Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 198
198 – เช้าแบบนี้คุณยังจะมาร์คหน้าอยู่อีกเหรอ
โจวเจ๋อค่อยๆลุกขึ้นและเดินไปหาหญิงสาวที่มีกระ
หญิงสาวหวาดกลัวเกินจะทนไหวในเวลานี้เธอไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นยืนเธอทําได้เพียงคลานหนีไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งต่อหน้าผู้ตรวจการ เธอไม่เคยรู้สึกกลัวขนาดนี้มาก่อน!
โจวเจ๋อเดินไปข้างหน้าช้าๆแม้ว่าเขาจะไม่ได้วิ่งแต่สุดท้ายเขาก็ตามความเร็วของเธอทัน
โจวเจ๋อยกขาขึ้นและเหยียบหน้าท้องของอีกฝ่าย ทุกอย่างดูเชื่องช้าเหมือนกับช่วงอินโทรของบทเพลงที่บรรเลงโดยเปียโน
“อึก…”
เท้าของโจวเจ๋อเป็นเหมือนการตอกตะปูเข้าใส่ร่างของหญิงสาว
เลือดสีแดงที่เป็นฟองทะลักออกจากปากของเธอไม่หยุด เธออธิบายเหตุผลไปมากมายแต่สุดท้ายแล้วชายคนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ยินอะไรเลย
โจวเจ๋อเรอออกมาคําใหญ่จากนั้นเขาก็ก้มตัวลงพร้อมกับยื่นกรงเล็บเข้าหาศีรษะของหญิงสาว
“ป๊า!”
เมื่อศีรษะของหญิงสาวหายไปก็ทําให้เสียงของเธอที่คอยรบกวนสมาธิของเขาหายไปด้วย
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าโจวเจ๋อจะทําพลาดไปแล้ว เพราะแม้ว่าศีรษะของหญิงสาวจะถูกทําลายไปแต่ก็ดูเหมือนว่าวิญญาณของเธอจะถูกทําลายไปพร้อมกับศีรษะ
โจวเจ๋อดูสับสนเล็กน้อยเขายืนอยู่ที่เดิมสายตาของเขาพยายามค้นหาลูกแก้วสีดําของหญิงสาวแต่ก็ไม่พบ
เมื่อสักครู่นี้เขาได้ลิ้มลองรสชาติของวิญญาณมันเป็นรสชาติที่ดีจริงๆดังนั้นเขาจึงต้องการกินอีก
หลังจากค้นหาอยู่หลายนาทีแต่ไม่พบเขาก็รู้สึกฉุนเฉียวและหงุดหงิด สายตาของเขากวาดไปทั่วก่อนจะมองเห็นหมอหลินนอนอยู่ในรถ
ตอนนี้ประตูรถไม่ได้ปิดไว้ดังนั้นเขาจึงรีบพุ่งเข้าหาหมอหลินอย่างรวดเร็ว
โจวเจ๋อพยายามดมร่างกายของหมอหลิน เขี้ยวขาวคู่นั้นของเขาสัมผัสกับใบหน้าของเธอและน้ําลายของเขาก็เปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าผากของหมอหลิน
ดูเหมือนเขาจะชอบความรู้สึกนี้ดังนั้นเขาจึงใช้จมูกซุกไซร้ไปตาม “ส่วนต่างๆ ของร่างกายหญิงสาว
แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบมองไปเห็นสมุดบันทึกเล่มนั้นซึ่งผีผู้หญิงกระโปรงสีน้ําเงินหยิบออกมาเล่นก่อนที่เธอจะวางไว้หน้ารถ
โจวเจ๋อเอื้อมมือไปหยิบสมุดบันทึก
สมุดเล่มนั้นสั่นอย่างรุนแรงเมื่อเข้าใกล้หมอหลิน ซึ่งหมายความว่าเธอกําลังจะตาย
นี่คือคําเตือนของหนังสือหยินหยาง ว่ากันว่าหนังสือพวกนี้ถูกลอกเลียนมาจากหนังสือแห่งชีวิตและความ ตายของเหยียนหวัง(เหงี่ยมล่ออ๋อง) ผู้ปกครองสูงสุดของนรก
หนังสือหยินหยาง ซึ่งถือกําเนิดจากหนังสือแห่งชีวิตและความตาย มีหน้าที่คล้ายคลึงกัน
โจวเจ๋อมองสมุดบันทึกด้วยความสับสน อย่างไรก็ตามยิ่งสมุดบันทึกเล่มนี้สั่นสะเทือนมากขึ้นแค่ไหนเขาก็ ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นตามไปด้วย
“โฮก!” โจวเจ๋อคํารามออกมา
เขาถือสมุดบันทึกออกมานอกรถพร้อมกับทุบตีมันอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากนั้นชั่วครูทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบ ไม่มีการสั่นสะเทือนอีกต่อไป
ในที่สุดแสงแดดยามเช้าก็มาถึง พายุที่พัดถล่มเข้ามาในเมืองนี้ก็จบลงแล้ว
เมื่อแสงแดดส่องเข้าไปในรถหมอหลินก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น
หลังจากรู้สึกตัวหมอหลินรีบเปิดประตูออกไปด้วยความตกใจ เธอมีท่าทางกระสับกระส่าย เหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ทําให้เธอตกใจเล็กน้อย
จากนั้นเธอก็เห็นโจวเจ๋อนั่งอยู่บนพื้นตรงประตูรถร่างกายของเขาถูกชโลมไปด้วยเลือด
ในเวลานี้โจวเจ๋อมีสภาพน่าสังเวชอย่างยิ่ง ร่างกายของเขาดูเหมือนผ่านการถูกโบยตีมาอย่างหนัก บาดแผลที่อยู่ในร่างกายของเขาแทบจะครอบคลุมทุกตารางนิ้ว
“อาเจ๋อ!”
หมอหลินหมอบลงทันทีและเรียกชื่อโจวเจ๋อ เธอกลัวว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเขา
แม้ว่าครั้งนี้เขาจะกลายเป็นผีดิบอยู่หลายนาที แต่โชคดีที่ได้กินวิญญาณผู้พิทักษ์คนนั้นทําให้อาการบาด เจ็บของเขาไม่ได้ร้ายแรงเหมือนที่ผ่านมา
ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหมอหลินโจวเจ๋อจึงสามารถลืมตาขึ้นได้ทันที
แต่เมื่อมองเห็นใบหน้าของเธอซึ่งเต็มไปด้วยของเหลวเหนียวเหนอะหนะโจวเจ๋อก็ตกใจทันที
“เช้แบบนี้คุณยังจะมาร์คหน้าอยู่อีกเหรอ”
หมอหลินทั้งรู้สึกโกรธและไปพร้อมกัน แต่สภาพปัจจุบันของโจวเจ๋อทําให้เธอตกใจมาก เธอเอาผ้าขน หนูที่อยู่ในรถชุบน้ําให้ชุ่มก่อนจะนํามาเช็ดใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน
แม้จะเช็ดคราบเลือดออกไปพอสมควรแล้วแต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวฉันเรียกรถฉุกเฉินก่อน” หมอหลินพูด
“อย่า…”
โจวเจ๋อส่ายหัวเบาๆ
“โทรไปที่ร้านหนังสือของผม ให้เหล่าเต่มารับผมที่นี่แล้วให้เขาพาลิงมาด้วย”
หมอหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอควบคุมสัญชาตญาณของตัวเองไม่ให้โทรหา 120 และเลือกที่จะทําตามคําสั่ง ของโจวเจ๋อด้วยการโทรไปที่ร้านหนังสือของเขา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจก็ตามว่าทําไมต้องพาลิงมาด้วย
“ตอนนี้เราจะไปไหนกัน?” หมอหลินถามโจวเจ๋อ
“เราต้องหาที่พัก ช่วยผมขึ้นรถก่อนคุณค่อยๆขับรถโรงแรมเล็กๆแถวนี้ อ้อ คุณเดินไปตรงกอหญ้าตรงนั้น หน่อย ดูว่ามีอะไรที่เหมือนหนังสือพาสปอร์ตหรือปล่าว”
หมอหลินเดินไปตามทางที่เขาบอก อันที่จริงมันหาง่ายมาก มีหนังสือ 2 เล่มเล็กๆที่ถูกชโลมไปด้วย ของเหลวคล้ายน้ํามันหมูวางอยู่ตรงนั้น
แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่หมอหลินจะแยกแยะได้โดยตรงว่าจริงๆ แล้วมันคือน้ํามันจากศพ
“นี่ไง”
หมอหลินเก็บหนังสือรับรองทั้งสองเล่มขึ้นมาก่อนจะประคองโจวเจ๋อขึ้นไปบนรถ
แม้ว่าร่างกายของเขาจะพังยับเยินแต่โชคดีที่โจวเจ๋อเคยชินกับสภาพแบบนี้แล้ว ในขณะเดียวกันก็มีหมอหลินนั่งอยู่ข้างๆดังนั้นไม่มีทางที่โจวเจ๋อจะร้องคร่ําครวญออกมา
ในเวลานี้พวกเขาขี่รถไปเรื่อยๆ เนื่องจากพายุได้พัดถล่มเมืองนี้ทําให้พวกเขาไม่สามารถหาโรงแรมใกล้ๆพักผ่อนได้เลย
ขณะที่หมอหลินเดินลงไปถามห้องว่างจากโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง ชายชราคนหนึ่งก็เดินมาที่รถของโจวเจ๋อ
ชายชราคนนี้น่าจะมีอายุเกือบร้อยแล้วแต่เขายังคงแข็งแรง ที่ด้านหลังของเขาแบบตะกร้าผักใบใหญ่ ที่ สําคัญที่สุดเมื่อมองไปที่ชายชราโจวเจ๋อรู้สึกว่าดวงตาของเขาเจ็บปวดเล็กน้อย
“ลูกหลานได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหรือไม่” ชายชราถาม
โจวเจ๋อพยักหน้า
“ทําไมไม่ไปโรงพยาบาล
“ไม่มีเงินครับ
“…………” ชายชรา
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งชายชราก็ยื่นมือเข้ามาในรถเพื่อตรวจสอบบาดแผลของโจวเจ๋อ
“แม้ว่าภายนอกอาจจะดูเลวร้ายแต่คิดว่าพักผ่อนไม่กี่วันก็น่าจะหายดี”
“ผมก็ว่าอย่างนั้น”
ในเวลานี้หมอหลินเดินกลับมาที่รถแล้วพูดกับโจวเจ๋อว่า
“ไม่มีห้องว่างเลย”
“บ้านเรือนที่นี่กว่าครึ่งพังไปหมดแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาห้องว่าง” ชายชราส่ายหัวแล้วพูดว่า “มาที่บ้านฉันสิ มีห้องว่างพอดี”
หมอหลินมองไปที่โจวเจ๋อและถามความคิดเห็นของเขา
โจวเจ๋อพยักหน้า อันที่จริงเขารู้ดีว่าชายชราคนนี้เกิดความสนใจในตัวเขา ดังนั้นฝ่ายตรงข้ามอาจจะวางแผนอะไรกับเขาสักอย่างแต่เขาก็ไม่ได้กลัว เขาอยากรู้ว่าชายชราคนนี้มีแผนการอะไรกันแน่