Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 80
ระหว่างทางไปทำงานพิเศษ ผมได้คุยกับโทบิเซะซังอีกครั้ง…
“เน่ๆ สึคาสะคุงชอบเซย์จังสินะ?”
โทบิเซะซังถามขึ้นด้วยใบหน้าเป็นประกาย
ดูเหมือนว่าเธอจะชอบเรื่องความรักมาก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับวัยของเธอ แม้ว่าผมจะไม่ควรคิดแบบนั้นกับคนที่โตกว่าก็เถอะ
“…ก็ชอบครับ”
“นั่นหมายถึงชอบในฐานะผู้หญิงใช่ไหม ไม่ใช่แค่เพื่อน?”
“ใช่ครับ”
ผมตอบไปตรงๆ
แม้ว่าเซย์จังจะพยายามปิดบังว่าเราเป็นแฟนกัน แต่การที่ผมบอกว่าชอบเธอคงไม่เป็นไร
“กะแล้ว! ฉันคิดไว้อยู่แล้วแหละ ตอนที่ฉันถามว่าเธอดีใจไหมถ้าได้คบกับฉันหรือเซย์จัง เธอดูชัดเจนเลยว่าดีใจกว่าแน่ถ้าได้คบกับเซย์จัง!”
“อ๊ะ? งั้นเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว! ตอนฉันถามถึงเซย์จัง เธอดูเหมือนคิดว่า ‘ถ้าได้คบกับเธอ ฉันคงดีใจมาก’ แต่ตอนถามถึงฉัน เธอดูเหมือนคิดว่า ‘ใครก็ตามที่เป็นผู้ชายคงดีใจถ้าได้คบกับฉัน’ ประมาณนั้นแหละ!”
แม้ผมเองจะไม่รู้ตัว แต่ก็คงจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
ไม่น่าเชื่อว่าเธอสามารถสังเกตความแตกต่างได้จากคำถามนั้นเพียงคำถามเดียว
โทบิเซะซังดูเหมือนจะซุ่มซ่ามไปบ้าง แต่เธอไม่ใช่คนโง่แน่นอน
ดูเหมือนเธอจะเรียนที่มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในละแวกนี้ด้วย
“แล้วเธอจะสารภาพรักกับเซย์จังรึเปล่า?”
คำถามนี้ ผมควรตอบว่าอย่างไรดีนะ
ผมได้สารภาพรักไปแล้ว และเราก็กำลังคบกัน แต่ผมยังคงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอยู่
“เอ่อ ตอนนี้คงยังไม่ครับ”
ผมเลือกที่จะโกหก
ถ้าผมตอบไปว่า “สารภาพไปแล้ว” คงจะถูกถามต่อว่า “แล้วผลหล่ะ? หลังจากนั้นเป็นยังไงเหรอ?” ซึ่งมันจะยิ่งยุ่งยาก
“งั้นเหรอ แต่ฉันว่ามีหวังนะ”
“รู้ได้ยังไงเหรอครับว่าผมมีหวัง?”
“หึๆ มันเป็นเซ้นส์ของผู้หญิงจ่ะ”
“…งั้นเหรอครับ”
“อ๊ะ นี่เธอไม่เชื่อสินะ? อย่าประมาทเซ้นส์ผู้หญิงเชียว มันไม่ใช่เรื่องที่ดูถูกได้ง่ายๆ หรอกนะ”
แน่นอนว่าผมไม่ได้ดูถูก เพราะเซ้นส์ของเธอมันถูกต้องจริงๆ
แต่ผมจะไม่บอกความจริงเรื่องนี้ออกไปหรอก
“เราควรรีบหน่อยนะครับ ไม่อย่างนั้นจะไปทำงานไม่ทันกันเอา”
“อ๊ะ จริงด้วย งั้นไปกันเถอะ!”
เราทั้งสองเดินเร็วขึ้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านคาเฟ่ที่เป็นที่ทำงานพิเศษ
หลังจากนั้นผมกับโทบิเซะซังก็มาถึงร้านทันเวลา และเริ่มงานไปพร้อมกัน
วันนี้ภรรยาของผู้จัดการไซโต้ก็มาช่วยงานด้วย เธอเป็นผู้หญิงที่ดูอ่อนโยน ยิ้มแย้ม และเข้ากับคนอื่นง่ายมาก
ผู้จัดการไซโต้กับภรรยานั้นดูเหมือนจะอายุเกิน 60 ปีแล้ว แต่พวกเขาดูรักกันมาก
ผมเองก็หวังว่าจะได้อยู่กับเซย์จังอย่างนี้ไปตลอด
“ฮิซามูระคุงวันนี้ลูกค้าไม่เยอะเพราะเป็นวันธรรมดา งั้นมาเริ่มเรียนทำอาหารกันหน่อยดีไหม?”
“เอ๊ะ จะเริ่มเลยเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว ฮิซามูระคุงเรียนรู้การทำงานในส่วนหน้าร้านได้เร็วมาก ตอนนี้โทบิเซะซังก็อยู่หน้าร้านด้วย ถ้าเธอเรียนรู้การทำอาหารได้ ฉันจะได้แบ่งเบางานได้มากขึ้น แล้วจะเพิ่มค่าแรงให้ด้วยนะ”
“ขะ-ขอบคุณมากครับ”
ไม่อยากจะเชื่อว่าเพิ่งทำงานวันสองวันก็ได้เรียนทำอาหารแล้ว
ที่จริงผมเคยทำงานพิเศษที่ร้านคาเฟ่มาก่อน แต่ถ้าไม่มีโทบิเซะซัง ผมคงไม่ได้เรียนเร็วขนาดนี้
“แล้วฉันล่ะคะผู้จัดการ?”
“โทบิเซะซัง ฉันอยากให้เธอดูแลหน้าร้านต่อไปนะ เพราะเธอเข้ากับลูกค้าได้ดี งานหน้าร้านหน่ะเหมาะกับเธอที่สุดแล้ว”
“เข้าใจแล้วค่ะ จริงๆ ฉันก็ไม่ถนัดทำอาหารเท่าไหร่หรอกค่ะ แบบนี้มันเหมาะสมดีแล้วเนอะ สู้ๆ นะสึคาสะคุง!”
“ครับ ขอบคุณครับ”
สรุปแล้ว โทบิเซะซังจะดูแลส่วนหน้าร้าน และผมจะอยู่ในครัว
มันก็เหมาะสมดี เพราะโทบิเซะซังน่าจะเก่งในงานดูแลลูกค้า ส่วนผมเหมาะกับครัวมากกว่า
ผู้จัดการก็คิดได้ดี…หรือใครๆ ก็คงคิดได้แบบนี้แหละ
“มาริโนะจัง อย่าลืมเสิร์ฟน้ำและอาหารให้เรียบร้อยนะ ไม่ต้องรีบก็ได้จ้ะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ! ฉันจะค่อยๆ ทำอย่างรอบคอบค่ะ”
โทบิเซะซังได้เรียนงานจากภรรยาผู้จัดการ ส่วนผมได้เรียนทำอาหารจากผู้จัดการโดยตรง
“อื้ม ทำแซนด์วิชออกมาได้รสชาติดีเลยนะ ฮิซามูระคุงนี่เรียนรู้ได้เร็วจริงๆ”
“นั่นเพราะผู้จัดการสอนดีต่างหากครับ”
“หึๆ ปากหวานจังนะ”
ระหว่างนั้นผมก็เรียนรู้การทำอาหารไปเรื่อยๆ อย่างราบรื่น
โทบิเซะซังเองก็ทำงานหน้าร้านได้ดีขึ้นเหมือนกัน ทำให้เกิดความผิดพลาดน้อยลงกว่าเมื่อก่อน
“สึคาสะคุง ช่วยเอาแซนด์วิชไปที่โต๊ะสี่ด้วยนะจ๊ะ”
“ครับ…เอ๊ะ แต่แซนด์วิชมีหลายแบบนะครับ ลูกค้าสั่งแบบไหนมาเหรอครับ?”
“เอ๊ะ เอ่อ…ฉันจำไม่ได้หน่ะจ่ะ!”
“ไม่ได้จดออเดอร์ลงในกระดาษไว้เหรอครับ?”
“อ๊ะ จริงด้วย งั้น…อื้ม บนกระดาษก็จดแค่ว่าแซนด์วิชเองจ่ะ!”
“…ช่วยไปถามใหม่อีกรอบเถอะครับ”
“จ้า!”
แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถทำทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบในทันที ผมเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
การเรียนรู้จากความผิดพลาดและพัฒนาต่อไป คือสิ่งที่ควรทำ
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เริ่มงาน
อย่างที่ผู้จัดการบอก ลูกค้าไม่เยอะเหมือนวันหยุด แต่ก็มีลูกค้าอยู่ตลอด ประมาณสิบคนได้
ทันใดนั้นก็มีเสียงแกร๊กและมีลูกค้าเข้ามา
“ยินดีต้อนรับค่ะ!”
โทบิเซะซังตอบรับทันทีด้วยรอยยิ้ม
ผมที่ยืนอยู่ในครัวก็มองตามและเตรียมจะทักทายด้วย
“ยินดีต้อนรั—เอ๊ะ?”
แต่เมื่อผมเห็นลูกค้าที่เข้ามา คำพูดก็หยุดลงทันที
หญิงสาวคนหนึ่งสวมหมวกสีดำ ส่วนเสื้อผ้าเป็นกางเกงสกินนียีนส์สีดำ แจ็คเก็ตหนังสีดำ และสเวตเตอร์สีดำ
เธอสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ทำให้ดูลึกลับและน่าสงสัย แต่ด้วยรูปร่างที่เพรียวและบรรยากาศที่ดูดี เธอเหมือนดาราที่มาแบบไม่ต้องการให้ใครจำได้
ที่สำคัญ ผมที่โผล่ออกมาจากหมวกนั้นเป็นสีเงิน
ไม่ต้องตัดสินจากสีผมหรอก…เซย์จังแน่ๆ ใช่ไหม?
แม้ว่าบรรยากาศจะไม่ใช่แบบที่คุ้นเคย แต่ผมก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือเซย์จัง
เอ่อ…ทำไมเธอถึงมาที่ร้านคาเฟ่นี้กัน?
แล้วที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือ ทำไมเธอถึงแต่งตัวราวกับว่ากำลังปิดบังตัวเอง?
และ…ทำไมเธอถึงดูหล่อเท่แบบนี้?
-Facebook Fanpage-
Translarator
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต