Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 227
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 227
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :227 ข้าจะโกหกเจ้าทำไม
นับตั้งแต่ หลินเทียนหยิน จากรายชื่อต้นน้ำมาถึงสำนักกระบี่เซียน หวังเฮ่า และ จางไคเฟิง ผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของสำนักได้พ่ายแพ้ต่อเขา ตำแหน่งของ สำนักกระบี่เซียน ในมลฑลจู้เหลียนได้ตกต่ำลง หวังเฮ่าและจางไคเฟิงได้ปฎิญาณตนต่อ หลินเทียนหยิน เรื่องนี้ทำให้เกิดผลเสียต่อ สำนักกระบี่เซียนอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความหดหู่ของ หลงเชี่ยนหลี่ ทำให้สาวหไม่เห็นความหวังใด ๆ จากผู้อาวุโส หลงเเชี่ยนหลี่ ซึ่งเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและทรงพลัง
แต่ไม่มีใครรู้ว่า หลงเชี่ยนหลี่ กำลังคิดอะไรอยู่
ในเวลาเดียวกันภายใน วังลับ ลัทธิมาร
ร่างสีดำเข้มกำลังวิ่งผ่านอุโมงค์อย่างรวดเร็ว
“ข้าจำได้ว่าหลังจากโค้งนี้เราจะพบทางออก”
ใบหน้าของซูหยุนแสดงถึงความสุข
แม้ว่าเขาจะไม่พบ ราชากระบี่ราชัน แต่เขาได้บรรทึกวิชาของผู้อาวุโส ลัทธิมารและที่ตั้งของส่วนผสมที่จะนำเขาออกไปจากที่นี่
“หลังจากออกจาก วังลับ ข้าจะไปจากลัทธิมาร “ตอนนี้เจ้าบรรลุ ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที2แล้ว เจ้าสามารถออกตามส่วนผสมที่จะทำได้แล้ว หากเจ้าพบเจาชาวมารเจ้าก็สามารถป้องกันตัวเองได้ “
“อืม!”
อณาจักรมารทั้งมืดและสกปรก เขาอยากจะออกจากที่นี่เร้วๆ
หลังจากถึงโค้งก็พบบันไดยาว ซูกกยุนรีบวิ่งขึ้นไปจนเขาเห็นประตูทางออกวังลับ
ในขณะนั้นประตูใหญ่เปิดออกและแสงส่องผ่านช่องว่าง ซูหยุนเริ่มรู้สึกตื่นเต้นและวิ่งออกไป
แต่ภาพที่เห็น ทำให้เขาต้องประหลาดใจ
มีชาวมารหลายคนยืนอยู่ที่นั่น
มีสาวกรุ่นเยาว์ ศิษย์อาวุโส และที่สูงขึ้นไป
ผู้อาวุโส สาวกชั้นนำ พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกัน มีทั้งระดับดวงจิตวิญญาณและดาราวิญญาณ
“ออกมาแล้ว !!”
“ซูหยุนออกมาแล้ว !!”
“ในที่สุดมันก็ออกมา ไอ้เดนนรก!”
“นี่เรื่องอันใด? มารับเราหรือ? “
ซูหยุน รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
“ถูกต้อง พวกเรามารวมกันอยู่ที่นี่เพื่อต้อนรับเจ้า”
คนที่อยู่ด้านหน้ายิ้มกริ่ม มีชาวมารอยู่ด้านหลังพวกเขาติดอยู่ในอาคมไม่สามารถพูดได้ พวกเขาเป็น Li Xin และกลุ่มของเธอพวกเขาคือ หลี่ซิน และพวกของนาง
เมื่อเห็นภาพดังกล่าวซูหยุนก็เริ่มกังวลใจความผิดของหลี่ซิน ซูหยุน เข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ตู่ไป๋ลี่ อยู่ที่นั่นด้วยแต่เขาไม่อยู่ในอาคม ซูหยุน เดาได้ทันที่ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะใคร
“เจ้า มาจากคฤหาสน์ถ้ำมารทมิฬ!”
ในเวลานั้น ระดับดาราวิญญาณ พูดออกมา
เขาคือ ผู้คุมกฎ ของลัทธิมาร มีอำนาจในการปกครองสูงสุดของลัทธิมาร
มีร่างเงาสามร่างยืนลอยตัวอยู่ด้านหน้ากลุ่มเหมือนภูติผี พวกเขามองซูหยุน “ท่านเจ้าลัทธิของเรา ปฎิบัติต่อเจ้าอย่างดี เหตุใดถึงโขมยฝึกเพลงกระบี่มารของเรา? เป้าหมายของเจ้าคืออะไร? “
“ข้าไม่มีเป้าหมายใด การที่ ซูหยุน โขมยฝึกนับเป็นความผิดของข้า ข้ายอมรับโทษ!”
