Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 331
ตอนที่ 331 การปรุงยาโดยใช้ไฟต้นกำเนิดผ่านระบบ
“องค์ราชาขอรับ! ในตอนนี้อสูรที่ 15 ได้ส่งข้อความแจ้งมาว่าตอนนี้เกาะลอยน้ำอยู่ในเขตทะเลปั๋วไห่แล้ว และในตอนนี้เหล่านักรบมังกรก็เข้าไปประจำการที่เกาะลอยน้ำเพื่อคอยปกป้องเกาะแล้วขอรับ!” นักรบมังกรคนหนึ่งเข้ามารายงานข่าวความคืบหน้าของการเคลื่อนย้ายเกาะลอยน้ำให้กับหวังเสียนทราบ
หลังจากออกจากสำนักเสียงสวรรค์แล้วนักรบมังกรทั้ง 7 คนจากองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬก็แยกตัวออกไปปฏิบัติงานของพวกเขาตามคำสั่งเดิมของหวังเสียน ส่วนตัวของหวังเสียนนั้นก็เดินทางกลับไปที่เมืองเจียงเฉิง ด้วยรถ RV ของเขา
ตามแผนเดิมหวังเสียนต้องการเปลี่ยนเกาะของสำนักมังกรในทะเลปั๋วไห่ให้เป็นฐานที่ตั้งหลักของพวกเขา แต่หลังจากนั้นก็ถูกยกเลิกเนื่องจากเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นในโลกยุทธภพ
งานก่อสร้างที่กำลังจะเกิดขึ้นบนเกาะก็ต้องถูกทิ้งให้สูญเปล่า เพราะในขณะที่กำลังจะสร้างและพัฒนาเกาะ หวังเสียนได้ออกคำสั่งให้เหล่านักรบมังกรกระจายตัวกันออกไปเพื่อฝึกฝนและทำภารกิจต่างๆในโลกยุทธภพได้อย่างอิสระ
ณ ตอนนี้เกาะกลางทะเลปั๋วไห่ที่เป็นที่ตั้งเดิมของสำนักมังกรจึงมีประโยชน์น้อยมากสำหรับหวังเสียนและกลุ่มคนของเขา เพราะในตอนนี้พวกเขานั้นได้ฐานที่ตั้งที่เหมาะสมมากที่สุดนั่นก็คือเกาะลอยน้ำ
“เราควรจะปรับปรุงและเปลี่ยนเกาะลอยน้ำส่วนหนึ่งให้เป็นฐานที่มั่นในอนาคตของสำนักมังกร และอีกด้านหนึ่งเราจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ของเกาะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและชมวิวมันจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยและโซนวิลล่าหรูเพื่อสร้างความผ่อนคลายและสนุกสนานให้กับคนในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนฝูงรวมถึงเหล่านักรบมังกรเองอีกด้วย!” หวังเสียน อธิบายออกมาด้วยรอยยิ้มที่เปล่งประกาย
“ขอรับองค์ราชา!” โม่ชิงหลงพยักหน้าน้อมรับคำสั่ง
หลังจากนั้นรถ RV ขนาดใหญ่ของพวกเขาก็เดินทางกลับมาถึงวิลล่าหรูริมทะเลของหวังเสียนก่อนค่ำ
หวังเสียนเดินเข้าไปในวิลล่าด้วยรอยยิ้มที่แจ่มใส แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยเพราะในตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านเลยแม้แต่คนเดียว
เขาโทรหาเสี่ยวหยูและได้รับแจ้งว่าแก๊งเด็กสาวพวกนี้นั้นออกไปทานอาหารและตะเวนช้อปปิ้งกันในตัวเมืองอย่างสนุกสนาน
‘เฮ้ออ! ถ้าอย่างนั้นฉันควรจะไปดูเกาะลอยน้ำก่อนจะดีกว่า!’ หวังเสียนพูดกับตัวเองเบาๆก่อนที่เขาจะส่ายหัวแล้วเดินไปที่ริมชายหาดทางด้านหลังของวิลล่า
หลังจากที่เขาเดินลงทะเลไปแล้วเขาก็ใช้ความสามารถของธาตุน้ำดำดิ่งและเร่งความเร็วผ่านใต้ท้องทะเลตรงไปยังเกาะลอยน้ำในทันที
