Journey Towards Greatness: เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 19
ในขณะที่จูเลียนเข้านอนเขาพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงเดียวกันกับที่เขาเสียชีวิต การเห็นว่าตัวเองยังอยู่ในร่างเก่าอีกครั้งทำให้เขากลัวมาก เขาไม่รู้สึกว่าตัวตนเก่านี้เป็นเขาแต่เขารู้ดีว่านี่คือร่างกายและความรู้สึกของเขา เขาอุ้มร่างเก่าของเขาแต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลัวมากที่จะกลับไปสู่ร่างเก่า จากนั้นไม่นานความรู้สึกก็มาถึงเขา
จูเลียน ‘ฉันรู้สึกแก่อีกครั้งเลย ตอนฉันไปสู่โลกโปเกมอนฉันได้ละทิ้งตัวตนเก่าๆ ของฉัน เพื่อที่ฉันจะได้มีชีวิตในช่วงวัยรุ่นที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนจากชีวิตที่ผ่านมา แต่ทำไมฉันถึงกลัวที่จะกลับมาเป็นตัวฉัน ตัวตนดั้งเดิมของฉัน’
ทันใดนั้นรอบๆ ตัวจูเลียนก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและสิ่งต่อไปที่เขาเห็นคือชายวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามกับเขา ชายคนนั้นกำลังชงชาอยู่ จูเลียนรู้ว่าเขาคือใคร เขาคือพระเจ้าที่ส่งเขาไปยังโลกโปเกมอน จูเลียนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะอย่างนั้นเขาจึงอยู่ที่นั่นและมองไปที่พระเจ้าอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นไม่นานพระเจ้าก็ชงชาทั้งสิบถ้วยเสร็จ แล้วจู่ๆ ก็มีสองถ้วยปรากฏต่อหน้าพวกเขาเขาค่อยๆ รินชาในถ้วยเหล่านี้ แล้วส่งต่อให้จูเลียน จูเลียนโค้งคำนับแล้วหยิบมันขึ้นมาจิบ
พระเจ้า “จูเลียนบอกฉันทีสิว่าชีวิตใหม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อได้ยินคำถามของพระเจ้า จูเลียนก็รู้อย่างรวดเร็วว่าเขายังไม่ได้ตาย แต่ถูกพระเจ้าพามาที่นี่
จูเลียน “มันเป็นประสบการณ์ที่สนุกและน่าตื่นเต้นมาก ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาและเหมือนกับเป็นเด็กๆ ที่แห่งนั้นไม่มีอะไรรั้งฉันไว้และฉันไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ”
พระเจ้า “นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ ไม่ใช่การกลับมาเป็นวัยรุ่นอีกครั้งแต่เป็นการมีความสุขกับชีวิตของเธออย่างที่เธอต้องการโดยไม่ต้องเป็นคนแก่เฒ่า”
จูเลียน “ใช่ พระเจ้านั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันมีชีวิตอยู่และทิ้งตัวตนเก่าๆ ของฉันไว้ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว แล้วใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำยังไง”
พระเจ้า “ดีจังเนอะ”
จูเลียน “พระเจ้า ฉันมีคำถาม”
พระเจ้า “ถามมาเลย เธออยากรู้อะไร?”
จูเลียน “เมื่อฉันกลับมา ฉันก็กลับมาหลอมรวมกับตัวตนเก่าของฉันอีกครั้ง แต่มันไม่ถูกต้อง ทำไมมันถึงรู้สึกว่าฉันเป็นตัวปลอมและจูเลียนที่ฉันอยู่ในโลกโปเกมอนนั้นเป็นตัวจริง”
พระเจ้า “จูเลียน ทำไมเธอไม่บอกฉันทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตในอดีตของเธอล่ะ แต่ไม่ใช่คนที่เธอคิดว่าเป็นความจริงนะ แต่เป็นชีวิตในอดีตของเธอ”
จูเลียน “ท่านหมายความว่ายังไง?”
พระเจ้า “จูเลียนำ เธอควรถามคำถามนี้ให้กับตัวเอง มองย้อนกลับไปสิว่าเธอใช้ชีวิตมาอย่างไร”
จูเลียนหลับตาและเริ่มจำได้ว่าชีวิตของเขาเป็นอย่างไร และเมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็เริ่มร้องไห้ ตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเขารู้สึกอึดอัดมากที่หัวใจราวกับมันจะแตกสลาย
จูเลียน “มันเป็นเรื่องโกหกที่ฉันสร้างขึ้นเพื่อหลีกหนีสิ่งที่โหดร้ายที่ฉันพบเจอ”
พระเจ้า “บอกฉันหน่อยสิจูเลียน เกี่ยวกับชีวิตจริงของเธอ”
จูเลียน “ฉันเกิดมาในครอบครัวที่มีความสุขอยู่กับพ่อและแม่อย่างมีความสุขตอนนั้นฉันอายุแค่ 10 ขวบ แต่ความสุขไม่ได้คงอยู่ตลอดไปและมันเกิดสงครามขึ้น”
“หมู่บ้านของเราอยู่ใกล้กับพื้นที่สงคราม หมู่บ้านของเราถูกโจมตี กำลังเสริมกำลังจะมาถึง แต่มันสายเกินไปฉันเห็นพ่อแม่ของฉันถูกฆ่าต่อหน้าอย่างเลือดเย็น แต่ฉันโชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา ฉันถูกส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่นั่นฉันมีเพื่อนชื่ออเล็กซ์ แต่ต่างจากฉันเขาเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด ฉันไม่สามารถอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอันเงียบสงบนั้นได้เนื่องจากสงครามกำลังเข้มข้นขึ้น เด็กๆ อย่างฉันถูกนำตัวไปที่กองทัพและที่นั่นมอบปืนให้กับฉัน แต่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว อเล็กซ์อยู่ข้างๆ ฉัน”
“แต่ความสยดสยองไม่ได้หยุดลง เนื่องจากสงครามทำให้ถนนเคลื่อนย้ายเสบียงของกองทัพถูกตัดขาด พวกเขาไม่ต้องการสูญเสียเสบียงที่เหลือ พวกเขาจึงเริ่มขว้างเด็กที่ไม่มีพรสวรรค์ในการทำสงครามไปยังหน้าผา เพื่อรักษาเสบียงของกองทัพ เมื่อเห็นสิ่งนี้ทั้งฉันและอเล็กซ์ก็เริ่มทำงานหนักและเมื่อเราอายุได้ 15 สงครามก็ยังไม่สิ้นสุด และคราวนี้ทั้งฉันและอเล็กซ์ที่อยู่ในสนามรบนั้นเรารอดชีวิตมาได้เพราะเราฆ่าผู้คนในวันนั้น มันเริ่มหลอกหลอนเรา เรานอนไม่หลับมาหลายวัน แต่หลังจากฆ่าและฆ่ามากขึ้น เราก็กลายเป็นคนเย็นชาต่อทุกคน แต่จนกระทั่งเราได้พบกับเธอ แมรี่ เธอเป็นทั้งรักแรกของฉันและรักแรกของอเล็กซ์ แต่เราไม่ได้ทะเลาะกันเพราะมิตรภาพของเราแข็งแกร่งมาก เราสัญญาซึ่งกันและกันว่าใครก็ตามที่ชนะใจเธอก็จะทำให้เธอมีความสุข”
“แต่สงครามได้ปะทุขึ้นอีกครั้งและเรามุ่งหน้าเข้าสู่สงครามอีกครั้ง เราไปและกลับมาพร้อมชัยชนะ และครั้งนี้เมื่อเรากลับมาอเล็กซ์ก็ไม่เสียเวลาและบอกรักกับแมรี่และเธอก็ไม่ปฏิเสธ ฉันอกหัก แต่ฉันไม่ได้แสดงออก สำหรับพวกเขานั้นฉันรักพวกเขาทั้งคู่อย่างสุดซึ้ง เมื่อเห็นพวกเขามีความสุขฉันก็ต้องกลืนความรู้สึกของตัวเองไป ในที่สุดพวกเขาก็แต่งงานกันและมีลูกด้วยกัน เด็กคนนั้นสดใสมากและมีมารยาทดีตอนที่ฉันไปเยี่ยมพวกเขา และ 12 ปีผ่านไปอย่างสงบ แต่ความสุขในชีวิตของฉันไม่เคยอยู่นาน ประเทศถูกโจมตีอีกครั้ง แต่คราวนี้มันมาจากภายในจนก่อให้เกิดการโจมตีของผู้ก่อการร้ายไปทั่วทุกที่ และเราก็ตกเป็นเหยื่อของมันเช่นกัน”
“ฉัน อเล็กซ์ แมรี่ และลูกชายของพวกเขาที่ไปเที่ยวนั้นบังเอิญว่าที่นั้นเป็นที่ที่มีการวางระเบิด ในขณะที่ระเบิดถูกจุดชนวนสถานที่นั้นก็พังลงมา และการระเบิดนั้นทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด แม้กระทั่งครอบครัวเพียงคนเดียวของฉันในโลกนี้อย่างอเล็กซ์ที่ฉันรัก และผู้หญิงที่ฉันไม่เคยหมดรักก็ถูกกระสุนปืนเจาะที่กระดูกสันหลัง ฉันเองก็ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดเช่นกัน”
“ในช่วงเวลานั้น พวกเขามีความปรารถนาเพียงอย่างเดียวคือให้ฉันดูแลลูกชายของพวกเขาราวกับว่าเขาเป็นลูกของฉันเอง แล้วจากนั้นฉันก็สลบไป ฉันมีอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงในกระดูกสันหลังและสมอง เพื่อหลีกหนีความน่าสะพรึงกลัวของการสูญเสียคนที่รักอีกครั้งฉันจึงลบพวกเขาออกจากความทรงจำของฉัน ฉันได้รับตัวตนใหม่และคิดว่าฉันคือคนที่แต่งงานกับแมรี่ ฉันคิดว่าฉันเป็นพ่อของเบรนแดน ฉันสร้างโลกให้ตัวเองหนีจากทุกสิ่งจากอดีตของฉันเมื่อฉันไปพบเบรนแดน เขายังอยู่ในอาการโคม่าและในเอกสารแจ้งว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการบาดเจ็บในสมองของเขาและจะลืมทุกสิ่งเกี่ยวกับอดีตของเขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมาฉันบอกว่าฉันเป็นพ่อของเขาและเขาก็ยอมรับมัน หลังจากนี้ฉันก็ลาออกจากกองทัพและไปยังที่ไกลๆ กับเบรนแดนเพื่อหลบหนีจากนรกของสถานที่แห่งนั้น”
“เบรนแดน อัลวาซิส ที่เติบโตมาอย่างดีถามฉันเกี่ยวกับแม่ของเขา แต่ฉันไม่สามารถพูดอะไรกับเขาได้เพราะฉันลบเธอออกไปจากความทรงจำของฉันโดยสิ้นเชิง และเมื่อใดก็ตามที่ฉันพยายามนึกถึงเธอฉันจะสลบไป เมื่อเบรนแดนเห็นแบบนี้ก็หยุดถามฉันเกี่ยวกับแม่ของเขา และชีวิตของฉันก็ไปได้ด้วยดีแล้วหลังจากที่หลานชายของฉันเกิดขึ้น ฉันก็สามารถมีประสบการณ์ในวัยเด็กของฉันกับเขาได้ และฉันก็เริ่มอยากที่จะออกไปเป็นวัยรุ่นมากกว่าคนแก่ที่รอความตาย แล้วจากนั้นฉันก็ได้พบคุณ และจากนั้นก็ไปยังโลกอื่นที่ฉันสามารถใช้ชีวิตในฐานะวัยรุ่นได้อีกครั้ง” เขาหลับตาลงและเช็ดน้ำตาที่ยังไหลอาบแก้ม
หลังจากบอกพระเจ้าทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตเดิมในอดีตของเขา เขาก็รู้สึกตัวเบาขึ้น เขารู้สึกราวกับว่าบางสิ่งที่รั้งเขาไว้ได้ถูกลบออกไป เขาเริ่มกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง เมื่อเขามองลงไปเห็นว่าเขากลับสู่ร่างใหม่กลายเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง เขามองไปที่พระเจ้าเพื่อค้นหาคำตอบ
พระเจ้ายิ้มและเริ่มอธิบาย “ชีวิตในอดีตของเธอถูกสร้างขึ้นโดยเธอเพื่อหลีกหนีความจริงอันโหดร้ายที่เธอเผชิญ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อจิตวิญญาณใหม่ของเธอหลอมรวมกับตัวตนเก่า เธอจึงไม่ต้องการสัมผัสกับความน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นอีก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกกลัว กลัวเพราะเธอได้สูญเสียมากมายและจิตวิญญาณใหม่ของเธอก็ตระหนักถึงมัน แต่หลังจากที่เธอเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเธอให้ฉันฟัง เธอก็เริ่มตัดกรรมระหว่างชีวิตนี้กับชีวิตก่อนหน้าของเธอไป เพื่อปลดปล่อยเธอจากความกลัวทั้งหมด”
จูเลียนเพียงแค่ฟังพระเจ้าอย่างเงียบๆ ในขณะที่เขาพูดต่อไป
พระเจ้า “จูเลียน ตอนนี้เธอได้เกิดใหม่อีกครั้ง และในครั้งนี้ทั้งร่างกายและจิตใจเธอไม่ใช่ชายชราที่หลงผิดเกี่ยวกับชีวิตของเขาอีกต่อไป ตอนนี้เธอเป็นชายหนุ่มที่ต้องการเดินทางไปทั่วโลกและแข็งแกร่งขึ้น เธอคือจูเลียนคนใหม่”
ตอนนี้จูเลียนสงบลงและมองดูตัวเองอีกครั้งว่าเขายังเป็นเด็ก
จูเลียน “ใช่ ฉันคือจูเลียน เด็กหนุ่มที่มีสติปัญญาดีกว่าคนในวัยเดียวกัน” พูดอย่างนี้จูเลียนก็เริ่มหัวเราะ ขณะที่เขามีความสุขพระเจ้าก็ยิ้มด้วยเมื่อมองว่าจูเลียนนั้นมีความสุขแค่ไหน
พระเจ้า “ลูกของฉันเอ๋ย ถึงเวลาที่เราจะต้องบอกลา หากพระแม่แห่งโชคชะตาต้องการให้เราพบกันอีก เราก็จะได้พบกันอีกครั้ง”
จูเลียน “ฉันหวังว่าจะได้พบคุณอีกครั้งและพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตใหม่ที่น่าตื่นเต้นของฉัน”
พระเจ้า “เธอไปได้แล้ว” เขายิ้มและโบกมือขณะที่จูเลียนเริ่มตกลงไปในหุบเหวสีดำ และเมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงที่เขาหลับตาครั้งสุดท้าย
จูเลียน “ฉันคือจูเลียน ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันและสร้างอนาคตที่ทุกคนจะจดจำฉัน และอดีตของฉันจะไม่มีวันผูกมัดฉันได้เมื่อฉันเกิดใหม่”