Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 63
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงห้องครัวกัน
มันสะอาดและใหญ่มากจนผมคิดว่าเป็นครัวของร้านอาหารระดับไฮเอนด์
“เรามีเครื่องครัวทั้งหมดที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดและมีคุณภาพยอดเยี่ยม แต่เราก็มีเครื่องครัวธรรมดาแบบที่บ้านฟูจิเสะซังใช้ที่บ้านด้วยเหมือนกัน ดังนั้นวันนี้เราจะลองฝึกใช้เครื่องครัวแบบธรรมดากันดีกว่า”
“อะ-ค่ะ ขอบคุณนะ”
“ถึงแม้มันจะเป็นเกมการลงโทษสำหรับฉัน แต่ถ้าฉันลงมือทำแล้ส ฉันก็จะทำให้ดีที่สุด”
ดูเหมือนว่าโทโจอินซังจะเต็มใจสอนฟูจิเสะทำอาหารอย่างจริงจัง แม้ว่าฟูจิเสะจะเป็นคู่แข่งด้านความรัก แต่เธอก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์และใจดีมาก
“สมกับเป็นโทโจอินซังจริงๆ ใจดีเหมือนกับคุณพ่อเลย”
“…ชิมาดะซัง? หยุดพูดเรื่องนี้ได้ไหม?”
เซย์จังดูเหมือนจะยังไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในลิมูซีน เธอเลยยังคงพูดถึงเรื่องนี้อยู่
โทโจอินซังดูเหมือนจะชินกับการโดนล้อเรื่องนี้แล้วจึงไม่ได้หน้าแดงมากนัก แต่หูของเธอก็ยังคงแดงอยู่ดี
“เอ๋ ฉันยังอยากพูดอีกเยอะนะ… แต่เข้าใจแล้ว เพราะต้องสอนชิโฮะทำอาหาร ถ้าต้องแบ่งสมาธิไปทำอย่างอื่น มันอาจทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายได้”
“มะ-มันอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
ริเอะซึ่งไม่รู้ถึงทักษะการทำอาหารของฟูจิเสะถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“โม่ว! เซจังอย่าพูดให้ริเอะจังตกใจสิ! ไม่เป็นไรหรอกนะริเอะจัง ฉันไม่ทำอะไรที่อันตรายขนาดนั้นหรอกจ่ะ!”
“คะ-ค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ”
“ด้วยความยินดีจ่ะ! วันนี้ฉันเองก็ขอฝากตัวด้วยเช่นกันนะ!”
วันนี้ริเอะเองก็มาเพื่อช่วยสอนฟูจิเสะทำอาหารด้วย ถ้าเป็นริเอะที่ทำอาหารทุกวันน่าจะช่วยอะไรได้มากอยู่
ในขณะที่ริเอะยืมผ้ากันเปื้อนและพยายามสวมมันอยู่นั้นเอง
“ริเอะซังไม่ต้องใส่ผ้ากันเปื้อนก็ได้นะ”
“เอ๊ะ?”
โทโจอินซังที่กำลังสวมผ้ากันเปื้อนอยู่พูดขึ้นมา
“สำหรับฉัน การทำให้ฟูจิเสะซังพัฒนาฝีทำอาหารเป็นเรื่องง่ายมาก ผิดกับใครบางคนที่ทำไม่ได้หล่ะนะ”
โทโจอินซังหันไปมองเซย์จังด้วยสายตาแบบท้าทาย คงเพราะเธอถูกแกล้งไปเมื่อก่อนหน้านี้
“…อ๋องั้นเหรอ ขอให้โชคดีนะ”
“หือ…”
อย่างไรก็ตามเซย์จังไม่ได้สนใจคำยั่วยุนั้นเลยและยิ้มขึ้นมาแทน ซึ่งโทโจอินซังที่ไม่พอใจเพราะแผนการของเธอไม่สำเร็จก็ทำให้เธอพองแก้มขึ้นเล็กน้อย
“เพราะแบบนี้แหละริเอะซังช่วยรอดูไปก่อนนะ ถึงแม้ว่าฉันจะดีใจที่ได้เธอมาช่วย แต่บางทีเธออาจจะไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ…”
ริเอะวางผ้ากันเปื้อนไว้บนโต๊ะที่ว่างแล้วเดินมาหาผมกับเซย์จัง
เรา 3 คนจึงนั่งดูโทโจอินซังที่กำลังสอนฟูจิเสะทำอาหาร
เซย์จังก่อนหน้านี้มีสีหน้าเป็นผู้ใหญ่มากและมีรอยยิ้มที่สุขุม แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่อย่างที่เห็นแน่นอน
ดวงตาของเธอเหมือนมองไปที่ไหนสักแห่งไกลๆ โดยที่ไม่มีจุดโฟกัสและมีรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะยอมแพ้กับบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว
การที่เซย์จังยิ้มแบบนั้นแม้จะถูกยั่วยุนั้น…ฝีมือการทำอาหารของฟูจิเสะจะสิ้นหวังขนาดนั้นเลยจริงๆ เหรอ?
