Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 127
ตอนที่ 127 หญิงสาวนักสะกดจิต
ความเร่งรีบและความคึกคักของนิวยอร์คไม่จําเป็นที่จะต้องพูดถึงให้มากความไป เพราะแค่ประชากรของที่นี่เพียงอย่างเดียว มันก็มีจํานวนอยู่มากมายแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มากเท่ากับเมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจีนก็ตาม
ซูเจินและชาวเฮติกําลังเดินไปบนถนนในนิวยอร์คอย่างช้า ๆ โดยรอบ ๆ ตัวของพวกเขามันเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังเต็มไปหมด โดยที่หนึ่งในนั้นมีร้านที่เป็นของคนจีนด้วย ซึ่งมันก็ผสมกลมกลืนเข้ากับร้านสีดําที่อยู่ข้าง ๆ เป็นอย่างมาก และร้านสีดําที่อยู่ข้าง ๆ มันก็ยังเป็นร้านเสื้อผ้าของผู้หญิงอีกด้วย ทําให้ซูเจินเดินเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว บวกกับเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ทางโรมแรมเป็นคนจัดหามาให้ ทําให้ไม่มีใครกล้าแสดงท่าทางดูถูกหรือเหยียดหยามซูเจินออกมาเลยแม้แต่น้อย
และหลังจากซู่เจินเลือกซื้อผ้าอะไรเสร็จแล้ว เขาก็หยิบเงินออกมาจ่าย และเมื่อพนักงานสาวเห็นว่าซูเจินเป็นคนมีเงินเธอก็รีบจัดการเอาซื้อผ้าใส่ถุงผ้าให้กับซูเจินอย่างกระตือรือร้น โดยซูเจินก็ให้ทิปกับพวกพนักงานสองสามคนไปเล็กน้อย ทําให้พวกเธอจดเบอร์ใส่โน้ตเล็ก ๆ พร้อมกับยื่นให้ซูเจิน ซึ่งซูเจินก็รับมันมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและหลังจากที่เขาเดินออกจากร้านเขาก็โยนเบอร์เหล่านี้ทิ้งไปทันที
เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ตายอดตายอยากในเรื่องพวกนั้นขนาดนั้น!
หลังจากที่เขาเดินซื้อของมาทั้งวัน ซูเจินก็เพิ่งคิดได้ว่าเขาเพิ่งจะจ่ายตั้งไปกับค่าเสื้อผ้าหลายล้านเหรียญ เพราะงั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกพนักงานผู้หญิงเหล่านั้นจะกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ
แค่ล้านเหรียญนะไม่ใช่หลายร้อยล้านเหรียญ
และเมื่อเขาลองดูพื้นที่ในมิติเก็บของเขาก็พบว่ามันเต็มไปด้วยเสื้อผ้าผู้หญิงมากมาย และแน่นอนว่ามันก็ค่อนข้างที่จะมีเสื้อผ้าที่พิเศษอยู่เล็กน้อย … อธิเช่น ชุดนอนไม่ได้นอน หรือ ซีทรู
“การไปช็อบปิ้งนี่มันเหนื่อยจริง ๆ ถ้าเกิดว่าฉันไม่คิดว่าพวกเธอใส่ชุดพวกนี้แล้วมันจะ … ฉันก็คงจะทนซื้อของพวกนี้ได้ไม่นานแบบนี้อย่างแน่นอน” ซูเจินนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับปลดกระดุมคอเสื้อของเขา และค่อย ๆ เทไวน์ลงแก้วพร้อมกับดื่มมันเข้าไป
หลังจากที่หยุดพักเหนื่อยและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูเจินก็พร้อมจะออกไปเที่ยวข้างนอกอีกครั้ง
เพราะว่าคืนนี้มันจะการแสดงละครบรอดเวย์ และเขาก็ว่ากันว่าการแสดงของพวกเขามันยอดเยี่ยมมาก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักโอเปร่า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ช่วยทําให้เขารู้สึกเพลิดเพลินไปกับได้
“ถ้าเกิดว่านายไม่อยากไปดูโอเปร่า นายก็ไปหาอะไรทําเพื่อผ่อนคลายเถอะ”
เมื่อเห็นว่าชาวเฮติไม่สนใจเกี่ยวกับโอเปร่า ซูเจินจึงมอบเงินให้กับเขาจํานวนหนึ่งเพื่อให้เขาไปหาอะไรสนุก ๆ ทํา เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องให้ชาวเฮติทํา ดังนั้นเขาก็ควรที่จะให้ชาวเฮติผ่อนคลายบ้าง
