Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 225
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 225
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :225 ความแข็งแกร่งปรากฏในความอ่อนแอ
“อย่างที่คิดเลย!”
ซูหยุนวิ่งไปพร้อมกับบอกตัวเอง
“ลมปราณนี่มัอะไรกัน?”
“ข้าก็ไม่รู้.”
หลิงฉิงหยู เปรยออกมา “แต่หากว่าเจ้าเปิดโลงนี้ตรงๆ เจ้าจะถูกลมปราณนี้ดูดกลืนแน่นนอน!”
“หรือว่า ผู้อาวุโสทั้งสองที่ออกมาหา ดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษา จะถูกปราณพิษนี่!”
“เจ้าคิดอย่างนั้นเหรอ? เป็นถึงผู้อาวุโส พวกเขาจะไม่มีผู้พิทักษ์เลยหรือ? “
“ถ้าเป็นกับดักธรรมดาก็คงไม่มีอะไร ผู้พิทักษ์จะต้องรู้ตัว แล้วหากเป็นคนไกล้ชิดล่ะ?”
“โอ้! เจ้าหมายความว่า? “
“แล้วหากเขาจงใจใช้ ดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษา เพื่อเข้าไกล้ผู้อาวุโสแล้วจัดการล่ะ? หลังจากวังลับถูกสร้างขึ้นโดย ท่านบรรพบุรุษลัทธิมาร มีหลายอย่างที่คนของลัทธิไม่รุ้ ใครจะรู้ว่า มีชาวมารบางคนอาศัยอยู่ที่นี่ “
หลังจากนั้นเป็นเวลานานเลือดแดงก็จางหายไปเล็กน้อย ซูหยุนสงสัยว่า มันคืออะไร เขารออย่างอดทน
หนึ่งวันต่อมาพื้นที่ก็ดีขึ้น ซูหยุนเข้ามาอีกครั้ง
ขระที่เขาาเดินเข้ามาเขาพบประตูใต้โลงศพหิน มันเป็นประตูโลหะที่เปิดไม่ได้ง่ายๆเลยด้วยข่ายอาคม แต่ตรงกลางมีรูบางอย่าง
เมื่อซูหยุนมองเขานึกถึงบางอย่าง เขารีบไปคุ้ยเขี่ยหาเศษทับทิมสีสดใสเหมือนดวงอาทิตย์
แล้วกดลงที่รอย
ฟึบ!
พอทับทิมลงร่อง มันก็ปล่อยความร้อนที่สูงมากๆละลายประตูโลหะ จากนั้นก้มีบันไดปรากฏด้านหน้าของซูหยุน
ซูหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะก้าวลงบันได
“ไม่ใช่ว่า วังลับ ถูกสร้างขึ้นโดยท่านบรรพบุรุษลัทธิหรอกหรือ? มันเป็นทีทดสอบของสาวก แล้วทำไมถึงมีทางลับ? “
“ข้าก็ไม่รู้.” แต่เดี๋ยวเราก้รู้เอง! “
ซูหยุนกุมกระบี่มรณะเดินไปอย่างระวัง
ด้านในมืดมาก อุณภูมิลดลงจนซูหยุนทนแทบไม่ได้ บันไดยาวประมาณพันกว่าขั้น เมื่อสุดทางไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน
อีกปลายด้านหนึ่งคือห้องหินยาว หน้าห้องหิน มีรูปปั้นสิงโตและด้านหลังเป็นประตูบานใหญ่
รอบประตูมีร่องรอยเครื่องหมายแปลก ๆ ดูน่าอัศจรรย์มาก
ซูหยุนมองสิงโตอยู่นาน “ฉิงหยู ท่านมาพนันกับข้ามั้ย เจ้าสิงดตตัวนี้มันมีชีวิต “
“ไม่จำเป็น มันมีชีวิตอยู่แล้ว”
จากนั้นสิงโตหินก็แผดเสียงดังขึ้นและมีชีวิต
มันพุ่งลงมาจากแท่นบูชาและจ้องมองซูหยุน ด้วยดวงตาแดงฉาน
“เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ? พวกเจ้ามาที่นี่ทำไม?” เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่ที่ไหน?”
“ไม่! ทำไม? เจ้าคือชาวมารเหรอ? “ ซูหยุนยกกระบี่มรณะขึ้นมา
เขาไม่ได้กลัวสิงโตหิน มันอยู่ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นต้น
“ชาวมาร?” สิงโตหินงงงวย “ไอ้หนู ไอ้เจ้าสารเลวนั่นไปไหนแล้ว? มันคอยแอบอ้างชื่อของเจ้านายข้าเพื่อดูดพลังวิญญาณ อย่าเอามันมาเทียบกับข้า “
“เจ้านาย!” นายอะไร? “
ซูหยุนเคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้เขาได้ยินอีกครั้งจากสิงโตตัวนี้ เขาก็อยากรู้เหมือนกัน
“อะไร?” อย่าบอกข้านะว่า เจ้าไม่รู้ว่าสุสานนี่เป็นของใคร? เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อ จุนเสวีย เจ้านายข้ามาก่อนเลยหรือ? “
“จุนเสวย? เขาเป็นใคร? ว่าแต่เจ้ารู้มั้ยว่า ราชากระบี่ราชันอยู่ที่ไหน?”
บางที จุนเสวีย อาจจะเป็นเจ้าของ ราชากระบี่ราชันก็ได้?
“ราชากระบี่ราชัน? กระบี่ของนายข้า? “ มีคนอื่นเอาไปแล้ว”
“เอาไป?”
“ใช่มันถูกเอาไป!” สุสานนี้สร้างขึ้นโดย สหายของนายข้า มีทั้งหมด 8 ทางเข้า ข้าเป็นหนึ่งในนั้น มีกลไกและอาคมนับไม่ถ้วน เมื่อหลายปีก่อน มีจอมยุทธคนหนึ่งได้เข้ามาในนี้ เขาสามารถผ่านกลไกและอาคมมากมายเข้ามาได้อย่างง่ายดาย และเอากระบี่ของท่านจุนเสวียนายของข้าไป! ข้าโชคดีที่หนีรอดมาได้ แต่ตัวอื่นๆกลายเป็นเศษหินหมด
“ผ่านค่ายกลกับอาคมมาง่ายๆ เขาต้องทรงพลังอย่างมากที่ได้ราชากระบี่ราชันไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าชายคนนั้นคือใคร? “
“ข้าไม่รู้? ข้าไม่เคยเห็นเขามากก่อน ข้าเฝ้าที่นี่มานานหลายปี ข้าจะรู้จักใครได้อย่างไร? “
“เจ้าเชื่อคำพูดของมัน?” หลิงฉิงหยู เอ่ยออกมา
“ข้าไม่ควรหรือ?”
“มันอาจจะแค่โกหกเจ้า เพื่อไม่ให้เข้าไปเอาราชากระบี่ราชันมา”
“มันไม่น่าจะทำอย่างนั้น การบ่มเพาะของมันพอๆกับข้า มันสามารถท้าทายข้าได้ แถมยังมีร่องรอยมากมายข้างกำแพงกับประตูนั่น ต้องมีซากปรักหักพังอยู่หลังประตูด้วย ที่นี่ต้องเกิดการต่อสู้กันอย่างยกใหญ่ ร่องรอยพวกนี้ดูนานมากแล้ว การต่อสู้ที่เกิดขึ้นต้องนานมากแล้วแน่ ที่มันพูดมาทั้งหมดน่าจะเป็นความจริง “
หลิงฉิงหยูเงียบไป
ซูหยุนถอนลมหายใจก่อนจะถามสิงโตหิน ” เจ้ารู้มั้ยว่าใครเป็นคนเอาไป?”
มันคือสิ่งมีชีวิตพิศวง น่าจะอภิบายรูปลักษณ์ได้ ซูหยุน อาจจะเดาได้เมื่อได้ฟัง
“มีผมสีขาว!”
สิงโตหินคิดและพูดต่อ “เขาสามารถใช้กระบี่ได้พร้อมกันมากมาย! ข้ากลัวมาก มีพวกข้าสองตัวเฝ้าทีนี่ ตัวอื่นๆถูกทำลายสิ้น! “
แล้วมันก็ชี้กรงเล็บไปทางหองหิน
สิ่งมีชีวิตเช่นนี้มีความคล้ายคลึงกับศิลาวิญญาณของตระกูลมู่มาก
“กระบี่มากมาย? ผมสีขาว? “
ซูหยุนแปลกใจ “เขาใช้กระบี่มากมายได้แบบไหน? ด้วยมือทั้งสองข้าง? “
“ไม่!” ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ปราณควบคุมกระบี่ กระบี่มากมายอยู่รอบๆตัวเขา มันน่ากลัวมากดูแล้วน่าขนลุก
“อย่างนั้นหรือ?”
ด้วยเหตุนี้ ซูหยุนจึงชักกระบี่ออกมา กระบี่มากมายออกมาจากฝัก ลอยเขว้งรอบตัวเขา
“โอ้ววว สวรรค์!”
สิงโตหินแสดงความหวาดกลัวมาก มันใช้อุ้งมือของมันกุมหัวไว้
“คงจะใช่สิน่ะ”
ซูหยุนสูดลมหายใจ
“ผมสีขาว … หรือว่าจะเป็นท่านบรรพบุรุษกระบี่?” หลิงฉิงหยูคาดเดาความคิดของซูหยุน
“เป็นไปได้! แต่มันก็นานมากแล้ว ในลัทธิกระบี่มารไม่มีใครรู้เรื่องนี้ “
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลิงฉิงหยูยิ้มกริ่ม “ซูหยุนในฝักกระบี่มีกระบี่อยู่มากมาย ท่านบรรพบุรุษต้องเก็บมันไว้ข้างในฝักกระบี่นี้แน่ หากเป็นจริง ราชากระบี่ราชัน ต้องอยู่ในฝักกระบี่ของเจ้า “
“ใช่แล้ว?
ซูหยุนอุทานออกมา “ไปกันเถอะ!
มีกระบี่อยู่ในฝักนับหมื่น มันคือการงมเข็มในมหาสมุทร
“มีวิธีไหนที่จะตามหามันบ้างมั้ย?”
“ไม่!
ซูหยุนได้ยินความสุขของเขาก็หายไป
“เจ้าคงต้องรวบรวมเครื่องสร้างหลุมประตูช่องว่าเพื่อกลับไป ทวีปนภายุทธแล้วล่ะ”
“มีวิธีเดียวเท่านั้นตอนนี้”
“สิ่งนี้มันเสียเวลาแถมใช้พลังมาก”
ซูหยุนถอนหายใจแล้วหันหลังกำลังจะจากไป เขาชี้กระบี่มรณะไปที่สิงโตหินและถามว่า “ข้าขอถามอะไรเจ้าหน่อย!”
“ดะ…ได้ ถามมาเลย!”
สิงโตหินเปลี่ยนน้ำเสียงในการพูดด้วยความกลัว ดูเหมือนก่อนหน้านี้ มันก็แค่แกล้งทำเป็นนิ่งเท่านั้น
“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษาอยู่ที่ไหน?”
ซูหยุนเคยได้ยิน ครูฝึกหวังพูด มันสามารถใช้รักษาแผลและความเจ็บปวดของร่างกายได้ ดอกไม้นี้คือสมุนไพรแห่งการรักษาขนานแท้ มันอัศจรรย์ยิ่งกว่า เม็ดยาสลายวิญญาณ หรือ เม็ดยาหมื่นระทม เสียอีก หากเมื่อเขาหาได้ เขาต้องพึ่งมันตอนออกไป
สิงโตหินตะลึง มันเงียบครึมลง
“อืมมมมข้าไม่เคยได้ยินชื่อ ดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษา เลย”
ฟึบ!
กระบี่สามเล่มบินไปยังฐานของสิงโตหินเจาะมันเป็นชิ้นๆ
“ข้ารู้!” ข้ารู้จัก ดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษา! “ข้ารู้!” มันอยู่ข้างใน! ขะ….ข้าจะพาท่านไปนายท่าน! “
ซูหยุนได้ยินอย่างนั้นเขาก้ฉีกยิ้มออกมา
สิงโตหินให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มันพาซูหยุนเข้าไปในสุสานและได้รับดอกต้นกำเนิดประกานพฤกษา หลังจากซูหยุนเข้าไป ซูหยุนได้เข้าใจว่า อาคมส่วนใหญ่เป็นกับดัก เห็นได้ชัดว่ามีคนเคยมาที่นี่มาก่อน ไม่มีอะไรเหลือ นอกจาก ดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษา ซูหยุนเก็บทุกอย่างแล้วออกจากวังลับ
ซูหยุนไม่รู้ว่าเขาอยู่ในวังลับนานแค่ไหน แต่หลี่กวงกับหลี่ซินออกไปนานแล้ว
หลี่กวงไปในทางที่ถูกต้อง ในระหว่างการเดินทางครั้งนี้เขาได้รับประโยชนืจากวิญญาณมารมากมายและทั้งคระของเขาได้เพิ่มระดับกันอย่างถ้วนทั่ว
หลี่ซินและคนอื่นๆมีหัวใจที่หนักแน่นมากและมองดู แต่ละคนสามารถผสานกันได้ดี
หลี่กวงดูงงๆและไม่ได้ถามอันใด แต่ หวู่ซินเหยียน รับไม่ได้ เมื่อไม่ได้อยู่ในสายตาของ หลี่ซิน มันไปหาหลี่กวงอย่างลับๆ
ที่มุมของสนามฝึก
“ข้ามีสิ่งหนึ่งอยากจะบอกศิษย์พี่ ข้าอึดอัดใจนักหากไม่ได้ระบายมันออกมา! “
หวู่ซินเหยียนมองต่ำลงพื้น
“ว่ามา?” ทุกคนยังรอซูหยุนกลับมานอกวังลับ เขากำลังทำอะไรอยู่?
หวู่ซินเหยียนมองดูรอบๆ เมื่อเขาสังเกตเห็นไม่มีใครมองเขา เขาเปิดปากและพูดทุกอย่างที่เห็นในวังลับ
เมื่อหลี่กวงได้ยินใบหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
เจ้าพูดจริงเหรอ?” เขาเปิดตากว้างและถามอย่างใจจดใจจ่อ
“จริงครับ ซูหยุน มันช่วยข้าไว้และยังแอบเรียนเพลงกระบี่มารของเรา คนผู้นี้อาจเป็นสายลับจากคฤหาสน์มารทมิฬ เราต้องระวังเขา! “
ดวงตาหลี่กวง ถลนออมาขณะที่เขากำลังคิดลึก ๆ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจและพูดว่า”ข้าคิดแล้วทำไม พี่ข้าถึงได้ไม่สนใจแล้วรอซูหยุนออกมาจากวังลับ ข้าว่านางต้องเตรียมส่งซูหยุนออกจาก ลัทธิแน่! “แย่แล้ว!” ซินหยวนเร็วเข้า! ไปที่ทางออกลัทธิ อย่าให้มันออกไปได้! อย่าให้มันหนีไป ข้าจะส่งผู้เชี่ยวชาญบางคนไปจับไอ้สายลับนี่! “
“ครับ!”