Mechanical God Emperor - ตอนที่ 286
286 – โกลาหล(3)
พายุทำให้เปลวเพลิงลุกโชนขึ้น เปลวเพลิงโหมกระหน่ำกลืนกินห้องที่มือสังหารมากมายรออยู่ในทันที เปลวเพลิงแผดเผาไปทุกทิศทาง
มือสังหารนับไม่ถ้วนกระโจนออกมาทีละคนท่ามกลางเปลวเพลิง
ดวงตาของการ์ซ่ากลายเป็นสีแดงกล่ำ เขาคำรามออกมา “ฆ่าพวกมัน ฆ่ามือสังหารพวกนั้นให้หมด!!”
ถ้ามีปรมาจารย์ดาบอยู่ข้างกาย การ์ซ่าจะปลอดภัย แต่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เขาต้องรักษาชีวิตของตนเอง มิเช่นนั้นเขาอาจจะตายอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงสถานการณ์อันตรายตรงหน้า การ์ซ่าเย็นเยือกไปถึงแผ่นหลัง ทั้งแผ่นหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
หยางเฟยมองมาที่การ์ซ่า เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฝ่าบาท ตอนนี้เป้าหมายของเราไม่ใช่การสังหารคนพวกนี้ แต่เป็นพระราชวัง!! พระราชวังเป็นกุญแจหลัก เมื่อฝ่าบาทขึ้นครองบัลลังก์ ท่านสามารถสังหารมดปลวกเหล่านี้ได้ตามต้องการ!!”
ดวงตาของการ์ซ่าเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาเริ่มสูญเสียตัวตนและตะคอกใส่หยางเฟย “พวกมันกำลังจะฆ่าข้า อีกก้าวเดียว พวกมันก็สามารถฆ่าข้าได้แล้ว!! ข้าต้องการให้มันชดใช้ ฆ่าพวกมันซะ! เอียน สังหารพวกมัน! ข้าไม่สนใจ!!”
หยางเฟยขมวดคิ้ว เขาลังเลไปชั่วขณะ เขากำลังคิดว่าการ์ซ่ากำลังจะได้กลายเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิ จากนั้นก็โบกมือ กองทหาร 300 นายเดินแยกออกมาจากกองทัพหลักและเริ่มไล่ล่าเหล่ามือสังหาร
ห่าฝนธนูพุ่งตรงสังหารมือสังหารทีละคนบนพื้น จากนั้นเปลวเพลิงก็เผาผลาญร่างเหล่านั้น
เอ็ดดี้คำรามออกมา พลังปราณระดับอัศวินดวงดาวระเบิดออกมา เขาพุ่งเข้าหามือสังหารพร้อมกับทหารปกป้องจักรพรรดิ 500 นาย
การฆ่าฟันกินเวลาไป 10 นาที มือสังหารหลายร้อยคนที่ซุ่มโจมตีอยู่ที่สองข้างทางถูกสังหารโดยเอ็ดดี้
หยางเฟยและกลุ่มของเขาเดินทางต่อ มุ่งหน้าไปยังพระราชวัง มังกรเพลิงคอยเก็บกวาดทุกสิ่งทุกอย่างด้านหลังพวกเขา
“ปกป้องตรงนี้ไว้ นี่เป็นคำสั่งของฝ่าบาท ห้ามใครผ่าน! ผู้ใดทำผิดจะถูกสังหารทั้งตระกูล!”
