Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 329
ตอนที่ 329 ต้องการจะต่อสู้กันหรือไม่?
“ไม่! ม่ายยย! อ้าาา! ท่านปู่ช่วยข้าด้วยยยย!” เสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังดังออกมาจากบนเวทีประลอง
ในเวลาเดียวกันกับที่มีเสียงกรีดร้องเสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกัน
พิณสีดำในมือของรองเจ้าสำนักก็ถูกทำลายด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว เมื่อเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็อ้าปากค้างและแสดงความหวาดกลัวกันออกมา
สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสระดับก่อกำเนิดลมปราณที่เหลือทั้งหกคนต่างเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นนักฆ่าแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬที่เป็นอันดับหนึ่งแห่งโลกยุทธภพ แต่การกระทำของพวกเขานั้นมันอวดดีและหยิ่งผยองมากเกินไป
พวกเขาบุกรุกเข้ามาเพื่อจะสังหารสาวกของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์อย่างอุกอาจเช่นนี้ มันเป็นการดูหมิ่นและหยามเกียรติกันมากเกินไป!
“ถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะเป็นคนขององค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ! วันนี้พวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่!” ผู้อาวุโสสูงวัยคนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
♪♩♫€♭ ♪ ♪ノ♫£¶ ♬♩♪~!
หลังจากนั้นท่วงทำนองและจังหวะเสียงของดนตรีก็เริ่มบรรเลงดังขึ้นมา พร้อมกับคลื่นพลังอันแปลกประหลาดพุ่งตรงออกไปโจมตียังกลุ่มของหวังเสียนอย่างรุนแรง คมมีดแห่งสายลม,คลื่นแห่งกระแสน้ำ, เมฆหมอกสีดำและเข็มสีทองก็โหมกระหน่ำออกมาอย่างบ้าคลั่ง
โฮกกกกก!
ในทันใดนั้นเองเสียงร้องคำรามของมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็ดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้า ต่อจากนั้นมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ ก็พุ่งทะยานลงมาอยู่ตรงเบื้องหน้าของกลุ่มผู้อาวุโสทั้งหกคนพร้อมกับใช้เปลวไฟอันร้อนระอุราวกับลาวาหลอมเหลวปิดกั้นการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาลงได้อย่างง่ายดาย
ในขณะเดียวกันบนเวทีประลอง หูชิงชิงก็กำลังเบิกตากว้างจ้องมองไปที่โม่หยวนด้วยหวาดกลัวและสิ้นหวัง “อ๊าาา! ม่ายยย!” เธอร้องไห้จนน้ำตานองหน้าพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัวต่อความตาย
ชายหนุ่มระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณสองคนที่อยู่ด้านหลังของหูชิงชิง ต่างก็ก้าวถอยหลังกันในทันที ใบหน้าของพวกเขานั้นซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่กล้าที่จะส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่คำเดียว
“ตายยย!” โม่หยวนคำรามออกมาเสียงต่ำๆ เขาตวัดกรงเล็บสีดำของเขาโจมตีเข้าใส่หูชิงชิงอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยงงง!
อ๊าาาาา!
แรงกระแทกจากกรงเล็บของโม่หยวนทำให้กระดูกทั่วร่างกายของเธอถูกบดขยี้จนแตกละเอียดไปทุกส่วน ตา, หู, จมูกและปากของเธอนั้นเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลทะลักออกมา ดวงตาของเธอเบิกกว้างและจากไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของเธอ
สามัญสำนึกในลมหายใจสุดท้ายของเธอนั้น เธอไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าเหตุใดกลุ่มนักฆ่าแห่งอเวจีถึงต้องการที่จะฆ่าเธอ
ในก่อนหน้านี้ความสวยงามและความเย้ายวนใจของเธอที่อยู่บนเวทีประลองนั้นสามารถดึงดูดสายตาของเหล่าสาวกทุกคนรวมไว้ที่เธอได้จนเป็นจุดเดียว
แต่ในตอนนี้ ณ มุมหนึ่งของเวทีการประลอง ร่างกายอันน่าหลงใหลของเธอนั้นได้กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณตายจากไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างน่าสยดสยอง
“ไอ้พวกนรกสาระเลวบัดซบ! ข้าจะแลกชีวิตกับพวกเจ้า!” รองเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะเร่งพลังลมปราณของเขาออกมาอย่างสุดชีวิตพร้อมเผาผลาญแก่นเลือดทั้งหมดของเขาออกมาในครั้งเดียว
คลื่นพลังสีดำทมิฬเหมือนกับปีศาจร้ายพุ่งตรงไปยังเวทีประลองอย่างรุนแรง
และในขณะเดียวกันเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ก็หยิบเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับฆ้องส่งสัญญาณออกมาอย่างรวดเร็ว
เปร้งงงง.. ♫£¶ ♬♩!
