Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 240
LSG บทที่ :240 ราชันจักรพรรดิ (X)
ซูหยุน กับ เฉินอี้หยิน ถูกควบคุมตัวอย่างแน่นหนาและดูแลอย่างดีที่สุด พวกเขาถูกควบคุมตัวโดย ดวงจิตวิญญาณขั้นสี่
มีชาวมารหลายคนอยู่รอบๆตั้งแต่ดวงจิตวิญญาณขั้นที่หนึ่งถึงขั้นที่ห้า แม้แต่ ซูหยุน เองยังตกใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มี ระดับดวงจิตวิญญาณ มากมายแบบนี้?
มือเล็ก ๆ ของเฉินอี้หยิน สั่น เห็นได้ชัดว่านางกลัว
มันเป็นเรื่องปกติ อาณาจักรมาร นั้นไร้ความปรานี ผู้ที่ไม่มีฝีมือแก่กล้า จะไม่สามารถอยู่รอดได้
ทั้งสองพากันไปทางด้านใต้ของคฤหาสน์มุ่งหน้าไปยังแท่นบูชา มีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ แท่นบูชาและตรงกลางเป็นพิมพ์ดาบวงเดือนขนาดมหึมานอนหงายขึ้นและด้านล่างเป็นหม้อหลอมขนาดใหญ่ที่มีไฟมารลุกโชนอยู่ภายใน
ชาวมารที่ถูก ราชันจักรพรรดิ จับตัวมานั้นทั้งหมดถูกนำมายังแท่นบูชาและพวกเขาทั้งหมดจะถูกโยนลงไปในหม้อหลอมโดยคนของเขาพร้อมกับส่วนผสมสำหรับการปรับแต่งการบ่มพลังในขณะที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เนื้อของพวกเขาทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าจิตสำนึกของพวกเขาถูกขจัดออกไปเหลือเพียงดวงวิญญาณของพวกเขาเท่านั้นที่จะถูกใส่ไว้ในดาบวงเดือน ราชันจักรพรรดิ แข็งแกร่งมากและมีส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงมากมายดังนั้นดาบวงเดือน จะไม่อ่อนแอ
รอบ ๆ แท่นบูชามีมีชาวเมืองเข้ามามุงดูเป็นจำนวนมากด้วยความหลงไหลราวกับพวกเขาตื่นเต้นไปกับไฟที่โหมอยู่
ด้านหน้าของแท่นบูชาเป็นเก้าอี้ที่หรูหรา มีหญิงสาวงามยืนอยู่ล้อมรอบ แต่งชุดยั่วยวนบางคนนอนลงบางคนยืนมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงกลาง
ชายชาวมารสวมชุดคลุมสีทอง ร่างผอมใบหน้าแหลมและเรียวแสงในดวงตาของเขาส่องประกายสีทองสดใสปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมาก
เขาคือ ราชันจักรพรรดิ!
เขากอดหญิงสาวสองคนไว้ในอ้อมแขน สายตาคมกริบจ้องมองไปที่แท่น แม่พิมพ์ ดาบวงเดือน
“ส่วนผสมทั้งหมดครบหรือยัง?”
ชาวมารผู้ที่มีระดับพพลัง ดวงจิตวิญญาณขั้นที่แปด รีบวิ่งไปคุกเข่าอยู่ด้านหน้ารายงาน “เรียนท่านราชัน ทุกอย่างพร้อมแล้ว”
“ดี!
