Martial God Space - ตอนที่ 304
Martial god space ตอนที่ 304 สัตว์ประหลาดชั้นต่ำ
พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าหา เย่ ซีหวิน ราวกับจะกลืนกินพวกเขาทั้งหมดได้ในคราวเดียว
พลังศักดิ์สิทธิ์ของ เย่ ซีหวิน ได้ระเบิดออกมาทันที มันห่อหุ้มสองพี่น้องตระกูลโม่ และลูกหมาป่า พร้อมกับผลักพวกเขาออกไปไกลหลายสิบฟุต ก่อนที่เท้าจะแตะถึงพื้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดและทำลายพื้นที่บริเวณโดยรอบจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
เย่ ซีหวิน เงยหน้าขึ้นไปมอง เขาเห็นขุนพลในชุดเกาะสีทอง แววตาอันเย็นชาของมันกำลังจ้องมาที่ เย่ ซีหวิน เกาะสีทองของเขาเป็นประกายมันวาวเมื่อกระทบกับแสงของดวงอาทิตย์
เหล็กหอกในมือของเขา แฝงไปด้วยรังสีความเคียดแค้น และอาฆาตพยาบาท ไม่อาจคาดเดาได้ว่ามีผู้ถูกสังหารจำนวนเท่าใดภายใต้คมหอกเล่มนี้
เขานั่งอยู่บนหลังม้าสีดำที่มีลักษณะแปลกประหลาด กีบเท้าทั้งสี่ของมันเหมือนมีเปลวไฟสีดำน่ากลัวลุกโชนออกมา มันคือสัตว์ปีศาจประเภทม้าที่มีสายเลือดที่ไม่ธรรมดา
ในเวลาไม่นานท้องฟ้าก็ถูกบดบังด้วยเปลวไฟสีดำ บริเวณโดยรอบค่อยๆ ถูกกัดกร่อน และลุกไหม้จนได้ยินเสียงปะทุของเปลวไฟ
ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันหายใจยาวหนักหน่วง พวกเขาตระหนักได้ในทันทีว่าขุนพลในชุดเกราะสีทอง ผู้ที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้าสัตว์ปีศาจระดับตำนานนี้ เขาเองจะต้องเป็นบุคคลที่น่ากลัว และแข็งแกร่งมาก
” เย่ ซีหวิน สั่งกระบี่ของเจ้ามา ไม่เช่นนั้นวันนี้คงยากที่เจ้าจะรอดพ้นจากความตาย! ” ขุนพล กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา นี่ไม่ใช่การเจรจาต่อรอง แต่เป็นคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ไม่ต้องสงสัยเลย เขาเป็นจอมยุทธอาวุโสที่ทะลวงขอบเขตลมปราณมาจนถึงขั้นสูงสุดของลมปราณระดับตำนานขั้นต้นแล้ว มีเพียงไขกระดูกมังกรเท่านั้นที่จะช่วยให้เขาสามารถทะลวงขอบเขตลมปราณในขั้นต่อไปได้
เวลานี้นอกเหนือจากจอมยุทธรุ่นเยาว์ ยังมีจอมยุทธอาวุโสที่แข็งแกร่งหลายคนที่ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกระบี่อาญาสิทธิ์เช่นกัน ไขกระดูกมังกรเป็นสมบัติล้ำค่า มันดึงดูดความสนใจของเหล่าจอมยุทธทุกคน ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่กล้าลงมือเพราะกลัวถูกกองกำลังไล่ล่า พวกเขาได้แต่เฝ้าสังเกตการณ์เพื่อรอคอยเวลาที่เหมาะสม พวกเขาจึงฉวยโอกาสนี้มาดักรอที่นี่เพื่อแย่งชิงกระบี่อาญาสิทธิ์พร้อมกับอาศัยความได้เปรียบของตนในฐานะจอมยุทธอาวุโสที่มากไปด้วยประสบการณ์
จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากระยะไกล ” เย่ ซีหวิน หากเจ้ามอบกระบี่ให้ข้า ปู่ของเจ้าคนนี้จะรับรองความปลอดภัยในชีวิตของเจ้า ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเข้าไปในรูปีศาจนี้พร้อมกับเพื่อนๆ ข้อเสนอของข้านับว่าเป็นหนึ่งในล้านคนเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้! “
เมื่อเสียงเงียบลง พร้อมกันนั้นมีลมกระโชกที่น่ากลัว ร่างของชายคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือท้องฟ้า เขาเป็นชายชราร่างผอม และมีใบหน้าอัปลักษณ์ ฉายา เฒ่าปีศาจ
” เฒ่าปีศาจ เจ้าคิดจะแย่งชิงกระบี่จากข้างั้นเหรอ! ” ขุนพลในชุดเกาะสีทอง จ้องมองด้วยความโกรธแค้น พร้อมกับระเบิดออร่าอันน่ากลัวออกจากร่างของเขา แล้วยิงพลังพุ่งตรงเข้าไปหาเฒ่าปีศาจ
” หึ มีสิ่งใดผิดงั้นเหรอ ทำไมข้าจะครอบครองกระบี่ไม่ได้? ” ชายชราเพียงสะบัดข้อมือ พลังที่พุ่งตรงเข้ามาก็สลายไปทันทีอย่างไร้ร่องรอย ราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจกับขุนพลในชุดเกาะสีทองเลยแม้แต่น้อย
” เฒ่าปีศาจ เจ้าไม่กลัวกองกำลังของข้าบุกไปทำลายถ้ำของเจ้างั้นเหรอ? ” ขุนพลในชุดเกาะสีทอง ตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น
” ถ้าเจ้าคิดว่าล้มข้าได้ก็เข้ามา! ” ชายชรา กล่าวต่ออีกว่า ” ข้าจะได้จับเจ้ามาทำเป็นหุ่นเชิดซะ “
” พวกเจ้าทั้งหมดต่างก็ต้องการกระบี่ ” เย่ ซีหวิน ยิ้มอย่างแผ่วเบา ” พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องสู้กัน พวกเจ้าทั้งสองสามารถเข้าประตูมิติไปพร้อมกับข้าได้ “
” พวกเจ้าสองคนทะเลาะเรื่องไร้สาระอะไรกัน ข้ารู้ว่าน้องชายคนนี้เป็นคนฉลาด เขาจะมอบกระบี่นี้ให้กับพี่สาวอย่างฉันแน่นอน! ” ในเวลานี้มีน้ำเสียงอันอ่อนหวานดังมาจากระยะไกล พร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ร่างของหญิงสาวบินเข้ามาอย่างรวดเร็วจากขอบฟ้า ใบหน้าอันงดงามของเธอดูราวอายุเพียง 20 เธอมีทรวดทรงที่งดงาม และมีเสน่ห์อันร้อนแรง ใบหน้าของเธอถูกคลุมด้วยผ้าบางๆ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอชวนให้หลงไหล จอมยุทธหลายคนที่เห็นเธอต่างพากันอดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย และจับจ้องไปที่เรือนร่างของเธอ
ขณะที่หญิงสาวเดินผ่าน เธอได้โปรยฝุ่นละอองสีชมพูไปตลอดทาง จอมยุทธหลายคนที่อยู่ในระยะสัมผัสโดนฝุ่นละอองใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที พวกเขาเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เยโม่ บินอยู่ด้านหลังของ เย่ ซีหวิน ใบหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสด และมีท่าทางตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
” โอ้วว หญิงสาวคนนี้ช่างมีเสน่ห์น่าดึงดูดมาก ดูเหมือนเธอจะฝึกฝนเทคนิคการเย้ายวนมาอย่างลึกซึ้ง ไม่น่าแปลกใจที่จอมยุทธระดับทั่วไปจะไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ ” เยโม่ กล่าวอย่างชื่นชม ” ในบรรดาเผ่าปีศาจ แม้แต่เผ่าซัคคิวบัสที่มีชื่อเสียง ก็ไม่สามารถบรรลุเคล็ดวิชาในระดับสูงเช่นนี้ได้ “
เย่ ซีหวิน ไม่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นหอมอันเย้ายวน เพราะเขาได้รับการป้องกันจากพลังศักดิ์สิทธิ์สีทอง
” หู เหม่ยเนียง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเข้าร่วมกับ สำนักหวังเทียน ” ชายชรา หันไปมองดูหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่ดูน่าขนลุก
” เจ้าไม่รู้อะไร บรรพบุรุษของข้า และสำนักหวังเทียน ต่างเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเมื่อครั้งอดีต ข้าหวังว่าน้องชายคนนี้จะช่วยให้พี่สาวบรรลุเป้าหมาย ” หู เหม่ยเนียง ยิ้มอย่างเย้ายวนให้กับ เย่ ซีหวิน
จอมยุทธหลายคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต่างพากันแอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้ง กลิ่นอายอันเย้ายวนใจของหญิงสาวคนนี้ทำให้บางคนเคลิบเคลิ้มจินตนาการถึงฉากรักอันร้อนแรงระหว่างเธอและเขา
อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะมีเสน่ห์อย่างมาก แต่ชื่อเสียงของเธอก็เป็นที่กล่าวถึงในเมืองหย่งอัน เธอเจ้าเล่ห์เหมือนกับสุนัขจิ้งจอก เธอชื่นชอบการทรมานเหยื่อ และเธอมีสารพัดวิธีสังหารเหยื่อด้วยความโหดเหี้ยม เธอฆ่าผู้คนมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน
ไม่มีใครโง่พอที่จะเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่เป็นฆาตกร พวกเขากลัวจนไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
เย่ ซีหวิน ยังคงท่าทียืนอย่างสงบนิ่ง มีเพียงรอยยิ้มเย็นชาปรากฏบนใบหน้า ” พวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ข้าคาดหวังว่าจะได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ข้าได้รับ พวกเจ้าเป็นแค่เพียงสัตว์ประหลาดชั้นต่ำเท่านั้นเอง “
” เจ้า! เจ้าวางแผนไม่มอบกระบี่ให้กับข้าตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย? ” ชายชรา ตะโกนถามด้วยความโกรธ
” ถ้าเจ้าต้องการกระบี่จากข้า ทำไมเจ้าไม่ลองแย่งมันไปจากมือของข้าละ ” เย่ ซีหวิน หัวเราะและยิ้มอย่างเย้ยหยัน
” เด็กน้อย เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! ” ขุนพลไม่อาจระงับความโกรธได้อีกต่อไป เขาควบม้าปีศาจและพุ่งตรงเข้าไปหา เย่ ซีหวิน ในทันทีพร้อมกับระเบิดออร่าอันน่าสะพรึงกลัวล็อคเป้าหมายไปที่ เย่ ซีหวิน
” เพี้ยวว! ” เสียงแหลมดังแหวกอากาศออกมาจากปลายหอกสีน้ำเงิน มันแฝงไปด้วยเสียงโหยหวนของดวงวิญญาณที่เคียดแค้นซึ่งมันถูกสังหารภายใต้คมหอกเล่มนี้ พลังของหอกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันสามารถฉีกท้องฟ้าแบ่งออกเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดาย และตอนนี้มันได้พุ่งตรงมาถึงด้านหน้าของ เย่ ซีหวิน
จอมยุทธหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ หลายคนใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว พวกเขารู้เสียดายยอดฝีมือเช่น เย่ ซีหวิน ฝีมือของเขานับว่าไม่ด้อยไปกว่า เทพองค์ที่ห้า แต่เขายังเด็กเกินไปที่จะต่อกรกับจอมยุทธอาวุโส อายุของเขาน่าจะเพียง 20 ต้นๆ อายุของเขายังไม่ถึงหนึ่งในสี่ของฝั่งขุนพล ไม่มีทางที่ เย่ ซีหวิน จะรับมือพลังอันแข็งแกร่งของจอมยุทธอาวุโสได้
ในช่วงเวลากระชั้นชิด เย่ ซีหวิน เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับโจมตีด้วยพลังฝ่ามือ พลังที่ถูกยิงออกไปก่อตัวกลายเป็นมังกรสีทอง และพุ่งตรงเข้าไปหาศัตรู
” ตูมมมม! ” ฝ่ามือมังกรม้วนสมุทรปะทะเข้ากับหอกเหล็ก ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
” บรึ้มมม! ” คลื่นพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวจากการระเบิดสลายพลังโจมของหอกไปจนหมดสิ้น และพุ่งทะลุตรงเข้าไปหาขุนพลในชุดเกาะสีทอง
” ปังงงงง! ” เสื้อเกาะสีทองของเขาไม่อาจต้านพลังเอาไว้ได้มันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ กระดูกมือของเขาแตกร้าวและมีเลือดไหลออกมาเป็นทางยาว
แม้แต่ม้าปีศาจของเขาก็ไม่อาจทรงตัวต้านแรง ถูกผลักออกไปหลายก้าวจากการระเบิดครั้งนี้ พลังของ เย่ ซีหวิน นั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง
ขุนพลในชุดเกาะสีทอง รีบฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขาอย่างรวดเร็ว และมองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาที่ไม่อาจเชื่อ เขาต่อสู้กับกองทัพเป็นเวลาหลายร้อยปี ทุกครั้งที่มีการต่อสู้เขาจะอยู่แนวหน้า เขาเป็นที่รู้จักในด้านความแข็งแกร่ง พลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขาสามารถกวาดล้างทุกสิ่งในสนามรบ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเขาได้ แต่ตอนนี้เขากำลังตกตะลึงกับพลังของ เย่ ซีหวิน ราวกับว่ากำลังจะโดนขย้ำภายใต้คมเขี้ยวของเสือ
ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัว
ในเวลานี้ เย่ ซีหวิน ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเสียเวลาให้กับขุนพลคนนี้ เขาเรียกตราประทับถล่มภูผาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าทันที และสั่งให้มันพุ่งตรงไปที่ขุนพล
” ข้าจะฆ่าเจ้า! ” ขุนพล ตะโกนคำรามเสียงดัง โดยไม่สนใจภูเขาขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า เขารีบพุ่งตรงเข้าไปหา เย่ ซีหวิน เขาวางแผนที่จะฆ่า เย่ ซีหวิน ก่อนที่ตราประทับถล่มภูผาจะตกลงมา
เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด ในช่วงเวลาไม่ถึงสองวินาทีเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าของ เย่ ซีหวิน
” ควับบ! ” เย่ ซีหวิน ยื่นมือออกไปคว้าจับหอกเอาไว้ทันที พลังศักดิ์สิทธิ์ในมือของเขาสลายพลังอันน่าสะพรึงกลัวของหอกจนสูญสลายไปหมดสิ้น
” มันเป็นไปไม่ได้! ” ขุนพล มองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วความประหลาดใจ เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง หอกของเขาไม่สามารถแม้แต่จะสร้างรอยขีดข่วนบนมือของ เย่ ซีหวิน ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มคนนี้อยู่เหนือกว่าที่เขาจะจินตนาการถึง?
” ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ ไปหาคำตอบในนรกเถอะ! ” เย่ ซีหวิน ยิ้มอย่างเย้ยหยัน และในที่สุดตราประทับถล่มภูผาก็ทุบลงมา
” ตึ้งงงงง! ” เสียงดังน่าสยดสยอง ในขณะเดียวกันที่ขุนพล และม้าปีศาจของเขาก็ถูกทุบด้วยตราประทับถล่มภูผา แม้จะใกล้สิ้นลมหายใจ ขุนพลก็ไม่อยากเชื่อว่าร่างกายของ เย่ ซีหวิน จะแข็งแกร่งน่ากลัวถึงเพียงนี้
เฒ่าปีศาจ และ หู เหม่ยเนียง ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็น พวกเขาไม่คิดว่า เย่ ซีหวิน จะสามารถฆ่าขุนพลในชุดเกาะสีทองได้ภายในเวลาอันสั้น
ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักได้ในทันทีว่า พวกเขาได้ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่
” ตอนนี้ถึงตาพวกเจ้าแล้ว “