Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 251
LSG บทที่ :251 สี่ราชันสวรรค์
“ใครกัน?!”
“ข้าคือสามีของนาง!”
เสียงที่เปล่งออกมาชัดเจนออกมาจากข้างนอกกำแพงที่แตกหัก
ราชันปักษา มองไปเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำ มีฝักกระบี่และกระบี่สีแดงด้านหลังของเขา
เขาเงยหน้าขึ้นและใต้ผ้าคลุมนั้นทั้งซีดและสลัว ภายในหมอกควันราชันปักษา สามารถมองเห็นภาพที่น่าสยดสยองและด้วยเหตุผลบางอย่าง ที่มองไปดวงตาราวกับกระดูกเขาสั่นเพราะกลิ่นอายที่น่าขนลุก
เจตจำนงชั่วร้าย !!
ใบหน้าของราชันปักษาเีิ่มมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา
“ใคร ??”
หูเชี่ยนเหม่ย ตกใจขณะที่นางหันหน้าไปมอง
นางมองผู้ชายคนนั้นเดินมาก่อนจะรู้สึกว่าเขาหยุดอยู่ตรงหน้านาง
“คุณหนูคนผู้นี้เป็นใคร ทำไมเขาถึงมาช่วยเรา?”
หยิงหยิง ถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ข้าก็ไม่รู้!”
“ข้าเห็นหน้าเขาไม่ชัด ข้าไม่รุ้ว่าเขาเป็นใคร พวกเราต้องระวัง “
“แล้วทำไมเขาบอกว่าเขาเป็นสามีท่าน?”
“คนแอบชอบข้าหรือ!” Hหูเชี่ยนเหม่ย เกิดความสงสัยขึ้นภายในใจ
หรือว่าจะเป็นเขา?
มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงตอนนี้เขาหายตัวไป เป็นตายร้ายดียังไงก็ยังไม่รู้ แต่เขาจะปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร? แถมพลังบ่มเพาะยังอ่อนแอ แล้วเขาจะช่วยเราได้ยังไง? เขาอยากตายอย่างงั้นหรือ?
ราชันปักษา สงบสติอารมณ์เพื่อเอ่ยถาม “ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร ที่นี่คือสำนักวิชาหมิงหยิง และนางก็เป็นคนของสำนักเรา! ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่ามาแส่ดีกว่า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าสำนักของเราไม่เตือน! “
“ยอดเยี่ยม!!” “แล้วหากข้าไม่สนสำนักของเจ้าล่ะ จะทำไม!”
แล้วเขาก็ยื่นมือขวาออกมาทันที
ชิ้ง!!!
กระบี่สีดำพุ่งเข้าไปหาราชันปักษาทันที
ราชันปักษาคิดว่า เขาเคยเห็นท่าร่างแปลกๆแบบนี้ที่ไหนมาก่อน? เขารีบถอยหลังและกล่าวว่า “เจ้ามาจาก สำนักกระบี่เซียนรึ?”
แแต่ทว่าชายคนนั้นไม่ได้ปริปากแม้แต่คำเดียว เขาควบคุมกระบี่สีดำราวกับว่ามันมีชีวิต ปราณกระบี่ที่แผ่ออกมาเริ่มรุนแรงขึ้นด้วยความกราดเกรี้ยวของคลื่นพลัง พุ่งเข้าเฉือนร่างของราชันปักษา จนทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว มันเป็นภาพที่สยดสยองมาก
“อ้าาา”
ราชันปักษา คว้าสมบัติออกมา แต่ทว่า สมบัติที่อ่อนแอนั้นไม่สามารถต้านทานกระบี่สีดำได้เลย มันสลายกลายเป็นผงทันที”
ชีวิตของราชันปักษา กำลังอยู่ในอันตราย!
ชิ้ง!!!
จากนั้นกระบี่ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบ เปลี่ยนเป็นฟันตามขวาง
ราชันปัหษา ไม่สามารถติดตามท่วงท่าของกระบี่ได้เลย
ฉึก!!
แขนของเขาถูกฟันออกจากร่างร่างทั้งร่างถูกเฉือนเลือดกระฉูดราวกับน้ำพุ สายตาของเขาดูน่าสังเวช
“อ้ากกกกก !!!!
เขาปล่อยเสียงร้องน่าเวทนาขนหัวลุกชูชัน
ฟู่ๆๆๆ!
กระบี่สีดำบินกลับมา ชายคนนั้นยื่นแขนออกไปคว้ากระบี่แล้วสลัดเลือดออกเก็บกระบี่ไว้ที่หลัง แล้วเดินไปหาราชันปักษาที่กำลังนอนหายใจโรยรินบนพื้น
ดูเหมือนว่าเขาวางแผนที่จะกำจัดและทำลาย ราชันปัหษา ทันที!
โหดเหี้ยมเด็ดขาด!
หูเชี่ยนเหม่ย รู้สึกทึ่ง
เขาเป็นใคร เขาไม่กลัวการเป็นปรปักกับสำนักวิชาหมิงหยิงเลยหรือ?
ชายหนุ่มของเรางั้นหรอ? เรามีผู้ชายของเราตั้งแต่เมื่อไหร่? เรามีผู้ชายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หูเชี่ยนเหม่ย งงมาก
“อย่าฆ่าข้าเลย !! หากเจ้าฆ่าข้า รับรองได้เลยว่าสำนีกวิชาหมิงหยิงจะต้องแก้แค้นเจ้าให้กับข้า !! “
ราชันปักษาพยายามคว้าแขนที่บาดเจ็บกระกระเสือกกระสนหนี
“สำนักวิชาหมิงหยิง?”
ชายหนุ่มเอนหัวทำท่าทางคิดแล้วก้มมองราชันปักษาด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว “ข้ากลัวเหลือเกิน!”
เมื่อเขาพูดจบความหนาวสั่นสะท้านก็ปกคลุมราชันปักษา กระบี่ปีศาจถูกฟันลงมา!
“ขอแขนเจ้าละกันน่ะ !!”
ในช่วงเวลาของความเป็นและความตายแสงรัศมีของพลังอำนาจพุ่งเข้ามา
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นรีบสกัดกั้นทันที
ปัง!
แสงรัศมีอันทรงพลังจากหลายๆคน คนผู้เดียวจะต้านทานได้อย่างไร? ชายหนุ่มถูกผลักถอยหลังกลับไป
ราชันปักษา เงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าที่มีความสุข เมื่อเห็นกลุ่มคนของสำนักหมิงหยิง
ชายที่นำกลุ่มมานั้นคือ สามราชันสวรรค์ของสำนัก ราชันราชสีห์อาจหาญ ราชันวาฬยักษ์ ราชันตะขาบพิษ
ราชันราชสีห์อาจหาญ เกิดมาพร้อมกับท่าทางเหมือนเสือร่างหายแข็งแกร่ง มีหนวดเครายุ่งเหยิงและกลิ่นอายองอาจ ราชันวาฬยักษ์มีร่างกายใหญ่โตแต่ไม่มีกล้ามเนื้อเหมือนราชันราชสีห์ เขาดูอ้วนมาก ส่วนราชันตะขาบพิษนั้นเป็นอิสตรีที่เกิดมาพร้อมกับเสน่ห์ แต่เมื่อโตขึ้นเสน่ห์ที่เหลือของนางก็ไม่มากนัก
ทั้งสามวิ่งไปหาราชันปักษาส่วนสาวกที่เหลือวิ่งไปล้อมหูเชี่ยนเหม่ยกับชายชุดดำพร้อมกับชักอาวุธ
“เจ้าคือจอมยุทธที่มาช่วยหูเชี่ยนเหม่ยใช่มั้ย?”
ราชันราชสีห์ถามขึ้น
“เจ้ากล้ามาก ที่เข้ามาสร้างความวุ่นวาย
“ผู้พทักษ์หู ข้าขอแนะนำท่านว่า ท่านตามเรากลับไปดีกว่า หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่มันจะไม่ดีน ฮ่าๆๆ!”
“แล้วแก! คุกเข่าลงซ่ะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เตือน “
ในเรื่องของจำนวนคนก็เดาได้ว่าใครได้เปรียบ
แต่ผู้ชายคนนี้ไม่กลัว
“โอ้ว?”
“ถ้าพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าทำได้ก้ลองดู!”
“สามหาว!”
