Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 328
ตอนที่ 328 มาเพื่อฆ่าคน!
“ข้า!…ยอมรับความพ่ายแพ้!”
บนเวทีประลอง หูชิงชิง กัดฟันพูดยอมแพ้ออกมาเบาๆ
ทุกคนด้านล่างเวทีประลองสามารถได้ยินคำเหล่านี้อย่างชัดเจน ในขณะที่เธอยอมรับความพ่ายแพ้ กระแสน้ำที่ผูกรัดอยู่รอบๆตัวเธอก็สลายไปในทันที
กลุ่มเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ ยังคงรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในทำนองเดียวกันกลุ่มผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักเสียงสวรรค์ ก็ยังไม่หายตกตะลึงเช่นเดียวกัน พวกเขามองไปที่พิณห่าวจงและถังหยินซวง ก่อนที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ถังหยินซวง ชนะการประลองในครั้งนี้และตั้งแต่นี้ต่อไปเธอจะเป็นธิดาสวรรค์แห่งสำนักเสียงสวรรค์ของเรา หากสาวกคนใดรู้สึกไม่พอใจสามารถก้าวขึ้นมาบนเวทีประลองและท้าทายเพื่อชิงตำแหน่งกับเธอได้!”
เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์กวาดสายตามองไปยังเหล่าสาวกทั้งหมดของสำนัก ก่อนที่จะจ้องมองไปยังถังหยินซวง พร้อมกับพยักหน้าและยิ้มให้กับเธอบางๆ
สาวกที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เงียบเสียงลง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาในขณะนี้
คุณสมบัติและความแข็งแกร่งที่ถังหยินซวงแสดงออกมานั้นทำให้เหล่าสาวกที่เหลือไม่มีความคิดที่จะกล้าท้าทายตำแหน่งของเธอ
เพราะในก่อนหน้านี้สาวกหลายๆคนได้เคยพูดจาเยาะเย้ยและถากถางเธอเอาไว้มาก พวกเขานั้นรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่งที่เข้าใจความคิดของเธอนั้นผิดไป
และในกลุ่มสาวกทั้งหมดของสำนักเสียงสวรรค์ก็ยังมีกลุ่มคนเป็นจำนวนมากที่สนับสนุนเธออยู่ด้วย ในตอนนี้เหล่าสาวกที่อยู่ทางด้านล่างเวทีประลองจึงไม่มีใครคิดที่จะคัดค้านตำแหน่งธิดาสวรรค์ของเธออย่างแน่นอน
“หึ!” หูชิงชิง หายใจกระแทกเสียงออกมาทางจมูกอย่างรุนแรง “ข้ายังไม่สามารถยอมรับตำแหน่งธิดาสวรรค์ของถังหยินซวงได้ เพราะตำแหน่งธิดาสวรรค์นั้นไม่ใช่ว่าจะวัดกันที่ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว บุคคลที่จะเป็นถึงผู้นำของเหล่าสาวกจะต้องเป็นผู้มีอิทธิพลที่มากพอควรและจะต้องได้รับความเคารพจากผู้อื่นอีกด้วย!”
หลังจากที่หูชิงชิงพูดจบ ชายหนุ่มสองคนที่อยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ก็เดินมาอยู่ทางด้านหลังของเธอเหมือนกับทาสผู้ซื่อสัตย์
หูชิงชิงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ในขณะที่ข้าฝึกฝนและหาประสบการณ์อยู่ยังโลกยุทธภพภายนอก ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณสองคนนี้ ได้กลายเป็นผู้ติดตามและคนสนิทของข้า และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้จัดตั้งกองกำลังระดับชั้น 2 ขึ้นมาเป็นของพวกเขาเองอีกด้วย และหากพูดให้ตรงประเด็นนั่นก็คือข้าสามารถระดมกองกำลังระดับชั้น 2 ได้ตลอดเวลาหากข้าต้องการ!”