ในขณะที่เขาอยู่ใกล้กับเกาะลอยน้ำของเสียน แผ่พลังจิตวิญญาณครอบคลุมไปทั่วบริเวณ เขาสามารถมองเห็นกลุ่มนักรบมังกรกำลังเดินลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อยอยู่บนเกาะลอยน้ำ
ภายใต้การคุ้มครองและการดูแลของพวกเขาเกาะลอยน้ำแห่งนี้จะไม่ถูกยึดครองไปอย่างแน่นอนแม้ว่ามันจะถูกค้นพบก็ตาม
และในทะเลยังมีสัตว์อสูรระดับ 11 อีกสามตัวซึ่งเทียบเท่ากับระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูง และสัตว์อสูรที่เทียบเท่ากับระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นกลางดีกว่าสามสิบตัวคอยลาดตระเวนอยู่บริเวณโดยรอบในทะเล
ต่อให้พวกเขานั้นถูกโจมตีโดยกองกำลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์พร้อมๆกันถึงสองกองกำลังก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะจัดการมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องต่อสู้กันในท้องทะเลเช่นนี้
และในขณะนี้บนเกาะลอยน้ำอสูรที่ 15 กำลังทำหน้าที่คัดแยกสมบัติต่างๆของสำนักโบราณ เพื่อนำมาเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของสำนักมังกร
หลังจากนั้นพวกเขาก็จะนำสมบัติบางส่วนไปประมูลขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดตามคำสั่งของหวังเสียนแล้ว พวกเขาจะได้นำเงินส่วนนี้ไปจัดการสร้างเกาะแห่งนี้ให้เป็นไปตามรูปแบบที่หวังเสียนต้องการ
ภายใต้คำสั่งของหวังเสียน พื้นที่พักผ่อนจะถูกสร้างให้มีลักษณะคล้ายกับบ้านพักริมชายหาดที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกอย่างเช่นที่เกาะมัลดีฟส์ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนสำหรับคนในครอบครัวของหวังเสียนและเหล่าสาวกแห่งสำนักมังกรด้วย
หลังจากที่หวังเสียนขึ้นมายังเกาะลอยน้ำแล้ว เขาก็ตรงไปยังสวนยาจิตวิญญาณในทันที
เขาต้องการที่จะทดสอบเทคนิคการปรุงยาของเขา ว่าเขานั้นจะสามารถปรุงยาออกมาได้จนถึงระดับใด
เทคนิคการหลอมกลั่นและปรุงยาเป็นความสามารถที่หวังเสียนให้ความสำคัญมากในตอนนี้ เขามีความตั้งใจที่จะสร้างความคุ้นเคยและเพิ่มพูนประสบการณ์เพื่อให้สามารถสร้างเม็ดยาจิตวิญญาณระดับสูงได้โดยเร็วที่สุด
เม็ดยาจิตวิญญาณที่ธรรมดาที่สุดนั้นคือเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเม็ดยาจิตวิญญาณที่เพิ่มพลังลมปราณขั้นต่ำเพียงเท่านั้น ส่วนเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 2 ระดับ 3 นั้นจะสามารถช่วยเสริมรากฐานการฝึกฝนของผู้ฝึกตนได้ แต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นเม็ดยาระดับต่ำขั้นพื้นฐานอยู่ดี แต่เม็ดยาเหล่านี้ก็ยังจำเป็นต่อผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับนักรบไม่เกินระดับขั้นที่ 6 !
