Martial God Space - ตอนที่ 336

Martial god space ตอนที่  336  กองทัพสัตว์อสูร

หลังจากออกไล่ล่าวิญญาณชั่วร้ายตลอดทั้งคืน  เย่ ซีหวิน  ก็กลับมาเข้าเมืองเสี้ยวจันทร์เมื่อตอนรุ่งเช้า  ศิษย์ใหม่หลายคนเริ่มตื่นนอน และเดินออกมาสูดอากาศนอกที่พัก  ตลอดทั้งคืนมีลมพายุพัดอย่างรุนแรงทำให้ไม่มีใครกล้าออกจากเมือง  พวกเขาพากันหลบอยู่ในห้องพักจนถึงรุ่งเช้า  สายลมที่พัดอย่างรุนแรงเริ่มอ่อนแรงกำลังในตอนเช้า

เย่ ซีหวิน  เดินกลับเข้าในเมืองก็เริ่มมองเห็นผู้คนเดินไปมาตามถนน หลายคนทยอยเดินทางออกจากเมือง  ทันใดนั้น มีเสียงดังสนั่นมาจากที่ห่างไกล ก่อนที่พวกเขาจะพากันแยกย้ายออกไปล่าสัตว์อสูร  สิ่งนั้นทำให้ทุกคนตื่นตระหนกด้วยความสับสน แรงสั่นสะเทือนราวกับเสียงฝีเท้าของม้าที่กำลังวิ่งนับหมื่นตัว

เมื่อมองออกไปยังต้นเสียง  พวกเขาก็เห็นฝูงสัตว์อสูรขนาดใหญ่  จำนวนของพวกมันมากมายนับไม่ถ้วน และกำลังวิ่งตรงมาทางเมืองเสี้ยวจันทร์

” โฮกกกกก! ”  (เสียงคำราม)

” ก๊าซซซซ์! ”  (เสียงคำราม)

” ฮืออออออ! ”  (เสียงคำราม)

” แกว๊กก!  แกว๊กก! ”  (เสียงคำราม)

” แป๊นนน! ”  (เสียงคำราม)

. . . . . . . . . . . .

” นี่มันเกิดอะไรขึ้น? . . . ทำไมจู่ๆ เกิดพื้นดินไหว . . . “

” สัส . . . สัตว์อสูร  มันเป็นเสียงร้องคำรามของสัตว์อสูร! “

” พื้นดินสั่นสะเทือนในระดับนี้ . . . พวกสัตว์อสูรต้องยกมาทั้งกองทัพแน่ๆ ! “

” ข้าสัมผัสถึงออร่าที่แข็งแกร่งมากมาย  ขอบเขตลมปราณแท้จริง?  สัตว์อสูรเหล่านี้ พวกมันมารวมตัวกันได้อย่างไร! “

”  การมาของพวกมันเหมือนกับฝูงสัตว์แตกตื่น!  ใช่แล้ว!  ฝูงสัตว์แตกตื่นนน! “

มีหลายคนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ได้ตื่นตระหนก หนึ่งในนั้นคือ  เย่ ซีหวิน  ก่อนออกเดินทาง ไป่ เจี้ยนสง  ได้บอกเขาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ของสมรภูมิรบต่างโลก  ฝูงสัตว์แตกตื่น เป็นเพียงบททดสอบแรกของพวกเขาหลังจากมาถึงสมรภูมิรบต่างโลก  อย่างไรก็ตาม  ที่นี่ไม่ใช่แนวหน้า  สัตว์อสูรส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ไม่ใช่สัตว์อสูรระดับสูง  บรรดาเหล่าผู้อาวุโสของสถาบันยอดยุทธได้ออกลาดตระเวน และกำจัดพวกมันล่วงหน้าเอาไว้แล้ว  แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ ในความเป็นจริง มีสัตว์อสูรตั้งแต่ระดับลมปราณแท้จริง, ระดับลมปราณครึ่งก้าวตำนาน,  และลมปราณระดับตำนาน อยู่ทั่วทุกหนแห่ง  บางครั้งอาจมีสัตว์อสูรระดับลมปราณครึ่งก้าวนักปราชญ์ปรากฏตัวขึ้น

แม้ว่า เมืองเสี้ยวจันทร์ จะตั้งอยู่ในดินแดนที่รกร้าง  แต่ทุกครั้งที่มีศิษย์ใหม่เดินทางมาถึง พวกมันจะรวมตัวกันมากมาย และมุ่งหน้าตรงมาที่นี่  มนุษย์ และสัตว์อสูรต่างโลก ได้ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานหลายพันปี  ทำให้พวกมันมีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นอายของมนุษย์  เช้าวันแรกของดินแดนต่างโลก  เหล่าศิษย์ใหม่ได้รับการต้อนรับจากฝูงสัตว์อสูรอย่างอบอุ่น

”  รีบถอยกลับเข้าเมืองงง! ”  มีใครบางคนตะโกนเสียงดังออกมา ทำให้หลายคนที่อยู่นอกเมือง พากันรีบบินกลับเข้ามาในเมืองทันที

ศิษย์ใหม่ทุกคนยืนประจำตำแหน่งอยู่บนกำแพงเมือง และเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง  ในขณะเดียวกัน สัตว์อสูรเหล่านั้นก็เริ่มใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ  มันเหมือนกับคลื่นทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด เศษฝุ่นละอองลอยฟุ้งกระจายขึ้นไปในอากาศ ราวกับจะบัดบังแสงของดวงอาทิตย์ให้มืดมิด

สัตว์อสูรต่างโลกเหล่านี้พยายามไต่กำแพงเมืองขึ้นมา  พวกมันเหยียบกันและไต่ขึ้นมาเหมือนกันฝูงมด ในไม่ช้าพวกมันหลายตัวก็สามารถขึ้นมาบนกำแพง และพยายามไล่ฆ่าศิษย์ใหม่ที่อยู่บนกำแพงเมือง

” โพล๊ะ! ”  เย่ ซีหวิน  ยิงปราณฝ่ามือออกไป มันก่อตัวขึ้นกลายเป็นกรงเล็บมังกรขนาดใหญ่  สัตว์อสูรตัวนี้แตกต่างจากสัตว์อสูรทั่วไป  ถึงแม้มันจะมีร่างกายใหญ่โต แต่มันมีโครงสร้างร่างกายเหมือนกับมนุษย์  เย่ ซีหวิน  คว้าจับมันด้วยกรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ ก่อนจะบดขยี้หัวกะโหลกของมันจนระเบิดเละกลายเป็นเศษเนื้อ

สัตว์อสูรเหล่านี้ อาศัยอยู่ในจักรวาลอันเวิ้งว้าง มันไม่เหมือนกับมีชีวิตอื่นๆ พวกมันทุกตัวมีรูปร่างแปลกประหลาดแตกต่างกันออกไป

แกนพลังชีวิตของสัตว์อสูร และเลือดของมันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของ  เย่ ซีหวิน ทันที  ด้วยความช่วยเหลือของ กระจกเทียนหยวนทันที  แกนพลังชีวิตของสัตว์อสูรถูกบดขยี้ และแปลงเป็นพลังงานบริสุทธิ์ให้เขาดูดซับพลังงานได้สะดวกมากขึ้น

เย่ ซีหวิน  รู้สึกประหลาดใจ เมื่อพบว่าจักรวาลขนาดเล็กภายในจุดตันเถียนของเขาขยายใหญ่ขึ้น  แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย และยากที่จะตรวจจับได้  แต่  เย่ ซีหวิน สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของมันได้

สัตว์อสูรเหล่านี้ได้รับพลังของดวงดาว พวกมันอาศัยอยู่ในจักรวาลอันเวิ้งว้าง และพวกมันก็รู้สึกถึงพลังของดวงดาวด้วยเช่นกัน  เมื่อเวลาผ่านไปพลังของดวงดาวได้ซึมซับเข้าไปเลือดของพวกมัน

พลังของดาวดวงนี้ทำให้ร่างกายของพวกมันแข็งแกร่งกว่าปกติ  และมีพลังมากกว่าสัตว์อสูรทั่วไป  สัตว์อสูรเหล่านี้ถึงแม้พวกมันจะน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม  แต่ส่วนใหญ่สติปัญญาของพวกมันไม่สูงนัก ซึ่งแตกต่างจากโลกแห่งวรยุทธ

อย่างไรก็ตาม พลังของดวงดาวเหล่านี้เป็นเหมือนกับอาหารบำรุงสำหรับ  เย่ ซีหวิน  นอกจากนี้มันยังช่วยเสริมพลังให้กับจักรวาลขนาดเล็กภายในจุดตันเถียนของเขา  พลังของดวงดาวสามารถชำระล้าง และขยายขอบเขตจักรวาลภายในร่างของเขาให้ใหญ่ขึ้น

หากดูดซับพลังของดวงดาวในท้องฟ้าเพียงอย่างเดียว  เขาอาจจะต้องใช้เวลานานหลายร้อยปี  ถ้าจะปรับแต่งจักรวาลขนาดเล็กภายในจุดตันเถียนของเขาให้เสร็จสมบูรณ์ คงต้องเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งพันปี

แน่นอนว่า  เยโม่  ได้แนะนำวิธีอื่นที่รวดเร็วกว่าให้กับเขา  นั่นคือการระเบิดดวงดาวให้เปิดออก และใช้แกนกลางของดาวเคราะห์เหล่านั้นเป็นแหล่งพลังงาน  เย่ ซีหวิน  ได้ฟังแล้วถึงกับถอนหายใจยาว เพราะมันเป็นไปได้ที่เขาจะใช้วิธีนี้

อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรเหล่านี้ก็เป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าสำหรับ  เย่ ซีหวิน ในตอนนี้

เย่ ซีหวิน  กระโดดลงมาจากกำแพงเมืองทันที  ด้วยเคล็ดวิชากายาแห่งราชันย์สีทอง ทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนกลายเป็นสีทอง  เส้นทางที่เขาเดินผ่านเต็มไปด้วยซากศพของสัตว์อสูร

” ปังงง!  ผัวะ! “

” ตูมมมมม! “

” เปรี้ยงงง! “

สัตว์อสูรส่วนใหญ่อยู่ในระดับลมปราณแท้จริง และระดับลมปราณครึ่งก้าวตำนาน แต่พวกมันไม่สามารถหยุดการโจมตีของ  เย่ ซีหวิน  ได้  แกนพลังชีวิต และเลือดของพวกมันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของ  เย่ ซีหวิน ทันที

ผู้คนที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองต่างมองดูการต่อสู้อันดุเดือดของ  เย่ ซีหวิน  ด้วยความตกตะลึง  หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือ เย่ ซีหวิน

การต่อสู้อันบ้าระห่ำของ  เย่ ซีหวิน  ได้กระตุ้นไฟแห่งการต่อสู้ของใครหลายคนให้ลุกโซนขึ้น  และหลายคนเฝ้าดูการต่อสู้ของเขาอย่างตั้งใจ  บางคนรีบกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง และตรงเข้าไปโจมตีสัตว์อสูรเหล่านั้น   แต่หลังจากนั้น เพียงครู่หนึ่งสัตว์อสูรเหล่านั้นก็ฉีกร่างของพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ  บางคนสามารถยืนหยัดต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ  แต่สุดท้ายพวกเขาใช้พลังไปจนหมด และกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรเหล่านั้น

การต่อสู้ระหว่าง  เย่ ซีหวิน  กับสัตว์อสูรเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่า  จอมยุทธทั่วไปไม่สามารถต่อกรกับสัตว์อสูรได้  เย่ ซีหวิน   แข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง

บนกำแพงเมืองมีสายตาคู่หนึ่งเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เขาจับตามองดู  เย่ ซีหวิน  โดยไม่คาดสายตา ในระหว่างที่เขากำลังฆ่าสัตว์อสูรอย่างต่อเนื่อง

เย่ ซีหวิน  วิ่งไปกลางกลุ่มสัตว์อสูรเหล่านั้นโดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยไม่แต่น้อย  สำหรับคนอื่นๆ แล้วการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรกลุ่มหนึ่ง  เป็นเรื่องที่อันตรายมากพวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรเหล่านั้น  ถึงแม้  เย่ ซีหวิน จะได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยเคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ อาการบาดเจ็บต่างๆ บนร่างกายของเขาได้รับการรักษาในทันที  แต่สัตว์อสูรเหล่านั้นก็ไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนบนร่างของเขาได้ เพราะความแข็งแกร่งของ กายาแห่งราชันย์สีทอง

ร่างกายของ  เย่ ซีหวิน  นั้นแข็งแกร่งมาก การโจมตีธรรมดาไม่สามารถทำอันตราย หรือสังหารเขาได้

เคล็ดวิชากายาแห่งราชันย์สีทองในร่างของเขากำลังโคจรอย่างบ้าคลั่ง  จากนั้นเขาก็เปิดใช้ปีกมาร และบินตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ทุกเส้นทางที่เขาตรงไปทิ้งซากศพของสัตว์อสูรมากมายเอาไว้เบื้องหลัง

” ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร?  เขากล้าบุกเดี่ยวเข้าไปกลางกลุ่มของกองทัพสัตว์อสูร . . . นี่เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? “

” เป็นคนเดียวกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมื่อไม่นานมานี้หรือเปล่า?  เขาชื่ออะไรน่ะ?  เย่ ซีหวิน!  ใช่มั้ย?  ข้าไม่คิดว่าเขาจะได้เป็นผู้สืบทอดมรดกของ  ยอดขุนเขาดาราลี้ลับ?  ตอนแรกข้าคิดว่าเขาคงทนอยู่ในสถาบันยอดยุทธได้อีกไม่นาน หลังจากสร้างความขุ่นเคืองให้คนของหอตุลาการ! “

”  แต่เขาแข็งแกร่งจริงๆ  เพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาก็สามารถสังหารสัตว์อสูรได้อย่างน้อยสิบตัวด้วยมือเปล่า  ดูเหมือนชื่อเสียงของเขาจะไม่ใช่แค่เรื่องโกหกเกินจริง! “

การต่อสู้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ  สัตว์อสูรนับหมื่นตัวได้ปิดล้อม  เย่ ซีหวิน  เอาไว้  การตายของพรรคพวกของมันกลับทำให้พวกมันดุร้ายมากขึ้น  ดวงตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับสัตว์ป่าที่กำลังกระหายเลือด

สัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานหลายร้อยตัว  ปลดปล่อยออร่าอันทรงพลังออกมา  ออร่าเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นเสาที่หมุนวนเป็นเกลียวคลื่นพลังงานขนาดใหญ่ทะลุก้อนเมฆพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า  แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของสัตว์อสูรแผ่กระจายออกไปไกลนับร้อยไมล์

การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ และสัตว์อสูรต่างโลกใกล้มาถึงจุดตัดสิน  รอบๆ บริเวณกำแพงเมืองเต็มไปด้วยกระดูกสีขาวที่แตกหักโผล่ออกมาจากกองเศษเนื้อ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นซากศพของมนุษย์ หรือสัตว์อสูร

เมื่อเทียบกับจำนวนของสัตว์อสูรแล้ว ซากศพของมนุษย์ย่อมต้องมีน้อยกว่า

” ย๊ากกกส์! ”  มีเสียงคำรามดังก้องออกมา มันเป็นเสียงของมนุษย์  ทันใดนั้น ปราณดาบอันทรงพลังถูกกวาดออกมา  เส้นทางที่ปราณดาบพุ่งออกไปเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง เมื่อสิ้นเสียงร้องของพวกมัน ร่างของสัตว์อสูรเหล่านั้นก็ระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด  การโจมตีด้วยปราณดาบครั้งนี้ทำให้สัตว์อสูรล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรเหล่านี้มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน  พวกมันวิ่งเข้าแทนตำแหน่งของสัตว์อสูรที่ถูกสังหารไปก่อนอย่างรวดเร็ว  จอมยุทธลมปราณครึ่งก้าวตำนานของเผ่ามนุษย์  เริ่มโจมตีด้วยพลังอันลึกลับของเขาอย่างต่อเนื่อง  อย่างไรก็ตาม!  เขาไม่สามารถทำลายแนวป้องกันสัตว์อสูรระดับลมปราณแท้จริง  และสัตว์อสูรลมปราณครึ่งก้าวตำนานลงได้

” แกว๊กก! ”  (เสียงคำราม)

” โฮกกกกก! ”  (เสียงคำราม)

” ก๊าซซซซ์! ”  (เสียงคำราม)

เสียงคำรามอันน่าเกรงขามของพวกมันราวกับเป็นการส่งสัญญาณ  ทันใดนั้น! สัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานก็เคลื่อนตัวใกล้เข้าถึงทางเข้า  แม้ว่าสัตว์อสูรเหล่านี้จะมีเพียงไม่กี่ร้อยตัวเท่านั้น  แต่การเคลื่อนที่ของพวกมันสามารถทำให้โลกสั่นสะเทือน  ออร่าของสัตว์อสูรเหล่านี้ยังน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า  เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์อสูรระดับลมปราณแท้จริงหลายหมื่นตัว  และสัตว์อสูรระดับลมปราณครึ่งก้าวตำนานอีกหลายพันตัวมารวมกัน

สัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานหลายร้อยตัวกำลังจะบุกมาถึงเมืองเสี้ยวจันทร์  แนวป้องกันสุดท้ายของมนุษย์ตกอยู่ในอันตราย และกำลังจะล่มสลาย

สัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานพวกมันเคลื่อนที่เร็วมาก เพียงครู่เดียว! สัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของ  เย่ ซีหวิน  ดวงตาของมันเป็นสีแดงก่ำ และร่างของมันมีกรงเล็บเยื่อนออกมานับรวมแล้วมีทั้งหมด 18 ขา การโจมตีของมันรวดเร็วราวกับสายฟ้า ตอนนี้กรงเล็บทั้งหมดของมันพุ่งมาที่ร่างของ  เย่ ซีหวิน

” ปังงงง! ”  เย่ ซีหวิน โจมตีอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล เขายิงปราณฝ่ามือออกไปปะทะกรงเล็บของมันทันที

” บรึ้มมม! ” กรงเล็บทั้งหมดของสัตว์อสูรถูกทำลายทันที  ปราณฝ่ามือของเขาระเบิดกรงเล็บของมันกลายเป็นไอ

” ก๊าซซซซ์! ”  สัตว์อสูรกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดของมันสาดกระจายออกจากขาที่ขาดราวกับน้ำพุ

อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรไม่ไม่หยุดการโจมตีเพียงเท่านี้  มันอ้าปากขนาดใหญ่เผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคม กลิ่นลมหายที่ออกมาจากปากขนาดใหญ่ของมันเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด มันตั้งใจจะกัดร่างของ  เย่ ซีหวิน ให้จมเขี้ยว และฉีกร่างของเขาให้ขาดออกเป็นสองส่วน

” ย่ะห์! ”  เย่ ซีหวิน เค้นเสียงคำราม พร้อมกับเหวี้ยงหมัดชกเข้าไปในปากขนาดใหญ่ของมัน  หัวของสัตว์อสูรก็ระเบิดออกกลายเป็นเศษเนื้อ สมองของมันแตกกระจายลอยไปในอากาศ ก่อนที่ร่างของมันจะล้มลงแน่นิ่งไปบนพื้นดิน

สำหรับจอมยุทธคนอื่นๆ แล้ว การเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรในระดับนี้ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย  แต่สำหรับ  เย่ ซีหวิน  ถือเป็นข้อยกเว้น  เพราะเขาแข็งแกร่งเกินไป ( หรือว่า  เย่ ซีหวิน  จะเป็นลูกศิษย์ลับๆ ของ ไซตามะ  One Punch Man )

ด้วยการประสานพลังของสองเคล็ดวิชา กายาแห่งราชันย์สีทอง และพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ สัตว์อสูรเหล่านี้ไม่มีทางทำอันตรายเขาได้