Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 79
เย็นวันจันทร์ หลังเลิกเรียนก่อนที่ยูอิจิจะไปชมรม ผมได้ถามอะไรบางอย่างกับเขานิดหน่อย
“นี่ยูอิจิ นายรู้จักคนชื่อโทบิเซะ มาริโนะบ้างไหม?”
“หือ? ไม่รู้จักนะ ใครเหรอ?”
“เป็นผู้หญิงอายุมากกว่าเรา เรียนอยู่มหาลัยปีสอง นายไม่รู้จักจริงๆ เหรอ?”
“อืม ไม่เคยได้ยินชื่อเลยนะ เธอเป็นใครงั้นเหรอ?”
“…เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”
“อะไรของนายเนี่ย เอาเถอะ งั้นฉันไปชมรมก่อนนะ นายเองก็ตั้งใจทำงานพิเศษหล่ะสิคาสะ”
“อ่า ขอบใจมาก”
ดูเหมือนว่ายูอิจิจะยังไม่เคยเจอโทบิเซะซังสินะ
ตามที่จำได้ 2 คนนี้จะเจอกันช่วงท้ายๆ ของวันหยุดฤดูร้อน ตอนที่ยูอิจิไปช่วยโทบิเซะซังที่กำลังโดนจีบ
…ไอ้ยูอิจินี่ ตอนอยู่ม.ต้นก็เคยช่วยฟูจิเสะจากการโดนจีบเหมือนกัน นี่หมอนั่นเป็น “นักปักธง” ที่ชอบช่วยคนจากการโดนจีบหรือไง?
เอาเถอะ อย่างน้อยตอนนี้สองคนนี้ก็ยังไม่เคยเจอกัน และดูเหมือนว่าผมจะเป็นคนเดียวที่รู้จักกับเธอด้วย
เนื้อเรื่องดั้งเดิมเปลี่ยนไปแล้ว คงไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้สองคนนี้เจอกันหรอกมั้ง
คิดได้แบบนั้นแล้วผมก็เดินออกจากโรงเรียนและมุ่งหน้าไปยังร้านคาเฟ่ที่ทำงานพิเศษ
หลังจากเดินไปได้สักพักผมก็ได้ยินเสียงจากข้างหลัง
“ฮิซามูระ”
“หืม? อ๊ะ เซย์จ…ชิมาดะ”
เมื่อหันกลับไป ผมก็เห็นเซย์จังที่กำลังวิ่งตามตัวเองมา
“ฮิซามูระ…เรื่องชื่อ…ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ”
“ขอโทษนะ พอจะเรียกชื่อออกมาแบบเร็วๆ มันก็ดันหลุดชื่อที่เรียกจนเคยชินไปก่อนหน่ะ”
ตอนนี้เราเดินออกมาจากโรงเรียนไกลพอสมควรแล้ว แถมรอบๆ ก็ไม่มีนักเรียนอยู่เลย
“ฉันเองก็เหมือนกัน บางครั้งเวลาอยู่ด้วยกันสองคนก็เผลอเรียกนายว่า ‘ฮิซามูระ’ อยู่ดี”
“แต่เธอก็พยายามเปลี่ยนไม่เรียกแบบนั้นแล้วหนิใช่ไหม?”
“อะ-อืม…สึคาสะ”
“…พอถูกเรียกชื่อด้วยเสียงแมนๆ ของเซย์จังแบบนี้แล้วก็ทำเอาให้ใจเต้นเลยนะ”
“การพูดว่าผู้หญิงมีเสียงแมนนี่ถือเป็นคำชมรึเปล่าหนิ?”
แน่นอน ว่านี่คือคำชมสุดๆ เลยล่ะ
เซย์จังมีเสียงที่สงบนิ่งเกินกว่าเด็กนักเรียนหญิงธรรมดา เสียงของเธอใสและงดงาม
เวลาที่เธอเขินก็จะฟังดูน่ารัก แต่เวลาที่เธอเรียกชื่อผมแบบนี้ก็จะดูเท่ขึ้นมา
แค่ฟังเสียงของเธอก็เหมือนจะตกหลุมรักเข้าไปแล้ว ผมเองก็หลงรักเธอทั้งเสียงและทุกสิ่งทุกอย่างของเธอเลย
“ฉันชอบเสียงของเซย์จังมากเลยนะ อยากฟังทุกวันเลย”
“ขะ-ขนาดนั้นเลยเหรอ…ฉันเองก็ชอบเสียงของสึคาสะเหมือนกัน”
“อ๊ากกกก พอได้ยินแบบนั้นด้วยเสียงเพาะๆ ของเธอก็ทำเอาหัวใจฉันจะทนไม่ไหวแล้ว…!”
“นายจะโอเวอร์เกินไปแล้วนะ!?”
เสียงของเซย์จังเหมือนจะมีพลังทำร้ายและฟื้นฟูในเวลาเดียวกัน
สำหรับผมแล้วแม้ว่าพลังทำร้ายของเธอจะสูง แต่พลังฟื้นฟูนั้นกลับยิ่งสูงกว่า ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไร
กลับกันยิ่งฟังยิ่งอยากฟังไปเรื่อยๆ
“บ้านของสึคาสะไม่ได้ไปทางนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“พอเลิกเรียนก็ว่าจะไปที่ทำงานพิเศษต่อเลยหน่ะ”
“อ๋อ ไปทำงานพิเศษที่ร้านคาเฟ่สินะ?”
“ใช่แล้ว ผู้จัดการใจดีมากเลย ฉันเลยคิดว่ามันเป็นที่ทำงานที่ดีเลยแหละ”
“งั้นเหรอ ดีจังเลยนะ ครั้งหน้าฉันขอไปหาได้ไหม?”
“แน่นอนสิ ฉันจะลองถามผู้จัดการดู เผื่อว่าจะมีอะไรบริการพิเศษให้ได้บ้าง”
ขณะที่คุยกับเซย์จัง เราก็มาถึงทางแยก
“งั้นไว้เจอกันนะเซย์จัง”
“อืม ไว้เจอกัน…”
“อาร่า? สึคาสะคุง?”
ตอนที่ผมกำลังจะบอกลาคือเวลาเดียวกับที่มีเสียงเรียกชื่อผมจากข้างหลังอีกครั้ง
แม้ไม่ต้องหันกลับไปผมก็รู้ว่าเป็นใคร แต่ผมก็หันไปดูเพื่อให้แน่ใจอยู่ดี
“อ้าาา ใช่จริงๆ ด้วยนะ บังเอิญจังเลย สึคาสะคุงเองก็กำลังจะไปทำงานพิเศษเหมือนกันเหรอ?”
ว่าแล้วว่าต้องเป็นเสียงของโทบิเซะซัง
เธอมีน้ำเสียงที่โดดเด่นหรือจะบอกว่าเป็นเสียงแนวพี่สาวใจดีดีหล่ะเลยทำให้บอกได้ทันทีว่าเป็นเธอ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับโทบิเซะซัง ผมกำลังจะไปทำงานพิเศษครับ”
“งั้นเหรอ วันนี้ก็ได้ทำงานด้วยกันอีกสินะ เอ๊ะ นี่เธอเพิ่งเลิกเรียนจากโรงเรียนใช่ไหมจ๊ะ? ว้าว ชุดนักเรียนโรงเรียนโทโจอิน คิดถึงจังเลย ฉันก็เคยใส่เมื่อสองปีที่แล้ว”
โทเซะซังพูดไปด้วยพลางเดินวนรอบตัวผมเพื่อสำรวจชุดนักเรียน
จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นเซย์จังที่อยู่ใกล้ๆ ผม
“อ้า ชุดนักเรียนหญิง! ขอพี่สาวดูชุดนักเรียนของเธอหน่อยนะจ๊ะ?”
“เอ๊ะ อ่า…ค่ะ”
“ขอบคุณนะจ๊ะ ชุดนักเรียนก็ดูดีเหมือนกันนะ แต่พอเป็นนักศึกษาก็สบายเพราะใส่ชุดธรรมดาได้ แต่ชุดนักเรียนก็มีเสน่ห์ของมันนะ”
โทบิเซะซังเริ่มเดินวนรอบตัวเซย์จังเพื่อดูชุดของเธอ
“แล้วเธอเนี่ยน่ารักจังเลยนะ! ใส่ชุดนักเรียนก็เท่ดี หุ่นก็เป๊ะมาก เธอเป็นนักเรียนโรงเรียนโทโจอินเหรอเนี่ย น่ารักสุดๆ เลย”
ผมอยากจะพูดออกไปว่า “ใช่ไหมหล่ะ เธอน่ารักใช่ไหมหล่ะ” อยู่หรอก แต่มันคงทำให้สถานการณ์ยุ่งยากขึ้นไปอีกหน่ะสิ
“…สึ-ฮิซามูระ คนๆ นี้คือ?”
เซย์จังเรียกนามสกุลของผมออกมาทันทีเนื่องจากเราไม่ได้อยู่กันสองคนแล้ว
“คนๆ นี้คือโทบิเซะ มาริโนะซัง เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานพิเศษของฉันหน่ะ และเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนโทโจอิน กำลังเรียนอยู่มหาลัยปีสอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักจ่ะ แล้วเธอชื่ออะไรเหรอจ๊ะ?”
“ชิมาดะ เซย์ค่ะ”
“เซย์จังเหรอ! ว้าว! ทั้งสวยแล้วก็น่ารักมากเลย ยินดีที่ได้รู้จักจ่ะ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ดูเหมือนโทบิเซะซังจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยทักษะการเข้าสังคม และดูไม่คิดอะไรมาก แต่สามารถเข้าหาคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
“สึคาสะคุงกับเซย์จังมีความสัมพันธ์กันแบบไหนเหรอ? เพื่อน? หรือว่า…เป็นแฟนกันเหรอจ๊ะ?”
โทบิเซะซังถามด้วยแววตาเป็นประกาย
ผมควรจะตอบยังไงดีนะ?
ผมแอบมองไปที่เซย์จัง เธอดูเหมือนจะคิดหนัก แต่สุดท้ายก็ตอบออกมา
“ฉันกับฮิซามูระเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน และสนิทกันพอสมควรค่ะ”
เธอไม่ยอมระบุว่าเราเป็นแฟนกันโดยตรง
คำตอบแบบนี้ยังไม่ถือว่าโกหก ก็แค่ไม่ได้บอกว่าเราเป็นเพื่อนหรือแฟนกัน
แต่ว่านะ…
“เอ๋? สรุปเป็นเพื่อนเหรอ? หรือเป็นแฟนกัน? ตกลงคืออะไรกันแน่?”
ใช่แล้ว โทบิเซะซังไม่ใช่คนที่จะหยุดแค่นี้
“ไหนๆ บอกพี่สาวหน่อยสิ เป็นแฟนกัน? กำลังคบกันอยู่สินะ? ไม่ต้องห่วง พี่สาวไม่บอกใครหรอกนะ”
“บะ-บอกว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันไงหล่ะคะ”
โอ๊ะ เซย์จังดูท่าทางกำลังลำบากใจอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หายาก
“เหรอ? แต่พี่สาวว่าสึคาสะคุงก็ดูหล่อดีนะ ไม่อยากให้เขาเป็นแฟนเธอบ้างเหรอ?”
“ถะ-ถึงจะหล่อก็เถอะ แต่หน้าตาอย่างเดียวไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ตัดสินใจว่าจะเป็นแฟนหรือไม่ใช่ไหมหล่ะคะ?”
“อืม ใช่แล้วหล่ะจ่ะ แต่สึคาสะคุงเป็นคนใจดีนะ เวลาพี่สาวทำงานพลาด เขาก็คอยช่วยซัพพอร์ตอย่างใจดีเลยนะ เป็นคนดีมากเลยแหละ”
“งะ-งั้นเหรอคะ”
“ถ้าฉันอยู่จุดเดียวกับเธอ ฉันก็อยากได้เขาเป็นแฟนนะ”
“…!?”
เซย์จังเริ่มมองโทบิเซะซังด้วยความระแวง
อาจจะมองว่าเป็นคู่แข่งหรืออะไรแบบนั้น
แม้ผมจะดีใจที่เธอรู้สึกแบบนั้น แต่นี่คงไม่ใช่ความตั้งใจจริงของโทบิเซะซัง เธอคงพูดไปแค่เผื่อหยอกเซย์จังมากกว่า
เหมือนกับที่ญาติพี่น้องบางคนชอบแซวว่า “เท่จังเลย เธอไม่คิดอยากเป็นแฟนเขาหน่อยเหรอ?”
แต่คนที่ไม่รู้จักโทบิเซะซังดีคงไม่ได้คิดแบบนั้น ผมจึงเข้าใจว่าทำไมเซย์จังถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้
“โทบิเซะซังครับ ช่วยอย่าแกล้งชิมาดะมากเกินไปเลยครับ”
“อ้าว สึคาสะคุงไม่สนเหรอ? เซย์จังน่ารักมากเลยนะ ไม่อยากได้เธอเป็นแฟนบ้างเหรอจ๊ะ?”
“แน่นอนว่าเธอน่ารักมาก และถ้าได้เธอเป็นแฟนผมคงจะมีความสุขสุดๆ เลยหล่ะครับ”
ที่จริงเธอเป็นแฟนผมแล้ว และตอนนี้ผมก็มีความสุขมาก
“อุ๊ย สึคาสะคุงพูดได้ดีนี่นา”
“…!”
โทเซะซังดูสนุกสนาน ในขณะที่เซย์จังดูเหมือนจะเขินอายและหันหน้าหนีไป
“งั้นถ้าเป็นฉันหล่ะ? ถ้าได้คบกับฉัน เธอจะรู้สึกยังไงเหรอ?”
“ถ้าได้คบกับโทบิเซะซังเหรอครับ? โทบิเซะซังทั้งสวยและนิสัยดี ผมว่าคนที่ได้คบคงมีความสุขมากแน่ๆ เลยครับ”
“ฟุฟุ ขอบคุณนะจ๊ะ!”
“…”
โทเซะซังยังคงสนุกสนาน ในขณะที่เซย์จังหันมามองผมด้วยสายตาคล้ายกับไม่พอใจ
ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะเซย์จัง ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากตอบแบบนี้นะ
ผมไม่มีความคิดที่จะคบกับโทบิเซะซังเลย และในใจผมมีแค่เซย์จังเท่านั้น
ผมพยายามส่งสายตาให้เซย์จังเข้าใจ แต่ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจหรือเปล่า เธอกลับเบนสายตาหนีไปอีกทาง
หวังว่าคงไม่มีปัญหา…แต่ว่าท่าทีของเซย์จังเมื่อกี้น่ารักจริงๆ
“อ๊ะ สึคาสะคุง เราต้องไปแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันเวลาทำงานพิเศษนะ”
“ก็เพราะโทบิเซะซังมัวแต่ชวนคุยไม่ใช่เหรอครับ?”
“ฮ่าๆๆ ก็อาจจะใช่ งั้นเรารีบไปกันเถอะจ่ะสึคาสะคุง”
โทบิเซะซังถอยห่างจากเซย์จังและมายืนข้างผม
…แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเธอเข้ามาใกล้เกินไปหน่อยกันนะ
เนื่องจากอยู่ต่อหน้าเซย์จัง ผมจึงก้าวออกห่างจากโทบิเซะซังเล็กน้อย
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะชิมาดะ”
“อะ-อืม เจอกันพรุ่งนี้”
“ไว้เจอกันอีกนะจ๊ะเซย์จัง! แล้วมาคุยกันอีกน้า!”
“คะ-ค่ะ…”
เซย์จังดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ผมไม่สามารถถามอะไรได้ในตอนนี้
สุดท้ายผมก็เดินไปทางร้านคาเฟ่พร้อมกับโทบิเซะซัง ในขณะที่เซย์จังเดินไปอีกทาง
-Facebook Fanpage-
Translarator
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต