Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 226
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 226
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :226 สภาวะของผู้อาวุโส
ซี่! !
วิญญาณมารสลายไป
ซูหยุน ดูดซับวิญญาณมาร มันทำให้เขารู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ยอดเยี่ยม!”
ซูหยุน สูดลมหายใจอย่างแรง เขาเข้าใจความรู้สึกของชาวมารแล้วว่ามันรู้สึกดีขนาดไหนที่ได้ดูดซับวิญญาณมาร มันแทบจะหยุดไม่ได้
เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถออกจากสถานที่ได้ในไม่ช้า
“ใช่แล้ว!
เขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างและดึงแหวนเก็บออกจากเข็มขัดที่เอวของเขา
มันเป็นแหวนเก็บ ของผู้อาวุโสลัทธิมารที่กลายเป็นหิน
เจ้าของเดิมตายไป ตราประทับก็หายไป
ซูหยุน หันไปรอบๆนั่งลงเห็นว่าไม่มีอันตรายใด จึงส่งลมปรารเข้าไปในแหวน
คลิก
แหวนเก็บของถูกเปิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏสู่สายตาของซูหยุน
“แหวนเก็บของ ของผู้อาวุโสนี่ไม่เลวมีกระถางสมบัติแท้จริง ซูหยุนเจ้ารวยแล้ว” เสียงของหลิงฉิงหยู ล่องลอยมาจากฝักกระบี่
ซูหยุนหัวเราะเบา ๆ และเริ่มควานหาสิ่งต่างๆภายใน
“กระบี่มารสองเล่ม ขวดเม็ดยา12ขวด, เกราะเกลียวทอง, สิ่งของพวกนี้เท่าไหร่? นั่นมันอะไร? “
สายตาของซูหยุนมองตรงไปหนังสือสีแดง
เขารีบหยิบมันขึ้นมาดู
ไม่น่าเชื่อ ด้านในนั้นบรรทึกเคล็ดวิชากระบี่มารอย่างละเอียด มีรูปภาพที่วาดอย่างปราณีต มันคือบรรทึก
“หรือว่านี่จะเป็น บรรทึกการฝึกเพลงกระบี่มารของผู้อาวุโส?
ในหัวซูฆยุน เต็มไปด้วยความสับสนขณะพลิกดูหน้าบรรทึก
ตอนแรกราวกับว่าเขากำลังมองเข้าไปในเมฆหนาทึบไม่รู้จะค้นหาอะไรและจะไปที่ไหน แต่ในขณะที่เขาค่อยๆซึมซับเข้าไปในนั้นซูหยุนก็พบการบรรลุบางอย่าง
นัยน์ตาของเขาแทบจะติดบรรทึก
“อะไรกัน?
หลิงฉิงหยู ออกมาจากฝักกระบี่ ร่างอันงดงามของนางลอยไปข้างๆ ซูหยุน ดวงตาดุจอัญมณีของนางจ้องมองไปยังบรรทึก
กลิ่นหอมอันเย้ายวนโชยมาเตะจมูก ซูหยุน อีกครั้ง
เขาปิด บรรทึกลง ดังฟึบ!
“วิชาเพลงกระบี่มาร”
“วิชาเพลงกระบี่มาร?” ในบรรทึกนั่น มันบรรทึกทุกอย่างที่เกี่ยวกับเพลงกระบี่มาร? “จริงเหรอ? พวกผู้อาวุโส เรียนรู้เพลงกระบี่จนเชี่ยวชาญราวกับพลิกฝ่ามือ เหตุใดต้องบรรทึก? ยิ่งกว่านั้นผู้เชี่ยวชาญน่าจะอ่านคัมภีร์พวกนี้จนขึ้นใจ แล้วทำไมต้องบรรทึก? “
“เจ้าพูดถูก แต่ก็มีวิชาบางอย่างที่ฝึกฝนยากและอันตราย จนต้องมีการบรรทึกไว้ในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดและแยกแยะ “
“วิชาอันตรายในการฝึก? เจ้าหมายความว่า? “
“วิชาเพลงกระบี่มารนี่ ไม่เหมือนกับวิชาที่ข้าได้ฝึก วิชาที่ข้าได้เรียนรู้นั้น มันถูฏแก้ไขแล้ว แต่ในบรรทึกนี่มันอำมหิตมากและการฝึกก็อันตรายอย่างมากด้วย! “
เขาเปิดหนังสืออีกครั้งพลิกกระดาษสองสามหน้าและชี้ไปที่ภาพ
หลิงฉิงหยู มองตาม “นี่คือการเดินลมปราณผ่านหัวใจ เส้นลมปราณตู๋ไม่ จุดเทียนกาย จุดจู้กง ทั้งหมดนี้คือจุดมรณะ? นี่มันหาที่ตายชัดๆ! มันคือวิชาเพลงกระบี่มาร จริงหรือ? “
“อืม!”
ซูหยุนพยักหน้าด้วยน้ำเสียงที่รุนแรง “ปราณวิญญาณมารนั้นแปลกประหลาดมาก มันทั้งชั่วร้ายและเย็นชา การเดินผ่านหัวใจอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นจนถึงขั้นตายได้ การเดินลมปราณผ่าน เส้นตู๋ไม่ อาจะหยุดไหล นี่มันบ้าชัดๆ ผ่านจุดเทียนกาย จู้กง ซานเซียน จุดมรณะเหล่ามันส่งผลต่อชีวิต แต่ว่ามีอีกอย่างหนึ่ง เจ้ารู้รึไม่ที่เขาเรียกว่า ใช้พิษต้านพิษ? การเดินลมปราณผ่านจุดมรณะดังที่ว่า อาจจะเข้าสู้สถาณะความตายและบรรลุสภาวะบางอย่าง และบางทีนี่อาจจะเป็นเคล็ดวิชาที่เหนือกว่าวิชาปกติ! “
“แต่มันก็เสี่ยงเกินไป หากประมาทอาจจะถึงแกความตาย แม้ข้าจะเคยมาที่นี่มาก่อน แต่ข้ายังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ และข้าก็ไม่เชื่อว่าวิชาเพลงกระบี่มารจะร้ายกาจมาก “
“หากจะว่าไป เพลงกระบี่มาร นับได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาในอณาจักรมาร สิ่งที่สุดยอดอื่นๆในอณาจักมารคือการเอาชาวมารมาทำเป็นอาวุธโดยใช้ชีวิตมากมายฝึกวิชามาร! เพลงกระบี่นี่ ลัทธิกระบี่มารอาจจะไม่ยอมรับ แต่ไม่ใช่ในอณาจักรมาร “
“แล้วเจ้าจะฝึกมันหรือเปล่า? มันคือวิชาชั้นสูงเมื่อเทียบกับความรู้พื้นฐานที่เจ้าได้เรียนมา ไม่ยากหากเจ้าจะฝึก แต่มันเสี่ยงข้าไม่แนะนำให้เจ้าฝึก “ หลิงฉิงหยู กังวลมาก
ซูหยุนหัวเราะและตอบว่า “ไม่ใช่เสี่ยง แต่มันเป็นความเสี่ยงอย่างมาก ไม่มีเวลาคิดแล้ว ข้าจะลองดู แล้วค่อยว่ากันทีหลัง! “
ซูหยุนเก็บบรรทึกลงในแหวนแล้วหยิบชุดเกราะออกมาแล้วค่อยเคาะดูคุณภาพ
“เกราะทองไฟนี้ดูเหมือนจะถูกสร้าวขึ้นด้วยทองคำพิเศษ ความทนทานและการป้องกันสูงมาก “
ดูเหมือนจะมีอีกมาก
ซูหยุน สูดลมหายใจ เวลนี้เขาคิดอยากจะออกจากอณาจักมารเร็วๆ อาจจะมองหาประตูช่องว่างอื่นๆหรือไม่ก็หาส่วนผสมมาให้หลิงฉิงหยู
เขามุ่งหน้าไปทางประตูทางเข้าของ วังลับ
*****************
บนลานฝึกฝน มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร่ายรำกระบี่ การเคลื่อนไหวของนางนั้นพริ้วไหวงดงามดุจดั่งภาพที่ออกมาจากจินตนาการ นางดูเหมือนภาพทีแกะสลัก การเคลื่อนไหวของนางนุ่มนวลและบางครั้งก้มีพลัง กระบี่ในมืองนางนั้นดุเหมือนมีชีวิตชีวา
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว …
กระบี่ทยานขึ้นสู่ท้องฟ้าหมุนควงเข้าไปในชั้นเมฆแล้วก็บินกลับมา
กระบี่ดูลึกลับที่ยอดเยี่ยมได้ปล่อปราณกระบี่ที่น่าอัศจรรย์เช่นมังกรสีเงินที่ร่วงลงมาจากชั้นสูงสุดของสวรรค์ลงมายังโลก
ตูม!
มังกรเงินได้ปักพสุธา แผ่นดินสั่นสะเทือน เสียงกึกก้องกำปนาถถึงชั้นสวรรค์ รอยแยกที่อยู่บนฟ้าราวกับเสาที่กำลังค้ำสวรรค์ดูน่าอัศจรรย์
เหล่าสาวกที่อยู่รอบ ๆ ลานหน้าซีด
นิ้วดุจหยกขาวของ ไป๋เอี้ยนซานวาดไปมา กระบี่ลอยกลับมาอยู่ข้างๆนาง
“วิชากระบี่ที่สำนักเราคิดค้นขึ้น ทรงพลังจริงๆ ข้าเชื่อว่าแม้แต่เทพกระบี่ก็มิอาจสู้ได้!”
“พรสวรรค์ของศิษย์พี่ ไป๋ ยากเกินหยั่งถึงจริงๆสามารถฝึกวิชานี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ !”
“ครั้งหน้าหากท่านได้พบกับ เทพกระบี่ ท่านต้องให้มันได้ลิ้มรสวิชากระบี่ของสำนักเรา!”
“ใช่แล้ว แก้แค้นให้กับท่านอาจารย์และลบล้างความอับอายทั้งหมด!”
สาวกที่อยู่ข้างๆกำลังพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้นกับวิชาของนางจนอย่างตื่นเต้น
ไป๋เอี้ยนซาน เก็บกระบี่ของนางอย่างรวดเร็วสายตาของนางมองเห็นภาพบางอย่าง
หน้าพระราชวังที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าร่างที่โดดเดี่ยวยืนอยู่ที่นั่นอย่างนุ่มนวล
ไป๋เอี้ยนซาน มองตาเป็นประกายแล้วคิดบางอย่างอยู่ในห้วงความคิดแล้ววาดนิ้วกระบี่บินออกมานางกระโดดขึ้นกระบี่แล้วทยานขึ้นไปที่พระราชวัง
ฟิ้วว!
เมื่อมาถึงนางก็กระโดดลง ร่างที่โดดเดี่ยวยังคงยืนอยู่ที่เดิมนัยน์ตาคู่นั้นกำลังเหมอลอยจ้องมองไปยังท้องฟ้าจมอยู่ในห้วงความคิด
ความงดงามของ หลงเชี่ยนหลี่ แผ่กระจายไปทั่วทั้งมลฑลจู้เหลียน ความงดงามของนางนั้นประดุจดั่งเทพธิดาตำหนักสวรรค์ชั้นสูง ทุกคนที่เห็นนางจะถูกครอบงำโดยความงามและอารมณ์ของนาง ความน่ารักยากที่จะลืม
แต่ตอนนี้ความงดงามของนางถูกความซีดเซียวเหมือนคนที่ป่วยมาแรมปีให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากก่อนหน้านี้
“ผู้อาวุโส หลง”
ไป๋เอี้ยนซาน พูดเบา ๆ
“ว่าไง!
หลงเชี่ยนหลี่ ฟื้นสติกลับคืนหันคอสีขาวบริสุทธิ์ของนางมองหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง
“เจ้าเองเหรอ?” หลงเชี่ยนหลี่ ไม่ได้พูดอะไรอีก
ไม่ไม่ชอบยิ้ม เรื่องนี้ทุกคนต่างรู้หลังจากที่นางกลับจาก งานชุมนุม ดูเหมือนนางจะมีแค่บุคลิกเดียว เย้นชาดุจน้ำแข็งไม่เคยเปลี่ยน แต่ทุกคนทราบว่านางมีเรื่องกังวลใจ
“ผู้อาวุโส สบายดีรึไม่?”
“อืม..ไม่มีอะไร.”
“นี่ก็ผ่านมาตั้งสองปีแล้ว นับจากที่เรากลับจาก ยอดเขาอู๋ซวง ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ท่านอยู่ที่นี่เสมอไม่ได้รับภารกิจใด ๆ จากสำนักและไม่ได้สอนลูกศิษย์และแม้กระทั่งไม่ได้เรียนรู้วิชาที่ได้รับจากท่านประมุข แม้ว่าท่านจะสาบานว่าจะจับตัว เทพกระบี่ แต่ท่านก้ไม่ทำการใด “
เมื่อพูดถึง เทพกระบี่ ทำให้ร่างทั้งร่างของ หลงเชื่ยนหลี่สั่นสะท้านใบหน้าของนางเริ่มซีดลง
ไป๋เอี้ยนซาน จ้องมองดูอาการของหลงเชี่ยนหลี่ ดูเหมือนนางจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“ท่านผู้อาวุโสหลง ดูเหมือนว่าท่านจะรู้จัก เทพกระบี่?”
“ทำไมเจ้าถึงถามเช่นนี้?” เสียงของหลงเชี่ยนหลี่เบาลง
“เขาคือคนที่ฆ่าอาจารย์ของข้า ทำไมข้าจะรู้เรื่องของเขาไม่ได้?”
“ข้าไม่รู้จักเขา.”
“ท่านผู้อาวุโสหลง ท่านมีปฏิกิริยาต่อเขา?”
“ปฏิกิริยาไม่เท่ากับการรู้.”
“เป็นความจริง” ไป๋เอี้ยนซาน พยักหน้า “เทพกระบี่ คือ ซูหยุน สาวกภายนอกของตระกูลซู พูดถึงเรื่องนี้ ข้ามีความคล้ายคลึงกันบางอย่างกับเขา ซูหยุนมีพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์เมื่อตอนที่เขายังเด็กเมื่ออายุยังน้อยการบ่มเพาะของเขาสูงกว่าระดับปกติเมื่อเทียบกับคนธรรมดาและไม่มีใครในย่านมลฑลจู้เหลียนเทียบได้ ตอนนั้เขาเป็นที่รู้จักกันดี เมื่อท่านพ่อของข้าเห็นพรสวรรค์ของเขา ท่านก็คิดที่จะเชื่อมความสัมพันธ์โดยการให้เราสองคนแต่งงานกันและได้หมั้ยหมายไว้ก่อน “
“แล้วเจ้าตกลง? “
“ข้า ไป๋เอี้ยนซาน เป็นผู้บ่มเพาะคู่สัมพัธ์ แน่นอนข้าต้องเสาะหาผู้เชี่ยวชาญ เป็นอัจฉริยะ แน่นอนข้าไม่ได้ปฏิเสธ”
“แต่ข้าได้ยินว่าเจ้ายกเลิกข้อตกลงการแต่งงาน?” หลงเชี่ยนหลี่ หันหน้าไปถามครึ่งหน้า
“ค่ะ! ข้าได้ยกเลิกแล้ว”
ฎทำไม?
“เขากลายเป็นคนพิการ ข้าจะยอมรับได้อย่างไร?”
“อืมม..แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? หากเป็นเช่นนั้น ก้ช่วยไม่ได้ที่ข้าจะเสียใจแทนเจ้า”
“ข้าไม่ได้มีความรู้สึกใดๆกับเขา ที่ข้าแต่งงานกับเขาเพราะความแข็งแกร่ง แต่เพราะว่าเขาพิการข้าก็ไม่รู้จะแต่งกับเขาทำไม?”
“แต่ตอนนี้เขาคือคนที่แข็งแกร่ง! เขาได้สร้างความวุ่นวายที่ ยอดเขาอู๋ซวง สังหารมารโลหิต และอาจารยืเจ้า โขมยสมบัติของนิกายชุมนุมสมบัติ ! ทั่วทั้งแผ่นดินสั่นสะเทือน? แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญธรรมดาก็ไม่กล้าทำอย่างเขา? “ พลังยุทธในตอนนี้ของเขา เจ้าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แล้วตอนนี้เจ้ายังเสียใจมั้ยที่เจ้ายกเลิกการแต่งงานกับเขา? “
“เสียใจ?” ไป๋เอี้ยนซาน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่หาคำตอบไม่ได้
หลงเชี่ยนหลี่ ดูเหมือนจะรู้คำตอบและไม่อยากเจาะลึกนางมองออกไปไกลและพูดเบา ๆ ว่า “เขาโกหกพวกเราทุกคนหรือเปล่า? การบ่มเพาะของเขามีพลังมากพรสวรรค์ของเขาน่าอัศจรรย์มากและมีพลังไร้ขีด จำกัด แต่ต้องทำตัวเป็นคนชั่ว ซูหยุนผู้นี้ชอบโกหกและดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น เขาเป็นคนโกหกและไม่ทำให้ใครสงสัย ว่าทำไมเขาถึงทำมันมันดูแนบเนียนมากเป้นข้าจะไม่เชื่อความจริงแบบนั้นจะดีกว่า “
พูดถึงจุดนี้เสียงของ หลงเชี่ยนหลี่ สั่น
“ผู้อาวุโสหลง ท่านห่วง ซูหยุน?”
“ไม่! ขณะที่ ไป๋เอี้ยนซาน ถาม หลงเชี่ยนหลี่ หันหน้ามาอย่างรุนแรงพร้อมกับแผดเสียง
ใบหน้าของ ไป๋เอี้ยนซาน เปลี่ยนเป็นสีขาวและมอง หลงเชี่ยนหลี่ ด้วยความตกใจไม่คาดหวังว่าปฏิกิริยาของนางจะมากขนาดนี้
คำถามนั้นเป็นเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงหัวใจนาง
หลงเชี่ยนหลี่ ตระหนักขึ้นได้ว่านางสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง นางหันหลังถอนหายใจ “ขอโทษด้วย ไป่เอี้ยนซาน ข้าหลงตัวไปชั่วครู่ เจ้ากลับไปได้ล่ะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ “
ไป๋เอี้ยนซาน พยักหน้าถอนหายใจ คำนับหลงเชี่ยนหลี่ ก่อนขึ้นกระบี่ทยานจากไป
หลงเชี่ยนหลี่มองทอดไปยังฟากฟ้าไกล … แล้วน้ำในตาก็ไหลลงมาเบาๆ