Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 65
และแล้ว ยี่สิบนาทีต่อมา…
“เสร็จแล้ว! เป็นยังไงบ้าง?”
“…ก็คาราอาเกะธรรมดานะ”
“ใช่ค่ะ คาราอาเกะค่ะ”
“…ทำออกมาได้จริงๆ สินะ”
คาราอาเกะธรรมดาๆ ถูกทำขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าผู้ที่ถูกเรียกมาเพื่อชิมและทดสอบก็คือผมเอง
“…อืม, อร่อยดี”
“เย้!”
คราวนี้ไม่มีปัญหาใดๆ เช่นรูปทรงของคาราอาเกะที่ไม่เข้ารูปหรือการไหม้แต่อย่างใด เป็นคาราอาเกะที่เรียบง่ายและอร่อยจริงๆ
เอ๊ะ, เอาจริงดิ?
ฟูจิเสะคนที่ในเรื่องเคยทำได้แต่อาหารที่เหมือนกับสสารมืดกลับทำอาหารได้ด้วยตัวเองจริงๆ เหรอ?
“มันปกติมากซะจนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมครั้งแรกถึงออกมาเป็นสสารมืดเลยนะคะ”
“นั่นสินะ, แทบไม่เข้าใจเลยว่าเธอทำให้อาหารกลายเป็นแบบนั้นได้ยังไง”
“ทะ-ทำออกมาได้ดีจริงๆ นะคะ…”
โทโจอินซังและริเอะที่ดูแปลกใจแต่ก็กินได้ปกติ
ในทางกลับกัน เซย์จังดูเหมือนจะมีท่าทีแปลกๆ เล็กน้อย
“…ฉันทำอะไรที่ไร้ความหมายมาตลอดเลยสินะ”
เซย์จังพึมพำเบาๆ
แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจให้ใครได้ยิน แต่ผมที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้ยินคำพูดนั้น
เซย์จังที่พยายามสอนฟูจิเสะอย่างเต็มที่ ดูเหมือนจะรู้สึกว่าทุกอย่างที่เธอทำนั้นเปล่าประโยชน์และรู้สึกหดหู่ใจ
เมื่อคิดว่าฟูจิเสะสามารถทำอาหารได้ง่ายๆ ด้วยการดูสูตรแล้วทำตาม เซย์จังก็คงรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้คิดถึงวิธีที่ง่ายๆ แบบนี้ตั้งแต่ต้น
“รสชาติเป็นยังไงบ้างเหรอเซย์จัง?”
“…อร่อยมากเลยหล่ะชิโฮะ เธอเก่งจริงๆ นะ”
เซย์จังยิ้มและพูดออกมา แต่รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะฝืนๆ อยู่นิดหน่อย
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเซย์จัง! ที่สอนฉันมาตลอด!”
“เพราะชิโฮะที่พยายามต่างหาก ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”
“…เซย์จังเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“หืม? ทำไมเหรอ?”
“ก็เอ่ออ…เธอดูเหมือนเธอจะซึมๆ ไปหน่ะจ่ะ”
แม้ว่าเซย์จังจะพยายามซ่อนความรู้สึกของตัวเองไว้แล้ว แต่ฟูจิเสะก็ยังสังเกตเห็นจนได้ สุดยอดจริงๆ
“ไม่ได้เศร้าอะไรหรอก ดีใจด้วยนะชิโฮะ ทีนี้เธอก็สามารถทำข้าวกล่องให้ชิเงโมโตะได้แล้ว”
“อะ-อืม ขอบคุณนะ”
ดูเหมือนว่าฟูจิเสะจะสังเกตเห็นความรู้สึกของเซย์จังและเป็นห่วง
“ต่อไปลองทำไข่ม้วนดูดีไหม? เป็นเมนูที่มักใส่ในข้าวกล่อง ฉันคิดว่าน่าจะดีนะ”
“อะ-อืมนั่นสินะ แถมอร่อยด้วย”
“ทำเป็นต้มจืดไข่ม้วนก็ดีนะคะ ถึงจะยากไปหน่อยก็เถอะ”
ริเอะดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็น คงเพราะยังไม่ได้สนิทกับเซย์จังมากขนาดนั้น
พวกเธอแค่เดินไปโรงเรียนด้วยกันตอนเช้าสัปดาห์ละไม่กี่ครั้งเอง
“นั่นสิ ถ้ามีกระทะทำไข่ม้วนก็คงจะดีนะ ที่บ้านฟูจิเสะซังมีกระทะทำไข่ม้วนหรือเปล่า?”
“อ๊ะ เหมือนจะเคยเห็นอยู่นะ”
“งั้นก็คงทำได้ไม่ยาก เรามาฝึกกันดีกว่า ฉันขอหาสูตรมาก่อนนะ”
และแล้วพวกเธอก็เริ่มทำอาหารเมนูใหม่อีกครั้ง
เซย์จังยังพยายามเฝ้าดูฟูจิเสะอีกครั้งจากบริเวณใกล้เคียง แต่โทโจอินซังก็พูดขึ้นมาราวกับพึ่งคิดอะไรบางอย่างออก
“ชิมาดะซัง ห้องถัดไปน่าจะมีกล่องเบนโตะ เธอช่วยไปเอามันให้ฉันหน่อยได้ไหม? วันนี้เราจะทำกับข้าวสำหรับเบนโตะกัน ดังนั้นคงจะดีถ้าหากเรามีกล่องเบนโตะกัน”
“อืม เข้าใจแล้ว ออกจากห้องครัวแล้วไปห้องถัดไปใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว ห้องนั้นเหมือนเป็นห้องเตรียมของหน่ะ อ้อ ฮิซามูระคุงที่ดูว่างอยู่ตรงนั้นช่วยไปด้วยกันหน่อยได้ไหม? ของอาจถูกเก็บไว้ในที่สูง ใช้แรงผู้ชายช่วยคงจะดีกว่า”
ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปคนเดียวก็ได้มั้ง…ผมคิดแบบนั้นและกำลังจะพูดออกไป
แต่เมื่อมองหน้าของโทโจอินซัง ผมก็หยุดพูด
เธอมีสายตาที่เหมือนกับจะบอกอะไรบางอย่าง ขณะมองไปทางเซย์จังแวบหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเธอก็สังเกตเห็นความผิดปกติของเซย์จังเช่นกัน
ดังนั้นเธอคงอยากให้ผมและเซย์จังอยู่ด้วยกันสองต่อสองเพื่อให้ผมได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น…ผมเดาว่าเธอคงหมายความประมาณนี้
น่าแปลกจริงๆ ที่โทโจอินซังใส่ใจคนอื่นขนาดนี้
หรือว่าเพราะเป็นเซย์จัง คนที่เธอเคยแข่งด้วยในงานกีฬามาก่อน? เพราะเป็นคนที่เธอเคยแข่งด้วยอย่างจริงจัง เธอเลยสังเกตเห็นความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
“เข้าใจแล้ว งั้นเราไปกันเถอะเซย์จัง”
ผมใช้ประโยชน์จากความใจดีของโทโจอินซังออกจากห้องครัวไปกับเซย์จัง
เมื่อออกจากห้องทำอาหารแล้วเราก็เข้ามาในห้องข้างๆ
ห้องนี้เองก็ค่อนข้างใหญ่เหมือนกับห้องทำอาหาร แต่แตกต่างตรงที่มีของต่างๆ วางไว้มากมาย ทำให้รู้สึกไม่กว้างเหมือนห้องทำอาหาร
เนื่องจากเป็นห้องเตรียมของ จึงมีเครื่องมือทำอาหารต่างๆ วางเรียงรายอยู่ และยังมีอุปกรณ์ขนาดใหญ่วางอยู่ด้วย
อุปกรณ์เหล่านี้น่าจะถูกย้ายจากห้องทำอาหารมาไว้ที่นี่สำหรับการทำอาหารในครั้งนี้
โทโจอินซังบอกว่าในห้องนี้มีกล่องเบนโตะอยู่ แต่ว่า…มันอยู่ที่ไหนกันหล่ะ?
การค้นหากล่องเบนโตะในห้องกว้างๆ แบบนี้ ดูเหมือนจะเป็นงานที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว
“ต้องค้นหากล่องเบนโตะในห้องนี้เหรอ…อย่างน้อยโทโจอินซังก็น่าจะบอกเราหน่อยนะว่ามันวางไว้อยู่แถวไหน”
“นั่นสินะ การค้นหาในห้องนี้น่าจะยากพอสมควรเลย”
บางทีโทโจอินซังคงไม่ได้ตั้งใจให้เราค้นหามันจริงๆ?
แต่ก็นั่นแหละ เป้าหมายที่เรามาที่นี่นั้นจริงๆ คืออีกเรื่องต่างหาก
“เอาเถอะ ถ้าเราหากันไม่เจอไว้ค่อยถามโทโจอินซังเอาแล้วกัน…”
“เซย์จัง”
“หืม? อะไรเหรอ?”
“…เธอดูเหมือนจะซึมๆ อยู่นะ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“!”
จริงๆ แล้วผมอยากจะถามแบบดีๆ กว่านี้ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีเลยต้องถามไปตรงๆ แบบนี้
ให้ตายเถอะ ถ้าผมเป็นตัวเอกหน้าหล่อในมังงะคงทำได้ดีกว่านี้…ไม่สิ ยูอิจิคงทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก
“เฮ้อ ไม่ใช่แค่ชิโฮะที่สังเกตเห็น แม้แต่ฮิซา…สึคาสะก็สังเกตเห็นเหมือนกันเหรอ?”
เซย์จังพูดราวกับว่าเธอยอมแพ้และยิ้มออกมา
และเพราะว่าเราอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน เซย์จังเลยเปลี่ยนวิธีเรียกผมเป็น “สึคาสะ” ซึ่งทำให้ผมประหม่ามาก ขอเถอะช่วยหยุดที
“เพราะฉันได้ยินเซย์จังพูดว่า ‘ฉันทำอะไรที่ไร้ความหมายมาตลอด’ หน่ะ”
“อุ๊ววว นายได้ยินด้วยเหรอ?…น่าอายจัง”
“ฉันไม่คิดว่ามันไร้ความหมายหรอกนะ ฟูจิเสะเองก็คงคิดเหมือนกัน”
“…อ่า งั้นเหรอ”
อ่าาา ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่มั่นใจเท่าไหร่
เซย์จังเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ดังนั้นเธอคงต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการสอนทำอาหารให้กับฟูจิเสะ
นั่นคงเป็นสาเหตุที่เซย์จังรู้สึกหดหู่เพราะเธอคิดว่าสิ่งที่ตัวเองไปนั้นไร้ความหมาย
“แต่ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าแค่ให้ฟูจิเสะดูสูตรอาหารแล้วทำตามจะสามารถทำได้จริงๆ?”
“นั่นสิ ตอนที่ฉันสอนชิโฮะในตอนแรกๆ ฉันจำได้ว่าตัวเองก็คอยดูสูตรอาหารไปพร้อมกับเธอด้วย…แต่ก็ไม่แน่ว่าตอนนั้นอาจเป็นเพราะฉันอธิบายให้เธอฟังเร็วมากไปหล่ะมั้ง”
ดูเหมือนว่าเซย์จังเองก็เคยลองทำตามสูตรอาหารพร้อมกับฟูจิเสะด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ให้ความสำคัญกับมันเท่าไหร่
“เพราะในช่วงแรกๆ…ตอนที่เธอถือมีด ฉันนึกว่าเธอจะใช้มันฆ่าคนยังไงยังงั้นเลยแหละ ฉันต้องใช้เวลานานมากเลยเพื่อแก้วิธีการถือมีดของเธอ”
“อะ-อย่างนั้นเหรอ”
ถือมีดเหมือนจะฆ่าคน…มันเป็นยังไงกันแน่นะ?
วันนี้ตอนแรกเธอก็ถือมีดกลับด้าน แต่ยังมีวิธีการถือที่แย่กว่านั้นอีกเหรอ?
หรือว่าจะเป็นการถือมีด 2 เล่มในมือ 2 ข้างแล้วถืออีกเล่มด้วยปาก?
ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะกลายเป็นมังงะคนละเรื่องไปเลยนะ
“เพราะแบบนั้นฉันเลยไม่คิดว่าเธอจะทำอาหารได้จากการที่แค่ดูสูตรอาหารเท่านั้น…เห้อออ สิ่งที่ฉันทำมันไร้ความหมายจริงๆ…”
อ๋าาา…เซย์จังเริ่มรู้สึกแย่กับตัวเองอีกแล้ว
ตอนที่อยู่กับทุกคน เธอพยายามปกปิดความรู้สึกแย่ๆ ไว้ แต่ตอนนี้ที่เราอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน เธอจึงไม่ได้ซ่อนมันไว้เลย แถมยังดูหดหู่มากกว่าเดิมอีก
ถ้าเป็นในมังงะ ตอนนี้คงจะมีเสียงเอฟเฟกต์ “จ๋อยย~” อยู่เหนือหัวของเซย์จังแน่ๆ
การเห็นเซย์จังที่รู้สึกหดหู่แบบนี้เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นได้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมเห็นเธอเป็นแบบนี้
หากแฟนที่น่ารักของคุณกำลังรู้สึกหดหู่อยู่ สิ่งที่ควรทำก็คือพยายามทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นใช่ไหมหล่ะ?
“สิ่งที่เซย์จังทำไม่ใช่ว่าไร้ความหมายหรอกนะ ฟูจิเสะเองก็คงรู้สึกขอบคุณเซย์จังเหมือนกันแน่ๆ”
“ชิโฮะหน่ะใจดี เธออาจจะพูดขอบคุณก็ได้ แต่ที่จริงแล้วฉันไม่ได้สอนอะไรที่มีความหมายให้ชิโฮะเลย…ฉันไม่ได้แม้แต่บอกให้เธอดูสูตรอาหารอย่างที่สึคาสะพูดเลยด้วยซ้ำ”
“ไม่ ไม่ สิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นเลย”
“แบบนั้นก็หมายความว่าสิ่งที่ฉันทำมันไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าที่นายทำอีกหน่ะสิ”
อุ๊…เธอรู้สึกหดหู่ขึ้นมากกว่าเดิมเฉยเลย!
มันเหมือนกับว่าเธอกำลังประชดตัวเองหรืออาจจะงอนนิดๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยๆ เลย
แม้แต่ในมังงะต้นฉบับผมก็ไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้เลย
ความจริงที่ว่าผมคิดว่าเซย์จังในสภาพนี้น่ารักนั้นอาจเป็นจุดอ่อนของผมที่ตกหลุมรักเธอ
“อ๊ะ…ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่พูดประชดนายไป”
“ไม่เป็นไรหรอก”
เซย์จังดูเหมือนจะรู้ตัวว่าพูดจาไม่ดีออกมา เธอจึงก้มหน้าลงและขอโทษผม
ฉันไม่ได้นึกโกรธอะไรเลย กลับรู้สึกดีที่ได้เห็นเซย์จังในสภาพนี้เสียด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น บรรยากาศรอบตัวเซย์จังก็กลับมาหนักอึ้งอีกครั้ง
การที่เซย์จังรู้สึกแย่แบบนี้มันเป็นอะไรที่หายากมากๆ
ในเรื่องต้นฉบับก็แทบไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้เลย
ถ้ามีก็คง…เป็นตอนที่เธอสอนฟูจิเสะทำอาหารเท่าไหร่ก็ไม่พัฒนาฝีมือเลย
ตอนนั้นเธอก็รู้สึกหดหู่และพูดออกมาว่า “ฉันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ…” อะไรทำนองนั้นเหมือนกัน
ดูเหมือนว่าเซย์จังจะมีความตั้งใจจริงๆ ที่อยากจะช่วยเพื่อนสนิทอย่างฟูจิเสะ
แต่พอมาถึงจุดนี้ เธอกลับคิดว่าไม่เพียงแต่ตัวเองไม่ได้ช่วยอะไร ยังทำให้ฟูจิเสะเสียเวลาเปล่าอีกด้วย
เซย์จังที่อยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ดูเหมือนจะตกอยู่ในอารมณ์หดหู่หลังจากคำพูดของตัวเองเมื่อกี้นี้
…เพื่อให้เซย์จังรู้สึกดีขึ้น ผมต้องรวบรวมความกล้าแล้วทำบางอย่าง
แม้ว่าผมจะรู้สึกประหม่า แต่ผมก็ใช้มือขวาที่สั่นเล็กน้อยของตัวเอง…ค่อยๆ วางลงบนศีรษะของเซย์จังอย่างอ่อนโยน
“เอ๊ะ!”
“ฉันไม่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เซย์จังพูดเมื่อกี้นี้เลยนะ ฉันคิดว่าเซย์จังทำดีที่สุดแล้ว”
เซย์จังเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความประหลาดใจ
เพื่อซ่อนความเขินอายของตัวเอง ผมจึงพูดต่อในขณะที่ลูบผมของเซย์จังอย่างอ่อนโยน
“ถ้าเซย์จังไม่ได้สอนพื้นฐานการทำอาหารให้ฟูจิเสะล่ะก็ วันนี้คงจะมีปัญหาในการทำอาหารมากกว่านี้เยอะเลย และคงไม่สามารถทำตามสูตรได้ดีขนาดนี้แน่ๆ”
“มะ-ไม่ใช่แบบนั้นหรอก…”
“ที่ฟูจิเสะทำอาหารได้เป็นเพราะเซย์จังสอนพื้นฐานให้กับเธอนะ”
ผมลูบศีรษะของเซย์จังต่อไป พร้อมกับพูดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมา
ผมเคยทำแบบนี้กับริเอะน้องสาวของผม และดูเหมือนเธอจะมีความสุขกับมัน…คิดว่าแบบนั้นนะ
จากประสบการณ์ที่น้อยนิดของผม นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ผมคิดออกในการปลอบโยนเธอ
แต่ถึงจะบอกอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกประหม่ามากๆ อยู่ดีในตอนที่กำลังทำแบบนี้
ที่ผมจะสื่อคือผมของเซย์จังนุ่มและเรียบเนียนมาก…มันน่าทึ่งมากจนผมพูดอะไรไม่ออกเลย
เวลาที่ผมลูบหัวริเอะบางครั้งผมจะลูบค่อนข้างรุนแรง แต่กับเซย์จังในตอนนี้ ผมไม่กล้าทำแบบนั้นเลย
หลังจากที่เซย์จังเงยหน้ามองผมด้วยความประหลาดใจ เธอก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง
ผมสามารถมองเห็นด้านข้างของใบหน้าและหูของเธอได้ ซึ่งเห็นได้ว่าใบหน้าของเธอตอนนี้กำลังกลายเป็นสีแดงไปหมดแล้ว
…เดี๋ยวก่อนนะ หรือว่าเซย์จังอาจจะไม่ชอบการถูกลูบหัวรึเปล่า?
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบให้ลูบหัวกันหมดหรอกนะ
แถมผมเคยได้ยินว่าผู้หญิงให้ความสำคัญกับเส้นผมมาก และผมของเซย์จังนั้นน่าจะมีค่ามากกว่าชีวิตของผมเสียอีก
แล้วผมก็ไปแตะต้องมันโดยไม่ได้ขออนุญาต…!
“เอ่อ…ขอโทษนะเซย์จัง”
“เอ๊ะ…ห๊ะ…”
ผมรู้สึกหน้าชาขณะรีบยกมือออกจากศีรษะของเซย์จัง
“ขอโทษนะที่อยู่ๆ ก็แตะตัวเธอ แต่ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นี้ ฉันหมายความตามนั้นจริงๆ นะ”
“เอ๊ะ…อืม…ขอโทษนะ พอดีฉันตกใจนิดหน่อย เลยไม่ได้ฟังที่นายพูดเลยหน่ะ…”
“อ๊ะ เอ่อ…ที่ฉันจะบอกก็คือ เพราะเซย์จังสอนพื้นฐานการทำอาหารให้ฟูจิเสะ การที่เธอประสบความสำเร็จในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องเสียเปล่าหรอกนะ”
“อะ-อืม…ขอบคุณนะ”
“ดะ-ด้วยความยินดีครับ”
…แย่แล้วสิ บรรยากาศระหว่างเรากลายเป็นอึดอัดมากๆ เลย
การลูบหัวเซย์จังเป็นความผิดพลาดอย่างแรง
แถมเซย์จังก็ไม่ได้ฟังคำพูดของผมเลยเพราะเธอตกใจมาก
แต่ถึงอย่างนั้น เซย์จังก็ดูเหมือนจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว…หรือเปล่านะ?
เอาเถอะ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้รู้สึกหดหู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีล่ะมั้ง คงต้องคิดแบบนั้นแหละ
“งั้นเรา…มาหากล่องเบนโตะกันเถอะ”
“อะ-อ่า นั่นสินะ”
หลังจากนั้นผมกับเซย์จังเริ่มหากล่องเบนโตะพร้อมกับบรรยากาศที่ยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
-Facebook Fanpage-
Translarator
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต