ่าขมวดคิ้วและจมอยู่ในความเงียบ
ในห้องสมุดพระราชวัง เงียบสงบอย่างแปลกประหลาด
เบอร์เลย์พูดต่อ “ฝ่าบาท ข้ารู้ว่าดยุคเอียนเป็นผู้อำนวยการสถาบันเวทมนตร์ ถ้าเขาได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหาร มันแฝงไปด้วยอันตราย แต่นี่เป็นโอกาสที่จะเอาชนะอังเดนะขอรับ ถ้าท่านไม่สามารถเอาชนะอังเดรได้ ข้าไม่อยากจิตนาการส่วนที่เหลือเลยขอรับ”
การ์ซ่าลังเลและพูดขึ้น “กอยน่าเอาชนะไม่ได้อย่างนั้นรึ?”
กอยน่าเป็นผู้บัญชาการที่เหมาะสมที่สุดในความคิดของการ์ซ่า
เบอร์เลย์ขมวดคิ้วและกระซิบอย่างช้าๆ “กอยน่าทำผลงานได้ดีในสถาบันทหาร แต่เขาไม่เคยมีประสบการณ์ในสงครามขนาดใหญ่ ถ้าหากเป็นศัตรูทั่วไป เขาอาจจะสามารถสู้ได้ แต่นั่นต้องไม่ใช่อังเดร สงครามครั้งนี้สำคัญกับท่านมากนะขอรับ หากท่านแพ้ สถานการณ์จะพลิกผันในทันที”
การ์ซ่าเดินไปมาในห้องสมุดพระราชวัง หลังจากชั่งน้ำหนักได้ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจยาว “ได้ ไปเรียกเอียนมา!”