Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 238
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 238
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :238 ราชันจักรพรรดิ (VIII)
ทั้งสองถูกนำตัวไปที่คฤหาสน์ทันที
คฤหาสน์ใหญ่โตมโราฬมาก มันถูกปกคลุมไปด้วยอาคมมารและจารึก ที่ด้านทิศเหนือของคฤหาสน์เป็นที่ซึ่งผู้บ่มพลังคู่ทั้งหมดของ ราชันจักรพรรดิ อาสัยอยู่ มีข่าวลือว่า ทั้งหมดถูกราชันจักรพรรดิขืนใจ พวกนางเป็นแค่ของเล่นผู้บ่มพลังคู่ของราชันจักรพรรดิเท่านั้น พวกนางไม่มีรูปลักษณอะไรเป็นพิเศษ แต่เพื่อแค่บ่มพลังคู่เท่านั้น พวกนางได้รับผลประโยชน์ที่ดีไม่น้อย ส่วนใหญ่พวกนางจะทำตาม ราชันจักรพรรดิ ด้วยความเต็มใจ
ด้านตะวันออกเป็นที่เก็บสมบัติของราชันจักรพรรดิ มันเป็นที่เก็บสมบัติที่ราชันจักรพรรดิได้ไปแย่งชิงมา และด้านตะวันตกเป็นสนามฝึกทหาร ที่นี่คราคร่ำไปด้วยทหารของราชันจักรพรรดิ พวกเขาได้รับการฝึกฝนที่ดีและได้ประโยชน์มากมาย แต่เมื่อถึงเวลาพวกเขาต้องต่อสู้ถวายชีวิต แม้ว่าพวกเขาจะต้องตายก็ตาม
ซูหยุน กับ เฉินอี้หยิน ถูกคุมตัวไปยังคุกใต้ดิน
ห้องขังมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มันทั้งมืดและอับชื้น มันถูกป้องกันด้วย 49อาคมมารที่สร้างจัตุรัตทั้งเจ็ด และมีชาวมารเฝ้าระวัง
เมื่อทั้งสองถูกนำตัวเข้า มีเสียงกระซิบคล้ายวิญญาณและเสียงหรของหมาป่า
ซูหยุน กวาดสายตา ที่ด้านข้างของคุกแคบๆมีห้องเล็กๆที่มีอาคมคุ้มกันแน่นหนา ภายในห้องขังมีชาวมารมากมายอยู่
ชาวมารเหล่านั้นกำลังพยายามทำลายอาคมออกมาอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาส่งเสียงร้องตะโกนออกมา
“ปล่อยข้า! ข้าไม่อยากเป็นอาวุธวิญญาณ ปล่อยข้าไป!”
เสียงกรีดร้องดังโหยหวน
กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่ว บนพื้นมีเนื้อเน่าเปื่อยและเลือดมารมากมาย มันเหมือนเป็นดั่งนรก
เฉินอี้หยิน หน้าซีด เห็นได้ชัดว่านางกลัว
เห็นได้ชัดว่า ลัทธิกระบี่มาร เป็นสถานที่ปลอดภัยแห่งหนึ่งใน อณาจักรมาร ดูจาก เฉินอี้หยิน ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้?
“มานี่!”
ชาวมารที่อยู่ด้านหลังตะโกนอย่างดุร้าย
ทั้งสองคนยืนเงียบแล้วก้าวไปด้านหน้า
“เอาไปไว้ในอาคมสุดท้าย ห้องละคน ทั้งสองเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่มีพรสวรรค์สูง ห้ามปนกับคนอื่น ป้องกันการผิดพลาด พวกเราไม่อยากให้ห้องผิดพลาด “เข้าใจมั้ย?”
“ครับ”
“เอ่อ…”
หัวหน้าผู้คุมกำลังอยู่ในสถาณะที่ยากลำบากตอนนี้ เขาลังเลก่อนที่เขาจะพูดว่า “ท่านราชันได้จับชาวมารมามากมายก่อนหน้านี้ เกราว่าจะไม่มีห้องว่างเหลือ ตอนนี้ห้องขังเต็มแล้ว มีเหลือเพียงห้องเล็กๆเพียห้องเดียวเท่านั้น . “
“แล้วยังไง” หัวหน้าเรือนจำคิดและพูดต่อ “เราจะให้ผู้หญิงอยู่ในห้องเล็ก ส่วนผู้ชายเราก็ขังไว้ในห้องอื่นๆ ผู้ชายคนนี้ดูไม่น่าไว้ใจ หากเขาอยู่กับผู้หญิงเขาอาจจะทำมิดีมิร้ายได้นางจะตกเป็นของมัน! “
“ไอ้เวรนี่!” คิดว่าข้าไม่โง่เหรอ?
ซูหยุน อยากตะโกนดัง
แต่ทว่าเขาก็เป็นแค่คนที่อยู่ในอณาจักรนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
“ครับหัวหน้า เขาคุกเข่าลงพร้อมกับโบกมือ
ทันทีที่เฉินหยางหยุนถูกนำตัวไปที่ท้ายตู้ซึ่งถือว่าค่อนข้างสะอาดขณะที่ซูยองถูกโยนเข้าไปในห้องเล็ก ๆ คับด้วยคนชั่วจำนวนมาก
“เอาล่ะ ข้าจะรายงานเรื่องนี้กับท่านราชัน ทุก้อย่างพร้อมแล้ว ข้าว่า การบ่มพลังอาวุธวิญญาณจะเริ่ในอีกไม่ช้า”
แล้วเขาก็เดินออกไป
ชายคนนั้นลุกขึ้นแล้วเดินไปซดเหล้าจอกหนึ่ง
ซูหยุน เข้ามาในกรงขังพร้อมกับการป้องกันอย่างแน่นหนาของชาวมารพวกเขาปลดอาวุธออก พวกเขาไม่กลัวว่า ซูหยุน จะหนี มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะหนีจากอาคมป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้ นอกจากนี้ ห้องขังนี้ยังแข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย แม้ว่าจะมีอาวุธ ก็ไม่สามารถทำลายมันลงได้
ซูหยุน เดินเข้าไปในห้องขังพร้อมกับกวาดสายตามองชาวมารที่อยู่ข้างใน
ในห้องนี้มีชาวมารถูกขังอยู่กว่า10คน แต่ละคนดูดุร้ายมากๆ
ในสายตาของพวกเขาล้วนแต่ไร้ความหวัง สิ่งที่เหลืออยู่ในสายตาของพวกเขาคือความอาฆาตแค้น พวกเขาทั้งหมดจะถูกทำเป็นอาวุธวิญญาณ พวกเขาคิดว่า ทำไมถึงไม่สนุกก่อนที่จะตาย!
มีซากศพอยู่หลายสิบศพนอนอยู่บนพื้น พวกเขาตายในตอนที่อยู่ในห้องขังนี้
ดูเหมือนว่า จะเป็นฝีมือของชาวมารที่ขังอยู่ด้วยกันข้างในนี้
“ข้าไม่อนุญาติให้มีการตายเกิดขึ้น! ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะทรมารมันให้ตายยิ่งกว่าตายทั้งเป็น! “
หัวหน้าผู้คุม ตะโกนสั่งออกมาก่อนที่จะกลับไปซดเหล้าต่อ
ซูหยุน เงยหน้าขึ้นมาเผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยน์ เขาปักกระบี่มรณะลงข้างๆตัวเขา จากนั้นเขาก็กล่าวเบา ๆ ว่าพร้อมกับกระซิบเบาๆด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น “พวกเจาทุกคนจงยอมศิโรราบเสีย แล้วจะไม่มีใครตาย”
“ให้ยอมก้มหัวให้เจ้าอย่างนั้นหรอ? “หึ! เจ้ามันก็แค่มดปลวก! ข้าไม่ได้ลิ้มรสชาติมานานแล้ว! อีกไม่นานข้าจะได้กินเนื้อสดๆ! “
ชาวมารคนหนึ่งที่อดทนไม่ไหวได้กระโจนใส่ ซูหยุน ทันที
แต่ภายในพริบตานั้นหลังจากสิ้นแสงแวบหนึ่ง หัวของชาวมารคนนั้น ค่อยถูกแยกออกเป็นสองซีก เขาตกลงมาตายที่พื้นทันที เลือดได้กระฉูดออกมาก่อนที่หัวเขาจะกลิ้งออกไป
มันเป็นภาพที่อำมหิตและป่าเถื่อนมาก
ชาวมารทุกคนในห้องได้แต่อ้าปากค้าง
“เวรเอ้ย!”
หัวหน้าผู้คุมห็นเหตุการรู้สึกโกรธมาก เขารีบวิ่งเข้าไปอย่างรีบร้อน ส่งปราณมารวิญญาณเปิดอาคมในห้องขัง ทันใดนั้นคนที่ถูกขังต่างส่งเสียงร้องแปลกๆ ชาวมารที่อยู่ด้านในดูราวกับว่ามีความเจ็บปวดทุกข์ทรามาน
“ฮิฮิ…” เป็นยังไง เจ็บปวดมากใช่มั้ย? “
หัวหน้าผู้คุมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ
แต่ ซูหยุน ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย เขายืนอยู่ด้านหน้าไม่สะทกสะท้าน
“หืม?”
หัวหน้าผู้คุมประหลาดใจ เขารู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดา
แต่เขาก็ไม่ได้หวั่นไหว เขาจ้องใบหน้าของ ซูหยุน อย่างเยาะเย้ย “อย่าเพิ่งได้ใจไป! ยังไงซ่ะ อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะเป็นอาวุธวิญญาณอยู่ดี! ข้าจะรอดูเจ้าวันนั้น! “
“โอ้ใช่ หากใครฆ่ากันอีก ข้าจะรายงานเรื่องนี้กับท่านหัวหน้าผู้คุมกฏและเลาะหนังของพวกเจ้า! ข้าจะให้พวกเจ้าทรมานอย่างแสนสาหัส หาคิดว่าข้าพูดเล่นก็ลองดู!
แล้วเขาก็กลับไปดื่มต่อ
ซูหยุน มองสำรวจรอบๆ เขาไม่สนใจมัน เขามองชาวมารเหล่านั้นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน”พวกเจ้าจะยังไม่ยอมก้มหัวให้ข้าใช่มั้ย?”
“เจ้าไม่ดูสถานการณ์ตอนนี้ซ่ะก่อน เจ้ายังคิดจะให้เราก้มหัวให้เจ้าอีกหรอ? เจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้สักกี่วัน? “
ชาวมารคนหนึ่งลุกขึ้นมาตะโกนใส่ ซูหยุน
“หากพวกเจ้ายินดียอมรับข้าเป็นนายของพวกเจ้า ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าได้!”
ซูหยุน พูดขณะที่เก็บกระบี่มรณะ
“ช่วยพวกเรา? เจ้าจะทำได้หรอ? “
“มอบพลังของพวกเจ้าให้ข้า!”
“เจ้าจะกินพวกเรา?” ชาวมารคนหนึ่ง ตอบด้วยความหวาดกลัว
“หากพวกเจ้าไม่ทำตามที่ข้าบอกข้าจะกินพวกเจ้า!”
ซูหยุนกล่าวอย่างเย็นชา
ชาวมารคนหนึ่งถึงกับเอามือปิดปากตัวเอง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังของเขา ใครจะกล้าขัดขืน? พวกเขารีบพยักหน้าตอบรับ
ซูหยุน อภิบายและวาง “ผลึกสวรรค์” ไว้บนหน้าอกพร้อมกับส่งพลังวิญญาณมาร
เมื่อตอนที่เขาสู้กับ จอมมารสามประสาน เขาได้ใช้พลังของ ผลึกสวรรค์ หมดสิ้น แม้ว่าจะฟื้นพลังคืน แต่ระยะเวลายังสั้นเกินไป เห็นได้ชัดว่า พลังของมันยังไม่ฟื้นคืน พลังของ ผลึกสวรรค์ ไม่สมบูรณ์ก็ไม่สามารถใช้งานได้
ซูหยุน ส่งพลังของตัวเองเข้าไปเติมพลังงานสามารถกู้คืนพลังของมันได้แค่หนึ่งในสามส่วนเท่านั้น เขาต้องการพลังอีกมาในการเติมพลังของมันให้สมบูรณ์
“ส่งพลังของพวกเจ้ามา”
ชาวมารกลืนน้ำลายด้วยความลังเล จากนั้นพวกเขาก็รวบรวมความกล้าส่งมือเข้าไปแตะมือของ ซูหยุน ไม่ช้า ปราณมารวิญญาณก็เริ่มไหลเข้าสู่ร่างของเขา
แม้ว่าชาวมารจะมีพลังระดับ แก่นแท้วิญญาณ แต่ปราณมารวิญญาณ ของพวกเขาก็ได้หล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ ทันใดนั้นร่างของ ซูหยุน ก็เต็มไปด้วยปราณ
“มันยังไม่พอ! ข้าต้องการอีก! ทำต่อต่อไป! ทำต่อไป!”
ซูหยุน พยายามนำพลังของชาวมารอย่างเต็มที่
เม็ดเหงื่อไหลออกจากร่างของพวกชาวมารพวกเขาเริ่มอ่อนกำลังลง ตอนนี้พวกเขาอ่อนล้า แต่ต้องฟังเขา ไม่มีใครกล้าหยุดมือแม้แต่คนเดียว
ในที่สุดชาวมารบางคนก็ไม่สามารถทนได้อีก พวกเขาล้มลงกับพื้น สำหรับ ซูหยุน เขากลับมาอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด
“มีอะไร?”
หัวหน้าผู้คุม รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารีบวิ่งไป
ชาวมารคนที่จับ ซูหยุน กระแทกไปที่ห้องขัง
มองไปที่ ชาวมารที่ถูกขังด้วยความโกรธ
“เจ้ากำลังดูดซับพลังของพวกเขาเหรอ? “แย่แล้ว!” เอามันไปขังกับผู้หญิง! “
“เจ้าไม่กลัวมันจะขืนใจนางให้กลายเป็นคู่บ่มเพาะพลังรึ?”
“เจ้ากลัวหรือ? ผู้หญิงมีพลังสูง ทำไมเจ้ากลัวมัน หึ ถ้ามันกล้าก็ลองดู “
“ครับ”
หัวหน้าผู้คุม สั่งลูกสมุนให้เปิดประตูแล้วนำตัว ซูหยุน ออกมา พวกเขาพาตัว ซูหยุน ไปที่ห้องเล็กๆที่ขัง เฉินอี้หยิน
“ช้าก่อน!”
ทันใดนั้นชาวมารตะโกน
“มีอะไรหรือท่าน?”
“กระบี่สองเล่มของเขา!”
“ชายคนนี้ดูไม่ธรรมดา กระบี่ของมันต้องไม่ธรรมดา นำมันไป! “
“ครับ!”
“โอ้! เจ้าอยากได้กระบี่ของข้า? “
ซูหยุน เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับฉีกรอยยิ้ม
“ไม่ต้องพูดมาก! นำมันไป! “
“ก็ได้”
ซูหยุน ไม่ได้ปฏิเสธพวกเขา ในทางตรงกันข้ามเขายิ้มและส่ง กระบี่มรณะและกระบี่โลหิตแดง ให้พวกเขา
หัวหน้าผู้คุม ไม่ทันคิดเขาเอื้อมมือมาคว้ากระบี่ทั้งสองเล่ม แต่พอเขาสัมผัสกระบี่ทั้งลมกระโชกแรงพุ่งออกมาจาก กระบี่มรณะ หัวผู้คุม ทรุดเข่าลง เขาแทบล้มลงกับพื้น เมื่อเขามองกระบี่อีกครั้งเขาก็แสดงความกลัวและตกใจสุดขีด
“มีอะไร?”
“ไม่มีอะไร. กระบี่ทั้งสองนี้ดูแปลก ๆ นิดหน่อย “
“พวกมันแปลกยังไง พวกมันเป็นสมบัติของ ท่านราชันจักรพรรดิ! เอามันไปเก็บในห้องสมบัติ! “
“ครับๆ.”
หัวหน้าผู้คุมตอบ
ชาวมารเดินผ่านไป
ซูหยุน อยู่ในห้อง เฉินอี้หยิน เฝ้ามองขณะที่พวกเขาออกไป จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นวางลงบน ผลึกสวรรค์ เติมพลังที่เขาได้รับมา
“อีกแค่สี่สิบส่วนเท่านั้น ไกล้แล้ว”
เขาพึมพำ