Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 234
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 234
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :234 ราชันจักรพรรดิ (IV)
“ช้าก่อน!”
จื่อเสวีย กำลังจะรีบไปแต่ ซูหยุน พูดออกมา
“เจ้ามีอะไร?”
“เจ้ากลัวหรือ ซูหยุน?”จางจิ้วหลิว เยาะเย้ย
นี่เป็นโอกาสที่ดี พวกเขาจึงใช้ประโยชน์จากมัน?
โดยเฉพาะ จื่อเสวีย นางต้องการแค่ช่วยน้องชายนางเท่านั้น นางยอมได้ทุกอย่าง แค่นางไม่ต้องการเสียเวลา ตอนนี้นางไม่สนคำพูดของ ซูหยุน นางดึงกรรไกรออกมาตัดเส้นใยปรารเข้าไปในบ่อน้ำพุทันที
จางจิ้วหลิว หวังจื่อเอ้อ เฟิงหลินหลาง ตามนางไป
ซูหยุน กวาดสายตาไปรอบๆแล้วถอยกลับไป เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจอีกแล้ว เขากำลังจะออกไปคนเดียว
“ชิ ไม่แค่พลังอ่อนหัด แถมยังรักตัวกลัวตายอีก เจ้าจะมาสู้พวกเราได้ยังไง ไปตายซ่ะ! เจ้ามันก็เป็นได้แค่ขยะ! “
หวังจื่อเอ้อ มองดู ซูหยุน ที่กำลังจากไปพร้อมกับถุยน้ำลายด่าทอก่อนที่เขาจะเข้าไปในบ่อน้ำพุ
“เอ๊ะ? “เจ้าเป็นใคร?”
ยามสองคนตะโกนออกมา
ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ใบมีดลมปราณพุ่งเข้ามาผ่าสมองของพวกเขาออกเป็นสองซีกใบมีดปราณมารมีพลังกล้าแกร่งมาก
เลือดชาวมารนองเต็มพื้น
“ยังไม่หนำใจเลยวุ่ย!” หวังจื่อเอ้อ บ่นพึมพำก่อนเก็บใบมีดหนาๆของตัวเองแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่บ่อน้ำพุ
ชาวมารสี่คนเข้าสู่บ่อน้ำพุ เก็นหญิงชาวมารนางอยู่บนพื้นด้วยอาการโรยริน
ในนั้น จอมมาร นอนเปลือยกายครึ่งท่อนร้องโอดครวญอยู่
เขาเป็นคนตัวเตี้ยอ้วนหัวล้าน ดวงตาของเขาลุกโชน เขาเป็นคนพุงใหญ่รูปลักษณ์น่าเกลียด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าดูถูกพลังอำนาจของเขา
เมื่อเห็น จอมมาร นอนอยู่บนพื้นดวงตาของพวกเขาดูราวกับจะทอประกายสีทอง
ตามที่คาดไว้เขาถูกพิษ!
หวังจื่ออู่ เป็นคนแรกที่วิ่งออกไปพร้อมตะดกน “มอบชีวิตของแกมาซ่ะ!”
ใบมีดอันดหดเหี้ยมฟันไปที่จอมมาร
แต่.
ในขณะที่ใบมีดใหญ่ของเขาจะฟันลงไป เขารู้สึกร่างกายของเขาสั่นสะท้านร่างกายถูกฉีกออกจากภายใน อวัยวะทั้งหมดของเขาถูกทำลายพลังทั่วร่างขาดสบั่นสลายไปลมปราณแตกซ่าน
จอมมารสามประสานที่นอนอยู่บนพื้นลืมตาขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะร่า เขาลุกขึ้นมาใช้มือแทงเข้าไปที่หน้าอก หวังจื่ออู่
ฉึก!!