ราชันราชสีห์อาจหาญ โมโหมากคว้าค้อนคู่ของเขาพุ่งเข้าหา ชายคนนั้นทันที
ภาพร่างสิงตโตคำรามประทับร่างของราชสีห์อาจหาญ ทำให้พลังลึกลับของเขาแผ่ออกมาหลายเท่าราวกับคลื่นยักษ์
แต่ว่าชายคนนั้นไม่ขยับแม้แต่นิ้วนิวรอการโจมตีของราชันราชสีห์
เมื่อค้อนไกล้เข้าถึงตัว ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาแสงสีเทาสว่างวาบขึ้นมาในดวงตาของเขาทำให้ผิวของราชันราชสีห์กลายเป็นหินทันทีการเคลื่อนไหวของเขาแข็งทื่อทันที
“แย่แล้ว!” ราชันราชสีห์ หัวใจเต้นระรัวเมื่อเห็นกระบี่สีดำตวัดเข้ามาดั่งอสรพิษเขารู้ได้ทันทีว่าชายผู้นี้โหดเหี้ยมไร้ความปรารีจริงๆ
เขารีบใช้ค้อนของเขาปัดการโจมตีที่เข้ามา
แต่แล้วเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความร้อนอีกอันหนึ่งถาโถมเข้ามา
“หืม!!!!
ราชันราชสีห์ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทัน หัวไหล่ของเขาถูกแสงไฟโจมตีเข้าเต็มๆ!
ฉึก!!
กระบี่ปักลงไปลึกกว่าสามนิ้วทำให้ร่างของเขาชโลมไปด้วยเลือด
ตูม!!
จากนั้นพวกเขาก็เห็นชายคนนั้นกระโดดขึ้นมาเตะที่หน้าอกของราชันราชสีห์จนกระเด็นไปทันที
ราชันราชสีห์พ่ายแพ้ภายในเสี้ยววินาที! ทุกๆคนที่ดูต่างมึนงงไปตามๆกัน
เขาเป็นใคร? พลังบ่มเพาะของเขาขั้นไหน? แล้วเขาเป็นผู้เชี่ยวชายกระบี่คู่หรอ?
“ไม่ใช่เล่นๆแล้ว!”
ราชันตะขาบพิษ ใจเต้นระรัวเอ่ยขึ้น
“ใช่ไม่ธรรมดาเลย ไม่อย่างนั้นข้าไม่เป็นแบบนี้หรอก” ราชันปักษา พูดด้วยใบหน้าซีดเซียว
“เขาโหดเหี้ยมมาก? แต่ไม่ต้องกลัว ที่นี่เป็นเขตสำนักวิชาหมิงหยิง คนเพียงคนเดียวพวกเราจัดการได้! “ ราชันวาฬยักษ์พูดแบบไม่คิด
“พวกเราหรอ?” “ทำอย่างนั้น หูเชี่ยนเหม่ย จะต้องอาศัยจังหวะนี้หนีนะสิ หากเป็นอย่างนั้น มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกเราต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ด้วย ทางที่ดีเราคิดหาทางให้ดีจะดีกว่า “
“แล้วตอนนี้เจ้าจะทำยังไง?”
“พวกเราลองคุยกับเขาดูก่อน”
“คุยหรอ? เขาจะฟังเราหรอ? “
“ปล่อยข้าจัดการเอง!”
ราชันตะขาบพิษ ตะโกนออกมาแล้วเดินไปหา ซูหยุน
“ท่านผู้เชี่ยวชาญ รู้มั้ยว่าที่นี่ที่ไหน?”
“รู้สิ แต่ข้าก็ต้องการพานางออกไป!” ซูหยุน ชี้หูเชี่ยนเหม่ย
“ท่านพานางไปไม่ได้ได้!”
“ทำไม?”
ราชันตะขาบพิษ หยิบกระบอกยาวออกมาจากแหวนเก็บของ “หากว่าท่านมีพลังระดับดาราวิญญาร ท่านก็ออกไปได้? พวกเราจะไม่หยุดท่านเพราะพวกเราคงไม่มีความสามารถ แต่หากว่าไม่ แล้วพวกเราส่งสัญญาณนี้ออกไป! ท่านประมุข และท่านผู้พิทักษ์หลิวซินตง แล้วผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆจะตามล่าท่านแม้ว่าตอนนี้ท่านคิดอยากจะหนีก็ออกไปไม่ได้! ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถพานางไปได้ “
ซูหยุน เงียบ
นั่นคือความจริง เขารีบมาและไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ที่เขามาหาหูเชี่ยนเหม่ย เพียงเพื่ออยากถามว่านางอยากจะแต่งงานกับหลิวซินตงหรือไม่ หากนางชอบเขาจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่สนใจ แต่ถ้านางไม่เต็มใจเขาก็จะพานางไป
ซูหยุน เห็นนางทั้งสองคนพยายามหนี แต่สถานการณ์ก็ดูไม่ง่ายเท่าไหร่
ความลับระหว่าง หูเชี่ยนเหม่ย กับเขาเป็นเรื่องส่วนตัวและทั้งสองไม่หวังให้ใครรู้
“นางพูดถูกแล้ว”
หูเชี่ยนเหม่ยพูดออกมา
ซูหยุนตะลึงและหันมามองนาง
ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของหูเชี่ยนเหม่ย ดูเหมือนว่านางจะไม่ดูอาการไม่ดีเท่าไหร่นางหัวเราะส่ายหัว”ทีแรกพวกเราก็ไม่ได้หวังว่าจะหนีได้ แต่หากว่าแผนของเราไปได้ด้วยดีและออกจากพื้นที่นี้พวกเราก็สามารถหนีได้ แต่ถ้าเราติดอยู่ที่นี่แล้วพวกเราจะหนีไม่พ้นหลิวซินตงกับคนของเขาได้ เจ้าควรไปซ่ะ อย่าสู้กับพวกเขาเพราะข้า ไม่อย่างนั้นเจ้าจะมีแต่เสีย “
“อย่างนั้นหรือ?”
ซูหยุน เดินไปหาหูเชี่ยนเหม่ย
เขาก้มลงไปหานางใบหน้าซีดๆปรากฏต่อสายตาของนางทันที
ในช่วงเวลาสั้น ๆ หูเชี่ยนเหม่ย ตกตะลึง
“ซะ..ซู..ซูหยุน? เป็นเจ้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าจริงๆหรอ? “ หหูเชี่ยนเหม่ย แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“นี่ข้าเอง! ซูหยุนพูดเบา ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน หูเชี่ยนเหม่ย และเริ่มมีอาการทับซ้อนในสายตาของนาง
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนเดียวที่คิดจะสนข้าและอยู่เคียงข้างข้าจะเป็นเจ้า”
………
“ดี งั้นเจ้าไปซ่ะ! ไม่ต้องห่วงข้า ข้ารู้บางทีเจ้าอาจกังวลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าและจะมีผลต่อการบ่มพลังของเจ้า แต่เจ้าไม่ต้องห่วงข้าก็แค่แต่งงานกับบางคนเท่านั้นไม่ส่งผลต่อเจ้าแน่นนอน! “
“แล้วเจ้ายินดีแต่งงานกับหลิวซินตงมั้ย?”
“ยินดี? ข้าจะไปยอมได้ยังไง? “
“งั้นข้าจะพาเจ้าไป”
“เจ้าทำไม่ได้หรอก” หูเชี่ยนเหม่ย ส่ายหัว “เจ้ารีบไปซ่ะ หากพวกเขาหมดความอดทนพวกเขาจะไม่สนใจทุกอย่าง หากเรื่องมันลุกลามไปมากกว่านี้ ข้ากลัวว่าเจ้าจะได้รับอันตราย “
“เจ้าจะไม่ไปงั้นหรอ?”
“ถ้าข้าไปได้ทำไมข้าจะไม่ไป?”
“ดี ข้าจะมารับเจ้าในอีกสองวัน”
“สองวัน?”
หูเชี่ยนเหม่ย มองซูหยุนอย่างงงๆ
แล้วนางก็หันไปมองราชันตะขาบพิษ
“งานแต่งงานของผู้พิทักษ์สำนักวิชาหมิงหยิงจะมีขึ้นในอีกสองวันใช่หรือเปล่า?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”
“ข้าจะพาคนมาร่วมงานเลี้ยง”
ซูหยุน เก็บกระบี่
“ร่วมงานเลี้ยง?” ราชันตะขาบพิษมวดคิ้ว
“เฮ้ๆ เจ้าหนู เจ้าอย่าตีตัวเองสูงไป แม้ว่าพวกเราจะมองไม่เห็นพลังบ่มเพาะของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ได้มีพลังระดับดาราวิญญาณ เจ้าจะกล้ามาป่วนงานแต่งงานงั้นหรือ? “รนหาที่ตาย !!”
ราชันวาฬยักษ์ กล่าวว่าอย่างเหยียดหยาม
ถึงเขาจะพูดอย่างนั้น แต่ราชันตะขาบยักษ์ยังดูกังวลอยู่