Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 230
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 230
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :230 เพลงกระบี่จอมมาร (2)
แม้ว่าเขาจะไม่ได้กินโอสถใด แต่การฟื้นพลังของเขาก็ไม่ใช่เรื่องยาก ภายในสามวันสิงโตซูหยุนและหลิงฉิงหยู ดีฟื้นพลังเต็มเปี่ยม
ซูหยุน ยังมีดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษาที่ใช้ในยามวิกฤติได้
“น่าเสียดายที่ไม่มีส่วนผสมเพียงพอที่นี่ หากข้าสามารถวาดอาคมเพิ่มพลังของเรา เราก้จะออกจากที่นี่ได้ มันน่าจะพอ ด้วยพลังของเราตอนนี้ก็น่าจะทำลายประตูได้ “
ซูหยุนลุกขึ้นยืน ถอนหายใจ
สิงโตหินมองเขาด้วยความงุนงง มันไม่เคยเข้าใจสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูด
มันมองดู ซูหยุนที่กำลังปัดฝุ่นแล้วเดินไปที่ประตู
“ประตูไหนที่ออกไปทางทิศตะวันตก”
“ทิศตะวันตก? ทิศตะวันตก? “
“นี่!”
“ซูหยุน เหตุใดเจ้าถึงหาประตูไปทางทิศตะวันตก?”
“เพราะทางทิศตะวันตก ไกล้ลัทธิกระบี่มารมากที่สุด ตำแหน่งปัจจุบันของวังลับ ตั้งอยู่ที่ด้านตะวันตกของลัทธิกระบี่มาร! “
ซูหยุนอธิบายขณะที่มองไปทาง หลิงฉิงหยู จากนั้นเขาก็พยักหน้าและหยิบก้อนหินออกจากหน้าอกของเขาโยนขึ้นลงเตรียมใช้
ราวกับว่า หลิงฉิงหยู รู้ว่าเจตนาของ ซูหยุน ว่าจะทำอะไร
“เจ้าแน่ใจ?”
“มันต้องเสี่ยงดู! ถ้าเราไปทางเส้นทางหลังมันก็เสี่ยง! ตอนนี้เราต้องเสี่ยงค้นหาเส้นทางของเราเอง “
หลิงฉิงหยูเงียบไป นางเดินไปแล้วผายมือน้อยๆของนาง นางหลับตาท่องมนต์บางอย่าง
ริมฝีปากอันบางของนางเปิดเล็กน้อย รัศมีแสงสว่างจ้าขึ้นจากร่างของนาง นางเหมือนไข่มุกที่ส่องสว่างอยู่ในความมืด
นางชูมือขึ้นดวงตาของนางกลายเป็นสีม่วง หน้าอกของนางมีตราประทับกระบี่สว่างไสวเจิดจ้าบนฝ่ามือของนางปรากฏรัศมีผนึกกระบี่สีดำออกมา
“นั่นมัน” สิงโตหิน เกิดความหวาดกลัวได้แต่ก้าวถอยออกมา มันก้าวถอยจนติดกำแพงได้แต่จ้องมอง หลิงฉิงหยู อย่างหวาดกลัว
ผนึกกระบี่ที่ออกมาจากกลางฝ่ามือของนางมีคลื่นของเจตจำนงของกระบี่
มันคือความบ้าคลั่ง เป็นเจตจำนงของกระบี่ที่น่าอัศจรรย์
มันเป็นแค่การรอคอยใครสักคนที่จะได้รับเจตจำนงกระบี่อันไร้ขอบเขตนี้
กระบี่ไร้พ่าย!