ในขณะที่หูชิงชิงพูดถึงกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังของเธอ เธอก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ในตอนนี้ความภาคภูมิใจและความมั่นใจของเธอนั้นฟื้นคืนกลับมาเหมือนก่อนหน้าที่จะพ่ายแพ้ให้กับถังหยินซวงแล้ว!
ฟ้าววว! ฟุบ!
แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่เธอยังพูดเพิ่งจะจบประโยคเพียงเท่านั้น ก็มีเสียงคล้ายกับมีวัตถุพุ่งแหวกอากาศดังขึ้นมา จากทางด้านบน
เหล่าสาวกทุกคนของสำนักเสียงสวรรค์ต่างตกตะลึงและเงยหน้าขึ้นไปมองพร้อมๆกันอย่างตกใจ
หูชิงชิง ก็รู้สึกประหลาดใจและสับสนเธอและชายหนุ่มทั้งสองคนก็หันไปมองทางต้นเสียงเช่นเดียวกัน
เหล่าผู้อาวุโสและเจ้าสำนักของสำนักเสียงสวรรค์ ขมวดคิ้วกันในทันทีพวกเขาจ้องมองไปยังต้นเสียงที่อยู่บนฟ้าด้วยสายตาที่เย็นชา
แฟ้มบันทึกข้อมูลเล่มหนึ่งบินมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วมันตรงเข้ามาทางเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์อย่างตั้งใจ
และในเวลาเดียวกันชายในชุดสีดำสิบคนที่สวมใส่หน้ากากสีดำทมิฬก็ลอยตัวลงมาจากบนยอดเขา
เมื่อกลุ่มผู้อาวุโสและเหล่าสาวกแห่งสำนักเสียงสวรรค์เห็นหน้ากากสีดำทมิฬพวกเขาก็ตกตะลึงกันในทันที
“สัญลักษณ์หน้ากากสีดำทมิฬเหล่านี้…?”
“พะ!…พวกมัน… คนพวกนี้คือทูตอเวจี! พวกเขาคือนักฆ่าจากองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ!”
ในทันใดนั้นก็ได้ยินน้ำเสียงที่สั่นเครือและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวดังมาจากผู้อาวุโสคนนึงของสำนักเสียงสวรรค์ คนผู้นี้คือผู้อาวุโสคนที่เคยนำเหล่าสาวกบางกลุ่มไปฝึกฝนที่ด้านนอกและยังเคยเข้าไปร่วมแย่งชิงล้อมจับเห่าฟ้าสุนัขอสูรจิตวิญญาณ ที่ทะเลสาบตงหลิง
(จากตอนที่ 282 – 291)
“ชุดสีดำทั้งชุดสวมหน้ากากสีดำทมิฬที่มีตัวอักษร 杀 [ฆ่า] สีแดงอยู่บนหน้ากาก พวกเขาคือนักฆ่าแห่งอเวจี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสิบทูตอเวจีแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ!”
เหล่าสาวกทุกคนของสำนักเสียงสวรรค์ต่างรู้สึกตัวสั่นสะท้านกันขึ้นมาในทันที พวกเขารู้ว่าองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬนั้นเป็นองค์กรมือสังหารที่น่าหวาดกลัวมากที่สุดในโลกยุทธภพ และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิตราวกับปีศาจร้ายจากขุมนรก พวกเขาไม่เคยทำงานชิ้นใดพลาดและจะไม่หยุดจนกว่าจะทำงานที่ได้รับมานั้นสำเร็จลุล่วง
และข่าวจากโลกยุทธภพที่เหล่าชาวยุทธต่างร่ำลือกันนั่นก็คือระดับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมีมากพอๆกับกองกำลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว
“ทำไมเหล่านักฆ่าหน้ากากอเวจีทมิฬถึงได้มาปรากฏตัวในสำนักเสียงสวรรค์ของพวกเราด้วยล่ะ!”
“หรือว่า!…ที่!…ที่สำนักของเรานั้นจะมี ฮอลโล่วิญญาณปีศาจร้ายหลบมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ?”
