Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 237
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 237
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :237 ราชันจักรพรรดิ (VII)
พวกเขาคือกลุ่มคนที่ถูกส่งมาจับตัวเขาหรือ?
ซูหยุน ใช้เนตรศักดิ์สิทธิ์เกล็ดสวรรค์ตรวจสอบพบว่ามีพลังยุทธระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่2เขาก็โล่งอก
ในใจจริงๆแล้ว ซูหยุน ไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับลัทธิกระบี่มาร ซูหยุน เพียงแค่อยากแก้แค้นคนที่ทำร้ายเขา เขายังจำคนที่ดีต่อเขาอยู่ตลอดเวลา คนที่คอยสนับสนุนเขา ตู่ไป๋ลี่ หันซาน ที่ช่วยพาเขาเข้าไปในลัทธิ และการต้อนรับที่ดีของลัทธิกระบี่มาร เหตุผลที่พวกเขาไล่ตามและฆ่าเขาเป็นเพราะเขาได้ขโมย วิชาเพลงกระบี่มาร
ซูหยุน ส่ายหัวสลัดความคิดทิ้งไป
แต่ก่อนที่เขาจะออกจากโรงเตี้ยม ได้มีชาวมารหลายคนเปิดประตูเข้ามา พวกเขาแต่งกายเนียบมาก ทั้งหมดมีลมปราณหนาแน่นเต็มไปด้วยจิตสังหาร
เมื่อพวกเขาเข้ามา ชาวมารที่อยู่ในโรงเตี้ยมต่างลุกขึ้นยืนตัวสั่น ไม่มีใครกล้านั่งลง
สุดยอด!” น่ากลัว! เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาหน้าประตู ชาวมารที่ข้างในไม่มีใครกล้ากระดิกตัว!
“อา? พวกเขามาทำอะไรที่นี่? “
สหายเก่า ปู๋เสวีย ดูเหมือนจะระวังคนเหล่านี้ เขารีบหยิบชามเหล้าลงบนโต๊ะและยืนอยู่ข้างๆ เขาระมัดระวังมาก
ซูหยุน รู้สึกไม่ชอบมาพากล แต่เขาก็ไม่รีบออกไป เขาเดินไปทางด้านข้างของ ปู๋เสวีย และกระซิบว่า “ปู๋เสวียพวกนี้เป็นใคร?”
“พวกนี้นะหรอ? พวกเขาคือสมุนของ ราชันจักรพรรดิ ที่เจ้าตามหายังไงล่ะ! “
“สมุน ราชันจักรพรรดิ ? พวกเขามาทำอะไรที่นี่? “
“ที่นี่ต้องมีอะไรแน่ๆ นี่ไม่ใช่เวลาส่งส่วย พวกเขาต้องเพราะภาระกิจแน่ อย่าทำไฃอะไรโง่ๆ พวกเขาทุกคนมีพลังยุทธระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่3ทุกคน สูงสุดคือขั้นที่6 หากเจ้าโผล่ออกไปเจ้าจะต้องตายแน่ๆ!
“แล้วพวกเราจะทำยังไงกันดี?
“อยู่ที่พวกเขาต้องการให้พวกเราทำอะไรเราก็ทำตามพวกเขาไปก่อน หากพวกเขาไม่บอกพวกเราไม่ต้องขยับ อยู่เฉยๆและดีที่สุดอย่าคิดออกจากเมือง! “
“อำนาจของ ราชันจักรพรรดิ ขนาดนั้นเลยหรือ?”
ซูหยุนตกใจมาก
“ชาวมารธรรมดาไม่รู้หรอก”
จากนั้นชาวมารที่เข้ามาก็ปิดประตูด้านหน้า ชาวมารสองคนออกมาสั่ง “ทุกคนออกมา! “เร็ว!
ไม่มีชาวมารคนใดกล้าขัดขืน ไม่นานก็ยืนเรียงแถว สามสาวกแห่ง ลัทธิกระบี่มาร มองหน้ากันแล้วยืนขึ้น
แน่นอนซูหยุนก็ไม่มีข้อยกเว้น
ราชันจักรพรรดิมีอำนาจแค่ไหนน่ะหรอ ที่นี่คือเมืองราชันมาร มีกฏมารและระเบียบ กลุ่มคนเหล่าคงจะไม่ออกมาสังหารหมู่ใช่หรือไม่? ข้าเชื่อถ้าพวกเราให้ความร่วมมือ พวกเขาจะไม่ยุ่ง ถ้าไม่อย่างนั้นเมือราชันมารคงวุ่นวายน่าดู?
ทุกคนยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้ที่ทางโรงเตี้ยมจะไม่มีความปลอดภัยให้ลูกค้า แต่ทว่าในอณาจักรมาร ผู้เป็นนายใหญ่เสมอ
ชาวมารสองคนที่ออกมาหันหน้ามองดูทั่วก่อนพยักหน้าให้กัน ชาวมาเอาแว่นสีดำออกมาจากแหวนเก็บ
เขาท่องมนต์แว่นที่อยู่ในมือ ดวงตาสองดวงปรากฏขึ้นมาที่แว่นทั้งสองข้างทันที สาดลำแสงสว่างจ้า
ชาวมารสองคนส่องไปยังคนอื่นๆ จากนั้นชุดตัวอักษรก้ปรากฏ
“ไร้ประโยชน์!”
ชาวมารส่ายหัวแล้วส่องคนอื่นๆ
“นี่ก็ไม่ดี”
“นี่แย่กว่าสองคนที่แล้วอีก”
“ไม่!
ชาวมารคนอื่นๆเห็นสิ่งที่พวกเขาทำได้แต่แปลกใจ
“พวกเขาทำอะไร? “ ซูหยุน พึมพำ
“สมบัติอะไร? ข้าไม่เคยเห็น “ ปู๋เสวีย สงสัย
แว่นได้ส่องมาถึง สามสาวกลัทธิกระบี่มาร
“ไม่!
คนแรกถัดมา คนที่สอง
ชาวมารสองคนถือแว่นส่องอย่างละเอียดแล้วก็ส่ายหัวถอนหายใจก่อนที่สายตาของพวกเขาจะหันไปหาสาวกหญิงคนที่สาม
หญิงสาวคนนี้ดูค่อนข้างไร้เดียงสามองพวกเขาสุดที่จะพูดใบหน้าดูอ่อนละมุนผิวของนางสีเทาเล็กน้อยนางถือว่าเป็นชาวมารที่ใช้ได้ กลุ่มชาวมารได้สังเกตเห็นนางมานานแล้ว แต่หากไม่ขัดขวางงานของพวกเขา พวกเขาก็จะไม่ทำอะไร
แว่นกลมแปลกสะท้อนร่างของนางเป็นชุดสีทองเล็กน้อย ชาวมารที่ถือแว่นก็ตกใจอยู่พักหนึ่ง สักพักพวกเขาก็เริ่มดีใจ
“ดี! ดี! คนนี้!! มีอยู่ที่นี่ !! ดี! “ฮ่า ๆ ๆ ๆ….”
“อะไร?” ในที่สุดพวกเราก็พบตามเกณฑ์แล้วหนึ่ง “
“คือนาง? เขา…เขาน่าสงสารดูๆแล้วมีปัญหาตามมาด้วย “
สมุน ราชันจักรพรรดิ ปรึกษากัน
“ตอนนี้เรายังขาด!”
ชาวมารที่ด้านหลังยังทำภาระกิจต่อส่องคนถัดไป
“ไม่!
“ไม่ใช่!
“ดี”
แล้วก้มาถึง ซูหยุน
“คนสุดท้ายแล้วนะ ดูเหมือนพวกเราต้องไปที่อื่น! ยากจริงๆที่ต้องหาชาวมารสองคน? “
ชาวมารถุยน้ำลายแล้วส่องร่าง ซูหยุน
ในขณะที่แสงจากแว่นสาดใส่ร่างของ ซูหยุน นั้น มันได้คายชุดอักษรสีรุ้งเปล่งแสงเจิดจ้าละลานตาราวกับปาฏิหาริย์บังเกิด
ซูหยุน มองดูเหตุการทั้งหมดเห็นใบหน้าชาวมารที่ส่องแว่นมาดูตกตลึงเหมือนเป็นรูปปั้นหิน
“ศะ…..ศะ…..ศะ….สํกดิ์สิทธิ์..พรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ !! มันเป็นพรสวรรค์ระดับพระเจ้า! คนๆนี้มีพรสวรรค์สูงกว่าคนปกติอย่างน้อย 5 เท่า! “
ชาวมารฟื้นสติจากความตกตลึงหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่ามันคือเขา! เรากลับไปรายงานท่าน ราชันจักรพรรดิ ได้แล้วคจะได้รางวัลมากมายแน่ๆ! “
“อะไร?” พรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์? แน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้ตาฝาด? “
กลุ่มชาวมารมองอย่างไม่เชื่อสายตา
“ถูกต้องแน่นอน แว่นสัมฤทธิ์พรสวรรค์ ของข้าไม่เคยผิด! เร็วเข้า! พาเขาและผู้หญิงไป! “เร็ว!
“ได้!” พวกเขาไป! “
กลุ่มชาวมารเดินเข้ามาหาหญิงสาวกับซูหยุน
“จะทำอะไร?
“สารเลว หาที่ตาย? ไสหัวไป! “
“ไสหัวไป! “ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเราเป็นใคร?” พวกเรามาจาก ลัทธิ์กระบี่มาร น่ะ! “
“ลัทธิ์กระบี่มาร? ฮ่าๆๆลัทธิ์กระบี่มารอะไรข้าไม่เคยรู้จัก ข้ารู้แค่ว่าที่นี่คือ เมืองราขันมาร! ราชันจักรพรรดิ ของพวกเราเพิ่งได้ ธาตุเหล็กลี้ลับ ท่านต้องการสร้างทหารเหล็ก ของทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว ขาดแต่ชาวมารสองคนที่จะทำอาวุธวิญญาณ นาง! และเขา! พรสวรรค์ ทั้งสองอยู่ในข้อกำหนดเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่จะส้างอาวุธวิญญาณ ข้าว่าเจ้าอย่ามาขวางดีกว่าถ้าไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”
“อะไร?” เจ้าจะใช้ข้าทำอาวุธวิญญาณ? “
“ไม่ใช่ข้าแต่เป็นท่านราชันจักรพรรดิข้า! หากเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าจะไม่ได้ออกขจากเมืองนี้! “
“เจ้าไม่กลัว ลัทธิ์กระบี่มารไมพอใจหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใรใน ลัทธิ์มาร? หากเจ้าแตะต้องตัวนางละก็เจ้าจะตายแน่!ต้อง
สาวกชาย ตะโกนไป
พริบตา ชาวมารคนหนึ่งวิ่งไปหาเขา
สาวกชายสีหน้าเปลี่ยนรีบยกกระบี่ขึ้นกัน
เคร้ง!
กระบี่มารสีดำ แตกทันทีแล้วกระแทกเข้าหน้าอกเต็มแรงจนปลิวไปไกล เขากระอักเลือดและอวัยวะสำคัญภายในบาดเจ็บ
“ศิษย์พี่ !!
สาวกหญิงตะโกนด้วยความเป็นห่วง
ชาวมารรอบๆ มองด้วยความตกใจที่ชายที่โจมตี
แม้แต่ ซูหยุน ยังเกร็ง
ดวงจิตวิญญาณ ขั้นที่8 !!
พวกเขาไม่มีใครคิดว่า จะมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ในกลุ่ม! ไม่มีใครรู้เลยว่าจะมียอดฝีมือระดับนี้ซ่อนตัวมา!
น่ากลัวจริงๆ หากสู้กันตัวต่อตัวเราอาจจะพอสู้ได้ แต่อีกฝ่ายมีเยอะแบบนี้เกรงว่าท่าจะไม่ดีแน่
ซูหยุน คิดในใจ
เราควรใช้ไข่มุกล่องหนดีกว่ามั้ย?
เมื่อเขาคิดว่าในช่วงเวลานี้ควรใช้ไข่มุขลอ่งหนแต่อีกใจหนึ่งกลับลังเลเพราะไม่รุ้ว่าระดับพลังที่ต่างกันจะใช้กับพวกเขาได้หรือไม่
“ฮึ! เจ้ากล้าดูถูก เจ้านายของข้ารึ! “รนหาที่ตาย !!” พาพวกมันไป! หยุดพูดไร้สาระ! “
ชาวมาร คนหนึ่งวิ่งไปทาง ซูหยุน และ ผู้หญิง แล้วชี้อาวุธวิญญาณ
ซูหยุน สูดลมหายใจลึก เขารู้ว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายแน่ หัวใจของเขาเต้นโครมคราม เขานึกบางอย่างออก แต่เขาไม่ได้เผยความวิตกกังวลใด ๆ
ดูเหมือนว่าข้าทำได้แค่นี้
“ไปกัน!
ชาวมารตะโกน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซูหยุน กับ หญิงสาว ทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้น
“ศิษย์น้อง ไม่ต้องห่วง ข้าจะแจ้งเรื่องนี้กับอาจารย์และขอให้ส่งคนมาช่วย! ไม่ต้องห่วง! “
“อืม” ผู้หญิงพยักหน้า ยังคงมีสายตาแห่งความกลัวอยู่ในดวงตาของนาง
ซูหยุน ก้มหหัวลง ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ดรงเตี้ยม ทำให้สถานการณ์วุ่นวายเล็กน้อย ชาวมารกระจายตัวอย่างรวดเร็ว เรื่องแบบนี้ดูเหมือนจะไม่มีความสำคัญกับพวกเขาเลย
กลุ่มชาวมารจับกุมคนสองคนนี้และออกจากโรงเตี้ยมก่อนที่พวกเขามุ่งหน้าตรงไปทางใต้ของเมือง ทางด้านใต้ของ เมืองราชันมาร มีแท่นบูชาขนาดมหึมานับไม่ถ้วนอยู่กลางแท่นบูชามีคฤหาสน์หนึ่งหลังทาสีดำ อิฐแต่ละหลังของคฤหาสน์นั้นมีสีดำเหมือนถั่วดำและมีกลิ่นเหม็นหนา ๆ ของ ปรารมาร ภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยชาวมาร
นี่เป็นสถานที่ฝึกฝนที่ราชันจักรพรรดิสั่งให้สร้างขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถบ่มพลังภายในคฤหาสน์นี้ได้ สมบัติมีพลัง แต่ไม่มีใครเคยเห็นหรือใช้มัน
ระหว่างทางมีคนมองเห็นพวกเขาทั้งสองตลอดทาง ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยแลถากถาง
พวกเขารู้ว่าทั้งสองคนจะต้องถูกสังเวย
สำหรับคนที่กำลังจะตายพวกเขากลับเห็นใจ
“เจ้าเป็นคนของลัทธิ์กระบี่มารหรือ?”
ซูหยุน เอียงหัวไปถามนาง
นางตกใจ นางมองหน้าขึ้นไปมองคนที่อยู่ด้านข้างที่มีหมวกคลุมหน้าทั้งหน้า นางดูไม่ออกว่าเป็นใคร แต่ปราณที่ซ่อนอยู่นั้นกราดเกรี้ยวมาก ดวงตาเย็นชาและไร้ความปรานี
“ใช่”
เจ้าชื่ออะไร?”
“เจ้าถามชื่อข้าทำไม?”
“อืมม..ก็ไม่มีอะไรมากหรอกข้ารู้จัก ลัทธิ์กระบี่มารนะ”
“ข้าชื่อว่า เฉินอี้หยิน”
“ชื่อดี”
“แล้วเจ้าล่ะ?
“ข้า?” ข้าชื่อ ไร้สรรพสิ่ง “
ริมฝีปากสีขาวของเขาค่อยๆขยับมุมปากขึ้นเล็กน้อย