Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 235
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 235
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :235 ราชันจักรพรรดิ (V)
“ต้านมันไว้!”
จอมมาร ธิ์กรีดร้อง
ลุกสมุนต่างหยิบสมบัติขึ้นมาป้องกันกระบี่นับ100แต่กระบี่เหล่าราวกับตกลงมาจากสวรรค์ ปังๆๆๆๆๆ เสียงกระทบดังสนั่นหวั่นไหวจนสมบัติเกิดเป็นหลุม
ทรงพลัง!
จอมมาร อ้าปากค้างด้วยความกลัว
ใบมีดที่หล่นลงมาเริ่มปลดปล่อยปราณมารออกมาในปราณนั้นเป็นวิญญาณมารที่พยายามจะโผล่ออกมานับไม่ถ้วน วิญญาณมารต่างอ้าปากง้างกงเล็บอันแหลมคมของมัน
ชาวมารบางคนไม่สามารถต้านทานวิญญาณมารได้ถูกมันจับฉีกร่างเลือดสาดกระเศ็นไปทั่ว!มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองยิ่งนัก
หลังจากนั้น ได้ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งขี่กระบี่สีดำทยานมาสวมชุดสีดำที่ปกคลุมไปด้วยไอมาร กระบี่ทั้งหมดบินอยู่รอบๆตัวของเขา น่าน่าเกรงขามยิ่งนัก
เขาบินทยานวนไปรอบๆพร้อมกับกระบี่ที่บินอยู่รอบตัวเขาพุ่งเข้าหาชาวมาร
“ถ่วงเวลามันไว้ ให้ข้าฟื้นพลัง เมื่อพลังข้ากลับคืนแล้วข้าจะจัดการมันเอง !!! “
“รอให้เจ้าฟื้นพลัง อย่างนั้นหรอ?”
ซูหยุน ฉีกรอยยิ้ม พร้อมกับซัดกระบี่เข้าหาจอมมาร
“กวาดสบั้นมาร?
ตูม!!
ปราณกระบี่รูปจันทร์เสี้ยว พุ่งออกมามันสามารถแยกบ่อน้ำพุเป็นสองส่วนได้
“กระจอก!”
ชาวมารไม่ได้หวั่นกลัว พวกเขาจับหอกมารดันไปด้านหน้าสร้างเกราะป้องกันการโจมตี
แต่เมื่อปราณกระบี่ไปถึง มันกลับกลายเป็นกรงเล็บกระชากเกราะป้องกัน
แคว้กกกก!
ด้านหน้าเกราะป้องกันปรากฏร่องรอยห้ารอย ชาวมารที่หลบไม่ทันถูกรัศมีกรงเล็บเจาะหน้าอกเป็นรูกว้าง
“อะไรกัน? นั่นมัน เพลงกระบี่มาร !! “
“จะ….เจ้ามาจากลัทธิกระบี่มารอย่างงั้นหรือ!”
“ข้ามาจาก สำนักเพลงกระบี่ไร้สรรพสิ่ง!”
ซูหยุน วาดนิ้วมือบังคับกระบี่นับ100พุ่งเข้าหาชาวมารทันที
กระบี่นับ100เล่มที่บินอยู่รอบๆร่างของเขาพุ่งทยานเข้าตัดร่างชาวมารทันที ปราณกระบี่มารปกคลุมทั่วชั้นฟ้าวิญญาณมารที่บ้าคลั่งปรากฏออกมาเข้าแีกร่างชาวมาร พวกเขาคล้ายกับจะต้านทานได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานเกราะป้องกันของพวกเขาทั้งหมดก็แตกสลายวิญญาณมารสามารถเข้าไปฉีกร่างของพวกเขาได้ ปราณมารไหลเข้าไปในร่างบดขยี้ร่างของพวกเขา
ชี่ๆๆๆๆ!
ใบมีดและวิญญาณมารเริ่มตัดเนื้อออกจากร่างกายของเขาเช่นเดียวกับสัตว์ป่าอันหิวกระหายที่กำลังเลาะกระดูกสีดำออกไป ร่างกายของเขาฉีกกระชากออกจากกัน
จอมมาร ตอนนี้ราวกับวิญญาณของเขาต้องการจะหลบหนี
“นั่นมันวิชาอะไร? มันทรงพลังขนาดไหนกัน?
ทุกคนสิ้นหวัง
ซูหยุน ตอบด้วยกระบี่มรณะฟาดฟันชาวมารตนอื่นๆ
ชาวมารไม่ได้โง่ พวกเขารู้ว่ามิอาจต่อกรกับซูหยุนได้ พวกเขามองเห็นปราณมารที่แผ่ออกมาจากร่างของ ซูหยุน ที่กระหน่ำโจมตีผู้บ่มเพาะระดับดวงจิตวิญญาณคนอื่นๆ พวกเขารู้ว่าพลังยุทธของซูหยุนน่าจะเทียบได้กับจอมมารพวกเขาตัดสินใจถอย พวกเขากัดฟันวิ่งหนี
แต่เมื่อพวกเขาบินไปกระบี่บินนับไม่ถ้วยได้พุ่งทยานขวางหน้าเหมือกับดักนรกฉีกร่างของพวกเขาร่วงหล่นจากท้องฟ้า
พริบตาก้เหลือแต่เศษกระดูกที่ร่วงลงมา
ซูหยุน กวาดกระบี่มรณะ กระบี่ย่อยนับร้อยกลับเขามารายล้อมเขาอีกครั้ง และหายเข้าไปในฝักกระบี่ที่อยู่ด้านหลัง
ซูหยุน มีพลังยุทธระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่สอง แต่หลังจากใช้ผลึกสวรรค์เขาสามารถสังหารชาวมารได้ราวกับฆ่าสุนัข
จื่อเสวีย จางจิ้วหลิว ฟางฟลิงฟลาง เฝ้ามองเหตุการทั้งหมด
“เขาไม่ได้มีพลังยุทธระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่สองหรอกหรือ? ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งอย่างนี้? “ จื่อเสวีย พึมพำออกมาในดวงตาของนางแสดงถึงความตกตะลึง
ซูหยุน ถือกระบี่มาร เดินเข้าไปหาจอมมารที่เต็มไปด้วยไขมัน
ปลายชี้ยื่นออกไป ปรารมารที่แผ่ออกมาทำให้เกิดเสียง วูบวาบ จากกระบี่สีดำ
“จ..จ…เจ้าเป็นใคร?”
พวกจอมารถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัว
แก่นแท้ปราณของเขายังไม่ทำงาน ตอนนี้เขาอ่อนแอมากไม่สามารถสู้กับซูหยุนได้
“ข้าเป็นใครเจ้าไม่ต้องรุ้”
ซูหยุน โยนกระบี่มรณะสีดำขึ้นไปบนอากาศ มันบินหมุนวนรอบๆจอมมาร จอมมารเห็นดังนั้นยิ่งตกตะลึง ไม่กล้าถามต่อ
“ส่งหัวใจกระจกมา บางทีข้าอาจจะละเว้นชีวิตเจ้า”
“หัวใจกระจก เจ้ามาเพราะสิ่งนี้?”
“เจ้ามีอะไรอื่นที่สามารถดึงดูดข้าได้หรือ?”
“จ..จ…เจ้าทำไมไม่มากับพวกเขา?”
