Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 247
LSG บทที่ :247 ผู้พิทักษ์ซ้ายขวา
ในวังมาร มีชาวมานั่งอยู่อย่างลนลาน หนึ่งในนั้นสวมชุดเกราะพร้อมกับดาบยักษ์ด้านหลังส่วนอีกคนถือไม้เท้า
ทั้งสองคนมีพลังระดับดงจิตวิญญาณขั้นที่เก้า ในเมืองมารเขาทั้งสองนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญยุทธ
ท่านราชันมาถึงแล้ว!
เสียงตะโกนดังออกมาพร้อมกับ ซูหยุน
ซูหยุน หลายวันมานี้ได้จัดการกับเรื่องของวังมารมามากมาย ทั้งทรัพย์สินและมรดกของราชันคนก่อน ซูหยุน ได้รับสืบทอดทุกอย่างทั้งหมด ในแหวนเก็บของตอนนี้อัดแน่นไปหมดล่าสุดเขาเพิ่งเพิ่มอีกหกสมบัติเข้าไป มันมีส่วนผสมของทุกอย่างทุกประเภท ในบรรดาสมบัติเหล่านั้นมันทำให้ ซูหยุน ตื่นเต้น สมบัติของราชันคนก่อนได้ถูกทำลายด้วยการปิดผนึกมันไร้ประโยชน์ต่อ ซูหยุน พูดได้ว่าน่าเสียดาย
หลังจากนั้นเขาต้องรับมือกับทาสสาวที่ราชันคนก่อนได้ข่มเหงไว้ ซูหยุน ไม่สนใจกับสาวงามพวกนี้ หากว่าเขาต้องการเขาจะเลือก เฉินอี้หยิน ดีกว่า อย่างน้อยนางก็หน้าตาคล้ายกับชาวทวีปนภายุทธ แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่ทุกคนคอยเอาใจเขาในเรื่องนี้
แต่ ซูหยุน ก็ไม่สนใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร ซูหยุน ก็ไม่กล้าตัดสินใจบุ่มบ่าม เพราะเขาเป็นมนุษย์และไม่ใช่คนชาวมาร หากว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผย มันจะยุ่งยากมาก
ซูหยุน เลือกคนที่คอยคุ้มกันบางส่วนเท่านั้น ส่วนมากเขาจะจัดกองทัพและซื้อม้า เขาเลือคนที่จะหาสิ่งของเพื่อมาบ่มพลังเท่านั้น
“พวกเราคาราวะท่านราชัน!”
ผู้เชี่ยวชาญสองคนรีบมาคาราวะต่อหน้า ซูหยุน
“ดวงจิตวิญญาณขั้นที่เก้า อืมมมม?”
ซูหยุน ปิดเนตรเกล็ดสวรรค์
เขาไม่คิดเลยว่าสองคนนี้จะค้นหา ดอกม่วงเจ็ดกลีบ และ โลหิตแดงเผาผลาญ เว้นแต่พวกเขาอยากจะเป็นคนไกล้ชิด
แต่มันไม่สำคัญ เขาได้สิ่งที่เขาต้องการ เขากำลังจะออกจากอณาจักรมาร
พวกเจ้าทั้งสอง ได้พบ โลหิตแดงเผาผลาญกับดอกม่วงเจ็ดกลีบ อย่างนั้นหรือ?
“ข้าน้อยกวงหยูเสวีย ข้าได้พบ ดอกม่วงเจ็ดกลีบ”
“ข้าน้อยชื่อ หวงตงจาง ได้นำโลหิตเผาผลาญ มามอบให้กับนายท่าน”
“ดูเหมือนพวกท่านจะรู้จักกันดีนี่?”
“พวกเราเป็นพี่น้องกัน เราได้ปรึกษากันแล้วหวังว่าท่านราชันจะเมตรตา และเราหวังจะสู้กับราชันมารและได้ความก้าวหน้ามากขึ้น! และมีชื่อเสียง! “
“ข่าวเรื่องที่ท่านสังหารราชันคนก่อนได้แพร่กระจายไปแล้ว ท่านมีชื่อเสียงมากและข้าน้อยชื่นชมท่าน ข้าน้อยจะติดตามท่านและมอบสมบัตินี้เป็นเครื่องบรรณากาาร!
“ดี! เยี่ยม!ดีมาก เนื่องจากเจ้าทั้งสองได้นำสิ่งที่ข้าต้องการมาให้ก่อน ข้าขอประกาสว่า กวงหยูเสวียเป็นผู้พิทักษ์เมืองราชันมารซ้ายและเจ้าหวงตงจางเป็นผู้พิทักษ์เมืองมารขวา เจ้าทั้งสองจะช่วยข้าปหครองเมืองมารนี้ เข้าใจมั้ย? “
“ขอบพระคุฯท่านราชัน!”
“นับจากนี้ข้าจะให้คนไปจัดที่พักภายในวังให้กับเจ้าพร้อมคนรับใช้ จากนั้นข้าจะมอบสมบัติให้พวกเจ้าสองสามอย่าง ตอนนี้พวกเจ้าไปพักได้ หากมีอะไรข้าจะส่งคนไปแจ้ง “
“ขอบพระคุณท่านราชัน ข้าน้อยขอตัวลา!”
ซูหยุน รีบเก็บของทั้งสองแล้วรีบกลับไปบ่มพลัง
ตอนที่เขาบ่มพลังเขาถูกขัดจังหวะ เขาปิดประตุเอาของทุกอย่างออกมา
ธาตุเหล็กอาคม’, ‘ดอกม่วงเจ็ดกลีบ’, ‘หัวใจกระจก’, ‘โลหิตแดงเผาผลาญ’ และ ‘ศิลาระทม
“ทุกอย่างอยู่ที่นี่! ข้าจะกลับทวีปนภายุทะได้แล้ว! “
ตอนนี้เขาดีใจที่สุด
เขาอยกรู้ว่าตอนนี้ ชิงเอ๋อจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาอยากรู้ว่านางจะสบายดีอยู่มั้ย
ซูหยุน อยากพบนาง เขาคิดถึงนางจนหัวใจปวดร้าวเป็นที่สุด
เขาหยิบฝักกระบี่ออกมาแล้วเรียก หลิงชิงหยู
“มีอะไร? ข้ากำลังพักอยู่ ไม่จำเป็นอย่าเรียกข้าจะได้มั้ย? “
“ข้าได้ของครบแล้ว!”
“อะไรนะ?” หลิงชิงหยุได้ยินแล้วตกใจ จากนั้นไม่นานแสงสีขาวกระพริบออกจากฝักกระบี่ นางจ้องมองภายใต้เสื้อคลุมสีขาว อย่างสนใจ
“เจ้าหาของพวกนี้ได้ไวขนาดนี้เลยหรอ? อืมมม….ไม่น่าเชื่อ เจ้าหาของพวกนี้ได้ไวขนาดนี้ได้ยังไง? “
หลิงชิงหยูไม่เชื่อ ส่วนผสมทั้งหมดนี้หายากมากนางไม่เชื่อว่า ซูหยุน จะหาได้ไวขนาดนี้
เมื่อหลิงชิงหยูเห็นทำให้นางตกใจ ซูหยุน ยิ้มแล้วบอกเรื่องราวให้นางเข้าใจ
“โอ้วว ข้าไม่นึกเลย เจ้าได้เป็นราชันเมืองราชันมาร เจ้ารู้มั้ยเจ้ามีอำนาจในเมืองราชันมารแค่ไหน! “
“อณาจักรมารนั้นกว้างใหญ่มาก มันมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่านี้มาก หากพูดถึงลัทธิกระบี่มารที่มาฆ่าคนในเมืองราชันมารอย่างง่ายๆ! ข้าสงสัยว่าจะมีนิกายที่แข็งแกร่งกว่านี้ ชื่อราชันจักรพรรดิมันก็แค่สถาณะเท่านั้น มันไม่มีความหมาย นอกจากนี้ข้าจะกลับไปที่ทวีปนภายุทธ ข้ายินดีที่จะรับเกียรตินี้! “
“ไม่ๆๆๆเจ้าอย่าคิดแบบนี้!” เจ้าโง่มาก เจ้าทุ่มสุดตัวแล้วจะทิ้งมันง่ายๆแบบนี้เนี่ยน่ะ?
“การเดินทางไประหว่างอณาจักรมารกับทวีปนภายุทธไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งสองทวีปไม่ได้ถูกกัน หากรวมทั้งสองเข้าด้วยกันจะไม่ดีกว่ารึ? “
“เพราะอะไร? หลิงชิงหยูส่ายหัว”หากเจ้ามีพลังอำนาจและเงินทองทำไมเจ้าไม่สร้างประตูช่องว่างเปล่าละ
“ประตูช่องว่างเปล่า? ประตูอะไร? ซูหยุนถาม
“มันคล้าย ๆ กับ ประตูช่องว่าง มันจะเชื่อมต่อทุกๆอณาเขตที่เรากำหนดไว้ แต่ว่าการเดินทางทุกครั้งมีขีดจำกัดต้องใช้วัสดุจำนวนมาก อย่างน้อยๆต้องใช้เวลาสองปีเพื่อจะใช้มัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ตอนนี้ เจ้ามีของทุอย่างในเมืองราชันมาร บางทีเจ้าอาจจะสร้างมันขึ้นมาได้! “
“หากเป็นอย่างนั้นต้องรบกวนเจ้าแล้วละ!”
ซูหยุน ไม่รู้ว่าตอนนี้ในทวีปนภายุทธชิงเอ๋อจะถูกจับกุมตัวไปแล้วหรือไม่ แต่หากว่าเขาได้รับการสนับสนุนจากเมืองราชันมาร เขาจะทำอะไรได้มากขึ้น หากว่าเขาต้องการทุกอย่างจะง่ายขึ้น
“อย่าถือตัวไปหน่อยเลยน่า ประตูช่องว่างใช้ได้เพียงทีละสองคนเท่านั้นแล้วต้องรออีกสองปี เจ้าอย่าคิดมาก! กว่าจะรวบรวมของเหล่านี้มันน่าปวดหัว เจ้าน่าจะเก็บไว้หากว่ามีคนอื่นรู้มันจะทำให้เป็นเส้นทางไปอณาจักรอื่น และนั่นจะนำไปสู่อาณาจักรแห่งความวุ่นวาย! “
“มันจะดีกว่า”
“ฮ่าๆๆ ชิงหยู บอกข้ามาเกี่ยวกับมัน ข้าจะจดเตรียมมันเลย “
“เจ้าหาคนที่ไว้ใจมา!”
“ชาวมารที่ข้าช่วยออกมาไว้ใจได้ พวกเขาน่าจะไว้ใจได้ “
“เยี่ยมมาก ซูหยุน แล้วถ้าเจ้ากลับไปทวีปนภายุทธใครจะจัดการที่นี่? “
“ข้าได้ให้คนสองคนคอยดู?”
“พวกเขาเชื่อถือได้หรือไม่?”
“ไม่ แต่ก็ไม่สำคัญหรอก “ พวกนั้นไม่กล้าทำอะไรโง่ๆแบบนั้นแน่นอน!”
“เพราะอะไร?
เพาะตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่รู้ว่าลัทธิกระบี่มารอยู่เบื้องหลังเมืองราชันมาร! “
“อืมๆๆ ข้าลืมไปเลย! ตอนนี้เจ้าไม่ต้องพึ่งใครแล้วนิ! “
ฟลิงชิงหยู สบถ หลังจากให้คำแนะนำแก่เขาแล้วซูหยุนก็ลงไปเพื่อจัดเตรียมการต่างๆ ชาวมารที่ถูกจับมาทำอาวุธวิญญาณถูกเรียกเข้ามาในวังมาร หนึ่งในนั้นมีชื่อว่า หนาน มีพลังระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่สอง หลังจากที่ ซูหยุน ช่วยออกมาเขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมาก เขาเป็นคนซื่อสัตย์และจงรักภักดิ์ดีอย่างมาก ซูหยุน มอบงานสร้างประตูช่องว่างแก่เขา วังมารเต็ไปด้วยสิ่งของมากมาย
การสร้างประตุช่องว่างใช้เวลาไม่นาน ซูหยุน เริ่มสร้างผนึกของประตูช่องว่างแบบพิเศษ
ภายในห้องบ่มเะาะ
“ฮ่าๆๆด้วยของพวกนี้การสร้างประตูช่องว่างคงไม่ยาก” ชิงหยุ มีสมบัติบางอย่างที่เหมาะกับเจ้า”
ผนึกสีแดงฉาน
ดอกม่วงเจ็ดกลีบกระจายอยู่บนผนึกเพื่อคอยส่งเสริม
ศิลาวิญญาณเป็นต้นกำเนิด
ตามด้วย หัวใจกระจก ธาตุเหล็กอาคม ช่องว่างอากาศธาตุไร้ลักษณ์
หลิงชิงหยู ยุ่งตลอดทั้งวัน เหงื่อเต็มตัวนาง สุดท้ายผนึกก็สำเร็จ
“เราไกล้แล้ว!”
“เรื่องนี้ลำบากเจ้าแล้ว!”
“เจ้าไปพักก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาเริ่มต่อ ข้าจะจัดการบางอย่างแล้วจะตามไป “
“อืมม!”
หลิงชิงหยู พยักหน้าก่อนจะกลายเป็นแสงหายวับไป
ซูหยุน หยิบผ้าคลุมก่อนจะออกไป
วังมารได้มีคำสั่งให้ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งเข้าพบ
ซูหยุน ต้องการสั่งงานไว้ก่อนที่เขาจะออกไปจากอณาจักมาร ก่อนที่เขาจะไปเขาต้องการควบคุมเมืองนี้ให้ได้
ไม่นานผู้คนมากมายเข้ามาในห้องโถงใหญ่
ห้องโถงสูงมากและสูงที่สุดในเมืองราชันมาร
พวกเขามารอนานแล้ว