เสียงโน้ตดนตรีดังสั่นสะท้านไปทั่วทั้งหุบเขาทั้ง 9 ลูก
แกว๊กก! แกว๊กกก!
ในทันใดนั้นเสียงร้องของนกก็ดังขึ้นมาจากบนฟากฟ้า หลังจากนั้นไม่นานก็ปรากฏนกขนาดใหญ่ 2 ตัวบินโฉบร่อนลงมาจากบนยอดเขาอย่างรวดเร็ว
“ผู้ที่บุกรุกเข้ามาในสำนักเสียงสวรรค์ทุกคนจะต้องตาย!”
เสียงตะโกนอันโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมาสะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขาทั้ง 9 ลูก
เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเสียงสวรรค์อีก 7 คนก็บินออกมาจากยอดเขาลูกที่ 9 พวกเขาถืออาวุธที่เป็นเครื่องดนตรีของพวกเขาออกมาพร้อมกับปลดปล่อยพลังอันน่ากลัวจนบรรยากาศรอบข้างนั้นสั่นสะเทือน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงชราคนที่อยู่ตรงกลางสุดของกลุ่ม เธอถือพิณที่เปล่งแสงประกายเจิดจ้าที่ส่งคลื่นพลังแปลกๆออกมาจนท้องฟ้าที่อยู่ด้านบนบิดเบือนจนคล้ายกับเกลียวพายุ
พวกเขาทั้งหมดลงมายืนอยู่ที่ด้านหนึ่งของเวทีประลอง พร้อมกับนกยักษ์สองตัวที่มีความยาวกว่า 5 เมตร พวกเขาจ้องมองไปยังหวังเสียนและเหล่านักรบมังกรที่อยู่ภายใต้หน้ากากทมิฬด้วยสายตาที่โกรธแค้น
จากลักษณะท่าทางของพวกเขานั้นดูเหมือนว่าพวกเขาพร้อมที่จะโจมตีกลุ่มของหวังเสียนได้ทุกเวลา
“เหล่านักฆ่าแห่งอเวจีทมิฬ พวกเจ้าจะหยิ่งผยองและอวดดีมากเกินไปหน่อยแล้ว ถึงกับกล้าบุกเข้ามาสังหารผู้คนในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเสียงสวรรค์ของพวกเรา พวกเจ้าทั้งสิบคน อย่าได้คิดหวังจะออกจากที่นี่ไปอย่างเด็ดขาด พวกเจ้าทุกๆคนจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ชั่วนิรันดร์!” หลังจากที่หญิงชราพูดจบ เธอก็ตวัดพิณที่อยู่ในมือของเธอออกมาทางด้านหน้าพร้อมกับจ้องเขม็งมองไปยังหวังเสียนและกลุ่มคนของเขาด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
“ฮ่าๆๆ! ดูเหมือนว่าสำนักเสียงสวรรค์ของพวกเจ้า ต้องการจะเป็นศัตรูกับพวกเราจริงๆอย่างนั้นหรือ?” หวังเสียน ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ถึงแม้ว่าในตอนนี้สำนักเสียงสวรรค์นั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมากถึง 14 คนก็ตาม
“ฮึ่ม! เจ้าคิดว่าพวกข้าไม่กล้าลงมือกับพวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ? พวกเจ้ามันก็แค่กลุ่มคนขี้ขลาดตาขาวที่ไม่กล้าแม้กระทั่งเผยใบหน้าออกมาให้ชาวโลกได้รู้ว่าพวกเจ้านั้นเป็นใคร ได้แต่แอบซุ่มซ่อนโจมตีเหมือนดั่งหมาลอบกัด ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!” หญิงชราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน
หากสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมานานนับศตวรรษ ต้องหวาดกลัวกลุ่มนักฆ่ามือใหม่ที่พึ่งมีชื่อเสียงในโลกยุทธภพเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขายังจะมีหน้าเรียกสำนักตัวเองว่าสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกอย่างนั้นหรือ!
“ฮึ! พวกเจ้ามีกันเพียงเท่านี้คิดว่าจะจัดการกับพวกเราได้อย่างนั้นรึ?” หวังเสียน พูดออกมาอย่างดูถูก ก่อนจะพูดต่อไปอีกว่า “ผู้ที่กล้าสังหารคนขององค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ จะต้องถูกสังหารเช่นเดียวกัน และหากสำนักเสียงสวรรค์ของพวกเจ้ากล้าที่จะเข้ามาแทรกแซง ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาต่อสู้กันเถอะ! เราจะได้รู้กันว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายที่ถูกกวาดล้างกันแน่!”