หัวใจของเขาถูกควักออกมา
ร่างของ หวังจื่ออู่ สั่นสะท้านก่อจะพ่นเลือดออกมา
“วางแผนคิดจะลอบสังหารข้ารึ? ไม่เจียมตัว ฮ่า ๆ ๆ ! “
จอมมาร หัวเราะร่ากระทืบเท้ากระโดขึ้นเหยีบร่าง หวังจื่ออู่ ตรงกลางอกร่างฉีกแยกเป็นสองซีก
ขอบเขตดวงจิตวิญญาณ ขั้นที่7 ตายทันที
“เป็นไปไม่ได้!”
จื่อเสวีย เฟิงหลินหลาง จางจิ้วหลิว ตกตลึงหน้าขาวซีดแทบไม่อยากเชื่อ
หวังจื่ออู่ ขอบเขตดวงจิตวิญญาณขั้นที่7 ตายอย่างน่าอนาถ? แม้พลังยุทธของเขาจะห่างกันสามขั้น แต่เขาก็ไม่น่าตายไวแบบนี้
เกิดอะไรขึ้น?
ดวงตา จื่อเสวีย เปิดกกว้างด้วยความมึนงงนึกอะไรไม่ออก
ปัง!
ในเวลาเดียวกันนั้นมีแสงวูบไหว เฟิงหลินหลาง ถูกซัดปลิวไปติดกำแพงทำให้กำแพงแตกละเอียดกระอักเลือดออกมาอย่างน่าสังเวช
หัวใจ จื่อเสวีย เต้นระรัวหันไปมองคนที่อยู่ด้านข้าง
นางเห็นพลังที่ยังมีแสงเรืองๆที่ฝ่ามือ จางจิ้วหลิว ใบหน้า เฟิงหลินหลาง บิดเบี้ยวด้วความแค้น
เห็นได้ชัดว่าการโจมตีเป็นฝีมือของเขา เฟิงหลินหลาง เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ทว่าเขาไม่ได้ระวังคนที่อยู่ข้างๆ!
“จิ้วหลิว เจ้าทำอะไร?”
“ทำอะไร อย่างนั้นหรือ?” ดูไม่ออกหรือไง? “
จอมมาร ยืนขึ้นมองดูด้วยรอยยิ้ม “จางจิ้วหลิว ทรยศเจ้ามานานแล้ว!”
“ทรยศ อย่าบอกว่า หวังจื่ออู่ เจ้า … “
“ถูกต้อง หวังจื่ออู่ ถูก จิ้วหลิว วางยาพิษในเหล้าที่มันดื่มยังไงล่ะ ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่ามันได้ง่ายดายอย่างนี้รึ? เจ้าพวกโง่เง่า ไม่รู้หรือว่าสหายเจ้าได้ขึ้นกับข้า? คิดจะลอบสังหารบิดาเจ้างั้นหรือ? ฝันกลางวัน? “ ดวงตาของ จอมมารสามประสาน เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
จื่อเสวีย จ้องมองจางจิ้วหลิว ในสายตาของนางเต็มไปด้วจิตสังหารกัดฟันกรอดๆ” เพราะอะไรกัน?”
“เพราะอะไร?”
จางจิ้วหลิว ลดพลังปราณมารในมือลง “ก็เพราะเจ้ายังไงล่ะ !!”
“ข้างั้นหรือ?”
“จื่อเสวีย!” เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบเจ้า แต่เจ้าไม่ชอบข้า! เจ้าไม่ยอมเป็นคู่บ่มเพาะของข้า เจ้ารู้หรือไม่? ข้าชอบเจ้ามานานแล้ว! ข้าต้องการเจ้า! ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนข้าก็จะทำเพื่อให้ได้เจ้า! “
ดวงตา จางจิ้วหลิว เบิกโพรงหันไปทางจอมมาร “ข้าได้แอบติดต่อกับ จอมมาร เขาสัญญากับข้าว่า หากข้าหลอกพวกเจ้าเข้ามาที่นี่ได้เขาจะมอบเจ้าให้กับข้า! และทำให้เจ้าเป็นของข้า! “
“ฝันไปเถอะ!”
จื่อเสวีย ถุยน้ำลายใส่หน้า จางจิ้วหลิว “จางจิ้วหลิว ข้ามันตาบอดเองที่ไปเชื่อคนอย่างเจ้า! วันนี้ข้าขอยอมตาย ดีกว่าเป็นของเจ้า! เลิกฝันได้แล้ว! “
“ฮ่าๆๆ ด้วยอาคมบางอย่างของ ท่านจอมมาร เจ้าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ !!” จางจิ้วหลิว ไม่สนใจความดกรธของ จื่อสวีย เพราะนางจะกลายเป็นลูกแมวเชื่อๆของเขา
อย่างไรก็ตาม
จอมมาร ไม่มีความคิดเช่นนั้น
เขาเดินเลียริมฝีปากไปหา จื่อเสวีย
“จางจิ้วหลิว เจ้าหนู ตาเจ้าถึงนิ ที่เลือก จื่อเสวีย เป็นคู่บ่มเพาะ ฮ่าๆๆๆ”
“ท่านจอมมาร ชมข้าเกินไปแล้ว”
เขาเห็น จอมมาร เดินไปหาจื่อเสวียดวงตของเขาเต็มไปด้วยแรงปราถนา
“หากจะปล่อยให้เจ้าไปสนุกกับคู่บ่มเพาะที่งดงามขนาดนี้คนเดียว ดูเหมือนข้าจะใจกว้างเกินไป ทำมไม่ให้นายของเจ้าได้สนุกก่อนละ? “
“เจ้านาย..นี่ท่าน … “
“จางจิ้วหลิว เจ้าได้ติดตามเจ้านายอย่างข้านับว่าเป็นบุยของเจ้าแล้ว เข้าใจมั้ย?” จอมมารยกมือขึ้น”จัดการมัน!”
“ครับ!
เสียงตอบขานดังสะท้าน กลุ่มชาวมารกลุ่มใหญ่ปรี่ออกมาจับ เฟิงหลินหลาง จางจิ้วหลิว จื่อเสวีย ในพริบตา
“ท่านหลอกข้า! ท่านบอกจะยกจื่อเสวียให้ข้า! ท่านกลับคำพูด !! ท่านหลอกข้า!!”
จางจิ้วหลิว ขัดขืนร้องตะดกนอย่างบ้าคลั่ง แต่มันก็ไร้ประโยชน์
“ข้ากลับคำพูดตอนไหน?” จอมมาร หัวเราะลั่น: “รอข้าสนุกกับนางก่อนแล้วข้าจะยกให้เจ้า?”
ร่างที่เต็มไปด้วยไขมันเดินไปหาจื่อเสวีย
“ชาติชั่ว!”
จื่อเสวีย ด่าทอด้วยความโกรธ ทันใดนั้นมีแสงกระพริบในดวงตาของนางยิงไป จอมมาร
แต่ทว่ถึงแม้จอมมารจะมีรูปร่างอ้วน แต่ความเร็วของเขาไม่ได้ช้าเลย เขาเบี่ยงหัวหลบได้ในทันที
“กลกระจอกๆคิจะใช้กับข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
จอมมาร หัวเราะเย้ยหยัน ก่อนจะซัดตราประทับฝ่ามือไปที่ร่างของ จื่อเสวีย
ลมปราณในร่างของนางปั่นป่วนลดลงทันที
“เจ้าต้องการใช้พิษทำให้แก่นแท้ลมปรารของข้าหยุดทำงานอย่างนั้นสิน่ะ? ฮ่าๆๆ ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสมันด้วยตัวเอง “
จอมมารยิ้มด้วยความปิติยินดี เดินเข้าหานางหมายจะฉีกเสื้อผ้าของนาง
ตอนนั้นปากของจื่อเสวียสั่นเทาและหยุดดิ้นรนยอมให้มือจอมมารยื่นออกมา
ฝ่ามือยื่นออกมาจับ จื่อเสวีย
“อ้าาาา!!!!
ขณะที่มือของ จอมมาร สัมผัสตัวนางเขาต้องรีบหดมือกลับแล้วนั่งลงไปดิ้นที่พื้นอย่างควบคุมไม่ได้
“เจ้านาย!”
ลูกสมุนจอมมารตกใจรีบเข้าไปช่วยทันที
จื่อเสวียหัวเราะออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง ” ฮ่าๆๆ เป็นยังไง? สามประสาน เจ้ายังสบายดีไหม?ข้ามีวิชาพิษลับ หากใครสัมผัสตัวข้า แก่นแท้ลมปราณคนนั้นจะหยุดทำงาน ให้ข้าได้ลิ้มรสชาติหรอ? ฮ่า ๆ ๆ … “
แววตาของจื่อเสวียเต็มไปด้วยความสุข จอมมารตวาดลั่นสั่งลูกสมุน “จัดการนาง เอาดวงวิญญาณของนางมาให้ข้า ข้าจะขังนางให้ทรมารชั่วกัปชั่วกันป์!”
“ครับ นายท่าน!”
ใบมีดถูกวาดเข้าใส่จื่อเสวีย
จื่อเสวีย หลับตาลงเพราะนางไม่อาจขัดขืนหรือต้านทานได้เพราะลมปราณของนางเป็นอัมพาต
“จบแล้วซิน่ะ!” จื่อเสวียร้องให้ในใจ
เฟิงหลินหลาง ปิดตาลง
ตอนนี้ใครจะช่วยนางได้?
สวบ!
เสียงฉีกขาดของอากาศ!
ในช่วยเวลาความเป็นและความตาย กระบี่สองเล่มตกลงมาจากฟากฟ้าดั่งดาวตกใส่ จอมมาร
พลังอำนาจของกระบี่เป็นประกายเจิดจ้า!
สีหน้าของชาวมารเปลี่ยนไป พวกเขารีบหันกลับไปหา จอมมาร ผู้เป็นนายของพวกเขา
ตูม ตูม !!
เสียงดังสนั่นสองครั้ง แสงกระบี่วูบไหวในอากาศพุ่งลงปักลงบนพื้นดิน ทุกคนหันมองไปเห็นเป็นกระบี่สีขาวและสีเขียว
สองกระบี่ปักลงไปในพื้นเกิดเป็นแสงเจิดจ้าละลานตา
“ใคร?!”
จอมาร หวาดผวาเรียกลูกสมุนที่อยู่ด้านข้างเอายากู้ลมปราณมาแล้วกินเข้าไปเพื่อรักษา แก่นแท้ปรารภายในร่าง
แต่ภายในพริบตา เจตจำนงแห่งกระบี่ได้ปกคลุมทั่วท้องฟ้า เจตจำนงกระบี่ตกลงมาราวกับสายฝนกระแทกใส่ชาวมารดดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จอมมาร มันเหมือนดั่งขุนเขากดทับแทบจะหายใจไม่ออก
พลังอำนาจกระบี่แข็งแกร่งมาก? “นั่นมันกระบี่อะไร?” ทำไมมันถึงน่ากลัวขนาดนี้?
“แกเป็นใคร ปราชญ์ หรือ? แน่จริงก็ออกมา! “
จอมมารกัดฟันตะดกน
แต่ไม่มีใครออกมา แต่เจตจำนงกระบี่ยิ่งแก่กล้าอย่างน่าอัศจรรย์
ครืนนนนน….ปึกๆๆๆๆ
ไม่นานกระบี่มากมายนับไม่ถ้วงได้พวยพุ่งลงมาจากฟากฟ้าดั่งคลื่นยักษ์ไปยังชาวมาร ทุกคนจ้องมองภาพที่กำลังปรากฏขึ้นด้วยความหวาดกลัวลึกเข้าไปถึงข้างใน
ภายในความมืดนับร้อยแห่งดาบบินลงมาจากฟากฟ้าไม่มีอะไรหยุดพลังหรือปิดกั้นทางของพวกเขา