“ดี! ตามกฎของลัทธิเรา ข้าจะถลกหนังเลาะกระดูกของเจ้า แล้วทำเป็นอาวุธวิญญาณ เจ้าจะยอมรับหรือไม่? “
เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของ ซูหยุน เปิดกว้าง “แน่นอน ข้าต้องมี? มันไม่เพียงพอที่จะฆ่าข้า เพราะเพลงกระบี่มาร? “
“หึ เจ้าคิดง่ายไปหรือเปล่า?”
กลุ่มผู้อาวุโสคุมกฎ แผดเสียงออกมาอย่างรุนแรง พร้อมกับโบกมือ ด้วยสัญญาณ ชาวมารหลายคนวิ่งเข้าไปหา ซูหยุน
ซูหยุน ขยายม่านตาพร้อมกับถอยหลังไป
“ซูหยุน รีบหนีเข้าวังลับไป!”
หลิงฉิงหยู ร้องเตือน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่คิด
ซูหยุน พลางหันร่างของเขาและรีบเข้าไปในวังลับ
“จับมัน! “
“อย่าคิดหนี ซูหยุน!”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญลัทธิกระบี่มารชักกระบี่และไล่ติดตามเขา
พลันความโกลาหลก็ออกมาจากวังลับ วิญญาณมารทั้งหมดบินออกมา
“ไอ้สารเลว !”
เมื่อเห็นซูหยุนวิ่งเข้าไปในวังลับ ด้วยความสามารถของเขา หลิงฉิงหยู ไม่มั่นใจ
“หากเจ้าไม่ช่วยชาวมารพวกนั้นมันจะไม่ดีกว่าหรือ? ดูสิว่ามันเกิดปัญหาอะไรบ้าง ไอ้พวกชาวมารพวกนั้นไม่รู้สึกขอบคุณเจ้าสักนิด! เมื่อพวกมันต้องการฆ่าพวกมันจะไม่ปราณี”
“นั่นคือเหตุผลที่ข้าเป็นมนุษย์ไม่ใช่ปีศาจหรือมาร “มันคือความแตกต่างของข้ากับพวกเขา ข้า ซูหยุน อาจจะไม่ใช่คนดี บางทีข้าก็วางแผนแอบเรียนรู้วิชาของคนอื่น ใช้วิธีโกหกแบบต่ำช้าเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ข้าต้องการ แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้ ลัทธิมาร ได้รับการปฏิบัติอย่างดีแล้ว หากข้าไม่ยื่นมือไปช่วยในตอนนั้ คงไม่ใช่ข้า ซูหยุน? “
“นี่เจ้า … “หลิงฉิงหยู พูดไม่ออก นางได้แต่ถอนหายใจ “โง่เง่า”
“ฮ่า ๆ ถ้าข้าไม่ใช่คนงี่เง่าแล้วข้าจะทำอะไรโง่ ๆ ?”
ซูหยุนหัวเราะ แต่รู้สึกโล่งใจ มีบางอย่างที่เขาไม่เคยเสียใจ
ทั้งในชีวิตที่ผ่านมาของเขาหรือในชีวิตปัจจุบันของเขาเขาไม่เคยยอมพึ่งพา ทวีปปีศาจ หรือทวีปนภายุทธ
“ซูหยุน” เร็วเข้าไปจับมัน! “
ผู้เชี่ยวชาญจาก ลัทธิมาร ไล่ตาม ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งได้ขยับตัวเปลี่ยนเป็นควันเข้าโจมตี ซูหยุน
ซูหยุน ชักกระบี่มรระ ออกมาพร้อมกับกระบี่ย่อยทั้ง60เข้าปะทะด้วยเพลงกระบี่มาร กระบี่นับไม่ถ้วนรายล้อมรอบตัวเขาหมุนควงสร้างชั้นลมปราณอันรุนแรงi ในชั้นลมปราณสร้างวิญญาณมารหลายตัว พวกมันวิ่งวนไปทั่วรอบๆเปิดปากเข้าจู่โจมเป้าหมาย เมื่อผู้เชี่ยวชาญของ ลัทธิมาร เข้ามาถึงสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนเป็นความตกใจหัวใจเต้นระรัว ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาใกล้หากเข้าไปพวกเขาต้องถูกฉีกเป็นชิ้นๆแน่
“นั่นมันเพลงกระบี่มาร จริงห?”
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนรู้สึกว่าคอของพวกเขาเย็นลง
พวกเขาไม่รู้ว่านี่คือการผสานเพลงกระบี่ไร้สรรพสิ่งกับเพลงกระบี่มาร
“พวกมันถอยไปแล้ว” หลิงฉิงหยู โล่งใจในขณะที่นางได้เห็นสถานการณ์ที่คลี่คลาย แต่นางก็ยังกังวลใจ “แล้วตอนนี้เจ้าจะไปที่ไหน ทางเข้าคงถูก ลัทะิกระบี่มารปิดผนึกไปแล้ว หากเจ้าำนีเข้าไปในวังลับ เจ้าจะอยู่ในอันตรายร้ายแรง! ใครจะรู้ว่ามีสิ่งที่น่ากกลัวอะไรบ้างอยู่ในนั้น? “
“หากเจ้าสิงโตนั่นไม่ได้โกหก ที่สุสานนั่นต้องเป็นสุสานของบรรพบุรุษลัทธิมารที่สร้างขึ้นโดยสหายเก่าของท่านบรรพบุรุษ ไม่น่าจะมีอะไรอันตรายมากยิ่งกว่านั้นอีกแล้ว “ ซูหยุน หอบลมหายใจ
“อบ่างนี้ก็แย่สิ พวกมันสามารถไปได้ทุกที่ ที่เจ้าไป! เจ้าหนีเข้าไปในวังลับได้ตลอดหรอก! เจ้าต้องหาที่ซ่อน หากระดับที่มากกว่าระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่5ไล่ตามเจ้า เจ้าจะไม่สามารถสู้กับพวกมันได้! “
ซูหยุนคิดอยู่ชั่วครุ่ “แล้วข้าจะซ่อนที่ไหนดีล่ะ” “
หลิงฉิงหยู สะดุ้งโหยง “ที่ไหน?”
ซูหยุนเร่งฝีเท้าจนถึงทางแยกมองซ้ายขวาแล้วหันไปทางขวาเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่มีโลงศพหินอยู่มากมายและวิ่งไปทางโลงหินทรุดโทรมและวิ่งเข้าไปในห้องหิน
“มันไปที่นั่น!”
“เร็วเข้า! ไปจับมัน! “
ร่างนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่
ซูหยุน เข้าห้องโถงหินทำให้เกิดเสียง สิงโตหินกระโดดลงมาจากแท่นร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว
“ทะ….ทะ…ท่านกลับมาด้วยเหตุใด?”
“เงียบ! เปิดประตูให้ข้าเร็วเข้า!! “
“ดะ…ดะ…ได้ครับ!
สิงโตหินได้เปิดประตุหินใหญ่ทันทีด้วยวิชาหลังจากมันถูกปกป้อง
ซูหยุน รีบวิ่งเข้าไป
“จงป้องกันประตูอย่าให้คนที่อยู่ข้างหลังเข้ามา”
“คนแบบไหนที่อยู่ข้างหลัง? พวกเขามีอำนาจ? “
“ไม่ พวกเขาเป็นแค่ขยะระดับพื้นฐานวิญญาณ แต่เพราะสมบัติบางอย่างทำให้ลมปราณของพวกเขากล้าแข็งขึ้น ทำให้เจ้ามองไม่เห็นระดับการบ่มเพาะของพวกเขา”
“อย่ามาหลอกข้าเลย หากพวกเขาเป็นขยะ เหตุใดท่านต้องหนี?”
“ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่ข้าต้องเข้าไปในสุสาน! ข้าไม่อาจอยู่เล่นกับพวกเขาได้ “
“อย่างนั้นหรือ?” สิงโตหิน สงสัย
“เจ้าทั้ง หล่อเหลา มากด้วยพรสวรรค์ เป็นศิลาวิญญาณ หลักแหลม ข้าจะหลอกเจ้าทำไม?”
“ใช่ ถูกต้อง!”
ประตูหินปิดลง
สิงโตหินเปิดเผยรอยยิ้มอันขมขื่นก่อนที่เขาจะยืดตัวและหันหัวไปที่บันไดตรงหน้า
ไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญจาก ลัทธิกระบี่มาร ก็โผล่มา
“โฮกกกกก!”
สิงโตหินคำราม ผู้เชี่ยวชาญหยุดเท้าลง จ้องมองสิงโตด้วยความตกใจ
“นั่นอะไร?”
ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งถามพร้อมกุมกระบี่มารในมือ
“ข้าก็ไม่รู้ แต่ต้องระวัง!”
พวกเขายืนอยู่กลางบันได ไม่มีใครกล้าที่จะลงมาเพราะพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าสิงโตหินนั้นแค่ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นแรก
พวกเขาคิดว่าในวังลับมีเพียง วิญญาณมาร พวกเขาไม่เคยคิดว่า จะมีสิ่งแปลกประหลาดอยู่
“เจ้าเป็นใคร?”
สิงโตหินเห็นว่าคนกลุ่มนี้กลัว มันจึงเชื่อคำพูดของ ซูหยุน
“พวกเรามาจาก ลัทธิกระบี่มาร! เจ้าละเป็นใคร?” เหตุใดจึงมาอยู่นี่?” เจ้าเห็นชายคนหนึ่ง เสื้อคลุมสีดำเดินผ่านมาที่นี่หรือไม่ “
“หึ! ถ้าข้าเห็นเขาแล้วจะทำไม?
สิงโตหินพูดอย่างหยิ่งผยอง “เขาเข้าไปยังที่พำนักสุดท้ายของเจ้านายข้าแล้ว! อะไร? เจ้าคิดจะจับตัวเขารึ? อาศัยแค่พวกเห็บหมัดอย่างพวกเจ้า สาวกวิญญาณ? เจ้าต้องผ่านข้าไปก่อน! “
สิ่งโตหินกำลังพูดแล้วเริ่มตื่นเต้น กลุ่มคนเหล่านี้? มันเห็นชายคนนั้มีพลังขาดไหน ทำไมมันต้องกลัวเห็บหมัดพวกนี้?
เมื่อจบคำพูดของสิงโต อีกฝ่ายเริ่มประเมินสถานการณ์
“เจ้าสิงโตหินนี่น่าจะอยู่ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นแรก?”
“ใช่แล้ว มันก็แค่ดวงจิตศิลาวิญญาณเท่านั้น”
“ดูเหมือนมันจะมีปัญญา แล้วเหตุใดมันถึงได้กล้าพูดเช่นนี้?”
“บางทีสมองของมันท่าจะเพี้ยน”
“สมอง? ดูเหมือนมันท่าจะบ้า “
“มันบอกว่าเจ้าซูฆยุนอยู่หลังประตูหิน พวกเราต้องรีบลงมือแล้ว!”
ดี!
ชาวมารบางคนปรึกษากันเสร็จก่อนก้าวลงบันไดไปพร้อมกับกระบี่มารในมือ
“เฮ้! พวกเจ้ากล้ารึ! พวกเจ้ากล้าเข้ามา? พวกเจ้าทั้งหมดไม่กลัวข้าจับกิน? “
สิงโตหินคำรามและปลดปล่อยพลังของมัน
แต่ทว่าพวกชาวมารกลับไม่กลัวยังเดินหน้าต่อไป
สิงโตหินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและค่อยๆถอยกลับไปข้างหลังใบหน้าหินของมันมองจ้องเขม็ง
ในที่สุด …
โฮกกกกก!!!
สิงโตหินคำราม อ้าปากปล่อยแสงสีเทาออกมาใส่ชาวมาร
แต่มีภาพกระบี่สองสามเล่มประกายวูบวาบ
ปัง!
แสงสีเทาสลายไป
วูบบบ
สิงโตหินตะลึง
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอยู่ระดับดวงจิตวิญญาณชั้นแรก”
“ฆ่ามัน แล้วไปจับ ซูหยุน!”
ครับ!
“เปิดประตู!”
จากนั้นเสียงของ ซูหยุน ก็โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังประตู
หัวใจของสิงโตหินใจหายวูบ รีบท่องอาคมเปิดประตู
ปัง!!
รอยแตกโผล่ขึ้นมาบนประตูหิน จากนั้นความสว่างอันสดใสที่ยิงออกมาจากรอยแตกนี้และปกคลุมกลุ่มชาวมารด้วยปราณมารอันหนาวเย็น ท่ามกลางวิญญาณมารอำมหิต!
เพลงกระบี่มารพิเศษ ซูหยุน
“ระวัง!”
ชาวมารเห็นดังนั้นจึงรีบหลบ
แต่กระบี่มารรายล้อมผู้คนให้ถอยกลับก่อนหักกลับเข้าไปในประตูหิน
ความเร็วของเขาเร็วมากจนไม่มีร่องรอยของมัน!
ปัง!!
ประตูหินปิดลง แต่สิงโตหินหายไปมันรีบวิ่งเข้าไปในประตูหิน