บนถนนมุ่งหน้าสู่พระราชวัง มีกองทหารทั้ง 500 นาย อยู่กำลังเผชิญหน้ากับหยางเฟยและกลุ่มของเขา ผู้บัญชาการของฝั่งนั้นได้ตะโกนขึ้น
กองทหาร 500 นายติดอาวุธพร้อมรบ ชี้มาทางหยางเฟยและกลุ่มของเขา ในบรรดาทหารทั้ง 500 นาย มีมือธนู 200 นายที่เตรียมพร้อมยิง
การ์ซ่าเริ่มกังวล ถ้าเขาถอนตัว กลุ่มของเขาต้องถอนทัพในทันที
การ์ซ่าเร่งพลังปราณและตะโกนออกมา “ข้าคือเจ้าชายลำดับที่ 6 การ์ซ่า ขอผ่านทางนี้ ข้าสงสัยว่ามีบุคคลในพระราชวังมีส่วนเกี่ยวข้องในการลอบสังหารฝ่าบาท ผู้บัญชาการเดลฟี่ ตอนนี้บิดาข้าได้เสียชีวิตลงแล้ว ข้าเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวที่อยู่ในจักรวรรดิมอร์ริส ตอนนี้เจ้าควรเชื่อฟังข้า หลังจากที่ข้าได้ขึ้นครองบัลลังก์ ข้าจะเลื่อนยศและทำให้เจ้าร่ำรวยมากยิ่งขึ้น!”
“เป็นเจ้าชายลำดับที่ 3 การ์ซ่านั่นเอง”
ดวงตาของเดลฟี่เต็มไปด้วยความตกใจ เขามีสีหน้าลังเล จากนั้นความโลภได้เข้าครอบงำ เขาพูดขึ้น “ฝ่าบาท ถ้าท่านได้ขึ้นครองบัลลังก์ ข้าต้องการเป็นดยุคของจักรวรรดิ! ข้าต้องการเหรียญตราของดยุค”
การ์ซ่าขมวดคิ้วและลังเล
ตำแหน่งดยุคที่แท้จริงถือเป็นขุนนางชั้นสูงของจักรวรรดิมอร์ริส เป็นรองเพียงเจ้าชายเท่านั้น ดยุคแต่ละคนมีอิทธิพลมากมายต่อการปกครองและการก่อกบฏ จักรวรรดิมอร์ริสต้องระมัดระวังเรื่องการคานอำนาจของเหล่าขุนนางชั้นสูง มิเช่นนั้นดินแดนทั้งหมดของจักรวรรดิคงถูกก่อกบฏและยึดครองไปนานแล้ว
10 นาทีต่อมา หยางเฟยขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เขารู้ดีว่ายิ่งเสียเวลาไปมากเท่าใด โอกาสสำเร็จจะยิ่งลดลงมากขึ้นเท่านั้น
หยางเฟยก้าวออกมาด้านหน้าและกระซิบกับการ์ซ่า “ฝ่าบาท พวกเราไม่มีเวลาแล้วนะขอรับ”
การ์ซ่าไม่พอใจและหันมาพูดกับหยางเฟย “ข้ารู้ว่าต้องทำอะไร!”
การ์ซ่าพูดต่อ “เดลฟี่ ตำแหน่งดยุค มันเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่เจ้ามาเข้าร่วมกับข้า หลังจากที่ข้าขึ้นครองบัลลังก์ ข้าสามารถมอบตำแหน่งเอิร์ลให้กับเจ้าได้ เจ้าจะร่ำรวยมหาศาล”
กองทหารทั้ง 500 นายเป็นกองทัพเล็กๆ ถ้าการ์ซ่าสามารถดึงกองทัพนี้เข้ามาช่วยได้ เขาสามารถนำมาถ่วงดุลอำนาจกับกองทัพของหยางเฟยได้
การ์ซ่าเติบโตขึ้นในตระกูลมอร์ริส ความคิดของเจ้าชายคนนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเจ้าชายคนอื่นๆ
เดลฟี่พูดอย่างลังเล “ตำแหน่งเอิร์ล? ฝ่าบาท ถ้าข้าเชื่อท่าน ชีวิตของพี่น้องข้าทุกคนจะขึ้นอยู่กับท่าน ตำแหน่งเอิร์ล มันยังไม่เพียงพอ ต้องเป็นตำแหน่งมาควิส ตราบเท่าที่ท่านสัญญากับข้าว่าจะมอบตำแหน่งมาควิสให้กับข้า ข้าจะนำพาพี่น้องทั้ง 500 คนไปกับท่าน!! ข้าสามารถทำให้ทหารในพระราชวังยอมจำนนต่อท่านได้”
