Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 236
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 236
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :236 ราชันจักรพรรดิ (VI)
หลังจากได้รับ หัวใจกระจก ก้ยังเหลือสมบัติอีกเพียงสามชิ้น
ซูหยุน คิดอยู่ในใจขณะที่บินอยู่บนกระบี่มรณะบนฟ้า
ด้วยความเร็วในตอนนี้ เขาอาจจะกลับถึงทวีปนภาฟ้าได้ในปีหรือสองปี
แต่ว่า การที่เขาจะต้องได้สิ่งของวิเศษเขาต้องพบกับ จอมมารต่างๆและหากขาดผลึกสวรรค์การจะสู้กับพวกเขามันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่หลังจากใช้ ผลึกสวรรค์ แม้ว่าเขาจะใช้ ลมปราณ ของตัวเองเพื่อช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือน นั่นหมายความว่า ของสิ่งต่อไป เขาต้องได้มันมาโดยไม่มี ผลึกสวรรค์ ช่วย
ซูหยุน ถอนหายใจแล้วหยิบเอาแหวนเก็บของ ของ จอมมารสามประสานที่ห้อยข้างเอวออกมาแล้วส่งลมปราณเข้าไปเล็กน้อยเขาถอดตราประทับที่บางๆออกแล้วจึงเปิดออกเพื่อค้นหา
เมื่อตราประทับคลายมันได้ส่งกลิ่นเหม็นออกมา ซูหยุน ขมวดคิ้วและมองเข้าไปข้างใน
มองเพียงแวบเดียว ทำให้เขาต้องตกตะลึง
ภายในมีแขนขาและอวัยวะจำนวนมากจากมนุษย์หรือสัตว์ พวกมันกำลังเน่าเปื่ยอยู่แล้วและปล่อยกลิ่นเหม็นไม่ดีออกไปนอกจากนั้นยังมีสมบัติล้ำค่าและอุปกรณ์มากมาย สิ่งของเหล่านั้น แตกหักไม่ต้องสงสัยเลยว่า จอมมาร ต้องติดตั้งตราประทับเอาไว้ เมื่อเขาตายไปตราประทับต้องทำงาน เขาทำเช่นนี้เพราะเขาไม่ต้องการให้ คนที่สังหารเขาได้สมบัติของเขา
“ไอ้ขี้เหนียว”
ซูหยุน สบถออกมาโดยไม่อายสายตาของเขาได้เหลือบไปเห็นลูกปัดสีขาวส่องแสงสุขใสลูกหนึ่ง
ในกองเนื้อเน่าเปื่อยมีลูกปัดส่องแสงเป็นประกาย
“นั่นมันอะไร?”
ซูหยุน หยิบลูกปัด.และเอาอุปกรณ์และสิ่งของที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ แต่สามารถนำไปแลกเป็นแหวนเก็บของตัวเองได้แล้วเขาก็หันกลับไปหามุข
มุขมีสายลมอ่อนๆโชยออกมาจากตัวมัน เขาจึงส่งปราณมารกระตุ้นเข้าไปในตัวลูกปัดเพื่อตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบ เขาก็พบว่าด้านในมีอาคมแก่กล้าอยู่อีกอันหนึ่ง
มันมีห้าวงแหวนเชื่อมต่อกันแต่ละตราประทับได้รับการสนับสนุนซึ่งกันและกัน พวกมันไแต่ลงวงแหวนไม่มีความขัดแย้งกันแต่กลับประสานกันเป็นอาคมไหม่ขึ้นมา
“เป็นตราประทับอาคมที่อัศจรรย์จริงๆ!”
ซูหยุน ชื่นชมคนที่สร้างตราประทับอาคมที่ซับซ้อนนี้ขึ้นมา
เขามีความรู้เกี่ยวกับอาคม แต่อาคมในปัจจุบันที่เขารู้จัก ไม่มีใครสามารถสร้างอาคมที่แสนอัศจรรย์แบบนี้
เขาไม่รู้เลยว่า อาคมนี้มีไว้เพื่ออะไร
ซูหยุน ส่งปราณวิญญาณของเขาเพื่อกระตุ้นอาคมให้เปิดใช้งาน
ครืนนน! ! !
ทันทีที่ปราณวิญญาณเข้าไปในอาคมลูกปัดได้ส่องแสงสว่างขึ้น ในเวลาเดียวกันลูกปัดได้ปล่อยพลังลึกลับออกมาและมันได้แล่นผ่านเข้าสู่ร่างกายของ ซูหยุน เช่นสายฟ้า
ชูวาา!
มีเสียงแปลก ๆ ออกมา
เกิดอะไรขึ้น?
ซูหยุน มองไปรอบๆแต่ก็ไม่มีอะไรปรากฏ เขามองลูกปัดอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีสิ่งใด
“หืม?
หรือว่า ลูกปัดนี้มีไว้เพื่อทำให้ตกใจกลัว? ใช้ทำอะไรไม่ได้? หรือมันเสียหาย? มันปล่อยสิ่งใดไม่ได้?
แต่เมื่อตอนที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้นและกำลังจะเก็บมัน ซูหยุน รู้สึก ถึงว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทำไม ลูกปัด ลอยอยู่
ไม่ใช่สิ!
มันไม่ได้ลอย แต่เป็นมือของเขาต่างหากที่หายไป! ซูหยุน มองดูตัวเองทันที และพบว่าตัวของเขาหายไปราวกับว่าตัวของเขาโปร่งใส!
“ล่องหน?”
คำหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในใจของเขา!
มันเหมือนกับเป็นลูกปัดที่เกลี้ยงเกลาในวินาทีต่อมามันก็หายไป นอกจากกระบี่มรณะที่อยู่ด้านข้างแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครมองเห็นเขา
ซูหยุน ยังรู้สึกถึงลูกปัดที่อยู่ในมือ เมื่อเขาหยุดส่งพลังปราณวิญญาณตัวเขากับลูกปัดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“ตอนนี้ข้าได้สมบัติที่ทำให้ล่องหน”
ซูหยุน ดีใจมากๆเขาจับลูกปัดอย่างระวัง
ถ้าอย่างนั้นเหตุใดมันถึงได้มีการสร้างอาคมอย่างระเอียดปราณีต หรือว่ามันอาจจะมีระดับสูงการอาคมล่องหนปกติ นอกจากนี้เขายังไม่รู้ว่าเขาจะหลบซ่อนจากสิ่งใด
มันไม่น่าจะมีระดับต่ำ?
ซูหยุน เก็บลูกปัดเข้าไปในแหวนเก็บแล้วบินตรงไปที่เมืองราชันมาร
เมืองราชันมาร
เมืองราชันมารรุ่งเรืองที่สุดและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด
นอกจากนี้มันยังเป็นเมืองที่มีข้องมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้นข่าวสารล่าสุดในอณาจักรมารและเป็นเมืองที่รวบรวมชาวมารทั่วทุกสารทิศ มันจึงเป็นเมืองที่วุ่นวายมากที่สุด
ครืนๆๆ
ซูหยุน ลงบนพื้นแล้วเก็บกระบี่มรณะเข้าฝัก เขาเดินเข้าเมืองพร้อมด้วยฝักกระบี่ที่ห้อยไว้ข้างเอว กระบี่มรณะและกระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับที่สพายไว้ด้านหลัง
ผู้คนได้กล่าวไว้ว่า ที่เมืองราชันมาร จอมมาร ได้ออกจากเมืองไปเมื่อ 1000 ปีที่ผ่านมา เขาจากเมืองนี้ไปโดยไร้ร่องรอย แต่ชาวมารที่อยู่ที่นี่ยังเคารพเขาอยู่ไม่มีใครกล้าสร้างตความวุ่นวายขึ้นที่นี่ สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่แสดงแสงยานุภาพของทุกคน มีการฆ่ากันตายทุกๆวันแต่ที่เมืองนี้ก็ยังเป็นที่ดึงดูดฝูงชนให้เข้ามาและมีกฏแปลกๆ
ที่เมืองราชันมารมีอยู่สองประตู ด้านหน้าคือประตูงาช้าง มันดูมหัศจรรย์และใหญ่โตเหมือนปากของปีศาจ ข้างกำแพงมีปราณมารคุ้มกันและบนผนังมีกลุ่มยามลาดตระเวน
ทหารมารยืนเรียงแถวสองข้างประตูงาช้าง ใครก็ตามที่ต้องการเข้าสู่ เมืองราชันมาร ต้องจ่ายค่าผ่านทาง
ค่าผ่านทาง ไม่ได้แพงมากนัก สิ่งของไม่กี่อย่าง แต่สมบัติต้องไม่ต่ำกว่าอันดับสีม่วง ซูหยุน มีของสะสมของตัวเอง นอกจากนี้เขายังได้รับอีกสองสามอย่างขณะที่เขาอยู่ในอณาจักรมาร ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
ในเมืองราชันมาร ซูหยุน เดินมาด้านใต้ของเมือง แม้ว่าอณาจักรมารจะแตกต่างจาก ทวีปนภายุทธ แต่ชาวมารและมนุษย์ยังเดินกันประปราย หากต้องการทราบข้อมูลพวกเขาก็จะไปที่โรงเตี้ยม ถ้าพวกเขาต้องการพบปะพูดคุยพวกเขาก็จะไปที่โรงเตี้ยมอีกเช่นกัน
เหตุผลที่ ซูหยุน รู้ว่าจอมมารสามประสานมีหัวใจกระจกก็เพราะเขาเข้ามาที่นี่
มีชาวมารเดินเข้าออกโรงเตี้ยม มันวุ่นวาย ข้างในห้องโถงใหญ่ในโรงเตี้ยมมีอยู่ห้าโต๊ะที่เต็มกลิ่นของเหล้ามารคละคลุ้มไปทั่วทั้งโรงเตี้ยมทำให้ ซูหยุน รู้สึกอึดอัด
เขาสุภาพเมื่อเขาเข้ามา เขาเดินมาด้านหน้ามีชาวมารที่กำลังมองเขาอยู่
มีชาวมารสวมหมวกเดินเข้ามา เขามีผิวสีดำสนิท ปราณมารเขาเบาบางมาก ดวงตาลึกดูเหมือนศพเดินได้ แต่ปราณเขาไม่ปกติมันแข็งแกร่ง เขามีพลังระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่สอง
มารเฒ่ามีนามว่า ปู่เสวีย เขามีชื่อเสียงในด้านการรวบข้อมูลในเมืองราชันมารทางใต้ มีข่าวลือบอกว่าเมื่อเขากำลังค้นหาขุมทรัพย์และบ่มพลังนอกเมืองเขาเกือบจะถูกฆ่าตาย เขาพยายามหลบหนี แต่เขาขี้ขลาด เขาไม่กล้าออกมา เขาจึงรวบรวมข้อมูลเพื่อแลกสมบัติบ่มพลัง จากนั้นเขาจะซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองเพื่อปลูกฝังและเพิ่มพลังของตัวเอง แม้ว่าเขาจะมีพลังระดับดวงจิตวิญญาณขั้นสองแต่เขาก็เทียบได้กับขั้นที่หนึ่งเท่านั้น เมื่อเขาสู้
ทุกวันเขาจะนั่งอยู่ที่เดิมจนถึงเที่ยงวัน สองชั่วยามต่อไปเขาก็จบ่มพลังหรือรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นเวลาของ ซูหยุน ไกล้หมดแล้ว
“ข้าอยากรู้ที่ตั้งของ ธาตุเหล็กอาคม!”
ซูหยุน วางสมบัติสองชิ้นที่ได้จากจอมมารสามประสานบนโต๊ะ
จอมมารสามประสานกำลังจะก้าวเข้าถึงระดับดาราวิญญาณ สิ่งของของเขาย่อมมีพลังเป็นธรรมดา เมื่อมันถูกวางไว้บนโต๊ะดวงตาของเฒ่ามารจึงเป็นประกายทันที
“ธาตุเหล็กอาคม? ถือว่าเจ้าโชคดี!”
“โชคดี. “ท่านหมายถึงอะไร?”
“หมายความว่าไงหรอ? มันก็หมายความว่าสิ่งที่เจ้ากำลังตามหามันอยู่ในเมืองนี้นะสิ! “
“ที่ใคร?”
“อู่เสวีย!”
“อู่เสวีย?”
“ใช่แล้ว อู่เสวีย ทำไม? เจ้าหนูอย่าบอกน่ะว่าเจ้าไม่รู้จัก? ในเมืองราชันมาร มีผู้ทรงอำนาจที่มีนามว่า อู่เสวีย เขากล้าหาญและโหดเหี้ยมเขาสังหารทุกคนและชิงสมบัติแม้กระทั่งบังคับขู่เข็นหญิงสาวมารบ่มพลังคู่กับเขา เเขาชั่วร้ายอย่างแท้จริง! อู่เสวีย มีอำนาจเผด็จการในเมืองราชันมาร และอยู่ที่นี่มาหลายปี มีผู้คนมากมายที่ท้าทายเขา แต่ก็ไม่มีใครดึงเขาลงมาจากตำแหน่งได้ เขาคือชาวมารที่ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน เขายังได้รับการยอมรับว่าเขาคือ ราชันจักรพรรดิ! “
“ราชันจักรพรรดิ”?
ซูหยุน ใจเต้นโรมคราม เขาคิดถึง ราชากระบี่ราชัน ในวังลับของลัทธิกระบี่มาร
นั่นหมายความว่าเจ้านายของกระบี่ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่ไม่มีใครสามารถล้มได้?
“ราชันจักรพรรดิ เป็นคนเจ้าสำราญและระดับสูงมาก และยังอยู่ในเมืองราชันมาร อู่เสวียเป็นที่รู้จักในนามของเผด็จการเป็นเพราะเขาพ่ายแพ้ราชันจักรพรรดิคนก่อนหน้านี้ถืออำนาจและอยู่ในเมืองเป็นเวลาหลายปี ใครๆก็รู้ว่าเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวลือว่าเขาได้ชิงสมบัติมาจากบางคนและในนั้นมีธาตุเหล็กอาคม เจ้าหนู หากเจ้าอยากได้มันเจ้าต้องไปพบกับเขา! “
“เขาต้องการที่จะแลกธาตุเหล็กอาคมหรือไม่?”
“ไม่ๆๆ เขาวางแผนที่สร้างทหารศักดิ์เขาได้จับชาวมารสิบคนเพื่อเตรียมสร้างอาวุธวิญญาณของตัวเอง!”
“เขาทำมันหรือยัง?”
“อืม” เฒ่ามารโน้มตัวตัวไปไกล้ๆ ซูหยุน “หากเจ้าต้องการลงมือเจ้าต้องรีบหน่อยแล้ว!”
“เขามีระดับพลังเท่าไหร่?”
“ดวงจิตวิญญาณขั้นเก้า”
“ไม่ถือว่าสูงในเมืองใช่มั้ย?”
“มันไม่สูง แต่หากเทียบกับคนที่ติดตามเขาอย่างกับหนอน! ถึงแม้ว่าเจ้าจะสู้กับเขาได้ แต่เจ้าจะจัดการคนที่ติดตามเขาไหวรึ? “
“ท่านรู้มั้ยเขาจะสร้างทหารศักดิ์สิทธิ์เมื่อไหร่?”
“ใน10วันนี้! จะมีชาวมารมากมายมาดู “
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
ซูหยุน พยักหน้าเตรียมจากไป
ทันใดนั้นมีสามคนเดินเข้าโรงเตี้ยมมา
ทั้งสามคนสวมชุดกระบี่มีปราณมารคละคลุ้ง ในมือของพวกเขาพวกเขาถือกระบี่มาร เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาพวกเขากวาดสายตาไปรอบๆและนั่งลงที่โต๊ะว่าง
“คนของ ลัทธิกระบี่มาร?”
ซูหยุน ขมวดคิ้วมองไปที่แผ่นป้ายบนเอวของพวกเขา