“งั้นฟูจิเสะซัง ฉันจะสอนอย่างละเอียดเลยนะ ไม่รู้หรอกนะว่าชิมาดะซังสอนเธอยังไง แต่การสอนของฉันนั้นไม่ง่ายแน่”
“คะ-ค่ะ ฝากตัวด้วยค่ะ! ควรเริ่มทำอะไรก่อนดีคะ!?”
ฟูจิเสะสวมผ้ากันเปื้อนและกำหมัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น
“ก่อนอื่นเลย…เธอใส่ผ้ากันเปื้อนผิดด้านอยู่นะ”
“เอ๊ะ? อ๊ะ…”
ใช่แล้ว ใครๆ ก็ดูออกว่าเธอใส่ผิด แต่ต้องทำยังไงถึงได้ใส่ผ้ากันเปื้อนกลับด้านได้หละหนี่ย?
ด้านหลังมันมีแต่เชือก แล้วทำไมเธอถึงใส่มันไว้ด้านหน้าหล่ะ?
“อะ-ฮะฮะ ขอโทษค่ะ ฉันทำแบบนี้ทุกครั้งเลย”
“อะ-อย่างนั้นเหรอ”
โทโจอินซังก็ดูจะไม่คาดคิดมาก่อนว่าฟูจิเสะจะเป็นขนาดนี้ ทำให้เธอดูตกใจมาก
…ช่างเป็นการเริ่มต้นที่น่ากังวลจริงๆ
หลังจากโทโจอินซังสอนฟูจิเสะทำอาหารไปได้ 30 นาที
“ขอโทษนะ ฉันไม่ไหวแล้ว”
คนที่ทนไม่ไหวก่อนกลับเป็นโทโจอินซัง
“เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอโทโจอินซัง?”
ฟูจิเสะที่กำลังใส่อาหารที่ไหม้ดำสนิทลงบนจานถามขึ้น
…น่ากลัวมาก
กะ-เกิดอะไรขึ้น? นี่มันปาฏิหาริย์หรือเปล่า?
ผมเห็นกับตาว่าโทโจอินซังสอนฟูจิเสะทำอาหารอย่างละเอียด
ตั้งแต่ตอนที่เธอสวมผ้ากันเปื้อนกลับด้านและถือมีดกลับด้าน
ผมไม่เคยเห็นใครที่ถือมีดกลับด้านมาก่อนเลย เธอนี่สุดยอดจริงๆ ในหลายๆ ความหมายหล่ะนะ
แต่ถึงจะผิดพลาดหลายครั้ง โทโจอินซังก็ค่อยๆ สอนแก้ไขไปทีละอย่าง
แต่สิ่งที่ได้กลับเป็น…สสารมืดที่มีควันสีดำพวยพุ่งออกมาเหมือนในการ์ตูน
ที่นี่คือโลกในมังงะ แต่ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นสสารมืดของจริงแบบนี้
“ทำไม…มันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้หล่ะ?”
“เอ๊ะ? อะไรเหรอ?”
ฟูจิเสะดูเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมโทโจอินซังถึงดูเหนื่อยและท้อแท้ขนาดนั้น
“ฉันว่าเราก็ทำแฮมเบิร์กธรรมดาๆ นะ… มันควรจะปกติก่อนที่จะปิดฝากระทะ แต่ทำไมตอนที่ฉันเปิดมันถึงมีสสารมืดปรากฏขึ้นหล่ะ แถมแม้แต่ของฉันเองก็ด้วย…”
เธอใช้กระทะ 2 ใบ ใบหนึ่งของโทโจอินซัง อีกใบของฟูจิเสะ แต่พอเปิดฝาดู กระทะทั้ง 2 ใบกลับเต็มไปด้วยสสารมืดแทน
มันเกินกว่าเวทมนตร์หรือมายากลแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วไม่มีทริคหรือกลไกใดๆ เลย
ทำไมการทำแฮมเบิร์กธรรมดาถึงกลายเป็นสสารมืดได้กันนะ?
“…ชิมาดะซัง ริเอะซัง ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
โทโจอินซังถอนคำกล่าวก่อนหน้านี้และขอความช่วยเหลือทันที
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มีหลายอย่างที่แม้แต่โทโจอินซังก็ทำไม่ได้อยู่
เซย์จังก็คงรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเลยไม่โต้ตอบคำยั่วยุของโทโจอินซังก่อนหน้านี้และยิ้มออกมาแบบนั้นแทน
“ถึงจะถูกขอให้ช่วยก็เถอะ…แต่หนูไม่รู้เลยค่ะว่าจะช่วยยังไงดี เพราะขนาดดูจากข้างนอกยังไม่เข้าใจเลยค่ะ”
ริเอะตอบพลางสวมผ้ากันเปื้อน
“ฉันก็เหมือนกัน บางทีชิโฮะอาจไม่เหมาะกับการทำอาหารก็ได้…”
“เออออ๋? มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันคิดว่าคราวนี้ทำได้ดีแล้วนะ…”
ฟูจิเสะถือสสารมืดด้วย 2 มือแล้วถอนหายใจ
ผมว่าแค่เธอคิดว่าตัวเองทำได้ดีก็อันตรายพอแล้วนะ
“ฉันขอลองชิมดูได้ไหม?”
“อย่าเลย เธอจะตายเอาได้นะ”
โทโจอินซังตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ใช่ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงหลังจากที่กินเจ้าสสารมืดนั่นไป
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟูจิเสะคิดจะกินมันได้ยังไงหลังจากเห็นสภาพของมันแล้ว
“แต่มันน่าเสียดายหน่ะสิ…อ๊ะ ฮิซามูระคุงอยากกินไหม?”
“ฮ่าฮ่า ถ้าฉันสิ้นหวังต่อโลกและอยากตายเมื่อไหร่จะลองดูแล้วกัน”
ตราบใดที่ผมยังคบกับเซย์จังอยู่ เวลานั้นจะไม่มีวันมาถึงแน่นอน
ฟูจิเสะยื่นจานของสสารมืดมาที่ผมทำให้ผมสงสัยขึ้นมาว่าทำไมมันถึงไม่มีกลิ่นเลยทั้งๆ ที่มีควันสีดำลอยขึ้นมารอบๆ ขนาดนี้
แค่ความจริงที่ว่ามันไม่มีกลิ่นก็น่ากลัวแล้ว
“ก่อนอื่นมีใครรู้บ้างว่าทำไมครั้งนี้ถึงล้มเหลว?”
“ชิโฮะซังทำผิดพลาดหลายอย่าง แต่หนูไม่คิดว่าจะผิดพลาดมากพอที่จะให้มันเลวร้ายขนาดนี้นะคะ…”
“ริเอะจัง มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“หนูไม่เคยเห็นอาหารแบบนั้นมาก่อนเลยค่ะ”
“เอ๊ะ? นี่ถือเป็นคำชมรึเปล่าจ๊ะ?”
“หนูไม่ได้ชมค่ะ!”
เธอคิดว่านั่นเป็นคำชมได้ยังไง?!
“บางทีมันอาจจะกลายเป็นแบบนั้นเพราะความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ…จนทำให้กลายเป็นแบบนี้ก็ได้นะ”
“หนูไม่คิดว่ามันจะแย่ขนาดนั้นถึงแม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นนะคะ ไม่มีอะไรที่ชิโฮะซังสามารถปรับปรุงได้หลังจากนั้น มาเริ่มต้นใหม่กันดีกว่าค่ะ”
“อืม ฉันจะทำให้ดีที่สุด!”
