Martial God Space - ตอนที่ 251

Martial god space ตอนที่  251   ฆ่าศัตรูที่เข้มแข็ง

เขาไม่หลงเหลือความกล้าหาญและออร่าที่ไร้เทียมทานเหมือนก่อนหน้านี้  ความคิดของเขาเปลี่ยนจากความหยิ่งผยองกลายเป็นคนขี้ขลาด!

วั่น เฉิงเย่า  กำลังร้องตะโกนด้วยความสิ้นหวัง  เขารู้สึกว่างเปล่าภายใน หัวใจอันยิ่งใหญ่ของผู้ทรงอำนาจถูกบดขยี้โดย เย่ ซีหวิน ต่อหน้าทุกคน  ตอนนี้เขาเป็นแค่เปลือกหอยที่ว่างเปล่าของตัวเองก่อนหน้านี้

” โชคไม่ดีที่การต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้ว เรากำลังเป็นพยานการล่มสลายของเผด็จการ  ” เหยี่ยวสงคราม กล่าว และส่ายหัว

” จริง ” จี่ โม่อิ้น และ หวัง จื่อเวย ก็พยักหน้าด้วย ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนกำลังยืนมอง ในขณะที่เอามือไขว้หลังของพวกเขา

” ผู้ทรงอำนาจ เช่น วั่น เฉิงเย่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างแท้จริง เขาอยู่ที่ระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8  และเป็นผู้นำสูงสุดของสาวกรุ่นเยาว์ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด  แม้แต่ข้าก็ไม่อาจพูดได้ว่า ข้าสามารถเอาชนะเขาได้  และเขาแข็งแกร่งกว่า เย่ ซีหวิน , ใช่  เย่ ซีหวิน เป็นเพียงระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 6  แต่ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งมากและเขาก็กล้าหาญ  นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาสามารถต่อสู้กับสองผู้เชี่ยวชาญลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 ได้ ” ความคิดของ เหยี่ยวสงคราม อาจเรียกได้ว่าคมและน่ากลัว  เขาได้เห็นความลับของ  เย่ ซีหวิน  แต่ประเด็นก็คือเขา และผู้ชมคนอื่น ๆ สามารถเข้าใจความจริงข้อนี้ได้ทันที  หลังจากที่ได้เห็น เย่ ซีหวิน ในสนามรบ  องค์ชายแปด และ วั่น เฉิงเย่า ไม่มีความแข็งแกร่งดังกล่าว เพราะพวกเขาได้ทำผิดพลาดโดยการท้าทาย เย่ ซีหวิน

เหยี่ยวสงคราม  มั่นใจว่าถ้าเขาอยู่ที่ระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 แล้ว  เขาอาจจะกับผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดคนหนึ่งของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 ได้  แต่ไม่สามารถรับมือรับมือได้พร้อมกันสองคน

แต่นั้นมัน วั่น เฉิงเย่า?  ใช่  ผู้เชี่ยวชาญสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 อัจฉริยะสุดยอด  และเป็นผู้ทรงอำนาจที่ฆ่าคนโดยไม่ไตร่ตรอง!

เมื่อได้เห็นการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญที่เหี้ยมโหดแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  ไม่ต้องพูดถึง เย่ ซีหวิน เท่านั้นที่สามารถต่อกรกับสองผู้เชียวชาญที่ทรงอำนาจได้!

ถ้าจะให้พูดง่ายๆ เย่ ซีหวิน  กำลังท้าทายสวรรค์ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก

ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ วั่น เฉิงเย่า  มีพลังมากกว่าความแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน  เพียงเล็กน้อย  แต่น่าเสียดาย  เขาดูเหมือนจะสูญเสียความกล้าหาญและความทะเยอทะยานของเขา  เขายอมจำนนต่อความกลัว  และแม้ว่าเขาจะรอดชีวิตจากศึกครั้งนี้  บางทีเขาอาจจะไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่น  และชื่อเสียงของเขาได้อีกต่อไป “

บรรดาผู้ที่ได้ฟังความคิดเห็นของ เหยี่ยวสงคราม  ต่างพากันพยักหน้า และมองไปยังฉากที่ วั่น เฉิงเย่า ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เย่ ซีหวิน ใช้พลังกำเนิดใหม่ของฟีนิกซ์ อย่างต่อเนื่อง  และไม่มีอะไรต้องเกรงกลัว  เขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ และไม่มีความลังเล  การโจมตีของ วั่น เฉิงเย่า  ถึงแม้จะทรงพลัง และทำให้  เย่ ซีหวิน  ต้องพ่ายแพ้นับ 10 ครั้ง เขาก็ลุกขึ้นยืนทั้ง 10 ครั้ง ในสภาพที่บาดแผลหายสนิท ในขณะที่ วั่น เฉิงเย่า  พ่ายแพ้เพียงแค่ครั้งเดียว  เขาก็จะเริ่มทำตัวขี้ขลาดและหวาดกลัว  เขาสูญเสียความมั่นใจในการเอาชนะ เย่ ซีหวิน  เพียงแค่เยื้อเวลาให้ องค์ชายแปด เข้ามาช่วยเขา

เสียงกรีดร้องทั้งหมดหายไปภายในค่ายกลวิญญาณหิมะ เพราะบรรดาเหล่าสาวกของ สมาพันธ์จักรพรรดิ และ สมาพันธ์หมื่นสัจธรรม ได้ถูกตรึงไว้กับเทพปีศาจโลหิต

“วูบบ!” ค่ายกลทั้งหมดได้สลายตัวไปในชั้นบรรยากกาศ  สีหน้าของ มู่ โย่วหลัน  ซีดเซียวราวกับไม่มีเลือดหลงเหลืออยู่ในร่างกายของเขา

พลังงานของเขาถูกเผาพลาญไปจนหมดสิ้นโดยค่ายกลวิญญาณหิมะ  ไม่เพียงเขา แม้แต่เหล่าสาวกของเขาในสมาพันธ์วิญญาณหิมะ ก็ตกอยู่ในสภาพคล้าย ๆ กัน บางคนอาการหนักถึงกับเป็นลมล้มพับทันที

(NT: สมาพันธ์วิญญาณหิมะ  เรียกมันว่า  ” สมาพันธ์วิญญาณเลือด ” ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้เลือดและพลังงานเพื่อสร้างค่ายกลนั้น)

พลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณหิมะค่อนข้างโดดเด่น  ดังนั้นมันถึงต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล  ด้วยอัตราการเผาพลาญพลังงานจำนวนมากนี้  จนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอย่าง มู่ โย่วหลัน ก็เผาพลาญทั้งปราณหยวน และเลือดของเขา ไปจนแทบจะเหือดแห้ง

อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าฉวยโอกาสลงมือจากสภาพที่อ่อนแอของสมาพันธ์วิญญาณหิมะในเวลานี้  แม้แต่คนที่เกลียดสมาพันธ์วิญญาณหิมะ  และอยู่ข้างสมาพันธ์จักรพรรดิ และสมาพันธ์หมื่นสัจธรรม  ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว  เพราะการต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด พวกเขากำลังรอดูผลลัพธ์สุดท้าย อย่าลืมว่า เย่ ซีหวิน ปรากฏตัวขึ้นเพราะเห็นแก่สมาพันธ์วิญญาณหิมะ ดังนั้นพวกมันจึงระมัดระวัง

นอกจากนี้อีกด้านหนึ่งของสนามรบ มู่ หลิง และ เจี้ยน วู่เฉิน กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด  แม้ว่าพลังทำลายล้างไม่อาจเทียบเท่าคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่ากันมากนัก

ในเวลานี้ เจี้ยน วู่เฉิน ส่งเสียงคำราม ร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด และกระดูกซี่โครงของเขาถูกตัดออกไปบางส่วน

ร่างกายของ มู่ หลิง เต็มไปด้วยบาดแผล  และมีบาดแผลที่น่ากลัวอยู่บนหน้าอกของเขา

นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างสองผู้เชี่ยวชาญที่มีฝีมือเท่าเทียมกันของ สองสุดยอดนักดาบ

มู่ หลิง ยกดาบขึ้น  และเรียกแม่น้ำสีเหลืองปรากฏขึ้นมาจากด้านหลังเขา  และไหลบ่าเข้าไปหา เจี้ยน วู่เฉิน

ความสามารถในการต่อสู้ของ มู่ หลิง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  และยังไม่มีสัญญาณของการทะลวงขอบเขต แต่การโจมตีของเขากำลังรุนแรงมากขึ้น

เจี้ยน วู่เฉิน ไม่ได้สะกัดการโจมตี และแกว่งดาบในของเขาทันที เพื่อสร้างม่านพลังของปราณดาบรอบๆ ตัวของเขา  เพื่อป้องกันการโจมตีของแม่น้ำสีเหลือง

“ปังงงงง!”

แม้การปะทะกันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น  ก็ไม่สามารถทำให้ทั้งสองคนนี้ล่าถอย

ทีละนิด!

ทีละนิด!

ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ทีละนิด!

ความสามารถในการต่อสู้ของ มู่ หลิง ในที่สุดก็ทะลวงขอบเขตลมปราณมหาเทพขั้นที่ 7 ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากการต่อสู้ครั้งนี้  ออร่าอันทรงพลังของเขาก็ก้าวเข้าสู่ลมปราณมหาเทพขั้นที่  8

ผู้ชมที่ให้ความสนใจกับต่อสู้ครั้งนี้ ต่างพากันตกตะลึงทันที การต่อสู้ครั้งสำคัญที่เดิมพันกันด้วยชีวิตนี้ แต่ มู่ หลิง กลับเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

“วิ้งงง!” ดาบของ มู่ หลิง จ่อเข้ามาถึงคอของ เจี้ยน วู่เฉิน แล้วหยุดลงก่อนที่มันจะตัดหัวของเขา

” ข้าไม่ต้องการจะฆ่าเจ้า” มู่ หลิง กล่าว เขาเอาชนะ เจี้ยน วู่เฉิน แต่เขายังชื่นชมพรสวรรค์ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของชายคนนี้ มู่ หลิง ชื่นชมเขาในฐานะนักดาบ  และเคยได้ยินจาก เย่ ซีหวิน ว่า เจี้ยน วู่เฉิน เป็นคนซื่อสัตย์ที่มีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ อันที่จริงเขาไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าทาสดาบของ องค์ชายแปด แต่วันนี้มันจะเปลี่ยนไป และสักวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นวีรบุรุษที่โดดเด่นอย่างแท้จริง

“สักวันหนึ่ง ข้าจะตามหาเจ้า และเราจะมาประลองเพื่อตัดสินกันอีกครั้ง ” เจี้ยน วู่เฉิน กล่าว และหันหลังบินจากไป  ทุกคนมองดูร่างของเขาค่อยๆ หายไปในขอบฟ้า เหล่าสาวกทั้งหมดของเขาตายหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป

เย่ ซีหวิน ยิ้มเมื่อสังเกตเห็นว่า มู่ หลิง ก้าวเข้าสู่ลมปราณมหาเทพขั้นที่แปด  ความแข็งแกร่งนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับเขา

วั่น เฉิงเย่า  ตกใจทันทีเมื่อได้เห็น  มันทำให้เขาหมดหวังมากยิ่งขึ้น เขาตะโกนราวกับคนบ้า และยิงลำแสงจากใบมีดไปที่ เย่ ซีหวิน

มือสีทองของ เย่ ซีหวิน จับลำแสงจากใบมีด และฉีกกระชากมันออกจากกัน จากนั้นเขาก็บินตรงไปยัง วั่น เฉิงเย่า  รวดเร็วราวกับกระสุนปืน

ฝ่ามือของ เย่ ซีหวิน ซัดออกมา และทุบลงบนหน้าอกของ วั่น เฉิงเย่า

“ปังงง!” วั่น เฉิงเย่า  กระเด็นปลิวออกไป และด้วยพลังอันมหาศาลจากการโจมตี ทำให้ซี่โครงของเขาหักหลายซี่

วั่น เฉิงเย่า  ดูเหมือนถูกต้อนจนมุมโดย เย่ ซีหวิน และดูเหมือนคนบ้าที่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง  เขารีบวิ่งตรงไปข้างหน้าเหมือนคนบ้าที่จะโจมตี เย่ ซีหวิน

ยิ่งไปกว่านั้น องค์ชายแปด ได้ถอดตราประทับออกจากหอกของเขาแล้ว  เขาใช้เวลาไม่นานในการทำเช่นนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงขอบเขตของทักษะและความน่าสะพรึงกลัวของเขา

วั่น เฉิงเย่า เป็นเหมือนสัตว์ป่าทั่วไป  เขาไม่สนใจการเผาพลาญพลังงาน  และปล่อยลำแสงจากใบมีดสีดำที่ดูเหมือนสายฟ้าจากนรกขณะวิ่งตรงไปยัง เย่ ซีหวิน

” เจ้าต้องตายยยย!”

วั่น เฉิงเย่า  คำรามในขณะที่จ้องมาที่ เย่ ซีหวิน  ดูเหมือนเขาค่อนข้างมั่นใจในการโจมตีครั้งนี้

เย่ ซีหวิน  แสยะยิ้ม และเหยียดมือออกมาราวกับจะฉีกพื้นที่ พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองเอ่อล้นออกมาจากมือของเขา  และพุ่งเข้าไปหาสายฟ้าสีดำ

“ปังงง!” การโจมตีทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ และพลังทั้งสองต่างพยายามกลืนกินซึ่งกันและกัน  ทำให้เกิดพายุขึ้นในชั้นอากาศ

เมื่อการโจมตีที่ดีที่สุดของเขาล้มเหลว  วั่น เฉิงเย่า  ถึงกับหน้าซีดทันที  เย่ ซีหวิน หัวเราะเยาะ แต่สังเกตเห็นว่า องค์ชายแปด กำลังจะหลุดออกมาเป็นอิสระ ดังนั้นเขาจึงต้องฆ่า  วั่น เฉิงเย่า โดยเร็วที่สุด

เย่ ซีหวิน  รีบวิ่งตรงไปข้างหน้า และด้วยท่าทางที่เร่งรีบ  แต่จิตใจของเขาสงบนิ่ง

“ปังงง!” ฝ่ามือของ  เย่ ซีหวิน กระแทกไปที่ด้านหลังของ วั่น เฉิงเย่า

วั่น เฉิงเย่า  ถูกแรงกระแทกกระเด็นปลิวออกไป  ร่างของเขาหมุนเคว้งในอากาศ  และในขณะเดียวกัน เย่ ซีหวิน  รีบกระโดดบินตามขึ้นไปในอากาศ เขาหมุนตัวและเตะไปที่  วั่น เฉิงเย่า  จากด้านบนเกือบจะทันที

“ย๊ากกก!” องค์ชายแปด  ร้องตะโกน และในที่สุดเขาก็สามารถดึงหอกออกจากร่างของตัวเองได้  เขายืนขึ้นและมองไปรอบ ๆ เพื่อมองหา เย่ ซีหวิน แต่ในเวลานี้เขาได้เห็นฉากอันน่าตกใจปรากฏขึ้นต่อสายตาของเขา

เย่ ซีหวิน  เหยียดเท้าขึ้นไปในอากาศราวกับจะแยกร่างของ วั่น เฉิงเย่า ออกเป็นสองส่วนด้วยการเตะ แต่ วั่น เฉิงเย่า เห็นดังนั้นเขาไม่ยอมตายโดยไม่ทำอะไรเลย เขาปลดปล่อยลำแสงจากใบมีดทันที  แต่ก็ไม่สามารถหยุดการเตะของ เย่ ซีหวิน ได้  เขารวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์ไปที่เท้าของเขา ทำให้ลำแสงจากใบมีดกระจายตัวออกไป และเขาเตะลงบนร่างของ วั่น เฉิงเย่า โดยตรง

“ผัวะ!”  แรงเตะทำให้เกิดเสียงที่น่ากลัว  กระดูกของเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

วั่น เฉิงเย่า  กรีดร้องอย่างน่าสมเพช  ขณะที่หน้าอกของเขาถูกบดขยี้โดย เย่ ซีหวิน พลังศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าไปในร่างของเขาทันที และปั่นอวัยวะภายในของเขา

วั่น เฉิงเย่า  ร่างของเขากระตุกอยู่ครู่หนึ่ง  แต่เขาไม่สามารถทนพิษบาดแผล และเสียชีวิตในที่สุด

” อะไรกัน? ” ดวงตาของ องค์ชายแปด เบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ  เมื่อเขาเห็น วั่น เฉิงเย่า  ถูกกระทืบจนตายโดย เย่ ซีหวิน  เขาไม่ได้ใช้เวลานานเกินไปจนหลุดออกมาเป็นอิสระ แต่เขาไม่คาดว่าจะได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อดังกล่าว

” เท่านี้ก็ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซง เตรียมตัวพบกับความตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง  เพราะวันนี้ข้าจะทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้ ” เย่ ซีหวิน มองด้วยสายตาเย็นชากับ องค์ชายแปด แล้วพูด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ปล่อยให้ องค์ชายแปด หลบหนีได้ในครั้งนี้