การ์ซ่าได้ยินดังนั้น จิตใจของเขาสั่นระรัว ถ้าเดลฟี่สามารถดึงตัวกองทหารในพระราชวังได้ โอกาสในการเข้าสู่พระราชวังแห่งชัยชนะจะเพิ่มขึ้นอีกมาก
มีกองทหารพระราชวัง 20,000 นายในพระราชวังแห่งชัยชนะ และกองทหารนี้ถูกควบคุมโดยจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 เท่านั้น ใครก็ตามที่กล้าเข้าไปยุ่งกับกองทัพเหล่านั้น จะถูกสั่งโจมตีในทันที
เจ้าชายลำดับที่ 1 อังเดรเคยดึงตัวรองผู้บัญชาการกองทหารพระราชวัง หลังจากเรื่องราวถูกค้นพบโดยองค์จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 ตระกูลของรองผู้บัญชาการคนนั้นถูกสั่งประหารทั้งครอบครัวโดยองค์จักรพรรดิ อังเดรเองยังถูกริดรอนอำนาจทางการทหารและถูกส่งไปยังกองทัพทางทิศใต้ มีเพียงวันหยุดเท่านั้นที่เขาสามารถกลับเข้ามาที่เมืองโฮลี่ได้ ราชินีซูซาน่าเดิมทีเป็นที่โปรดปราณของอองค์จักรพรรดิค่อยๆถูกทิ้งไปอย่างช้าๆ
เจ้าชายทั้ง 3 รวมถึงการ์ซ่าไม่กล้าเข้ามายุ่งกับกองทหารพระราชวัง ด้วยความกลัวที่ไปกระตุกหนวดขององค์จักรพรรดิ
ตอนนี้เดลฟี่ได้ยอมเข้าร่วมกับการ์ซ่าและยังสามารถชัดชวนคนอื่นๆมาเข้าร่วมได้ นั่นทำให้การ์ซ่าตื่นเต้นอย่างมาก
การ์ซ่าลังเล ก่อนจะตัดสินใจ เขาพูดขึ้น “ได้ ตราบเท่าที่เจ้าเชื่อใจข้าและสามารถดึงตัวคนอื่นๆมาเปิดประตูทางเข้าพระราชวังแห่งชัยชนะได้ ข้ายินดีมอบตำแหน่งมาควิสให้กับเจ้าทันที หลังจากที่ข้าขึ้นครองบัลลังก์”
แววตาของเดลฟี่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขายิ้มและพูดขึ้น “ข้าต้องการให้ฝ่าบาทมอบตำแหน่งมาควิสที่ได้รับพรจากเทพแห่งการเพาะปลูก”
ใบหน้าของการ์ซ่าบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง เขาปฏิเสธในทันที “มันเป็นไปไม่ได้!!”
ดินแดนเทพประทานนั้นเป็นดินแดนที่ได้รับพรจากเทพธิดาแห่งชีวิต เทพธิดาแห่งการเพาะปลูกและเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์ บนดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ปกติในดินแดนเฟย์สือ พื้นที่ 1 ไร่สามารถปลูกข้าวสาลีได้ 200-250 กิโลกรัม แต่ในดินแดนที่ได้รับพรจากเหล่าเทพนั้น พื้นที่ 1 ไร่จะสามารถปลูกข้าวสาลีได้ถึง 2,000 กิโลกรัม มากกว่าพื้นที่ทั่วไปถึง 10 เท่า
ดินแดนเทพประทานถือเป็นดินแดนของตระกูลมอร์ริสและตระกูลเชื้อสายเทพ นอกเหนือจากการปฏิบัติตามวีรบุรุษที่ก่อตั้งตระกูลที่ต้องมอบดินแดนเหล่านั้นให้กับผู้ที่ทำความดีความชอบใหญ่หลวง ไม่เคยมีบุคคลที่ไม่ใช่ตระกูลสายเลือดเทพได้ครอบครองดินแดนเหล่านั้นมาก่อน
