Martial God Space - ตอนที่ 305
Martial god space ตอนที่ 305 โลกใบเล็กเปิด
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ไม่ปล่อยโอกาสให้พวกเขาหลบหนีไปได้ เพราะบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา บนเส้นทางอันโหดร้ายนี้ เย่ ซีหวิน จะต้องเชือดไก่ให้ลิงดูเป็นตัวอย่างต่อหน้าทุกคน บนโลกใบนี้ชื่อเสียง และศักดิ์ศรีช่วยสร้างความน่าเกรงขามให้ศัตรูที่คิดร้ายต้องเกรงกลัว
” เจ้าเป็นรายต่อไป! ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เฒ่าปีศาจ และ หู เหม่ยเนียง ทั้งสองต่างหนาวสะท้านไปถึงหัวใจ ความหนาวเย็นแทรกจนถึงกระดูกด้วยความกลัว ทั้งสามเคยออกอาละวาดไปทั่วเมืองหย่งอัน จนพวกเขาได้รับชื่อเสียงโด่งดังในฉายา จอมยุทธโฉด ทั้งสามคนมีพลังฝีมือที่เท่าเทียมกันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะต่อสู้กันเองเพื่อหาว่าใครฝีมือเหนือกว่า
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสตัดสินใจ เขากระทืบเท้าและดีดตัวพุ่งตรงไปราวกับลำแสงสีทอง ในชั่วพริบตาเขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของ เฒ่าปีศาจ อย่างรวดเร็ว ร่างของเขาในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีทองราวกับเทพสงครามสีทอง พร้อมกับซัดฝ่ามือออกไป เฒ่าปีศาจ ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเสียขวัญเป็นอย่างมาก
” หู เหม่ยเนียง ทำไมเจ้ายังไม่รีบมาช่วยข้ากำจัดเขา ถ้าข้าตายเจ้าจะเป็นรายต่อไป! ” เฒ่าปีศาจ ไม่สนใจชื่อเสียงตัวเองอีกต่อไปแล้วในตอนนี้ เขาตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างร้อนรน
หู เหม่ยเนียง ตระหนักถึงความจริงในข้อนี้ดี ศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าแข็งแกร่งมาก พวกเขาต้องร่วมมือกัน เธอยิงพลังฝ่ามือออกไปทันที พลังฝ่ามือที่ถูกยิงออกไปก่อตัวกลายเป็นดอกไม้สวยงามลอยไปในอากาศ เป็นกระบวนท่าการโจมตีที่ดูสวยงาม แต่แฝงไปด้วยพลังอันน่ากลัว
เย่ ซีหวิน ไม่สนใจ เขาโจมตีไปยังร่างชองชายชรา
เฒ่าปีศาจ ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขารีบยกแขนที่ผอมแห้งของเขาขึ้นมา เพื่อป้องกันการโจมตี
” ปังงงง! ” เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พื้นดินบริเวณโดยรอบยุบตัวลงเป็นหลุม เนื่องการปะทะอันรุนแรง ตามมาด้วยเสียงของกระดูกหัก แขนของเฒ่าปีศาจ ไม่อาจต้านท้านพลังโจมตีอันรุนแรง เย่ ซีหวิน ในร่างราชันย์ร่างทองคำนั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
จากนั้นการโจมตีของ หู เหม่ยเนียง ก็ปะทะเข้ากับร่างของ เย่ ซีหวิน
” เคร้งงง! ” ราวกับว่าการโจมตีของเธอชนเข้ากับโลหะ ร่างของ เย่ ซีหวิน ได้รับการป้องกันจากพลังศักดิ์สิทธิ์สีทอง พลังโจมตีของ หู เหม่ยเนียง ไม่สามารถทำอันตรายใดๆ กับเขาได้
การโจมตีของ เย่ ซีหวิน ยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เขาโจมตีไปที่ เฒ่าปีศาจ อีกครั้ง พลังลมปราณที่ถูกยิงออกไปก่อตัวเป็นมือขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์สีทองพุ่งตรงเข้าไปหา เฒ่าปีศาจ
“ปังงงงง!” เฒ่าปีศาจ ต้องพ่ายแพ้ให้กับ เย่ ซีหวิน เขาไม่คิดว่า เย่ ซีหวิน กล้าที่จะเพิกเฉยต่อการโจมตีของ หู เหม่ยเนียง ทันใดนั้นมือขนาดใหญ่ที่ก็บดขยี้ร่างของเขาจนกลายเป็นหมอกเลือด