ฟูจิเสะกำหมัดด้วยแรงใจเต็มที่
“งั้นเรามาหั่นหัวหอมก่อนดีกว่…เดี๋ยวนะคะ ทำไมถึงถือมีดกลับด้านอีกแล้วหล่ะคะ?”
“อ๊ะ ฉันทำผิดอีกแล้วเหรอ?”
“……ใช่คะ”
สุดท้ายแล้วโทโจอินซังก็ยิ้มเหมือนคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน เหมือนที่เซย์จังยิ้มก่อนหน้านี้
ริเอะเองก็กำลังจะได้รับประสบการณ์เดียวกันเหมือนกัน ผมสงสัยจังว่าเธอจะยิ้มแบบนั้นด้วยหรือเปล่า
ผมน่าจะลองแนะนำอะไรพวกเธอซักหน่อยในการแก้ไขปัญหานี้นะ
“ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม? ทำไมไม่ลองจดขั้นตอนการทำอาหารที่เรากำลังจะทำลงบนกระดาษดูหล่ะ? นอกจากนี้ก็ให้จดสิ่งที่ฟูจิเสะได้รับคำเตือนและสิ่งที่ควรระวังลงในกระดาษไว้ด้วย”
“นั่นสินะ…ตอนแรกหนูคิดว่าไม่จำเป็นต้องจดเพราะมีคำแนะนำในการทำอาหารอยู่ในหัว แต่การเขียนให้ฟูจิเสะซังมองเห็นได้ชัดเจนน่าจะดีกว่าแน่นอนค่ะ”
“ใช่แล้ว คงจะดีกว่าถ้าฟูจิเสะได้เห็นสิ่งที่เธอต้องทำโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากเธอ”
“พอมาคิดดูแล้ว ตอนที่ฉันสอนเธอ ฉันก็แค่อธิบายขั้นตอนด้วยปากเปล่าเหมือนกัน ฉันว่าวิธีนี้น่าจะดีกว่านะ”
“แนะนำได้ดีเลยค่ะพี่”
“ถ้าพี่ช่วยได้ก็ดีแล้ว”
ชีวิตก่อนหน้านี้ผมเคยทำงานพาร์ทไทม์ในร้านคาเฟ่แหน่งหนึ่ง ดังนั้นผมเลยได้เรียนรู้วิธีทำอาหารในช่วงสั้นๆ
แน่นอนว่าตอนแรกผมก็ทำอาหารไม่เป็นเหมือนกับฟูจิเสะนั่นแหละ…ไม่สิ ผมไม่ได้อยู่ในระดับทำลายล้างสูงแบบฟุจิเสะ แต่ผมก็ยังทำพลาดอยู่บ้าง
จากประสบการณ์ของผม การมีกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีคำแนะนำและขั้นตอนที่ถูกต้องเขียนไว้นั้นสามารถช่วยได้เยอะเลยแหละ
มันยากนิดหน่อยเวลารับคำแนะนำด้วยคำพูดเพราะคุณต้องเข้าใจทุกอย่างในคราวเดียว แต่ถ้าคุณมีรายงานเกี่ยวกับขั้นตอน คุณจะเห็นได้ว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหนในการทำความเข้าใจ
โทโจอินซังเริ่มต้นด้วยการเขียนวิธีทำแฮมเบิร์กตั้งแต่เริ่มต้นลงบนกระดาษ
“ก็มีแค่นี้แหละ โอเคมาเริ่มกันใหม่ คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทำผิดพลาดอีก”
“ระ-รบกวนด้วยค่ะ!”
“เรามาทำให้ดีที่สุดกันเถอะริเอะ”
“ค่ะ เซย์ซัง”
และในครั้งนี้ด้วยเซฟที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเซย์จัง, ริเอะและโทโจอินซัง พวกเธอจะพยายามปรับปรุงการทำอาหารของฟูจิเสะ
…เซย์จังที่กำลังใส่ผ้ากันเปื้อนน่ารักจัง
-Facebook Fanpage-
Translarator
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต