Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 78
ผมรอจนกระทั่งโทบิเซะซังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วค่อยเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนชุดบ้าง
วันนี้ผมแค่ตั้งใจจะมาสัมภาษณ์งานเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ทำงานจนถึงเย็น
พอเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเสร็จ ผมก็ออกมาจากห้อง
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับผู้จัดการ”
“โอเค กะต่อไปขอเธอเป็นวันจันทร์หลังเลิกเรียนได้ไหม?”
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
“เยี่ยมเลย ขอบใจมากเลยนะ เธอช่วยได้มากเลย แล้วฝากด้วยนะ”
“เช่นกันครับ ฝากตัวด้วยครับ”
หลังจากกล่าวลาผู้จัดการเสร็จ ผมก็ออกจากร้านคาเฟ่มา
ฮ่าาาา…ผมไม่ได้ทำงานพาร์ทไทม์มานานแล้ว ทำเอากังวลมากจนเหนื่อยนิดหน่อยเลย
ขณะที่กำลังยืดแขนขึ้นเหนือศีรษะเพื่อยืดเส้นยืดสาย…
“สึคาสะคุง!”
“ฮิ๊!?”
จู่ๆ ก็มีคนมาแหย่ตรงสีข้างขณะที่ผมกำลังยืดตัวจนทำให้ผมส่งเสียงแปลกๆ ออกมา
“ฮะฮะฮะ ทำเสียงตลกจังเลยนะ”
“…ยังไม่กลับอีกเหรอครับโทบิเซะซัง?”
โทบิเซะซังยิ้มขำที่ได้ยินเสียงประหลาดของผม แม้ว่าคุณเธอจะเปลี่ยนเสื้อและออกจากร้านไปก่อนแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะรอผมอยู่หน้าร้าน
“สึคาสะคุงกลับบ้านทางไหนเหรอ?”
“ออกจากร้านแล้วเลี้ยวขวาครับ”
“ดีจังเลย เราไปทางเดียวกัน งั้นกลับบ้านพร้อมกันนะ”
“…ครับ”
ดูเหมือนเธอจะรอผมอยู่
พวกเราเดินเคียงข้างกันและเริ่มเดินกลับบ้านด้วยกัน
“จริงๆ โทบิเซะซังกลับไปก่อนก็ได้ครับ”
“แหม ไหนๆ เราก็ทำงานอยู่ด้วยกันแล้ว ถ้ากลับก่อนมันจะเหงาออก”
เธอทำปากยื่นอย่างไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อพูดแบบนั้น
แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่าผม แต่พอทำหน้าตาเหมือนเด็กแบบนี้ก็ดูน่ารักจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะติดอันดับสองในการโหวตตัวละครยอดนิยม
“ดูเหมือนเราจะได้ทำงานด้วยกันบ่อยๆ ในอนาคต ยังไงก็มาพยายามด้วยกันเถอะนะ”
“ครับ ฝากตัวด้วยนะครับ”
“สึคาสะคุงพูดเป็นทางการจังเลย เธอจะพูดแบบเป็นกันเองกับฉันก็ได้นะ คิดซะว่าฉันเป็นพี่สาวสิ”
“ไม่ได้หรอกครับ แบบนั้นมันค่อนข้างจะยากไปนิดหน่อย…”
ผมไม่รู้จะรับมือกับผู้หญิงคนนี้ยังไงดีจริงๆ
ในเนื้อเรื่องต้นฉบับ ตอนนี้เธอต้องยังไม่ปรากฏตัวด้วยซ้ำ
และตอนที่เธอปรากฏตัวในเรื่อง ก็ไม่ได้มีการบอกว่าเธอรู้จักกับฮิซามูระ สึคาสะมาก่อนด้วย
นั่นก็เพราะในเรื่องต้นฉบับฮิซามูระ สึคาสะไม่ได้ทำงานพิเศษ ดังนั้นไม่มีทางที่ทั้งสองจะได้เจอกันที่ทำงานพิเศษแน่ๆ
สรุปแล้วเป็นเพราะผมเริ่มทำงานพิเศษ จึงทำให้ได้พบเธอก่อนเวลาที่เธอจะปรากฏตัวในเรื่องต้นฉบับ
แต่ในตอนที่ผมมาอยู่ในโลกนี้กลับมีเรื่องที่ไม่ปรากฏในต้นฉบับอย่างการที่ผมคบกับเซย์จังแทน
และยังมีเรื่องที่โทโจอินกับฟุจิเสะสารภาพรักกับยูอิจิอีก
ดังนั้นผมคงจะไม่ต้องใส่ใจเนื้อเรื่องต้นฉบับและพูดคุยกับเธอไปตามปกติก็คงได้แหละมั้ง…
“สึคาสะคุงอยู่มัธยมปลายปีที่สองสินะ? มัธยมปลายปีที่สองนี่เป็นช่วงที่สนุกที่สุดเลยนะ เพราะจะเริ่มคุ้นชินกับโรงเรียนแล้ว แต่พอขึ้นมัธยมปลายปีที่สามก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยแทน”
“ใช่ครับ งานกิจกรรมต่างๆ ก็ดูเหมือนจะมีเยอะที่สุดด้วยครับ”
“ใช่ๆ! ตอนฉันอยู่มอปลายปีสองก็ได้ไปทัศนศึกษาด้วย จำได้ว่ามีไปเกียวโตกับโอกินาว่าด้วย พวกสึคาสะคุงจะได้ไปที่ไหนกันน้า?”
โทบิเซะซังดูมีความสุขมากในขณะที่พูดไปเรื่อยๆ
ในเรื่องต้นฉบับเธอก็มักจะยิ้มแบบนี้เกือบตลอดเวลา คงจะเป็นนิสัยปกติของเธอ
“ว่าแต่สึคาสะคุง ทำไมถึงอยากทำงานพิเศษเหรอ?”
“ผมอยากมีเงินไว้ไปเที่ยวเล่นหน่ะครับ”
อันที่จริงแล้วผมอยากเก็บเงินไว้ใช้เวลาไปเที่ยวกับเซย์จัง ซึ่งก็คงไม่ถือว่าเป็นการโกหกหรอกเนอะ
แค่ไม่ได้บอกว่าคนที่ไปเที่ยวด้วยคือแฟนเท่านั้นเอง
“งั้นเหรอ น่าชื่นชมจังเลยนะที่หาเงินด้วยตัวเองเพื่อไปเที่ยว”
“เหรอครับ? ผมว่ามันก็ปกตินะครับ”
“มอปลายปีสองน่ะเป็นช่วงที่วัยรุ่นส่วนใหญ่ยังอยากจะเล่นสนุกอยู่ คงมีไม่กี่คนหรอกนะที่คิดอยากทำงานพิเศษ”
“ผมไม่มีกิจกรรมชมรมเลยมีเวลาว่างเยอะหน่ะครับ”
“ฉันก็ไม่ได้เข้าชมรมเหมือนกัน เลยได้ทำแต่งานพิเศษตั้งแต่สมัยมัธยมปลายเลยแหละ”
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโทบิเซะซังเองก็ทำงานพิเศษมาตั้งแต่มัธยมปลาย
ถึงผมจะเคยอ่านมังงะเรื่อง “โอโจวจามะ” จนถึงตอนล่าสุดแล้ว แต่ข้อมูลเกี่ยวกับโทบิเซะ มาริโนะก็ยังถือว่ามีอยู่น้อยมาก เพราะเธอปรากฏตัวในช่วงหลังๆ ของเรื่อง
นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าเข้าหาเธอได้ยาก…
“แล้วทำไมโทบิเซะซังถึงเริ่มทำงานพิเศษเหรอครับ? เหมือนกับผมที่อยากมีเงินเที่ยวเล่นหรือเปล่าครับ?”
“อืม ก็มีส่วนเหมือนกันนะ แต่ที่จริงแล้ว แต่ที่จริงแล้วผู้ปกครองฉันเหลือแค่แม่คนเดียวหน่ะจ่ะ”
“เอ๊ะ?”
“แล้วพี่น้องรวมทั้งฉันมีกันตั้งสี่คนเลยมีค่าใช้จ่ายเยอะ ฉันก็เลยอยากช่วยแม่ทำงานพิเศษหน่ะ”
“อย่างนั้นเหรอครับ”
ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโทบิเซะ มาริโนะมีสภาพครอบครัวแบบนี้
“แม่ฉันเป็นคนเก่งเลยทำงานหาเลี้ยงลูกสี่คนได้ด้วยตัวคนเดียวหน่ะ”
“สุดยอดไปเลยนะครับ”
“ใช่มั้ยหล่ะ ส่วนเงินที่ฉันได้จากงานพิเศษ ฉันก็เอามาใช้นิดหน่อย และเก็บไว้ให้น้องๆ บ้าง น้องที่โตสุดยังแค่สิบขวบเอง ก็เลยต้องซื้อขนมหรือเกมให้พวกเขาบ้าง”
เธอยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนขณะที่เล่า
ท่าทางของเธอดูเป็นพี่สาวผู้ใจดีและใสซื่อ ผมคิดว่านี่แหละที่ทำให้เธอดูน่ารัก
ผมรู้ว่าเธอมีน้อง แต่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีถึงสามคน
พอเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงมีความเป็นพี่สาวออกมาขนาดนี้
“โทบิเซะซังนี่สุดยอดจริงๆ นะครับ”
“ฮิฮิ ใช่มั้ยหล่ะ เพราะงั้นน่ะเธอจะเคารพพี่สาวคนนี้ก็ได้นะ”
“แน่นอนครับ การทำงานพิเศษเพื่อครอบครัวเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากครับ”
“แหม พูดเล่นๆ แต่โดนชมซะเขินเลย”
เมื่อเปรียบเทียบกับโทบิเซะซังแล้วทำเอาผมรู้สึกว่าเหตุผลที่ตัวเองทำงานพิเศษมันดูไม่บริสุทธิ์เลย
ถ้าเทียบระหว่างการทำงานเพื่อน้องๆ กับการทำเพื่อคนรัก อันไหนจะบริสุทธิ์กว่ากันก็ไม่รู้เหมือนกัน
“อ๊ะ ถึงทางแยกแล้ว ฉันต้องไปทางนี้จ่ะ”
“ผมต้องอีกทาง ถ้างั้นคงต้องแยกกันตรงนี้แล้วแหละครับ”
“อยากคุยกับสึคาสะคุงอีกหน่อยจัง แต่ก็ช่วยไม่ได้เนอะ ถ้ามาทำงานพิเศษพร้อมกันคราวหน้า เราค่อยคุยกันอีกนะจ๊ะ”
“ได้ครับ แล้วเจอกันครับ”
“อืม แล้วเจอกันจ่ะ”
โทบิเซะซังยังคงยิ้มอย่างสดใสจนวินาทีสุดท้ายก่อนจะเดินไปในทิศทางตรงข้ามกับผม
ตั้งแต่จากนี้ไปผมต้องทำงานพิเศษร่วมกับโทบิเซะซัง…หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นดีนะ (Tran : คงราบรื่นแหละถ้าเซย์จังไม่รู้เรื่องนี้)
-Facebook Fanpage-
Translarator
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต