Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 215
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 215
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :215 การประลอง
สาวของลัทธิกระบี่มารพาซูหยุนออกจากสถานที่บำเพ็ญของจอมมารโหย่วเซี๋ย ผ่านภูเขาใหญ่2ลูกและเข้าไปในทุ่งโล่ง
สาวกลัทธิกระบี่มาร เรียกหันซาน เขาคือคนมาไหม่ที่อยู่มานาน4ปีและยังได้เรียนวิชากระบี่ในลัทธิกระบี่มารไปไม่น้อย
เพื่อฝึกกระบี่มาร เขาได้รวบรวมส่วนผสมทั่วทุกที่ ตอนนี้เขาได้รวบรวมส่วนผสมทั้งหมดที่เขาต้องการ เหลือแค่วิญญาณกระบี่
ชาวอณาจักรมารทำสมบัติ เพื่อที่สมบัตินั้นมีจิตวิญญาณ พวกเขาจะจับชาวมาหรือสัตว์ร้ายแยกวิญญาณใส่ไว้ในสมบัติ วิธีการนี้ในทวีปนภายุทธถูกห้าม แต่ในอณาจักรนี้เป็นเรื่องปกติ
ซูหยุนเคยใช้มาแล้ว
“ข้าสงสัยนักว่า เหตุใดสกายมาร ซู ถึงได้มาเยือนลัทธิกระบี่มาร?”
ในระหว่างการเดินทาง ช่วยไม่ได้ที่หันซานจะถาม
เมื่อซูหยุนได้ยินหันซานถามเขาก็ยกมือขึ้นป้องพูดกับหันซาน “พูดตามตรง ท่ามจอมมารทมิฬ เจ้านายของข้ามีประสงค์ให้ข้าไปทำธุระบางอย่างที่ต่างแดน แต่เจ้านายของข้ายังพักฟื้น อีกไม่นานท่านจะทลวงด่าน จึงไม่สะดวกในการใช้วิชาของท่านส่งข้าไปที่นั่น ข้าหวังว่าทาง ลัทธิกระบี่มาร จะช่วยส่งข้าไปเพื่อทำธุระให้แล้วเสร็จ “
ซูหยุนโกหกลัทธิกระบี่มารเพื่อให้พวกเขาเปิดช่องว่าง
“ออกจากช่องว่าง? ท่านต้องการใช้ประตูช่องว่างที่ลัทธิของเราอย่างนั้นหรือ? “
หันซาน ตะลึงเขาถามกลับอย่างรวดเร็ว
เมื่อดูท่าทางเขาแล้วซูหยุนใจเสียเล้กน้อย เขารู้สึกถึงความไม่ปกติ “พวกท่านไม่สดวกอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่สะดวก? ไม่ใช่ว่ามันไม่สดวก แต่ท่านมาช้าไป! ประตูช่องว่างของเราถูกทำลายแล้ว “
………
“เมื่อสามเดือนที่ผ่านมาอาจารย์ เซี๋ยหวู่ เจ้าลัทธิกระบี่มาร ได้ออกไปโลกข้างนอกเพื่อรวบรวมส่วนผสมบางอย่างเพื่อฝึกฝน ดดยใช้ประตูช่องว่างนี้ ครั้งนั้นท่านได้รับบาดเจ็บจากการใช้งาน ท่านยังไม่ฟื้นตัว ทุกคนใน ลัทธิได้ตรวจสอบและตระหนักว่ามีความผิดพลาดใน อณาจักรมารดบราณ ที่ด้านบนของช่องว่าง ส่วนผสมบางส่วนหายไปและทำให้ประตูไม่เสถียร นายของข้าได้ส่งคนไปซ่อมแซมมันตลอดทั้งคืน แต่ข้าไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน! “
“อย่างนั้นหรือ?” ซูหยุนรู้สึกหงุดหงิด: “พวกท่านสร้างอีกประตูไม่ได้หรือ?”
“สร้างอีกหนึ่งประตู? เฮ้อ! ท่านไม่เข้าใจ ประตูช่องว่างนี้เป็นของลัทธิเรา ท่านรู้หรือไม่ ว่ามันมีเพียงไม่กี่แห่งที่เหลืออยู่ในอณาจักรมาร? เพราะว่าประตูช่องว่างนี้ มันเกิดขึ้นที่รอยแยกระหว่างโลก มีแต่รอยแยกพวกนั้น ถึงจะสามารถสร้างประตูช่องว่างได้ ท่านคิดว่าพวกเราไม่อยากสร้างมันเพิ่มหรือ? มันต้องมีเงื่อนไข ทุกวันนี้ประตูช่องว่างสามารถครอบครองได้เพียง1เท่านั้นแต่ผู้คนนั้นมีมาก จึงมีแต่ผู้มีอำนาจเท่านั้นที่จะผ่านประตูช่องว่าง พวกเขาส่วนใหญ่รู้วิชาส่งผ่าน พวกเขาจึงประหยัดพลังโดยการใช้ประตูเหล่านี้ “
“ข้าเห็นแล้ว”
ซูหยุนเงียบ
“เรากำลังจพถึง ลัทธิกระบี่มารแล้ว ข้าจะไปพบกับหัวหน้าของข้าและรายงานเรื่องนี้ให้กับท่าน หากว่าเขาไม่ว่าอะไร ท่านก็รอจนกว่าจะซ่อมประตูเสร็จ “
“ก็ได้ แต่ภารกิจของข้าเร่งด่วนนัก ข้าสามารถรอได้ไม่กี่วัน” ซูหยุนพยักหน้า
“ดี! “ แม้ว่าลัทธิกระบี่มารของเราจะไม่ไกลจาก คฤหาสน์ถ้ำมารทมิฬเท่าใดนักแต่นับว่าเป็นวาสนาของท่านจอมมาร ข้าเชื่อว่าคงจะไม่มีปัญหาอันใด แล้วสหายมารยังได้ช่วยให้ข้าได้ กลีบดอกทมิฬล้วนด้วย ข้าต้องช่วยท่านแน่นอน. “
พอทั้งสองคุยกันจบพวกเขาก็มาถึงลัทธิ
มันคือภูเขาสีดำขนาดมหึมา แต่ที่ด้านหน้าภูเขาสีดำมีรูปปั้นยักษ์ตั้งอยู่บนยอด
มันเป็นรูปปั้นศีรษะ แต่มันถูกสวมใส่ในชุดเกราะ ในมือถืดดาบที่สลักมาจากหินขนาดใหญ่ ดูน่ากลัวมาก
“นั่นคือผู้พิทักษ์ของลัทธิกระบี่มารของพวกเรา มารฟ้าไร้หัว เมื่อนานมาแล้ว มีคำเล่าลือว่าเมื่อใดที่มีภัยคุกคาม ท่านจะมีชีวิตขึ้นมาปกป้องตามความเหมาะสม ข้าก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าท่านมีอำนาจแค่ไหน แต่ก็เป็นที่น่าหวาดกลัวพอที่จะให้ชาวมารไม่กล้าก่อความวุ่นวายที่นี่ “
“โอ้!
ซูหยุนพยักหน้าและมองไปที่ชายร่างยักษ์
ผ่านชายร่างยักษ์เป็นถนนภูเขาหิน พวกเขาเดินขึ้นไปและตระหนักว่า ลัทธิกระบี่มาร ไม่ได้อยู่บนภูเขา แต่อยู่ตรงกลางภูเขา มีภูเขาล้อมรอบ ลัทธิ
เมื่อเทียบกับที่อื่นๆแล้ว ลัทธิกระบี่มาร ดูโอ่อ่ามาก ท่ามกลางภูเขามีศาลาดำหลายแห่งที่มีอาคมล้อมรอบ หันซานเคยพูดเอาไว้ว่า ในลัทธิมารมีคนมากมายนับแสนคน มีอำนาจมากที่สุดในภูมิภาคนี้และทุกคนที่อยู่รอบๆต้องยอมก้มหัว
“หันซาน เจ้าไม่ได้ออกไปซื้องของหรอกหรือ? แล้วนั่นไม่ใช่พวกเราใช่มั้ย? “
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไป มีชาวลัทธิมารคู่หนึ่งกำลังยืนพูดคุยกันหันมาทักพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นซูหยุนดูน่าเกลียดภายใต้เสื้อคลุมพวกเขาก็ตกใจ หนึ่งในนั้นทนไม่ไหวได้กรีดร้อง
“หันซานคาราวะ พี่ใหญ่หลี่กง พี่หญิงหลี่ซิน” “นี่คือสหายของข้า ที่มาจากคฤหาสน์ถ้ำทมิฬ เขาเป็นตัวแทนมาของความช่วยเหลือครับ “
“ช่วย?” ไช่วยอะไร?”
ซูหยุนมองหน้าหันซาน หันซานพยักหน้าให้ซูหยุนในเรื่องโกหกของเขา
“โชคไม่ดีเลยน่ะ” หลี่กวงส่ายหน้า”แย่หน่อยน่ะ ประตูช่องว่างเพิ่งจะเสียไม่กี่เดือนมานี้ ตอนนี้ทางลัทธิของพวกเรากำลังซ่อมมันอยู่ หากว่าท่านต้องการใช้ละก็ เกรงว่าคงต้องรอสักพักละน่ะ “
“ลัทธิกระบี่อันสูงส่ง ยินดีที่จะช่วยข้า แค่นี้ข้าก็ทราบซึ้งในน้ำใจมากแล้ว ถึงแม้ว่ามันยังใช้การยังไม่ได้ ข้าก็ยินดีที่จะรอ “ ซูหยุน ยิ้ม เขาคิดว่าการพูดจาดีๆกับคนลัทธิมารจะเป็นทางออกที่ดี
“งั้นก็ดี”
หลี่กวงพูดพยักหน้า “งั้นก็รายงานเรื่องนี้ให้กับท่านหัวหน้า เมื่อท่านอนุญาติ พวกเราก็จะให้สหายจากคฤหาสน์ถ้ำมารทมิฬผู้นี้ใช้ พวกเราจะจัดการที่พักให้ จนกว่าจะได้รับการซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์ “
“ดี! หันซาน ป้องมือ “งั้นข้าจะไปจัดการให้”
ด้วยเหตุนั้นเขาจึงนำซูหยุนออกไป
ซูหยุนถูกพาไปทางทิศตะวันตกของลัทะิกระบี่มาร มันสงบมาก มีอาคมมารอยู่ด้านบนเพดาน เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องแล้ว หันซานก็เปิดอาคม มีปรามารไหลลงมาจากเพดานเพื่อหล่อเลี้ยงชาวมาร แม้ว่าเขาจะมีปราณมารอยู่ครบครันแต่เขาก้ไม่ได้รู้สึกดี
หลังจากนั้น หันซาน ก็ไปรายงานให้กับหัวหน้า อันที่จริงมีปัญหาไม่มากจากฝั่งหัวหน้า เขากลับมาหาซูหยุนและกำลังจะจากไป
ครึ่งวันต่อมา หันวาน ได้นำข่าวเกี่ยวกับประตูช่องว่างมายังกระท่อมเล็ก ๆ
“สหายซู”
“สหายมารหันซาน รบกวนท่านแล้ว มีข่าวเกี่ยวกับประตูช่องว่างหรือไม่ “
“มี” หันซาน พยักหน้า: “ข้าได้ถามเกี่ยวกับเวลาในการซ่อมกับท่านผู้อาวุโสมาแล้ว พวกเขาบอกกับข้าว่าอาจจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน “
“หนึ่งเดือน?” ดวงตาของซูหยุนสว่างวาบ
“นับว่าไม่ช้าเกินและไม่เร็วเกินไป ทำไมท่านไม่รออยู่ที่นี่ก่อน การออกจากที่ลัทธินี้มันง่าย แต่การเข้ามานั้นมันยาก ตอนนี้ข้าช่วยท่านเข้ามา แต่ถ้าวันหน้าท่านเข้ามาคนเดียวมันอาจจะไม่ง่าย! “
ซูหยุนฟังและพยักหน้า “ได้”
“ไปกันเถอะสหายซู ข้าจะพาท่านไปยังสถานที่ๆท่านไปได้ โปรดจำไว้ว่านอกเหนือจากสถานที่เหล่านี้ท่านอย่างเดินเพ่นพ่าน ถ้าไม่อย่างนั้นท่านอาจจะบังเอิญถูกฆ่าตายได้ง่ายๆ แล้วหวังว่าทางคฤหาสน์มารทมิฬจะไม่โทษเรา “
บังเอิญถูกฆ่าหรือ?
ซูหยุนรู้สึกหนาวกระดูก ในทวีปนภายุทธนั้นเขาอาจจะแค่ถูกตำหนิหรือไม่ก็ถูกทำโทษเท่านั้น
ซูหยุนถูกพาไปยังสถานที่ที่พวกเขาสามารถชื่นชมทิวทัศน์ได้ สถานที่ที่ไม่เหมือนใครคือศูนณ์การตลาด เป็นที่ที่คนของลัทธิมารมาพักผ่อน ชาวมารหลายคนพูดคุยกัน นอกเหนือจากสถานที่ไม่กี่แห่งนี้แล้วยังไม่มีสถานที่ใดที่เขาจะไปได้
ซูหยุนเข้าใจสิ่งที่หันซานทำ มันไม่น่าจะใช่ความคิดของเขา มันน่าจะเป็นคำสั่งจากหัวหน้า
ไม่ว่ามันจะทำให้เขารำคาญก็ตาม แทนที่จะเดินไปรอบๆ ซูหยุนอยากอยู่ในกระท่อมของเขาเพื่อบ่มเพาะ
แก่นแท้วิญญาณมารของเขาเติบโตขึ้นมากและมีพลัง เขาต้องการบ่มเพาะ แก่นแท้วิญญาณปฐพีหรือแก่นแท้อื่นๆ ในร่างเขานั้นแก่นแท้วิญญาณยังไม่สมดุลกัน และความแบ็งแกร่งที่แท้จริงของเขาอาจถูก แก่นแท้วิญญาณมาร ครอบงำ แม้ว่าเขาจะใช้ ราชันพลังลี้ลับ เขาอาจไม่สามารถรักษาความเสถียรได้
หลังจากการเดินทางสิ้นสุดลง หันซาน ได้จากไป
ซูหยุนเดินกลับไปกระท่อมคนเดียว
ก่อนอื่นเขาเข้าไปในกระท่อมและถอดส่วนประกอบ อาคมที่บนเพดานออก จากนั้นเขาก็นั่งสมาธิภายในกระท่อมและเดินพลัง แก่นแท้วิญญาณ ของเขา แน่นอนว่าตอนนี้เขาใช้ แก่นแท้วิญญาณธรรมดา และ แก่นแท้วิญญาณปฐพี เขาไม่ใช้ แก่นแท้วิญญาณมาร เลย
ปรารของเขาเริ่มไหลอย่างอ่อนโยนและราบเรียบในทุกส่วนของช่องลมปราร ของเขา เขาระมัดระวังในการเคลื่อนไหวของเขาในขณะที่เขากลัวที่จะเปิดเผยตัวเอง นำมาซึ่งปัญหา
“ด้วยจิตที่ปลอดโปร่ง ลมปราณล่องลอยดุจเมฆ ตั้งมั่นในความซื่อตรงข้าจะล่อยลอยไปทั่วท้องฟ้าและปฐพี
ขณะที่ซูยองกำลังนั่งสมาธิมีเสียงเบา ๆ ออกมาจากฝักกระบี่
หลิงฉิงหยู
เขาตกใจมาก แต่มันเหมือนกับบทเคล็ดวิชา ซูหยุนท่องตาม หลิงฉิงหยู ทันที
หลังจากท่องแล้ว เขาก็ปรับแต่งลมปราณของตัวเอง ทันใดนั้น ลมปราณก็ปั่นป่วนแต่ก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีขั้นตอนการทำสมาธิ แต่ทำตามท่าทีของการทำสมาธิ
ในขณะนั้นซูหยุนรู้สึกว่ามีร่องรอยของการปรับแต่งของตัวเองที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขารู้สึกดีในขณะที่เขาลอยอยู่รอบๆอย่างระวัง ปราณวิญญาณมาร ถูกปิดสนิท ในตอนนั้น เขาไม่รู้สึกถึงปราณมารแม้แต่น้อย
ราวกับว่าเขากลับมาเป็นมนุษย์และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับปีศาจ
การรักษาความรู้สึกนี้ซูหยุนยังคงนั่งสมาธิอีกครึ่งวันก่อนที่เขาจะหยุดลง ตอนนี้ราวกับว่าช่องลมปรารของเขาทำมาจากหยกที่พวกมันส่องแสงและเรืองแสง พลังของมันสุดยอดมาก ใบหน้าของเขามีสีสัน
“ขอบใจท่านมาก” เขาถอนหายใจออกมาเบาก่อนยิ้มให้กับฝักกระบี่
หลิงฉิงหยูไม่ตอบ นางขี้เกียจที่จะทำอย่างนั้น
ซูหยุนหัวเราะเบา ๆ เขาไม่ถือสา
เขาทำอย่างนี้ไปอีกหลายวัน
สิบวันต่อมา
ลมปรารของเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก ซูหยุนท่องเคล็วิชาได้อย่างสมบูรณ์และได้บรรลุระดับ ดวงจิตวิญญาณขั้นที่2
ขณะที่เขากำลังจะบ่มเพาะต่อนั้นเอง มีเสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านนอกที่เงียบมาตลอด10วันที่ผ่านมา
“เร็วเข้า! ไปที่ตลาด ศิษย์พี่ ตู่ กับ ศิษย์พี่ จี้ กำลังจะประลองกัน! ไปดูสิ! “
“ประลอง กระบี่มาร? คพระเจ้า พวกเขาทั้งสองคือ อัจฉริยะของลัทธิกระบี่มาร ทำไมพวกเขาถึงประลองกัน? “
“หากเจ้ายังไม่ย้ายก้นเจ้าไปตอนนี้ เจ้าจะเสียโอกาสในการเป็นสักขีพยานสิ่งที่ยิ่งใหญ่!”
ผู้คนยังพูดกันต่อเนื่อง พวกเขาฟังดูกระตือรือร้น เสียงพูดคุยดังมากจนไปถึงหูของซูฆยุน เขารู้สึกประหลาดใจที่ได้รู้ว่า
การประลองกระบี่มาร?”