ในขณะที่เขายืนอยู่ที่หน้าสวนยาจิตวิญญาณ สูตรยาต่างๆก็เริ่มปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของเขาในทันที
“ยาเพิ่มพลังลมปราณ เป็นยาจิตวิญญาณระดับ 1 ใช้ต้นหญ้าฟื้นฟูปราณและดอกไม้น้ำเป็นยาจิตวิญญาณหลักในการหลอมกลั่น!” หวังเสียนพูดออกมาเบาๆ เขาจำได้ว่าต้องใช้ต้นหญ้าจิตวิญญาณ 2 ชนิดนี้เพื่อปรับแต่งเม็ดยาระดับ 1 และในขั้นต้นเขาต้องการทดลองปรับแต่งปรุงยาสูตรง่ายๆเช่นนี้ก่อน
การปรุงเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 1 จะใช้ต้นยาจิตวิญญาณ 2 ชนิดในการหลอมกลั่นพร้อมกันก่อนที่จะปรับแต่งและขึ้นรูปเพื่อปรุงเป็นเม็ดยาออกมา ส่วนเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 2 ก็จะต้องใช้ต้นยาจิตวิญญาณ 4 ชนิด และเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 3 ก็จะต้องใช้ต้นยาจิตวิญญาณ 9 ชนิด ซึ่งหลักการหลอมกลั่นและปรุงเม็ดยาจิตวิญญาณนั้น ยิ่งเป็นเม็ดยาระดับสูงมากเท่าไหร่ก็ต้องใช้ต้นยาจิตวิญญาณทวีคูณเพิ่มขึ้นตามจำนวนระดับขั้นของเม็ดยาจิตวิญญาณ [ยกกำลังสอง]
ดังนั้นหากว่าเป็นเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 4 จะต้องใช้ต้นยาจิตวิญญาณมากถึง 16 ชนิดเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกันต้นหญ้าฟื้นฟูปราณและดอกไม้น้ำสามารถได้รับเม็ดยาจิตวิญญาณมากกว่า 1 เม็ด และหากว่าเป็นนักปรุงยาที่ทรงพลัง พวกเขาก็จะสามารถได้รับเม็ดยาจิตวิญญาณมากถึง 3 เม็ดต่อการปรุงยาเพียงแค่ครั้งเดียว
และหากเป็นเม็ดยาจิตวิญญาณคุณภาพสูงมันจะมีมูลค่าตามราคาของท้องตลาดสูงมากกว่าต้นยาจิตวิญญาณถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
ดังนั้นอาชีพนักปรุงยาจึงเป็นอาชีพที่มีกำไรสูงมาก แต่ในขณะเดียวกันการที่จะเป็นนักปรุงยานั้นก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการจะเป็นนักปรุงยาได้นั้นต้องมีพรสวรรค์ที่สูงและยังจะต้องมีจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟประจำตัวอีกด้วย
และระหว่างขั้นตอนการฝึกหัดการปรุงยานั้นต้องผ่านการฝึกฝนที่ยากลำบากรวมถึงต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากมายมหาศาลเพราะขั้นตอนฝึกหัดการปรุงยาต้องสั่งสมประสบการณ์โดยใช้การหลอมกลั่นและปรุงยาจริง มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ชาวยุทธธรรมดาทั่วไปจะกลายเป็นนักปรุงยาได้ หากไม่มีผู้สนับสนุนที่มั่งคั่งและร่ำรวยมากจริงๆ
อีกทั้งเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จของการกลั่นและปรุงยาในแต่ละครั้งก็น้อยเป็นอย่างมาก
ดังนั้นผู้ฝึกตนในโลกยุทธภพจึงนิยมจ้างวานนักปรุงยาระดับสูงปรุงยาให้กับพวกเขาหรือซื้อเม็ดยาจิตวิญญาณที่ปรุงสำเร็จออกมาแล้วแทน ถึงแม้ว่ามันจะมีราคาที่แพงมากก็ตามที
และตามข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้เฒ่าซุยหวาง ในโลกยุทธภพตอนนี้มีนักปรุงยาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น นักปรุงยาจึงเป็นอาชีพที่หายากยิ่งกว่าหมอเทวะเสียอีก
เทคนิคการปรุงยาที่มีชื่อเสียงมากในโลกยุทธภพนั้นมีด้วยกันอยู่ 3 กองกำลังได้แก่ สมาคมนักปรุงยา, สำนักสวนศาลาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์และสำนักแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากพวกเขานั้นมีสูตรยาเม็ดจิตวิญญาณระดับสูงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
….
หวังเสียนเดินเข้าไปในสวนยาจิตวิญญาณพร้อมกับเก็บต้นหญ้าฟื้นฟูปราณและดอกไม้น้ำ เนื่องจากต้นยาจิตวิญญาณทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นยาจิตวิญญาณระดับ 1 มันแพร่ขยายพันธุ์อยู่ภายในสวนยาจิตวิญญาณแห่งนี้เป็นจำนวนมากจนเหมือนกับต้นหญ้าธรรมดาทั่วๆไป
ตามขั้นตอนและเทคนิคการกลั่นและปรุงยาที่ต่ำกว่าเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 3 นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เตากลั่นยา ส่วนการหลอมกลั่นและปรุงยา เพิ่มพลังปราณตามสูตรยาที่หวังเสียนได้รับมานั้น เขาต้องใช้เปลวไฟจิตวิญญาณหลอมกลั่นต้นหญ้าฟื้นฟูปราณและดอกไม้น้ำแยกจากกัน เมื่อหลอมจนต้นยาจิตวิญญาณทั้ง 2 ชนิดกลายเป็นน้ำแล้วให้กลั่นเพื่อแยกสิ่งสกปรกออกจนได้เป็นน้ำยาจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ หลังจากนั้นให้ผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1.03 และ 2.312 ตามลำดับหลังจากนั้นลดระดับความร้อนของไฟลงเพื่อควบแน่นกลั่นพวกมันออกมาเป็นเม็ดยา
สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟเพื่อทำให้ต้นยาจิตวิญญาณเข้าสู่จุดหลอมเหลวกลายเป็นน้ำยาพร้อมกับกลั่นจนมันระเหยและหลอมรวมจนกลายเป็นเม็ดยา
การทำให้ต้นยาจิตวิญญาณนั้นหลอมเหลวต้องระมัดระวังอย่างที่สุด หากปรับใช้ไฟแรงไปก็อาจจะทำให้ต้นยาจิตวิญญาณนั้นลุกไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านได้
นอกจากนั้นรายละเอียดขั้นตอนการกลั่นและควบแน่นเพื่อให้ยาต่างชนิดกันนั้นหลอมรวมเข้ากันได้ก็ต้องระมัดระวังและใช้ความละเอียดอ่อนอย่างที่สุด อัตราส่วนที่ผสมกันผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อย ยาเม็ดจิตวิญญาณที่ได้มานั้นอาจจะด้อยคุณภาพหรือกลายเป็นพิษไปในทันที
ดังนั้นเทคนิคการกลั่นและปรุงยาจึงถือได้ว่าเป็นเหมือนกับงานศิลปะที่จะต้องมีความละเอียดอ่อนและความแม่นยำที่สูงเป็นอย่างมาก
“เอาละ! ทดลองดูก่อนก็แล้วกัน!” หวังเสียนหลับตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสมาธิและปรับอารมณ์
อย่างแรกคือการควบคุมอุณหภูมิของเปลวไฟซึ่งจะต้องไม่สูงหรือต่ำมากเกินไป
ถัดมาเป็นอัตราส่วนของน้ำยาจิตวิญญาณทั้งสองชนิดก็จะต้องแม่นยำ
สุดท้ายนั่นก็คือการควบแน่นหลอมรวมพวกมันเพื่อให้กลายเป็นเม็ดยาก็จะต้องมีความละเอียดเป็นอย่างมาก
การควบคุมเปลวไฟนั้นถือได้ว่าเป็นงานง่ายๆสำหรับหวังเสียน มันเป็นเหมือนกับอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายของเขาอยู่แล้ว
เพราะสายเลือดในตัวของเขานั้นเป็นสายเลือดของมังกรศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ การใช้งานธาตุทั้งห้า สำหรับเขาแล้วนั้นเป็นเหมือนกับการขยับมือและขยับเท้าของตัวเขาเองเท่านั้น
ในขณะที่หวังเสียน เหยียดฝ่ามือของเขาออกไปลูกบอลเปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นบนมือทั้งสองข้างของเขาตามความนึกคิด เขาเปลี่ยนแปลงเปลวไฟในมือทั้งสองข้างของเขาให้คล้ายกับชามใบเล็กๆ
“ก่อนอื่นต้องทดลองควบคุมระดับความร้อนของเปลวไฟดูเสียก่อน!” หวังเสียนพูดขณะที่เขามองไปที่ชามเพลิงทั้ง 2 ใบบนมือของเขา เขาทดลองโดยการปรับเพิ่มอุณหภูมิชามทางด้านซ้ายมือแล้วลดระดับอุณหภูมิชามทางด้านขวามือและปรับอุณหภูมิของพวกมันให้อยู่ในระดับที่คงที่
หลังจากนั้นเขาก็ทดลองสลับปรับเปลี่ยนแปลงไฟของชามทั้งสองข้างสลับกันไปมาให้มั่นคงและแม่นยำมากขึ้น
“ขั้นตอนการหลอมรวมยาจิตวิญญาณทั้งสองนี้ค่อนข้างจะยุ่งยากมากเลยทีเดียวต้องผสมพวกมันภายใน 1 วินาทีหลังจากที่ละลายแล้วและอัตราส่วนต้องแม่นยำเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นเม็ดยาจิตวิญญาณอาจจะกลายเป็นพิษแทนก็ได้!” หวังเสียนพูดพึมพำออกมาคล้ายกับเตือนตัวเอง
หลังจากนั้นเขาก็โยนต้นยาจิตวิญญาณทั้งสองชนิดลงบนชามเปลวเพลิงอย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะนั้นเองเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมา
[ติ้งง! โฮสต์ตั้งใจจะปรับแต่งและปรุงยาทั้งหมดในโลกด้วยเปลวไฟต้นกำเนิดหรือไม่]
“ห๊าาา!” หวังเสียนสะดุ้งตกใจจนเผลอร้องออกมาเบาๆ
“ใช่!” หวังเสียน รีบใช้จิตสำนึกของเขาตอบกลับระบบไปในทันที
ในทันใดนั้นหวังเสียนก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเปลวไฟในมือทั้งสองข้างของเขา มันลุกโชติช่วงจนกลายเป็นสีแดงเลือดหมู และเมื่อต้นยาจิตวิญญาณทั้ง 2 ชนิดถูกเปลวไฟสีแดงเลือดหมู พวกมันก็หลอมละลายลงอย่างรวดเร็ว
หยดของเหลวจากต้นยาจิตวิญญาณทั้ง 2 ชนิดนั้นมีลักษณะสีสันที่สวยงามและใสบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก มันไม่มีคราบสิ่งสกปรกปนเปื้อนบนหยดน้ำยาจิตวิญญาณทั้ง 2 ชนิดเลยแม้แต่น้อย นี่คือลักษณะของเหลวแห่งยาจิตวิญญาณที่มีฤทธิ์ยาสมบูรณ์อย่างที่สุด
“นี่!…ระบบมันช่างทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อมากเลยจริงๆ ฉันสามารถข้ามขั้นตอนที่ยุ่งยากทั้งหมดลงไปได้โดยการใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที!” หวังเสียน รู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นก็มีคำสั่งปรากฏขึ้นอยู่ในจิตใจของเขา ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่
“หลอมรวมและสร้างเม็ดยา!” หวังเสียนทดลองใช้คำสั่งของระบบผ่านจิตวิญญาณของเขาในทันที
หลังจากนั้นเขาก็เห็นมวลของเหลวเริ่มควบแน่นกลายเป็นกลุ่มแสงสี่กลุ่มลอยอยู่ตรงหน้าของเขา!
………..
จบบท