“ข้ารู้อยู่แล้วว่านี่คือกับดัก แล้วข้าจะมาให้โง่ทำไม? ข้าถนัดโจมตี ไม่สันทัดเรื่องการป้องกัน อีกอย่างการแสดงละครของเจ้ามันห่วยแตก ไม่เพียงแค่นั้น เจ้ายังพาคนมาน้อยเกินไป ไม่แปลกรึ? หลังจากที่เจ้าถูกยาพิษ เจ้าไม่ควรตะโกนขอความช่วยเหลือ เจ้าแค่นอนทรมานอย่างเดียว? พิษนี่ มันทำให้คอของเจ้าเป็นอัมพาตไม่ใช่หรือไง? “ “จางจิ้วหลิว กับเจ้ามีสิ่งที่ผิดพลาดเหมือนกัน จื่อเสวีย และ หวังจื่ออู่ มีแต่ความโกรธแค้นบดบังสายตา ข้าจึงไม่มีอะไรจะพูดกับพวกเขา เฟิงหลินหลาง รู้ถึงความผิดปกตินี้ เป็นข้า ข้าจะไม่เข้ามาในกับดักแน่ “
เฟิงหลิงหลาง เป็นคนเงียบๆ เขาจึงตั้งข้อสงสัยว่า จางจิวหลิว มีความแค้นในใจ เฟิงหลินหลางรรู้ว่าถึงจะเป็นกับดักแต่เขาก็อยากจะเสี่ยง แต่ ซูหยุน ไม่ได้เช่นนั้น เขามาเพียงแค่ของสิ่งเดียวเขาไม่ได้มีความโกรธแค้น เขาจึงไม่กังวลหรือหวาดกลัว
“เรื่อนี้ข้าก็ไม่รู้มาก่อน จางจิ้วหลิว มาหาข้าและบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าไม่มีเวลาเตรียมตัวและมีแค่ผู้บ่มเพาะดวงจิตวิญญาณขั้น6ขั้น7เท่านั้นข้าเตรียมตัวทันรึ? ข้าก็ไม่คิดว่า เจ้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มันเป็นความผิดพลาดของข้าเอง “
จอมมาร หันหน้ามองลูกสมุนก่อนหันกลับไปพูดกับ ซูหยุน “ข้ามอบ หัวใจกระจก ให้เจ้าก้ได้แต่เจ้าต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ฆ่าข้า?”
“ได้!”
“เจ้าอย่ากลับคำซ่ะละ!”
“คำพูดของข้าเชื่อถือได้ไม่ต้องห่วง!” ซูหยุน เงยหน้าขึ้นมองอย่างชั่วร้ายในรอยยิ้ม
จอมมาร ไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ฝืนทนกัดฟันแล้วท่องอะไรบางอย่าง จากนั้นทันใดนั้นหน้าอกที่มีแต่ไขมันของเขาก็ปล่อยแสงรัศมีสว่างออกมาจากนั้นเพชรที่มีประกายคล้ายก้อนหินก็ออกมาจากร่างกายของเขา
เขาหยิบมันยื่นไปทาง ซูหยุน
ซูหยุนเดินเข้าไปหยิบมันมาอย่างพอใจ
“มันคือ หัวใจกระจก”
“ข้ามอบหัวใจกระจกให้เจ้าแล้ว เจ้าปล่อยข้าไปได้รึยัง?” จอมมา ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่มือของเขาได้แอบส่งพลังเข้าไปในแหวนเก็บของบนนิ้วอย่างลับๆ
“ได้”
ซูหยุนหัวเราะ “เป้าหมายของคือ หัวใจกระจก อย่างอื่นข้าไม่สนใจ! ตอนนี้ข้าได้มันมาแล้ว ข้าไปล่ะ! ลาก่อน!”
เสร็จแล้วเขาก็หันหลังกลับไป
จิตสังหารในความโกรธแผ่ซ่านออกมาจากดวงตาของจอมมาร
ไม่เคยมีใคร หยามหมิ่นเขาแบบนี้มาก่อน!
แต่ในขณะที่ซูหยุนหันกลับไปเขาก็หมุนตัวกลับมาทันที ในช่วงเวลาไม่กี่ลมหายใจเขาได้ซัดฝ่ามืออันรุนแรงใส่หน้าอกจอมมารอย่างจัง
ตูม!!
จอมมาร ที่กำลังสะสมพลังอยู่นั้นไม่ทันระวังตัว เขาไม่คิดว่า ซูหยุน จะหันกลับมาแบบนี้เขาถูกซัดลอยออกไป แต่ก่อนที่เขาจะลงถึงพื้น กระบี่มีดำได้แทงไปด้านหลังทะลุถึงหน้าออก
ร่างกายจอมมารสั่นสะท้านดวงตาของเขากลมโตด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ซูหยุนหันหน้ามองด้วยรอยยิ้มดุจปีศาจ ร่างของเขาเลือนลางกลายเป็นหมอกดำพุ่งเข้าหาจอมมาร พร้อมกับกระบี่ย่อยนับร้อยทยานออกมาจากฝักด้านหลังรวมตัวกันคล้ายดั่งมังกรทมิฬเจาะทะลุร่างจอมมาารสามประสาน
โฮกกก !.
เสียงคำรามของกระบี่อันโหดเหี้ยมเข้ากัดกินที่เกิดจากปราณมารและกระบี่ เมื่อร่างมังกรกระบี่สลายไป ปรากฏร่างของจอมมารที่ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ หัวใจ เส้นชีพจรลมปราณทั้งหมดขาดสบั้น ร่างของเขาตกลงไปที่พื้นกระจัดกระจายเป็นชิ้น ๆ
จอมมารตาย!
ไม่มีใครคิดว่าซูหยุนจะกลับคำพูดของเขาจริงๆ!
ซูหยุน ยืนอยู่พร้อมกับกระบีมรณะ ปราณมารแผ่กระจายออก ลุกโชติช่วง
โหดเหี้ยม! ไร้ความเมตตา! เจ้าเล่ห์!
นี่คือความคิดล่าสุดของ จื่อเสวีย ที่มอง ซูหยุน
นี่คือคนที่ปิดปากเงียบที่อยู่แต่ด้านหลังหรือ!
เม็ดเหงื่อไหลอาบ จื่อเสวีย
จางจิ้วหลิว มือไม้อ่อนตอนนี้เขาไม่รู้จะทำยังไง เฟิงหลินหลาง ทรุดตัวลงหอบหายใจหนัก แต่สายตาของเขายังจ้องมอง ซูหยุน อยู่ไม่กระพริบ
ในตอนนี้ทั้งสาม ลมหายใจติดขัดพวกเขาไม่รู้ว่า ซูหยุน ตัดสินใจจะจัดการกับพวกเขาอย่างไร เพราะในอณาจักรมารนั้น คนที่แข็งแกร่งกลืนกินคนที่อ่อนแอ
ซูหยุน เดินไปที่ซากศพของจอมมารเก็บแหวนของเขาขึ้นมาแล้วเดินไปหา จื่อเสวีย และอีกสองคน
ดวงตาของนาง แสดงถึงความร้อนรน
“เจ้าต้องการที่จะฆ่าข้า?”
นางถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ
“ไม่!
“ฮ่าๆๆ หากไม่มีเจ้า ข้าก็ไม่สามารถฆ่าเจ้าโง่นี่ได้ อีกอย่างข้าไม่ชอบการฆ่าฟัน!”
เฮ้อ! ! !
ทั้งสามคนได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ในวินาทีถัดมามีไอเย็นยะเยือกแผ่ออกมา
มีหัวปลิวขึ้นบนอากาศ เลือดสาดกระจายไปทั่ว
จื่อเสวีย เปิดตากว้าง
นางเห็นร่างของ จางจิ้วหลิว ถูดแยกออกเป็นสองส่วน
“แต่ข้าไม่ชอบคนทรยศ”
ร้อยยิ้ม ที่โหดร้ายปรากฏที่มุมปากของเขา พร้อมกับเรียกกระบี่มรณะกลับมา
ตกลงเขาเป็นคนโหดเหี้ยม? หรือไม่ได้เป็น