เมื่อซู่เจินเดินทางมาถึงที่บรอดเวย์และกําลังนั่งดูการแสดงโอเปร่าอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
แม้ว่านักแสดงโอเปร่าจะสวยมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เข้าใจถึงเนื้อหาที่ลึกซึ้งของโอเปร่าเลยแม้แต่น้อย
ซูเจินสายหัวขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากที่นั่งและเดินออกไปทันที
และเมื่อเขาเดินออกมาจากประตูของบรอดเวย์ เขาก็คิดขึ้นมาว่าจะทําอะไรดีเพื่อฆ่าเวลา หรือว่าจะกลับไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนดี ? แต่ทันใดนั้นก็มีคนเดินมาตีที่ไหล่ของเขาเบา ๆ
กลิ่นหอมลอยมาติดที่จมูกของซูเอนเล็กน้อย ทันใดนั้นผู้หญิงผมสั้นคนนั้นก็พูดกับซูเจินขึ้นมาว่า “ขอโทษนะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ? ฉันเห็นสีหน้าของคุณไม่ค่อยดี … คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม
“ผมไม่เป็นอะไร” ซูเจินพูดขึ้นมาพร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ และเมื่อเขาลองมองสังเกตไปที่เธอเขาก็พบว่าเธอเป็นคนที่สวยและขาเรียวมาก ถึงแม้ว่าเธอจะไว้ผมสั้น แต่เธอก็ให้ความรู้สึกแบบพิเศษ ๆ โดยเฉพาะเสียงของเธอที่มันน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
“คุณไม่เป็นอะไรจริง ๆ ใช่ไหม ? เอ่อ … คุณพอจะมีเวลาว่างไปหาสถานที่นั่งคุยกับฉันหน่อยไหม ?” ผู้หญิงผมสั้นพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ดีกว่า”
“ไม่ ? แต่ฉันคิดว่า … คุณน่าจะอยากคุยกับฉันจริง ๆ นะ” ผู้หญิงผมสั่งมองไปที่ซู่เจินด้วยรอยยิ้ม แต่ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงที่เธอพูดออกมามันก็มั่นคงมาก
“มันไม่ถูกต้อง
เมื่อมองไปที่ท่าทางของเธอ ซูเจินก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พร้อมกับมองไปที่เธอด้วยความระมัดระวัง เพราะว่าเขาค่อนข้างที่จะรู้สึกคุ้นเคยกับเธอมาก แต่เขาก็จําไม่ได้ว่าเธอคนนี้เป็นใครกันแน่
ถึงแม้ว่าในโลกแห่งนี้จะมีคนที่มีความสามารถพิเศษอยู่มากมาย และก็มีอยู่หลายประเภท แต่ถ้าเอาจริง ๆ แล้ว ผู้หญิงที่มีความสามารถพิเศษและสวย มันมีไม่ค่อยมากนัก
และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น
เธอเป็นคนที่มีความสามารถในการสะกดจิตโดยใช้เสียงของเธอ
อีเดน แมคเคน
ถึงแม้ว่าชื่อของเธอมันจะดูไม่ค่อยเหมือนกับชื่อของผู้หญิงสักเท่าไหร่ บวกกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ ทําให้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะตามหาตัวของเธอเจอได้
“ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกับเธอที่นี่ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าเธอตั้งใจ ?”
ซูเจนเลิกคิดไร้สาระ พร้อมกับแสดงท่าทางลังเลออกมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็หันไปพยักหน้าให้กับเธอพร้อมกับเดินนําออกไป ส่วนทางด้านของอีเดนก็ยิ้มขึ้นมาอย่างมีชัยเมื่อเห็นท่าทางของซูเจิน
หลังจากที่พวกเขาเดินมาถึงที่ลับตาคน อีเดนก็มองไปที่ซู่เจินด้วยความรังเกียจเล็กน้อย พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูดว่า ”คุณไม่คิดว่าคุณควรที่จะเอาเงินทั้งหมดของคุณมาให้กับฉันอย่างงั้นหรอ ?”
“เธอต้องการเงิน ?”
ซูเจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็หยิบกระเป๋าตังออกมาพร้อมกับยื่นมันให้กับเธอโดยดี
” คุณมีแค่นี้เองงั้นหรอ ? ฉันจําได้ว่าคุณเดินไปซื้อเสื้อผ้ามาตั้งมากมายไม่ใช่หรอ ? คุณเอาพวกมันไปเก็บไว้ที่ไหน ? พาฉันไปดูพวกมันหน่อย!” อีเดนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยในตอนแรก แต่หลังจากที่เธอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอก็ยิ้มขึ้นมาทันทีพร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนไป
“ดูเหมือนว่าเธอจะแอบติดตามฉันมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วสินะ และในเมื่อวันนี้ฉันก็ไม่มีอะไรให้ทําอยู่แล้ว บวกกับค่ำคืนนี้มันยังอีกยาวนานและน่าเบื่อ ดังนั้นฉันจะเล่นกับเธอแก้เบื่อเองก็แล้วกัน”
ซูเจินยิ้มขึ้นมาในใจอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ผมเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในห้องพักที่โรงแรม ผมจะพาคุณไปที่นั่น” หลังจากพูดจบขู่เจินก็เดินนําทางเธอไปทันที
อีเดนเดินตามซูเจินไปอย่างสบาย ๆ และดูเหมือนว่าเธอจะมั่นใจในความสามารถของเธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ได้รู้ตัวเลยซู่เจินไม่ได้ถูกเธอสะกดจิตเลยแม้แต่น้อย
เพราะว่าซูเจินมีเครื่องป้องกันการโจมตีทางจิตใจ ทําให้ความสามารถจําพวกนี้มันไม่ได้ผลกับซู่เจินเลยแม้แต่น้อย และถึงแม้ว่ามันจะได้ผลแต่มันก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทําแบบนั้นได้!
หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงที่โรงแรม อีเดนก็รีบเข้าไปในห้องของซูเจินด้วยความกระตือรือร้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอเข้าไปเธอก็พบว่าไม่มีเสื้อผ้าอะไรอยู่ในห้องเลยสักตัว ทําให้เธอหันกลับไปมองที่ซู่เจินเพื่อที่จะถามว่าเสื้อผ้าไปไหน แต่ทันใดนั้นเธอก็พบว่าซูเจินในตอนนี้ได้มาอยู่ข้างหลังของเธออย่างรวดเร็ว
ทําให้เธอถึงกับตกใจพร้อมกับหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว
ซู่เจินเดินไปที่ตู้ไวน์ที่อยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ พร้อมกับหยิบไวน์ออกมาและเทใส่แก้วทั้งสอง
การแสดงออกของซูเจินทําให้เอเดนรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่เธอก็พูดขึ้นมาด้วยความไม่ใส่ใจว่า “เสื้อผ้าอยู่ที่ไหน”
“เสื้อผ้ามันก็อยู่ที่ผมนะสิ ถ้าเกิดว่าคุณกล้าสวมใส่เสื้อผ้าที่ผมหยิบออกมา ผมจะมอบเสื้อผ้าให้กับคุณสักสองสามตัวก็แล้วกัน” ซูเจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหยิบแก้วไวน์ยื่นให้กับเธอ “คุณดื่มหน่อยไหม ? เพราะผมคิดว่าคุณน่าจะต้องการมัน”
“คุณ … คุณไม่ได้โดนฉันสะกดจิตอยู่อย่างงั้นหรอ ?” อีเดนพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
และเมื่อเธอตั้งสติได้ อีเดนก็เตรียมตัวที่จะหลังหันและวิ่งหนีออกไปจากห้อง แต่ในขณะที่เธอหันหลังกลับมาเธอก็พบว่ามีกําแพงสีเข้มปรากฏขึ้นมาขว้างข้างหน้าของเธอเอาไว้ พร้อมกับค่อย ๆ ขยายออกอย่างรวดเร็วกลายเป็นห้องขังขังเธอเอาไว้ข้างใน
“นี่…มันคืออะไร! ปล่อยฉันออกไปนะ!” อีเดนตะโกนใสซูเจินอย่างตื่นตระหนัก
ซูเจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “จะรีบอะไรนักหนา ค่ำคืนนี้มันยังอีกยาวไกล พวกเรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเหลือเฟือ”