Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 223
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 223
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :223 ลงมือ
“ระวัง!” ทุกคนแม้ว่าจะเป็น ราชากระบี่ราชัน แต่อาจจะมีกับดักอยู่ “
แม้ว่าตลอดเส้นทางจะไม่มีอันตรายใด แต่ชาวมารเหล่านี้กำลังสูญเสียความรอบคอบ ซูหยุนจึง กังวล
ชาวมารบางคนหันมามอง
“พวกเรารู้น่า!”
“เจ้าหนู ยืนดูเฉยๆเถอะน่า ถึงยังไงเจ้าก็ทำอันใดมิได้”
“เจ้าโชคดีแล้วที่เดินทางมาถึงที่นี่ อย่างมาขวางทางพวกเรา!”
ชาวมารบางคนหัวเราะเย้ยหยันแล้วเดินไป
กลุ่มผู้ตรวจสอบ ตรวจสภาพแวดล้อมไม่กี่ครา หลังจากดูว่าไม่มีปัญหาอันใด หลี่ซิน จึงนำคนสองคนที่มีพลังยุทธกล้าแข็งเดินไปทางรูปปั้นมากมาย
หลี่ซิน และสองคนที่ตามมาเปลี่ยสายตา นางเอาก้อนเนื้อสีแดงออกมาจก แหวนเก็บของสามก้อนแล้วส่งให้กับคนที่ตามนางมาคนละชิ้นพร้อมกับท่องมนต์
พรึบ!
ชิ้นเนื้อเริ่มเรืองแสง
หลี่ซิน และอีกสองคนโยนเนื้อไปข้างหน้า
สามก้อนเนื้อเปลี่ยเป็นสามร่าง มันคล้ายกับหลี่ซิน กับอีกสองคนที่โยนมันไป
“นั่นมันร่างจำแลง วิชาอันใด?” ซูหยุน แอบประหลาดใจ
เขาไม่เคยเห็นวิชาแบบนี้มาก่อน อณาจักรมารนั้นแปลกประหลาดมาก
“นี่คือ วิชาร่างจำแลง ของอณาจักรมาร”
เสียงของ หลิงฉิงหยู มาจากฝักกระบี่
“วิชาแบบไหน?”
“มันเป็นวิชาง่ายๆ ที่ใช้เนื้อสัตว์ที่พิเศษ เปลี่ยนเป็นตัวเองโดยการยึดจิตวิญญาณของตนเองลงไป เป็นวิชายืมร่างเพื่อตรวจสอบเส้นทาง เมื่อร่างถูกทำลาย จิตวิญญาณจะกลับคินสู่ร่าง “
ซูหยุน มองดูทั้งสามร่างตัวจริงที่กำลยืนอยู่นิ่งพร้อมกับร่างจำแลงเดินไปตามเส้นทางหลัก
ทั้งสามร่างเดินไป อย่างระวังตามเส้นทางที่มีรูปปั้นยืนอยู่ด้านข้าง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งหมดเงียบสงบ
ไม่มีอันตรายจริงๆหรือ? ทุกคนแค่คิดมากเกินไป?
“เฮ้ นั่นพวกเจ้าจะทำอะไร?
มีเสียงดังก้องกังวาลชัดเจนดังไปทั่วห้องโถงราวกับว่าจิตใจของทุกคนนั้นสั่นสะเทือน พวกเขามองไปรอบๆ เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดสีแดงออกมาจากหลังโลงหิน
“อะไร?” คนของชาวมารหรือ? “
“คนของชาวมารมาที่นี่ทำไม?”
“เจ้าเป็นใคร?”
ชาวมารทุกคนตะโกนถาม
หลี่ซินและอีกสองคนหยุดใช้วิชาจำแลงดึงวิญญาณกลับเข้าสู่ร่าง มองชายที่นั่งข้างโลงศพ “เจ้าเป็นใคร บอกชื่อเจ้ามา!”
“ข้าเป็นใคร?” “หึ! ชายหนุ่มยกขาข้างหนึ่งชันขึ้น “ข้าต่างหากที่ควรถามพวกเจ้าทั้งหมด “พวกเจ้าเป็นใคร?” เหตุใดพวกเจ้าทั้งหมดมาที่นี่? เจ้ารู้หรือเปล่าว่าที่นี่ที่ไหน?”
“นี่ไม่ใช่สถานที่ วังลับ ของลัทธิกระบี่มาร ของพวกเราหรือ?”
“ลัทธิกระบี่มารหรือ? ลัทธิกระบี่มารอะไร? เจ้านายคนนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย! “ ข้ารู้แต่ว่าว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนของเจ้านายข้า! พวกเจ้าทุกคนบังอาจกล้าบุกลุกเข้ามา พวกเจ้าสมควรตาย! ข้าจะเปลี่ยนพวกเจ้าทั้งหมดเป็นรูปปั้นให้เจ้านายของข้า !! “
“เปลี่ยนเราเป็นรูปปั้น?”
หลี่ซิน งงงวยมองไปทางรูปปั้นที่เรียงรย ดวงตาของนางสว่างโล่ขึ้นมาทันที
“คนเหล่านี้ทั้งหมด คือสาวกลัทธิของเรา! จะ….เจ้า.คือใคร!? “
“อะไรน่ะ?” ศิษย์พี่หญิง รูปปั้นเหล่านี้คือสาวกของลัทธิเราหรือ? “
“อ้าาาา!!!! นี่มันพี่ใหย่ เฉิง ที่หายไปเมื่อ 4 ปีก่อน? เขามาที่นี่ทำไม
“นั่นมัน ศิษย์พี่ จาง!”
“สารเลว นี่มันสาวกของลัทธิเราที่เข้ามาทดสอบ แต่พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นรูปปั้นงี่เง่านี่หมด !!”
“พวกเขาไม่มี ปราณ อีกแล้ว!”
“เราต้องแก้แค้นให้กับพวกเขา!”
“ใช่ฆ่ามันแล้วดูดวิญญาณมันซ่ะ! ไอ้บัดซบนั่น วิญญาณมันต้องมีปราณกล้าแข็งไม่น้อย !! “
“ฆ่ามัน! “
พวกชาวมารทั้งหมดตะโกนด้วยความโกรธจนหน้าดำ
“ทุกคนอย่าพึ่งวู่วาม”
หลี่ซิน ไม่ได้จมอยู่ในความโกรธ สังเกตุเห็นว่ารูปปั้นเหล่านี้พวกเขาล้วนยังอยู่ในวัยเยาว์และมีพลังไม่กล้าแข็งพอ
ปัง!!
ทันใดนั้นเสียงดังมาจากด้านหลัง
ประตูหินได้ปิดตัวลง ปิดผนึกแสงสีเทาที่ทางเข้า
ใบหน้าของหลี่ซินเปลี่ยนไป
“แย่แล้ว ศิษย์พี่หญิง ทางเข้าปิดแล้ว!”
“ต้องเป็มันแน่นอนที่ทำ? มันจะฆ่าพวกเราทุกคน? “
มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาแต่พวกเขาไม่ได้ตื่นกลัว และเตรียมสู้ตายกับชายคนนั้น
“พวกเจ้าทุกคน จะเป็นเหมือนผู้คนเหล่านี้!” ชายหนุ่มหัวเราะเยอะเย้ย “ข้ารู้ว่า ไม่มีใครเต็มใจจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้านายของข้า แต่ไม่เป็นไร ข้าจะทำให้พวกเจ้าทุกคนอยู่เฝ้าเจ้านายของข้าตลอดไป! “
ขณะนั้น ร่างของชายหนุ่กลายเป็นน้ำสีดำลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าครอบคลุมพวกเขาทุกคน
“ระวัง แยกกันออกไปเร้ว!”
ทุกคนรีบวิ่งออกไป แต่มีคนหนึ่งหนีไม่ทันถูกน้ำสีดำกลืนเข้าไป ทุกคนเห็นว่า ในน้ำสีดำนั้นร่างของเขาถูกดึงเอาควันสีเทาออกจากร่างแล้วถูกน้ำสีดำกลืนเข้าไป
เมื่อน้ำสีดำหลุดออกจากร่างของชาวมาร เขาได้กลายเป็นหินและกลายเป็นรูปปั้น
กลืนจิตวิญญาณและเปลี่ยนร่างกาย! โหดร้ายมาก!
ซูหยุน ที่ยืนอยู่ด้านหลังแอบกลืนน้ำลาย
เขาใช้ เนตรศักดิ์สิทธิ์เกล็ดสวรรค์ ในการตรวจสอบชายคนนั้นว่าเขาอยู่ในระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่10 ดังนั้นพวกชาวมารจะประสบปัญหาในการเอาชนะขา
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาจะตายที่นี่
“จางจิ้ว!”
ในตอนนั้น หลี่ซิน เห็นศิษย์น้องตายไปหัวใจของนางสั่นสะท้าน ความโกรธของนางได้ลุกไหม้ในหัวใจในเวลาเดียวกัน
“ข้าจะไม่ละเว้นเจ้า!”
หลี่ซิน ระเบิดปรารมารอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งทยานเข้าไปหสายจะสู้กับน้ำสีดำ
“ศิษย์พี่” ข้าจะช่วยท่าน! “
“สวะ?” ไม่ประมาณตน! “
พวกเขารู้ว่าต้องหนี แต่ก็หนีไม่ได้ พวกเขาทั้งหมดต้องสู้เท่านั้น
เพลงกระบี่มารได้ถูกปล่อยออไปเป็นคลื่นพายุถาโถมเข้าหาชายคนนั้น
ซูหยุน ชักกระบี่มรณะ มืออีกข้างถือฝักกระบี่ ยืนอยู่ด้านข้างหาจังหวะ
ทันใดนั้นมีเสียหัวเราะดังออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ พวกเจ้าคิดจะใช้หมาหมู่เหรอ? ข้าก็มี !! “
หลังจากสิ้นเสียงภาษามาร รุปปั้นน้ำแข็งก็สั่นสะเทือน ครืนๆๆ และเริ่มเคลื่อนไหว
“นั่นมันอะไร?”
หลี่ซิน ตกใจมาก
รูปปั้นทั้งหมดปรี่เข้ามาใช้กำปั้นหินทุบชาวมารที่วิ่งเข้ามา
ชาวอณาจักรมารเสียเปรียบที่ความแข็งแกร่งของแต่ละคน พวกเขาจึงรวมพลังกันจึงผ่านมาได้ด้วยการเกื้อหนุนกัน แต่เมื่อรูปปั้นแปลก ๆ เข้าร่วมในการต่อสู้สถานการณ์ก็ต่างออก แรงกดดันของ หลี่ซิน กับชายหนุ่มจึงเพิ่มขึ้น
แม้แต่ ซูหยุน ก็ได้ได้ดีไปกว่าเท่าไหร่ มีชายคนหนึ่งย่ำเท้าอันหนักหน่วงเดินเข้ามา
รูปปั้นเหมือนจะเป็น ผู้บ่มเพาะดวงจิตวิญญาณขั้นแรก เขาไม่ได้มีพลังมาร แต่เหมือนกับจะเป็น ลมปราณวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์
ซูหยุน ถอยห่างออกไปสองสามก้า วมือของเขาจับด้ามกระบี่เตรียมพร้อมบุก
“ฮู้ๆๆๆๆ! ! ! !”
รูปปั้นส่งเสียงร้องกระโจนเข้ามา
ปราณวิญญาณที่เก็บไว้ ถูกปลดปล่อยออกมาดดยกระบี่มรณะ
สวบ สวบ สวบ…..
กระบี่มรณะที่ถูกชักออกมาจากฝักพร้อมกับกระบี่ย่อยนับ10พุ่งเข้าหาหน้าอกรุปปั้น
ดุจดั่งมังกรร้ายพุ่งเข้าโจมตี!
แสงไฟกระบี่วูบวาบบินว่อนไปทั่วทุกแห่ง
ฉึก!!
ผิวชั้นหินตรงหน้าอกถูกเจาะเป็นรูใหญ่ ร่วงหล่นไปบนพื้นดิน เลือดมารไหลอาบพื้น
แม้ว่ารูปปั้นนั้นเป็นร่างภายใน ซูหยุน ก็รู้ว่า จางจิ้ง ก็เป็นเช่นนั้น
เขาถือกระบี่มรณะ แล้วเข้าไปช่วยหลี่ซิน แต่ในเวลานั้นมีบางอย่างตกลงมา
ซูหยุนมองเห็นชายชราคนหนึ่งรูปร่างผอมดำคล้ำ ที่ข้างเอวมีป้ายแขวนไว้
ที่ป้ายนั้นสลักคำว่า ลัทธิกระบี่มารระดับสูง!
“หรือว่าเขาจะเป็น ผู้อาวุโส ลัทธิกระบี่มาร?”
ทันใดนั้นซูหยุนก็เห็นแหวนเก็บของ
“เยี่ยม! ซูหยุน รีบไปเอามันเร็ว! มีสมบัติอยู่อย่างแน่นอน !! “ เสียงของหลิงฉิงหยู กระตืรือล้นอยู่ในฝักกกระบี่
ซูหยุน ไม่ได้เป็นผู้ดีมาจากไหน ทำไมเขาจะไม่ฉวยโอกาสนี้ เขาตัดนิ้วทันทีแล้วโยนมันเข้าไปในแหวนเก็ยของตัวเอง
ตูมๆๆ!
เสียงระเบิดดังขึ้นสามครั้ง ซูหยุน เห็นหลี่ซินและอีกสองคนลอยออกไป ทั้งหมดถูกโจมตีอย่างรุนแรง ชายหนุ่มแต่งตัวในชุดจีนทั้งร่างของเขาปกคลุมไปด้วยรังสีความชั่วร้ายดวงตาของเขาเป็นสีแดงและสีดำ มีปรารณวิชาอาคมใต้ฝ่าเท้าของเขา เขาทยานเข้าถึงจุสูงสุดของระดับดวงจิตวิญญาณขั้นที่10อย่างรวดเร็ว
รูปปั้นทั้งหมดตกเกลื่อนกลาด แต่ชายหนุ่มยังไม่ตาย พวกเขารู้สึกถึงความพ่ายแพ้
“บัดซบ!”
หลี่ซินกับพวกที่เหลือโกรธมาก พยายามลุกขึ้นยืน มีคนตายทั่วทุกหนแห่งบ้างก็บาดเจ็บ ไม่มีใครเหลือกำลังจะต่อสู้
ห็องโถงใหย่ถูกอำนาจของชายหนุ่มควบคุม พวกหลี่ซินและคนอื่นๆไม่สามารถตอบโต้ได้
“ฮ่าๆๆๆ รูปปั้นเหล่านี้ข้าเตรียมไว้ให้เจ้านายของข้ามาหลายปี งั้นพวกเจ้าก็มาแทนที่พวกมันก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆ!”
ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังราวกับคนบ้า
“ข้าไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่แล้ว”
ซูหยุนคิดพร้อมกับก้าวไปข้างหน้า
รอยเท้าของเขาที่ย่ำลงพื้นดังเสยงก้องกังวาล
“ซูหยุน … เจ้าจะทำอะไร?” นี่คือ วังลับ หากไม่ใช่เพลงกระบี่มารก็ทำอะไรไม่ได้ หากเจ้าเปิดเผยเพลงกระบี่มาร จะไม่เป็นการเปิดเผยความลับหรอกเหรอ “
“ยังไงซ่ะ หากเปิดเผยเพลงกระบี่ลึกลับนี่กับการช่วยชาวอณาจักรมารสำคัญที่สุด หากข้าไม่ลงมือ ข้าก็จะตายไปด้วย “
ซูหยุนพูดพร้อมกับถือกระบี่มรณะไปทางชายหนุ่ม
“ไอ้บ้า แทนที่จะหนีไปดันจะเอาชีวิตไปทิ้ง!”
เมื่อเห็นซูหยุนเดินเข้าไป ชาวมารคนหนึ่งพูดขึ้น
“ขอบใจ แต่ข้าเบื่อชีวิตแล้ว”
ซูหยุน พยักหน้าภายใต้หมวกสีดำ แล้วหัวเราะออกมาด้วยร่องรอยของความแน่วแน่
เขายกมือขึ้นปลุกปราณวิญญาณลึกล้ำพวยพุ่งออกมาจากท้องของเขา
ทันใดนั้นหินแปลก ๆ ก็ระเบิดออกมาด้วยแสงกระจ่างจ้า