ทันใดนั้น ซูหยุน แตะที่อกของเขาเบาๆด้วยนิ้วดึงเส้นใยปราณออกมา พวกมันเหมือนประกายไฟ พริบตาพวกมันเริ่มลุกโชนขึ้นคุม ซูหยุน ด้วยพลังมากมายมหาศาล จากนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าเขาอยู่ในสภาวะแปลก ๆ
ผ้าคลุมของเขาสั่น เส้นผมปลิดปลิวอยู่ในอากาศ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นความชั่วร้าย
ซูหยุน คว้ากระบี่ด้านหลังใส่ไว้ในฝักกระบี่และเอื้อมมือที่เป็นประกายไฟไปทางมือของหลิงฉิงหยู
มือของเขาและนางประสานกัน
“โอ้!
ริมฝีปากของหลิงฉิงหยูเผยอออกมาปล่อยเสียงคร่ำครวญน่าหลงไหล เมื่อนางรู้สึกว่าซูหยุนได้รับสิ่งที่เขาต้องการนางได้หดมือกลับและก้าวถอยออกไป
ในขณะเดียวกันซูหยุนก็จับมือของเขาและดึงกระบี่ยาวสีเงินออกมา
ในตอนนั้นมันเหมือนกับตะวันดวงไหม่ผุดขึ้นมาสาดแสงเจิดจ้าอันกราดเกรี้ยวไปทั่วทิศ ความสว่างของกระบี่สาดไปทั่วทิศทางเมื่อเจตจำนงของกระบี่พุ่งขึ้นฟ้า ในขณะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างดูหมองคล้ำ
“น่ากลัว! น่ากลัว! กระบี่อะไรกัน? นั่นมันกระบี่บ้าอะไร? “ สิงโตหิน สบถออกมา มันตื่นกลัวกระบี่นี้
“กระบี่นี่สร้างจากพลังยุทธของข้า เจ้าเข้าใจใช่มั้ย?” หลิงฉิงหยู พูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการพูดคุยครั้งนี้
ซูหยุน กุมกระบี่ไร้พ่ายแน่น สายตาของเขาสาดแสงแพรวพราย เขามองไปที่กระบี่ยาวสีขาว และหันไปทางประตู
เขากลืนน้ำลายลงคอ กระบี่ในมือของเขาสั่นขณะที่คลื่นกระบี่กลายเป็นมังกรขาวม้วนรอบตัว ซูหยุน
หลิงฉิงหยู ยืนอยู่อีกฝั่งรู้ได้ว่า ซูหยุนได้รวบรวมจิตวิญญาณของตนทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือใส่เข้าไปในกระบี่
นี่คือการผสานเพลงกระบี่ที่ไม่เหมือนใคร!
มันรวบรวมพลังทั้งหมดเป็นจุดเดียวและระเบิดออก
มันคือการเดิมพันทั้งหมดในกระบี่เดียว รูปแบบการโจมตีที่รุนแรงที่สุด
เจตจำนงกระบี่พุ่งทยานมากขึ้นเหมือนน้ำพุเต็มทั่วทั้งห้อง หลิงฉิงหยู และ สิงโตหิน รู้สึกหายใจติดขัดราวกับมีภูเขามาทับที่หน้าอก ความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้น
ครืนนนนนน
เสียงคำรามดังก้อง ในขณะที่ประกายแสงของกระบี่เจิดจ้าละลานตา พริบตา ปราณมาร ปะทุออกมาจากกระบี่ีขาว
เสียงดังก้องออกมาจาก กระบี่ไร้พ่าย หลิงฉิงหยู เห็นภาพนี้ทำให้ใบหน้าของนางขาวซีด นางไม่อยากเชื่อเลยว่า พลังมหาศาลขนาดนี้มาจากกระบี่ของนาง
วูบบ!
คมกระบี่วูบไหวขณะที่มันฟาดฟันไปด้านหน้า
ตูม!
ในพริบตาประตูถูกแบ่งออกเป็นสองซีกราวกับขวานขนาดใหญ่สับออกมา
“เป็นไปไม่ได้” สิงโตหินเกือบจะหอนออกมา
“เป็นไปไม่ได้อะไร?”