“เจ้าบ้าาาเอ้ยยย! นั่นมัน บลีซหน้ากากเทพมรณะ เจ้ายังคงสับสนจากเสียงดนตรีของถังหยินซวงอยู่อย่างนั้นรึ?!”
…..?
บรรดาเหล่าสาวกที่ได้รู้ว่าชายสวมหน้ากากทั้งสิบคนคือนักฆ่าแห่งอเวจีทมิฬที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในตอนนี้ ใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ และสาวกบางคนก็รีบนำอาวุธประจำตัวของพวกเขาออกมาถือเอาไว้ด้วยมืออันสั่นเทา
พวกเขาจ้องมองไปที่มือสังหารทั้งสิบคนด้วยความหวาดกลัวและพยายามสังเกตการกระทำของพวกเขาอย่างตั้งใจ
คลืนนน!
ในขณะนี้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักเสียงสวรรค์ต่างลุกขึ้นยืน ในกลุ่มของพวกเขานั้นมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมากถึง 7 คน คลื่นพลังอันรุนแรงของพวกเขาตรงไปโอบล้อมกลุ่มมือสังหารแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬทั้งสิบคนเอาไว้ในทันที
หูชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวจนหายใจไม่ออก เมื่อเห็นว่าเหล่านักฆ่าแห่งอเวจียืนล้อมรอบตัวเธอเอาไว้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นซีดขาวและไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่คำเดียว
ชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็ตกตะลึงและหวาดกลัวจนขาอ่อนแรงเกือบจะล้มลงไปกับพื้น
ในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนไม่เหลือมาดของความเย่อหยิ่งที่เคยมีในก่อนหน้านี้อีกต่อไป
หมับบบ!
เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์จับแฟ้มข้อมูลที่ถูกส่งตรงมาทางเขา พร้อมกับมองไปยังหวังเสียนและกลุ่มคนของเขาด้วยท่าทางที่ระมัดระวัง
“ทูตอเวจีแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ พวกเจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด!?” เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“พวกเรานั้นเป็นนักฆ่าเมื่อพวกเรามาปรากฏตัวที่นี่ก็ย่อมต้องมีเป้าหมายที่จะต้องถูกฆ่า!”
หวังเสียนมองไปที่เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ และพูดออกมาตรงๆเขาไม่ได้ปกปิดความตั้งใจของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
“บัดซบ! เจ้ากล้าบุกมาที่สำนักเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเราเพื่อมาสังหารผู้คนอย่างนั้นรึ! พวกเจ้าจะหยิ่งผยองมากเกินไปหน่อยแล้ว!”
เมื่อกลุ่มผู้อาวุโสของสำนักเสียงสวรรค์ได้ยินคำพูดของหวังเสียน ผู้อาวุโสคนนึงในกลุ่มหยิบอาวุธวิญญาณที่เป็นขลุ่ยออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่หวังเสียน ด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
“พวกเจ้าจะอวดดีและเหิมเกริมมากเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!”
เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนที่เขาจะถามขึ้นมาอีกว่า “แล้วสิ่งนี้นั้นคืออะไร!”