ในขณะที่คำพูดอันหยิ่งผยองของหวังเสียนดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขาทั้ง 9 ลูกของสำนักเสียงสวรรค์ เหล่าผู้อาวุโสที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ต่างรู้สึกหวาดกลัวและตกตะลึงกันเป็นอย่างมาก
พวกเขามองไปที่มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งสกัดกั้นการโจมตีของพวกเขาทั้งหมดลงได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังหวังเสียนที่อยู่ภายใต้หน้ากากทมิฬ เขาดูไม่ต่างจากสมาชิกคนอื่นๆของนักฆ่าแห่งอเวจี แต่คนผู้นี้นั้นสามารถทำลายพิณซึ่งเป็นอาวุธคู่มือของรองเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ลงได้อย่างง่ายดายเพียงแค่สะบัดมือครั้งเดียวเท่านั้น
พวกเขารู้สึกว่าพฤติกรรมของเหล่านักฆ่าแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬพวกนี้นั้นช่างน่ารังเกียจและหยิ่งผยองมากเกินไป แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับในความแข็งแกร่งและความบ้าคลั่งของคนพวกนี้จริงๆ ขนาดอยู่ในวงล้อมของศัตรูเช่นนี้พวกเขาทั้งสิบคนก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวกันออกมาเลยแม้แต่น้อย!
บรรดาสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ที่เฝ้าดูกันอยู่อย่างเงียบๆ ต่างก็มีเหงื่อเย็นๆไหลมาจนเต็มหน้าของพวกเขา
“ฮึ่มม!” หญิงชราคํารามเสียงต่ำๆออกมาด้วยความโมโห เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเสียน
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด!” เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ กล่าวทักทายหญิงชราพร้อมกับยื่นแฟ้มข้อมูลที่เขาได้รับมาจากหวังเสียนส่งให้กับเธอ
ใบหน้าของหญิงชราชะงักเล็กน้อยในขณะที่เธอใช้คลื่นพลังจิตวิญญาณตรวจสอบแฟ้มข้อมูลที่อยู่ในมือโดยไม่ต้องเปิด ประกายตาของเธอแสดงความโกรธออกมาพร้อมกับหันไปถามเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ข้อมูลที่ได้รับมานี้เชื่อถือได้หรือไม่?”
“มันเป็นสิ่งที่พวกเขาส่งมาให้กับข้าก่อนที่พวกเขานั้นจะลงมือสังหารหูชิงชิง!” เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ตอบออกมา
“เจ้านี่มันใช้ไม่ได้เลยจริงๆ! รีบส่งกำลังคนของหน่วยข่าวกรองในสำนักทั้งหมดออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงมาให้เร็วที่สุด! ไปเดี๋ยวนี้เลยยย!” หญิงชราตะคอกออกมาด้วยความโกรธ
การที่สาวกตัวเต็งคนหนึ่งใช้วิธีอันน่ารังเกียจโดยการจ้างวานมือสังหารเพื่อกำจัดคู่แข่งที่ลงแย่งชิงตำแหน่งธิดาสวรรค์ทายาทแห่งสำนัก นี่ถือว่าเป็นข้อห้ามและการฝ่าฝืนกฎอันร้ายแรงมากที่สุดของสำนักเสียงสวรรค์
บรรดาผู้อาวุโสและเหล่าสาวกที่เหลือนั้นต่างตกตะลึงจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขาด้วยความหวาดกลัว โดยปกติแล้วหญิงชราผู้นี้นั้นเป็นคนที่ใจดีมากคนนึง แต่ในตอนนี้เธอนั้นแสดงความโมโหและโกรธเคืองออกมา แสดงว่าเรื่องนี้นั้นต้องร้ายแรงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“ฮึ! ถึงแม้ว่าสาวกจากสำนักเสียงสวรรค์ของเรานั้นจะทำสิ่งที่ผิด แต่สาวกทุกๆคนของสำนักเสียงสวรรค์ก็อยู่ภายใต้กฏและการคุ้มครองของสำนัก เรื่องการพิจารณาความผิดและการลงโทษนั้นเป็นเรื่องภายในของสำนักเรา พวกเจ้าเหล่านักฆ่าแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ !” หญิงชราพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมในขณะที่จ้องมองไปยังเหล่านักฆ่าแห่งอเวจีทั้งสิบคน
“ฮ่าๆๆ! ข้าขอบอกเจ้าตามตรงนะแม่เฒ่า พวกเราได้ลงมือสังหารเป้าหมายของพวกเราไปแล้ว พวกเจ้าต้องการจะหยุดพวกข้าเอาไว้ที่นี่อย่างนั้นใช่หรือไม่? ถ้าอย่างนั้นก็มาเถอะพวกเราจะได้เปิดฉากนองเลือดกันเสียที!”
หวังเสียน พูดออกมาอย่างหยิ่งผยอง เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับกลุ่มกองกำลังใดๆเลยแม้แต่น้อย แม้ว่ากองกำลังเหล่านั้นจะเป็นกองกำลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ก็ตามที
เพราะว่าเขานั้นต้องการสร้างชื่อเสียงที่แข็งแกร่งและโหดเหี้ยมอำมหิตให้กับกลุ่มองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ โลกยุทธภพจะได้รู้ว่ากลุ่มองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬนั้นไม่สามารถมายั่วยุได้ง่ายๆ!
ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเขาก็ตาม!
ส่วนทางด้านโม่ชิงหลง, โม่หยวนและเหล่านักรบมังกรคนอื่นๆ ต่างก็ปลดปล่อยออร่าสีดำทมิฬพร้อมกับกลิ่นอายแห่งความตายและกระหายเลือดที่น่าสะพรึงกลัวกันออกมา
กลิ่นอายแห่งความตายและรังสีสังหารของพวกเขานั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก
เพราะส่วนมากพวกเขาแต่ละคนนั้นสังหารผู้คนมาอย่างมากมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดพวกเขานั้นพึ่งจะกวาดล้างและสังหารยอดยุทธจากองค์กรมือสังหารมนต์ดำมามากกว่าพันคน ฉะนั้นกลิ่นอายแห่งความตายจากพวกเขานั้นจึงน่าหวาดกลัวจนคล้ายกับปีศาจที่หลุดออกมาจากขุมนรกเลยทีเดียว
สำหรับตัวของหวังเสียนนั้นกลับน่าหวาดกลัวมากยิ่งกว่า ตัวของเขาที่อยู่ตรงกลางกลุ่มของมือสังหารที่น่าหวาดกลัวเหล่านั้น กลับสงบนิ่งเป็นอย่างมากจนคล้ายกับหลุมดำอันมืดมิด เมื่อมองไปที่ดวงตาของเขาแล้ว มันเหมือนกับว่าจะถูกดูดวิญญาณเข้าไปเลยทีเดียว
หลังจากนั้นหวังเสียน ก็ขยับมือเล็กน้อย มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ปลดปล่อยเปลวไฟออกมาจากตัวมันในทันที
เมื่อมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ขยับตัวพื้นที่บริเวณโดยรอบก็พลันร้อนลุกขึ้นมาราวกับว่าอยู่ท่ามกลางคลื่นลาวาหลอมเหลวอันร้อนแรง!
และในขณะเดียวกันพื้นเวทีจุดที่หวังเสียน ยืนอยู่ก็เริ่มแตกออกจากกันและขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
โฮกกกกกก!
มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงร้องคำรามออกมาจนอากาศสั่นสะเทือน ก่อนที่มันจะม้วนตัวพุ่งกลับไปหาหวังเสียน และหดตัวลงกลายเป็นมังกรไฟขนาดเล็กที่ยาวเพียงแค่ 1 เมตร
มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์วางหัวของมันไว้บนไหล่ของหวังเสียนเหมือนกับสัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง แต่ดวงตาที่น่ากลัวของมันนั้นกลับจ้องมองไปยังเหล่าสาวกและกลุ่มผู้อาวุโสของสำนักเสียงสวรรค์อย่างเย็นชา
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้นั้นเพียงพอที่จะทำให้เรฝหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักเสียงสวรรค์หวาดกลัวจนตัวสั่นเลยทีเดียว
“เมื่อครู่นี้!?” หญิงชรารู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวเป็นอย่างมากแววตาของเธอนั้นหดแคบเล็กลงในทันที เธอสามารถสัมผัสได้ในทันทีเลยว่าหากเมื่อครู่นี้ ทูตอเวจีคนที่มีมังกรไฟพันอยู่รอบๆตัวโจมตีออกมาอย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ เหล่าสาวกทั้งหมดรวมถึงผู้อาวุโสที่อยู่ในลานกว้างแห่งนี้คงจะถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน!
“ขอบเขตเม็ดยาเซียน! ทูตอเวจีผู้นี้นั้นต้องอยู่ในขอบเขตเม็ดยาเซียนอย่างแน่นอน!” ชายชราที่เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งในกลุ่มพูดพึมพำออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ในตอนนี้พวกเราไม่มีใครที่จะสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างแน่นอน เพราะอดีตท่านเจ้าสำนักนั้นไม่อยู่ที่นี่!” เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์พูดออกมาเบาๆ เมื่อตัวเขานั้นได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของหวังเสียน
“ตกลงว่าพวกเจ้านั้นต้องการจะต่อสู้กับพวกข้าอยู่อีกหรือไม่?” หวังเสียนถามออกมาด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง พร้อมกับกวาดสายตามองไปยังเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณทุกๆคนของสำนักเสียงสวรรค์!