ซูหยุน เก็บกระบี่ไร้พ่ายตะโกนออกมา “ไป! เราจะออกไปเดี๋ยวนี้! “
หลิงฉิงหยู ฟื้นคืนสติของนาง พยักหน้า “เอาล่ะ ก็ได้”
หลังจากนั้นซูหยุนกับนางวิ่งไปที่ประตู
“พวกเขาออกไปแล้วหรอ?”
สิงโตหินแทบไม่อยากเชื่อ แต่มันเป็นไปแล้ว
มันอยู่ที่นั่นและมันจะไม่ไปกับซูหยุน นอกจากนี้ที่นี่ยังปลอดภัยมากกว่า
ซูหยุนดึงแขนหลิงฉิงหยูวิ่งไป
ทางเข้าทั้งหมดของสุสานไม่เหมือนกัน ซูหยุนออกไปข้างนอกได้
“เดี๋ยว!”
ซูหยุนหยุดเท้าลง
หลิงฉิงหยู หยุดตาม พลังยุทธของนาง ได้เปลี่ยนเป็น กระบี่ไร้พ่าย แล้ว นางไม่มีจิตสัมผัสความรู้สึกของนางเหมือนคนธรรมดา นางคิดไม่ออกเลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
“มีอะไร?”
ซูหยุนวางนิ้วชี้ไว้ที่ริมฝีปากเพื่อบอกให้เงียบ
“มีคนอยู่ข้างหน้า.”
“คน?”
หลิงฉิงหยู ตกใจ
ชาวมารไม่ได้ทำลายประตูอื่นเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่?
ซูหยุน คว้า หลิงฉิงหยู และซ่อนตัวอยู่ที่มุม มุมเล็กมาก มันสามารถเข้ามาได้แค่เพียงหนึ่งคน ซูหยุน ไม่สนเรื่องความละอาย เขาคว้าหลิงฉิงอยูด้วยมืออันแข็งแรงของเขา
“เจ้า….เจ้าจะทำอะไร?
หลิงฉิงหยู หน้าเป็นสีแดง นางตกใจพยายามดิ้นให้หลุดจากมือพยายามผลักแขนซูหยุนด้วยมือเล็กๆที่อ่อนแอของนาง
“ในสถานการณ์เช่นนี้ข้าช่วยไม่ได้ เจ้าอยากออกไปหรือไม่? หากพวกมันจับเจ้าได้ ข้าไม่รับรองนะส่า พวกมันจะทำสิ่งใดกับเจ้า “
เนื่องจาก กระบี่ไร้พ่าย ออกมาหลิงฉิงหยูไม่สามารถเข้าไปในฝักกระบี่ได้ นางได้แต่ซ่อนตัวอยู่กับซุหยุนเท่านั้น
นางดูอึดอัด แต่เมื่อได้ยินคำพูดของ ซูหยุน นางยอมรับความอับอายและอึดอัดนี้
นางอายุราว ๆ กับซูหยุน แม้ว่าเธอจะหมกมุ่นอยู่กับฝึกฝนแต่ความรู้ของนางไม่ไกลจากซูหยุนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่รู้จักความสัมพันธ์ นางคงไม่มีความรู้สึกต่อซูหยุนง่ายๆแน่
ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ
เสียงฝีเท้ามาจากที่ไกล ๆ หลิงฉิงหยู ได้ยินพวกมันอย่างชัดเจน นางเกร็งราวกับว่านางกลัวและเอนตัวลงบนตัวเขา
“เฮ้ ไม่เป็นไร พวกมันมองไม่เห็นพวกเราหรอก “ ซูหยุน เห็นนางกลัว จึงพูดปลอบ
“อย่างนั้นหรือ?” หลิงฉิงหยู ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น นางคลายตัวลงและผละออกไป
ซูหยุน ถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าหลิงฉิงหยูแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เขาหลับตาและเช็ดเหงื่อ
“เอาหน้าเจ้าไปให้พ้นสายตาข้า เจ้ามันบ้า “ ราวกับว่า หลิงฉิงหยู รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
“พวกเรายังต้องเจอหน้ากันต่อไป เจ้าคิดดีแล้วเหรอ? “
“ฮืมมมมม!”
หลิงฉิงหยู เงียบลง
จากนั้นเงาหลายเงา แวบผ่านพวกเขา ด้วยดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของซูหยุนสามารถซ่อนลมปราณของทั้งสองไว้ คนเหล่านี้ไม่สามารถตรวจสอบได้
“เราต้องรีบแล้ว ดูเหมือนจะมีการระเบิดเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา! “
“อย่าบอกข้าน่ะว่าเจ้าวายร้าย ซูฆยุน หลบหนีไป? พวกเราต้องรีบแจ้ง ท่าผู้อาวุโสคุมกฏ! “
เสียงตะโกนดังไม่หยุดหย่อน
ซูหยุนได้ยินและใบหน้าของเขาจมลง
“ทำไมมีพวกลัทธิกระบี่มาร?”
“ผู้อาวุโสคุมกฏ ต้องรู้จักทางเข้าทั้งแปด และสั่งให้พวกเขามาคอยดักพวกเราไว้ เราไม่มีเวลามากนัก ฉิงหยู ไปกันเถอะ! “
“อืม!”
หลิงฉิงหยู ยิ้มพยักหน้าและดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของซูหยุนก่อนที่จะวิ่งออกไป
ซูหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยิ้มให้ตัวเอง จากนั้นเขาไล่ตามนางไป
ชาวมารหลายคนวิ่งไป เหลือทิ้งไว้เฝ้าทางออกเพียงคนเดียว
ซูหยุนกระโดลงไป ใช้มือสับต้นคอเขา ชาวมารสลบซูหยุนจึงลากออกไป
“เร็วเข้า!
ซูหยุน หลิงฉิงหยู ถือกระบี่ไร้พ่ายรีบวิ่งไป
ทั้งสองวิ่งออกมาจากอุโมงค์และเข้าไปในส่วนของวังลับ ซูหยุนจ้องกำแพงสีดำขณะที่เขาชะลอฝีเท้าลง
เขาวิ่งไปพร้อมกับมอง พวกเขาวิ่งมาหลายร้อยเมตรก่อนที่พวกเขาจะหยุดลง
เขากระชับกระบี่ไร้พ่ายแน่นจ้องมองกำแพงสีดำก่อนที่จะผ่ามันออก
ตูม!
กระบี่สีขาวกระพริบเหมือนสายฟ้าฟาด เมื่อกระบี่กระทบผนังกำแพงสีดำแบ่งออกเป็นแสงที่สุกใส!
ซากปรักหักพังตกลงไปเป็นหลุมขนาดมหึมาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของซูหยุนและหลิงฉิงหยู
แต่ทว่ามันยังไม่จบแค่นั้น! ซูหยุนยังคงฟาดฟันกระบี่
ตูม!
ตูม!
ตูม!
ด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่อง 3 ครั้งกระบี่ไร้พ่าย ที่เต็มไปด้วย “ปราณกระบี่จอมมาร” จึงปล่อยพลังทำลายล้างจำนวนมหาศาลและแยกทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา
หลังจากฟันออกไปสามครั้ง วังลับสั่นสะเทือน กำแพงพังทลายลง มีเส้นทางทอดไปทางด้านนอก
หลิงฉิงหยู จ้องมองด้วยความไม่เชื่อ
ในขณะนั้นนางเข้าใจความตั้งใจของซูหยุน
ด้านหลังกำแพงหนานี้คือ ลัทธิกระบี่มาร!
ซูหยุน กระจายกระบี่ไร้พ่าย โดยไม่ลังเล
“เจ้าวิ่งไปแบบนี้ไม่ได้ไกล ข้าถอนกระบี่แล้ว เมื่อเจ้าฟื้นอำนาจของเจ้า เจ้าเข้าไปในฝักกระบี่! “
ซูหยุนตะโกน
หลิงฉิงหยู กลายเป็นแสงสีขาวเข้าไปในฝักกระบี่ทันที