” ไม่นะ! ” หู เหม่ยเนียง ร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสมาชิกคนที่สองถูกสังหารด้วยน้ำมือของ เย่ ซีหวิน จากนั้น เย่ ซีหวิน ยิงพลังฝ่ามือออกไปอีกครั้งทันที มันพุ่งตรงเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ใบหน้าของ หู เหม่ยเนียง ในตอนนี้เต็มไปด้วยความกลัว เธอไม่คิดว่า เย่ ซีหวิน จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เพียงแค่ไม่กี่ฝ่ามือก็สามารถกำจัดสมาชิกของ จอมยุทธโฉด สองคนได้ในพริบตา
” ปังงงง! ” เธอตอบสนองอย่างรวดเร็ว พยายามที่จะสกัดกั้นการโจมตี แต่เธอไม่ใช่คู่มือของ เย่ ซีหวิน เธอจะต้านทานพลังการโจมตีของเขาได้อย่างไร?
” ตู้มมมม! ” เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง แรงกระแทกจากการระเบิดส่งร่างของ หู เหม่ยเนียง ปลิวกระเด็นออกไป เธอกระอักออกมาเป็นสายเลือดทันที ผิวสีขาวของเธอถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันเสียดายเรือนร่างอันงดงามของเธอ
อย่างไรก็ตามใบหน้าของ เย่ ซีหวิน ยังคงสงบนิ่งราวกับน้ำแข็ง เขาเรียก ตราประทับถล่มภูผา ออกมาบนท้องฟ้าและทุบลงมาทันที
” ตึงงงง! ” ร่างของ หู เหม่ยเนียง ถูกบดขยี้โดย ตราประทับถล่มภูผา และเสียชีวิตในทันที กระดูกของเธอถูกบดจนละเอียด พร้อมกับเศษเนื้อและเลือดกระจายออกไปทั่วบริเวณ
จอมยุทธหลายคนพากันตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ เมื่อพวกเขาเห็นฉากอันน่าสยดสยองนี้ เย่ ซีหวิน ฆ่าหญิงสาวที่งดงามด้วยความโหดเหี้ยมไร้ปรานีเช่นนั้นได้อย่างไร? สำหรับ เย่ ซีหวิน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรีตราบใดที่เป็นศัตรูก็ไม่มีข้อยกเว้น
” เรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะ” เย่ ซีหวิน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบสงบกับกลุ่มของเขา ในเวลานี้มีร่างของบุคคลคนหนึ่งปรากฏบนท้องฟ้า และบินด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ ร่างของบุคคลคนนี้เต็มไปด้วยจิตสังหาร และมีสีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
บางคนจำได้ในทันทีว่าบุคคลคนนี้เป็นหนึ่งใน 7 ดาวราชันย์ ของกองกำลังกวาดล้าง ดูจากสภาพเสื้อผ้าของเขาที่เต็มไปด้วยเลือด ราวกับพึ่งผ่านการต่อสู้นองเลือดมา เขาถูกซุ่มโจมตีเพื่อแย่งชิงกระบี่อาญาสิทธิ์เช่นเดียวกับ เย่ ซีหวิน
จอมยุทธบางคนมองมาที่ เย่ ซีหวิน แล้วหันกลับไปมอง กองกำลังกวาดล้าง อีกครั้ง พวกเขาพากันสูดลมหายใจยาวหนักหน่วง ชายหนุ่มอย่างเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
จอมยุทธอาวุโสหลาย ๆ คนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา พวกเขาถูกสังหารภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที แม้พวกเขาจะสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างยาวนานนับร้อยปี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอัจฉริยะที่หายากเช่น เย่ ซีหวิน พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก
เย่ ซีหวิน เดินไขว้แขนไว้ด้านหลัง และมุ่งหน้าเดินขึ้นไปบนภูเขา ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงบริเวณที่ราบบนเทือกเขา สถานที่แห่งนี้มีลมพัดแรงและเต็มไปด้วยฝุ่นทราย แต่เมื่อลมสงบลงมันก็เปิดเผยให้เห็นจัตุรัสขนาดใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของนิกายสวรรค์
ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นนิกายที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ ในเวลานี้มันกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง
ในส่วนลึกของจัตุรัส กองกำลังเทพเจ้ารวมพลกันอยู่ที่นั่น เทพองค์ที่ห้า มองดูทุกคนอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าตัวเขาเองเป็นเทพเจ้า
นอกจากนี้ยังมีซากศพหลายศพนอนเรียงรายกันอยู่ด้านหน้าของกองกำลังเทพเจ้า พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับตำนาน แต่พวกเขาตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เทพองค์ที่ห้า ฆ่าจอมยุทธมากมายเพื่อชื่อเสียของกองกำลังเทพเจ้า
ทางด้านซ้ายของกองกำลังเทพเจ้า มีกลุ่มคนของฝ่ายปกครองเมืองหย่งอัน ด้านหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยซากศพนอนเรียบรายด้วยเช่นกัน หากนับจำนวนแล้วพวกเขามีจำนวนมากกว่าเมื่อเทียบกับของฝั่งกองกำลังเทพเจ้า ด้วยตำแหน่งหัวหน้าผู้พิทักษ์แห่งเมืองหย่งอัน และชื่อเสียงอันโด่งดังของชายชราไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับเขา
แม้แต่เหล่าจอมยุทธอาวุโสรุ่นก่อน ชื่อเสียงของเขาต่างก็เป็นที่รู้กันเป็นอย่างดี
ทางด้านข้างคนของฝ่ายปกครองเมืองหย่งอัน มีนักรบสวมชุดคลุมสีดำ เสื้อคลุมสีดำของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคงเปิดศึกนองเลือดกันก่อนที่เขาจะเดินมาถึง สายตาคู่นั้นมองมาที่ เย่ ซีหวิน และแสยะยิ้มให้เขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ และเดินไปอีกด้านหนึ่งทันที
เย่ ซีหวิน มีความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างผ่านเข้ามาในความคิดเพียงแวบหนึ่ง จากนั้นเขาก็หันมองไปที่อีกด้านหนึ่งของกองกำลังเทพเจ้า และมองเห็นนายน้อยขององครักษ์เสื้อแพร เขาสวมเสื้อคลุมผ้าไหมปักสัญลักษณ์ขององครักษ์เสื้อแพร กลุ่มของพวกเขามีชื่อเสียงที่น่ากลัวในฐานะองค์กรสายลับที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรต้าหมิงจึงไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา
ถัดจากกลุ่มขององครักษ์เสื้อแพร เป็นกลุ่มของกองกำลังกวาดล้าง เสื้อผ้าของพวกเขาในตอนนี้เปื้อนไปด้วยเลือด
นอกเหนือจากผู้ที่ครอบครองกระบี่อาญาสิทธิ์ทั้ง 8 เล่มนี้แล้ว ยังมีจอมยุทธอีกมากมายที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสำรวจ พวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับกระบี่อาญาสิทธิ์อย่างตื่นเต้น
นอกจากนี้ยังมีจอมยุทธหลายคนอยู่ในขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวผู้ครอบครองกระบี่เหล่านี้จะสังหารพวกมัน เพราะพวกเขามีกองกำลังขนาดใหญ่ พวกเขาไม่ใช่สิ่งที่พวกมันจะสามารถตอแยได้ จำนวนศพผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น ก่อนหน้านี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่าง
” เมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่นี่แล้ว มาเริ่มกันเถอะ! ” เทพองค์ที่ห้า กล่าวและมอง เย่ ซีหวิน อย่างเย้ยหยันราวกับว่าเป็นคนตาย
” ครึ้นนนนน! ” เสียงรอยแยกของชั้นบรรยากาศดังกึกก้องไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ค่ายกลเวทย์มนต์ขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากอากาศ พร้อมกับรูกุญแจแปดช่อง ประตูมิติขนาดใหญ่นี้ค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น ออร่าที่มันปลดปล่อยออกมารวมตัวกันกลายเป็นบอลสำแสงพุ่งทะยานสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า สร้างความตื่นเต้นต่อทุกคนเป็นอย่างมาก
” ประตูโลกใบเล็กของนิกายสวรรค์กำลังจะเปิดขึ้น ทุกคนพร้อม! ” ในเวลานี้หัวหน้าผู้พิทักษ์แห่งเมืองหย่งอัน ตะโกนออกมาเสียงดัง
ทันใดนั้นบอลลำแสงที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็พุ่งกลับมาลงที่ประตูมิติ และแทรกเข้าไปรูกุญแจ ทันใดนั้นประตูมิติขนาดใหญ่ก็สั่นไหวและเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ
ผู้ครอบครองกระบี่คนอื่นๆ รวมไปถึงชายในชุดคลุมสีดำ ไม่เว้นแม้แต่ เย่ ซีหวิน ก็บินตรงไปยังช่องรูกุญแจ
เมื่อกุญแจดอกสุดท้ายเสียบเข้าไป ประตูมิติโบราณขนาดใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ ตรงกลางของประตูมีหมอกหนาสีขาวปกคลุมอยู่ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นอีกด้านหนึ่งของประตู
” ไป! ” เย่ ซีหวิน ตะโกน และเป็นคนแรกในกลุ่มของเขาที่วิ่งออกไป ตามด้วยลูกหมาป่า และสองพี่น้องตระกูลโม่ ร่างทั้งสี่กลายเป็นลำแสงพุ่งหายเข้าไปในประตู
ชายในชุดคลุมสีดำ ก็รีบบินเข้าในประตู และกลายเป็นลำแสงสีรุ้งหายเข้าไปในประตูอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อกลุ่มของ เย่ ซีหวิน เข้าไปในประตู พวกเขาไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ทันใดนั้นเกิดการผันผวนของมิติอย่างรุนแรง
หลังจากผ่านเข้าสู่พื้นที่มิติ เย่ ซีหวิน ก็สามารถมองเห็นพื้นที่มิติรอบ ๆ บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง หากไม่มีการป้องกันจากออร่าของกระบี่ ตอนนี้ร่างของ เย่ ซีหวิน คงถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ทันที
เย่ ซีหวิน รู้ว่าพวกเขาต้องผ่านช่องว่างของพื้นที่มิติต่าง ๆ หลายชั้นก่อนที่พวกเขาจะไปถึงพื้นที่โลกใบเล็กของนิกายสวรรค์
ในความเป็นจริงไม่มีใครบอกตำแหน่งของพื้นที่โลกใบเล็กได้ นอกจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงแล้วมีคนน้อยมากที่จะรู้ความลับนี้ มิฉะนั้นหากกองกำลังที่เป็นศัตรูพบตำแหน่ง พวกเขาสามารถฉีกช่องว่างของมิติเข้ามาได้โดยตรง แน่นอนว่ามันจะเป็นหายนะครั้งยิ่งใหญ่
เช่นเดียวกับพื้นที่โลกใบเล็กของสำนักยี่หยวน ทางเข้าถูกซ่อนไว้ในป่าส่วนลึกของสำนัก ข้อมูลความลับนี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ทุกปีจะมีผู้อาวุโส และทหารยามอีกจำนวนมากคอยดูแลและปกป้อง หากต้องการเข้า หรือออก จะต้องอาศัยผู้อาวุโสทั้งสี่เป็นผู้เปิดประตู ซึ่งวิธีการคล้ายกับกระบี่อาญาสิทธิ์
หากมีการบุกรุกของศัตรูที่แข็งแกร่ง และสำนักยี่หยวนถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ทางเดินด้านนอกก็ถูกปิดตัวเองในทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูหาทางเข้าสู่พื้นที่โลกใบเล็ก และไม่พูดถึงไม่มีทางที่พวกเขาจะหาตำแหน่งของโลกใบเล็กแห่งนี้ ท่ามกลางความผันผวนของพื้นที่มิติอวกาศได้