[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ? - บทที่1.3 - ทำไมถึงเป็นสีแดงกุหลาบล่ะ
- Home
- All Mangas
- [LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?
- บทที่1.3 - ทำไมถึงเป็นสีแดงกุหลาบล่ะ
บทที่1.3 – ทำไมถึงเป็นสีแดงกุหลาบล่ะ?
[ โอเค ! เรียบร้อยแล้ว ]
ผมตั้งผ้าใบบนขาตั้งและเตรียมอุปกรณ์อื่นๆ แล้วก็เปลี่ยนมาใส่ชุดเอี๊ยมที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเลอะเทอะ
ที่นี่คือห้องศิลปะ และตอนนี้มีแค่ผมคนเดียว หลังเลิกเรียน ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่เพื่อวาดภาพ
ถึงโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดอิโตซุมิที่ผมเรียนอยู่จะไม่มีชมรมศิลปะ แต่โรงเรียนก็ให้ผมใช้ห้องนี้เป็นกรณีพิเศษ
ถ้าปีนี้ผมทำผลงานไม่ได้ ก็อาจจะเสียสิทธิ์ในการใช้ที่นี่ ถ้าเป็นแบบนั้น ก็คงช่วยไม่ได้
ในมุมหนึ่งของห้องศิลปะ มีถ้วยรางวัลตั้งแสดงอยู่ โดยมีคำว่า “รางวัลชนะเลิศ” สลักอยู่บนฐาน
ถ้วยรางวัลนี้ ผมได้มาตอนฤดูร้อนปีที่แล้ว ในการแข่งขันศิลปะแห่งชาติที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเฟ้นหา “ศิลปินมัธยมปลายที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น” ในหมวดจิตรกรรมสีน้ำมัน
เหตุผลที่ผมสามารถใช้ห้องศิลปะนี้ได้ก็เป็นเพราะความสำเร็จนี้เป็นหลัก
พูดตามตรง ยังคงแปลกใจที่ได้รางวัลนี้ตั้งแต่ปีหนึ่ง คงเป็นโชคซะมากกว่า
[ ..ภาพสำหรับงานแข่งเหรอ? ]
ผมบ่นกับตัวเองพร้อมเกาหัว
ตอนนี้เป็นกลางเดือนมิถุนายน กำหนดส่งผลงานเข้าแข่งขันคือช่วงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งผมควรจะเริ่มวาดแล้ว
ผมรู้อยู่ แต่…เฮ้อ…
ภาพที่ผมกำลังวาดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ภาพสำหรับการแข่งขัน มันเป็นอีกภาพหนึ่งที่รู้สึกว่าต้องทำให้เสร็จก่อน ไม่ว่ายังไงก็ตาม
[ …ใช่สิ….ไม่ดีกว่า ]
ผมตัดสินใจทำงานที่กำลังวาดอยู่ตอนนี้ให้เสร็จก่อน ภาพสำหรับการแข่งขันเอาไว้ทีหลัง ไม่ว่าจะคิดมากแค่ไหน คำตอบก็เหมือนเดิมเสมอ
หลังจากตบแก้มเบาๆ ด้วยสองมือ ผมก็จับพู่กันและยกพาเลตขึ้นมา
[…]
พอผมเริ่มวาดภาพความรู้สึกถึงเวลาของผมก็หายไป
[ อืม…และ… ]
เมื่อสติของผมกลับมาจากโลกของภาพวาดสู่ความเป็นจริง ผมก็ยืดตัวออก
── ว้าว ทำไปได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย
เมื่อดูนาฬิกาบนผนัง เวลาผ่านไปประมาณสองชั่วโมง ภาพวาดใกล้จะเสร็จแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี
[ อืม…เอ๋? อ๊ะ แย่ล่ะ! ]
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินและพอใจกับภาพ ผมก็สังเกตได้ถึงเสียงจากนอกหน้าต่าง
ผมรีบไปที่หน้าต่างและเช็คดูข้างนอก ตามที่คิดไว้ ฝนกำลังตกอยู่
ผมเปิดหน้าต่างและยื่นมือออกไป ฝนไม่ได้หนักมาก ตรงสนามฝั่งตรงข้าม ทีมเบสบอลยังคงฝึกซ้อมอยู่เหมือนกับจะบอกว่า “นี่ไม่ถือว่าฝนตกด้วยซ้ำ”
แต่ฝนก็คือฝน… ไม่ได้เอาร่มมาด้วยสิ !
ต้องเดินกลับบ้านจากที่นี่ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที ต่อให้เป็นแค่ละออง ก็เปียกโชกก่อนถึงบ้านแน่ๆ
ถึงภาพที่วาดจะดีมาก แต่สถานการณ์นี้ไม่ดีเลย
[ อา…แย่จัง ]
ผมไม่ค่อยมั่นใจในสภาพร่างกายตัวเอง ถ้าเปียกฝนระหว่างทางกลับบ้านอาจทำให้สุขภาพแย่ลงได้ง่ายๆเลย
มันจะรบกวนการวาดภาพของผม
พ่อแม่ของผมเสียไปหลายปีแล้ว ปู่ย่าตายายก็อยู่ไกลออกไป ผมอยู่คนเดียว ไม่มีสมาชิกครอบครัวที่มารับผมได้
[ …ทำไงดี? ]
ยังไงก็เถอะ ในสถานการณ์นี้ ตัวเลือกเดียวของผมอาจจะต้องวิ่งฝ่าฝนก่อนที่ฝนจะหนักขึ้น
แต่พอกำลังจะยอมรับชะตากรรมนั้น…
[ คูยะ อยู่มั้ย~!? ขอเข้าไปได้มั้ย~!? ]
เสียงเคาะ ก๊อกๆๆ! กับ เสียงที่ร่าเริง ก็ลอยมา
[ หือ? อ่า ฉันอยู่ เข้ามาได้เลย ]
[ อ๊ะ ดีจังที่ยังอยู่! ขอโทษที่รบกวนนะ! ]
คนที่เปิดประตูเข้ามาคือนักเรียนหญิงคนหนึ่ง
ดวงตาที่เบิกกว้างของเธอเต็มไปด้วยพลังงาน และผมสีสว่างของเธอก็ยิ่งขับให้ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
แม้จะตัวเล็ก แต่รูปร่างของเธอก็มีส่วนโค้งเว้าที่เหมาะสมเปล่งประกายเสน่ห์แลดูสุขภาพดี
แต่สิ่งที่ทำให้ผมจับตามองมากที่สุดคือท่าทางที่เหยียดตรงและเรียบร้อยเสมอของเธอ มันเผยให้เห็นถึงการเลี้ยงดูที่ดีและความละเอียดอ่อนที่ไม่อาจซ่อนอยู่ภายใต้ความร่าเริงของเธอ
เมื่อเห็นสิ่งที่เธอถืออยู่ในมือ ผมก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
[ …อ๊ะ นั่น ]
[ ใช่! ดีใจจังที่คูยะยังไม่กลับ ฉันมาทันเวลาสินะ! ]
เด็กสาวพูดพร้อมกับยกมือที่เธอถือร่มอยู่ขึ้น
[ กลับบ้านด้วยกันเถอะ! ร่มนี้ใหญ่พอสำหรับเราสองคนนะ! ]
รอยยิ้มเจิดจรัสปรากฏขึ้นบนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่สามารถเห็นได้ชัดจากระยะร้อยเมตร แม้จะฝนตกและท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่น่าแปลกที่รอบตัวเธอกลับดูสว่างไสว
[ ช่วยได้เยอะเลย! ขอบคุณนะ ซุยกะ! ]
ซุยกะ อาโดะ
เธอเป็นนักเรียนปีหนึ่ง รุ่นน้องของผมหนึ่งปี และเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผม
[ ขอโทษที่ต้องให้นายถือร่ม…]
[ ให้ฉันถือเถอะ ฉันตัวสูงกว่าเธอนะ ]
เราสวมรองเท้าที่ทางเข้าและเดินไปภายใต้ร่มหนึ่งคันผ่านลานโรงเรียนที่ฝนตก โรงเรียนมีพื้นที่กว้าง เพราะงั้นประตูโรงเรียนจึงอยู่ค่อนข้างไกล
[ เธอทำอะไรอยู่จนถึงตอนนี้เหรอ ซุยกะ ]
[ ฉันกำลังอธิบายควิซให้เพื่อนในห้อง แล้วก็ไปช่วยทีมบาสเกตบอลหญิง แล้วก็มีงานสภานักเรียนด้วยนิดหน่อย ]
[ เหมือนเดิมเลยนะ ถูกดึงไปทุกที่เลย ได้กลับบ้านพร้อมกับคนที่ฮ๊อตนี้ รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรเลย โชคดีขนาดไหนกันนะ? ]
[ นายไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก! ]
[ ฉันคิดอยู่นะ , รู้สึกขอบคุณเธอมากเลย ! ]
[ อ๊า อะ อ๊า–วะ ว๊าาา-! หยุดเลยนะ คูยะ! ]
ผมเอามือวางบนหัวเธอและยีผมนุ่มๆของเธอเบาๆ แล้วเธอก็ทำหน้าบึ้งและจ้องผม
[ พอได้แล้ว ! ]
สีหน้าของซุยกะชัดเจนและน่ารักเสมอเลย
[ เป็นที่นิยมจริงๆสินะ แม่คนดัง ]
[ นั่นไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไรเลย….]
ถึงเธอจะถ่อมตัว แต่ซุยกะก็เป็นที่รู้จักกันดีในโรงเรียน แม้จะเพิ่งอยู่ปีหนึ่งก็ตาม เธอเป็นที่รักและชื่นชมของทุกคน
ถึงผมจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
ร่าเริงและสดใส เป็นคนขยันที่จริงจัง และยังเป็นนักเรียนอันดับต้นๆ ของทุกวิชา นอกจากนี้เธอยังเก่งกีฬาทุกประเภทที่เล่น
ชมรมกีฬาต่างๆ เลยเรียกร้องให้ไปช่วยเพราะความสามารถด้านกีฬาของเธอ
ทักษะการสื่อสารของเธอโดดเด่น ทำให้เธอเป็นเพื่อนกับทุกคนในทุกระดับชั้นเป็นที่รักและได้รับการยอมรับ เธอยังถูกชวนเข้าคณะกรรมการสภานักเรียนตั้งแต่เข้าเรียนใหม่ๆ
พอมาคิดๆ ดูแล้ว ก็น่าประทับใจทีเดียว
นั่นคือเด็กสาวที่ชื่อ อาโดะ ซุยกะ