เสียงของเดลฟี่ดังขึ้น “ถ้าอย่างนั้น ตำแหน่งเอิร์ลของดินแดนที่ได้รับพร มันสามารถทำให้ชีวิตข้าทั้งชีวิตร่ำรวยและรุ่งโรจน์ ตราบเท่าที่ฝ่าบาทสัญญากับข้าว่าหลังจากที่ขึ้นครองบัลลังก์ ท่านจะมอบตำแหน่งเอิร์ลของดินแดนที่ได้รับพรจากเหล่าเทพ ข้าจะนำทหารทั้ง 500 นายติดตามรับใช้ฝ่าบาท ยินยอมทำตามที่ฝ่าบาทต้องการทุกประการ ไม่มีบิดพลิ้ว”
ในสถานที่อื่นๆที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น ด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้ ข้าวสาลีที่ปลูกได้ในดินแดนเทพประทานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ตำแหน่งเอิร์ลในดินแดนเทพประทานนั้นถือเป็นรากฐานของความรุ่งโรจน์ที่แท้จริงบนโลกใบนี้
การ์ซ่ามีสีหน้ามืดมน เขากำลังคำนวณสิ่งต่างๆในใจ
ดินแดนเทพประทานถูกแบ่งออกโดยภูมิภาค ตระกูลมอร์ริสได้ครอบครองส่วนที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนเทพประทาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของจักรวรรดิ ไม่เคยมีการมอบตำแหน่งของดินแดนเหล่านั้นให้ใครมาก่อน
ตระกูลมอร์ริสเป็นตระกูลใหญ่ มีผู้แข็งแกร่งมากมาย การ์ซ่าต้องแย่งชิงบัลลังก์กับเจ้าชายคนอื่นๆ ผู้คนในตระกูลมอร์ริสไม่เคยสนใจ กว่า 100 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ครั้งแรกที่บุตรของตระกูลมอร์ริสทำการสังหารกันเอง ชัยชนะของเจ้าชายเป็นสิ่งที่ตระกูลมอร์ริสให้การสนุบสนุน
แต่หากการ์ซ่ามอบตำแหน่งออกไป ทั่วทั้งตระกูลมอร์ริสจะหันมาต่อต้านการสืบทอดบัลลังก์ของเขา
การ์ซ๋ษส่ายศีรษะเล็กน้อยและโพล่งออกมา “ไม่ ข้าไม่สามารถมอบตำแหน่งมาควิสของดินแดนเทพประทานให้กับเจ้าได้ แม้แต่ตำแหน่งขุนนางก็เป็นไปไม่ได้ มันเป็นดินแดนที่ทำให้พวกเราตระกูลมอร์ริสรุ่งเรืองขึ้นมา ข้าไม่มีทางคิดหักหลังตระกูลแน่นอน”
เดลฟี่ถอนหายใจอย่างช้าๆ “แล้วถ้าเป็นตำแหน่งมาควิสธรรมดาล่ะ? ข้าคิดว่ามันคงดีกว่าไม่ได้อะไรเลย”
ในขณะนั้น เสียงสั่นสะเทือนพื้นดินดังขึ้น เสียงควบม้าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ใบหน้าของการ์ซ่าบิดเบี้ยวในทันที เขาพูดกับหยางเฟย “ผู้บัญชาการกองทัพปกป้องจักรวรรดิที่ 1 บูชาร์ก้า ขึ้นตรงต่อเจ้าชายอังเดร นั่นกองทัพม้าของพวกเขา!!”
หยางเฟยขมวดคิ้วและมองไปที่เดลฟี่ เขาเห็นว่าเดลฟี่ยังคงลังเล
หยางเฟยชี้นิ้วออกไปอย่างเย็นชาและพูดขึ้น “บารอส มังกรไฟ สังหารพวกมัน!”
“ขอรับ!”
บารอสรับคำและร่ายเวทย์สั่งการในทันที เขาใช้ลัดมนตราและชี้นิ้วไปที่เดลฟี่และทหารทั้ง 500 นายทันที
พลังธาตุไฟหลอมรวมกัน ก่อตัวเป็นมังกรเพลิงสูง 10 ฟุต
เมื่อเดลฟี่เผชิญหน้ากับมังกรเพลิง ใบหน้าของเขาซีดลงและกรีดร้องออกมา “ข้าขอยอมแพ้!! ฝ่าบาท ช่วยชีวิตข้าด้วย!! ข้าขอยอมแพ้! ฝ่าบาท!!”