“ข้าได้เชิญ ผู้ที่แข็งแกร่งท่านอื่นๆในเมืองราชันมารมาร่วมงานนี้ตอนเที่ยง เวลานั้นพวกเราจะลงมือสร้างนักรบศักดิ์สิทธิ์”
อาคมใต้หม้อหลอมเริ่มหมุนทำงาน ชาวมารที่อยู่ภายในเริ่มกรีดร้องขอชีวิต แต่มันก็ไร้ความหมาย
ชาวมารที่อยู่ด้านนอกต่างจ้องมองอย่างเย็นชาราวกับว่าพวกเขาได้ทำความผิดร้ายแรงมาไร้เมตรตาความสงสารใดๆ
“ยินดีด้วย! ยินดีด้วย! ขอแสดงความยินดีสำหรับการกำเนิดนักรบศักดิ์สิทธิ์ของท่านด้วย ท่านราชัน! ฮ่า ๆ ๆ … “
เสียงดังมาจากด้านนอกกลางฝูงชน มีชาวมารคุ้มกันรถกระดูกเข้ามาในแท่นบูชา มีผู้ชายลงมาจากรถเดินเข้าไปหา ราชันพร้อมกับป้องมือคาราวะ
“ฮ่าๆๆ ท่านกุ่ยเสวีย ขอบคุณท่านมากที่มาร่วมยินดีกับการกำเนิดนักรบศักดิ์สิทธิ์ของข้า ข้าจะไม่ลืมท่านเลย!”
ราชัน ผลักหญิงสาวข้างๆให้เขาลุกขึ้นและยิ้ม
“มิได้ๆ !!”
หลังจากนั้นก็มีผู้ทรงพลังคนอื่นๆที่มีระดับดวงจิตวิญญาณขั้นเก้ามาถึง พวกเขาเป็นหัวหน้าที่มีอำนาจในส่วนต่างๆของ เมืองราชันมาร และทุกคนรู้ว่า ราชันไม่ได้เชิญพวกเขามาเพื่อร่วมยินดี แต่เพื่อให้ตื่นตลึงมากกว่า แม้ว่าเมืองราชันมารจะไม่ใช่ของ ราชันจักรพรรดิ แต่เขามีสองผู้มีพลังอำนาจอยู่ในมือ
คนหนึ่งชื่อว่า หวูเซียง อีกคนชื่อว่า หยิงอัน
หยิงอัน นั้นมีพลังระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่เก้า แต่ที่น่ากลัวมากกว่าพลังของนางนั้นคือสติปัญญาของเขา หวูเซียง มีพลังยุทธระดับดวงจิตวิญญาณขั้นสิบ เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองราชันมาร
หลังจากที่ทั้งสองได้ทักทาย ราชันจักรพรรดิ แล้วพวกเขาก็เข้าไปนั่งที่ของตัวเอง
หยิงอันมองหม้อหลอม สายตาของเขามองชาวมารแต่ละคน
“หืม?
สีหน้า หยิงอัน เปลี่ยนแปลงขณะที่มอง เฉินอี้หยิน
“หุๆๆๆๆ ท่านราชันกำลังจะเสียของดี !!”
“โอ้! เจ้าหมายความว่าไง?”
หยิงอัน ชี้ไปที่ เฉินอี้หยิน “นางเป็นสาวสวยว่ามั้ย? ใยท่านไม่สนุกกับนางก่อนที่ท่านจะเสียนางละ? น่าเสียดาย ดูท่าทางนางยังคงบริสุทธิ์! เสียของ! เสียของ! “
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่อย่างที่เจ้าว่า?”
ราชันหัวเราะเหลือบมองเฉินอี้หยิน เห็นหยิงอันจ้องมองนางแทบจะกินเขาจึงโบกมือขึ้น “หากน้อง หยิงอัน ชอบนางข้าจะยกให้เจ้าสนุกกับนางก่อนดีมั้ย?”
“จริงเหรอ?”
“พี่ใหญ่คนนี้ เคยโกหกเจ้าหรอ?” “ข้ายกให้เจ้า”
“ฮ่า ๆ ๆ ขอบคุณท่านพี่จริงๆ !!” หยิงอันหัวเราะชอบใจพร้อมกับกวาดสายตามองร่างของเฉินอี้หยิน
เฉินอี้หยิน ได้ยินทั้งหมด
เมื่อเห็นมีชาวมารสองคนเดินเข้ามา ทำให้นางกลัวจนตัวสั่น
“ไม่! ปล่อยข้าน่ะ!ข้าไม่ต้องการปล่อยข้า “ เฉินอี้หยิน ได้แต่กรีดร้องแล้วตอนนี้ใครจะช่วยนางได้?
นางหลับตาลงน้ำตาอาบสองแก้ม ความสิ้นหวังไร้สิ้นหนทางคืบคลานเข้ามาไกล้นาง
นางไม่คิดเลยว่า ตัวนางจะมาตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้
“หยุด!”
ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังมา
ทุกคนกันไปมอง เสียงที่ดังออกมานั้นที่แท้ก็มาจากคนที่ยืนข้างๆนาง
“เทพกระบี่ !!”
เฉินอี้หยิน ตกใจ
จากนั้นนางก็ตรักหนักถึงชั้นลมปราณที่อยู่ตรงหน้าอกของเขาขยายออกมาครอบคลุมร่างของเขาดังเช่นรังไหมอย่างรวดเร็ว พลังยุทธของเขาพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
“หืม?”
ราชันจักรพรรดิ หวูเซียง หยิงอัน ลุกขึ้นมอง ซูหยุน
“มันยังมีสมบัติที่ยังไม่ได้ยึดไป?”
“หลังจาก สังเวยแล้วมันก็จะเหลือแต่แหวนเก็บของ เอามันมาหลังจากนั้นก้ไม่สาย “
“เจ้าทำให้ข้ากวนใจ”
แสงสว่างที่หน้าอก ซูหยุน จางลงราวกับว่ามีหัวใจสีดำฝังอยู่กลางหน้าอกของเขา เขาเงยหน้าขึ้น ผ้าคลุมเผยใบหน้ามั่วๆสีขาวจางๆ เขาขยับไหล่เล็กน้อยหดเกร็งแขนขาพลังยุทธของเขาเพิ่มสูงขึ้น จากนั้นเขาก็เดินตรงไปยัง ราชันจักรพรรดิ
สายลมกะโชกพัดรอบๆร่างของเขา ซ่า ซ่า ซ่า ร่างกายของเขาเริ่มมีปราณมารแปลกไหลออกมา
“ดูเหมือนว่า สมุนของข้าจะมองพลังของเจ้าผิดไปสินะ คงไม่ใช่ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่สอง? เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรได้ที่นี่อย่างนั้นหรอ? “
“ฆ่ามันแล้วเอาดวงวิญญาณของมันมาให้ข้า!”
“ครับ!
ชาวมารเข้าไปล้อม ซูหยุน เอาไว้รอบๆ
พวกเขาล้วนมีพลังยุทธระดับ ดวงจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ดถึงขั้นที่แปด นับว่าทุกคนล้วนแข็งแกร่งมาก
แต่พวกเขาไม่ได้รู้ว่ามนุษย์มีพลังน่าสะพรึงกลัวแค่ไหนเมื่อใช้ ผลึกสวรรค์
ฟิ้ว!
เสียงของสายลมแหวกอากาศมาจากขอบฟ้า ปรากฏแสงสีดำที่บินมาจากคฤหาน์บินตรงมาหาพวกเขา
ปัง!
แสงสีดำตกลงมา ปราณมารแผ่ขยายไปทั่วทุกสารทิศกระจัดกระจายไปทุกทิศทางทำให้ชาวมารกระเด็นออกไป ตูม!
ทุกคนตกใจ
แต่เขาไม่หยุดแค่นั้น เขาดึงกระบี่ขึ้นมา
ชิ้ง!!!
“โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
เสียงกึกก้องกัมปนาถแหลมคมจากภายในฝักกระบี่ตามมาด้วยแสงวูบวาบนับไม่ถ้วนบินออกมามีกระบี่นับร้อยลอยอยู่รอบๆตัว ซูหยุน มันพุ่งเข้าไปหากลุ่มชาวมารที่กระเด็นออกไปทันที
ซี่! !
ในพริบตากระบี่ทุกๆเล่มปลดปล่อยวิญญาณมารที่น่าสะพรึงกลัวออกมาดูน่าขนลุก มันกางกงเล็บอันร้ายกาจของพวกมันกับทุกคน
“วิชาเพลงกระบี่มาร”
ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ราชันจักรพรรดิ ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
ควับ ๆ ๆ !
นักสู้ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ด ถูกหั่นเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดาย จนสิ้นใจ !!
โลหิตร่วงหล่นลงพื้นดั่งหยาดฝน
แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น ซูหยุน ฟันกระบี่มรณะเจาะร่างชาวมารอีกคน กระบี่มรณะดูดซับพพลังมารภายในร่างเกิดแสงสีดำประกายดูน่าอัศจรรย์ มันทำให้เส้นผมของทุกคนที่เห็นลุกซู่
ซูหยุน ใช้กระบี่มรณะดูดซับพลังของซากศพทุกคนพร้อมกับเดินเข้าไปหา ราชันจักรพรรดิ
ใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก ๆ ใบหน้าไร้อารมณ์เขารู้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คนดี
เฉินอี่หยิน ตกตลึงไม่เชื่อในสายตาของนางเมื่อมองภาพของ ซูหยุน ที่อยู่ด้านหน้ามันทำให้หัวใจของนางสั่นสะท้าาน
เขาไม่ได้มีพลังยุทธระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่สองหรอกหรือ? เขาเอาพลังมากมายขนาดนั้นมาจากไหน? สามารถสังหารนักสู้ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่เจ็ดพร้อมกันถึงสามคน…แม้จะสู้ข้ามระดับสามขั้นแต่ดวงจิตวิญญาณขั้นที่ห้ายังไม่อาจทำได้อย่างนั้น
อาวุธวิญญาณของเขาถูกเอาไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วมันบินกลับไปหาเขาได้อย่างไร?
เกิดคำถามในหัวของนางมากมาย แต่นางก็รู้สึกดีเพราะเขาใช้ เพลงกระบี่มารของลัทธิกระบี่มารของนาง!
“เขาต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของลัทธิกระบี่มาร! แต่เขาเป็นใคร? ทำไมเราถึงไม่เคยเห็นเขามาก่อน เขามาช่วยเรา!
เฉินอี้หยิน กำหมัดน้อยๆของนางด้วยสายตาแห่งความหวัง
“แกเป็นใคร?”
หวูเซียง ระเบิดโทสะเตะเก้าอี้ใส่ ซูหยุน
“หึ!ถึงข้าจะเอ่ยชื่อไป พวกเจ้าก็ไม่รู้จักข้าอยู่ดี ข้าจะบอกชื่อที่ข้าจะถูกเรียกไม่ดีกว่ารึ? “
“ชื่อที่แกจะถูกเรียกขานงั้นหรือ?” “ชื่ออะไร?”
“ราชันจักรพรรดิ!” เสียงโหยหวนดังก้องออกจากร่างของ ซูหยุน ปราณมารอันมหาศาลแผ่ซ่านวิ่งผ่านผู้คนดั่งเมฆหมอกผ่าน หวูเซียง แล้วเดินตรงไปหา ราชัน
“บังอาจ !!” กล้าท้าทายข้างั้นหรือ! ดี! ดี! หากแกอยากจะตายนักข้าจะให้เจ้าสมหวัง! “
ราชันจักรพรรดิ โกรธมากเขาผลักผู้หญิงออกไปพร้อมกับประกบมือขนาดยักษ์ของเขาทำให้เกิดเมฆหมอกขึ้น
ตูม!
เมฆที่เกิดจากมือขนาดใหญ่หยุดลง แต่100บินเข้าไปหาราชันจักรพรรดิ
ในพริบตา กระบี่นับ100หมุนวนราชันจักรพรรดิภาพกระบี่มากมายทำให้ทั่วทั้งบริเวณสั่นสะเทือน
ภายในเมืองราชันมารทั้งเมืองสั่น