“เจ้าก็ลองเปิดดูเสียหน่อยสิ! จะได้รู้ว่าคนที่พวกเราจะฆ่านั้นคือใคร!” หวังเสียน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
เมื่อเสียงของเขาดังลอดผ่านหน้ากากมันก็ฟังดูเย็นชาน่ากลัวขึ้นยิ่งกว่าเดิม สาวกในสำนักเสียงสวรรค์บางคนถึงกับตัวสั่นกันขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดและจุดประสงค์ของเหล่านักฆ่าแห่งอเวจี
“เมื่อ 10 วันก่อนกลุ่มคนของเราสองคนได้ยอมรับภารกิจเพื่อคุ้มครองและปกป้องบุคคลผู้หนึ่ง แต่พวกเขานั้นกลับถูกลอบสังหารโดยองค์กรมือสังหารมนต์ดำซึ่งปฏิบัติตามคำสั่งของผู้จ้างวาน และในทันทีที่พวกเราได้รู้ข่าวพวกเราจึงได้เข้าไปทำลายล้างองค์กรณ์มือสังหารมนต์ดำ และได้พบกับข้อมูลรายชื่อผู้จ้างวานซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้คนของเรานั้นต้องเสียชีวิตลง และในตอนนี้พวกเรามาที่นี่เพื่อที่จะสังหารเธอ!” หวังเสียน จ้องมองไปยังเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยือก
ในตอนนี้กลุ่มผู้อาวุโสและเหล่าสาวกทั้งหมดของสำนักเสียงสวรรค์ได้รู้แล้วว่าเหตุใดองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬถึงได้กวาดและทำลายล้างองค์กรมือสังหารมนต์ดำจนสิ้นซาก
มันคือการแก้แค้นที่องค์กรมือสังหารมนต์ดำได้สังหารสาวกสองคนของพวกเขา รวมถึงต้องการค้นหาผู้จ้างวานและเป็นต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องนี้ด้วย
องค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬนั้นช่างน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง เพียงแค่คนของพวกเขาถูกสังหารจากการรับภารกิจ แต่พวกเขานั้นถึงกับกวาดล้างองค์กรมือสังหารมนต์ดำที่เคยเป็นองค์กรมือสังหารอันดับ 1 แห่งโลกยุทธภพ อย่างบ้าคลั่ง
กลุ่มคนเช่นนี้ไม่สามารถคาดเดาและประเมินโดยสามัญสำนึกทั่วๆไปได้เลย หากเป็นไปได้คงจะไม่มีใครในโลกยุทธภพแห่งนี้อยากจะก่อปัญหาให้กับคนพวกนี้อย่างแน่นอน
ใบหน้าของเจ้าสำนักเสียงสวรรค์ เคร่งเครียดขึ้นมาในทันที คำตอบของนักฆ่าแห่งอเวจีพวกนี้นั้นไร้เหตุผลและบ้าคลั่งมากเกินไป คนของพวกเขาทำงานผิดพลาดและถูกสังหารด้วยความอ่อนแอของตัวพวกเขาเอง แต่พวกเขานั้นกลับต้องการที่จะแก้แค้น คนกลุ่มนี้นั้นคือคนบ้าดีๆนี่เอง
เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเสียงสวรรค์ได้หยิบเครื่องดนตรีและอาวุธประจำตัวของพวกเขากันออกมาเตรียมพร้อมเอาไว้อย่างรวดเร็ว หากเหล่านักฆ่าพวกนี้นั้นลงมือพวกเขาจะทำการตอบโต้ในทันที
เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์มองไปที่แฟ้มข้อมูลรายชื่อในมือของเขา เมื่อเขาเห็นข้อมูลที่อยู่ในนั้นใบหน้าของเขาก็มืดมนลง
รายละเอียดในแฟ้มข้อมูลเล่มนี้นั้นถูกพิมพ์ออกมาพร้อมกับมีข้อมูลอย่างละเอียดครบถ้วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นเพียงแค่ข้อมูลในกระดาษที่ถูกพิมพ์ออกมาจากไฟล์ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อย่างที่นักฆ่าแห่งอเวจีกลุ่มนั้นได้พูดเอาไว้ แต่มันไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมใดๆ จะสามารถยืนยันความเป็นจริงในแฟ้มข้อมูลเล่มนี้ได้อย่างชัดเจน
“นี่เป็นเพียงหลักฐานที่เป็นเพียงนามธรรมเท่านั้น หากพูดกันตามตรงแล้วใครก็สามารถสร้างข้อมูลเช่นนี้ได้ มันจึงไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย!” เจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์ พยายามพูดออกมาอย่างมีเหตุผลเมื่อเขาดูแฟ้มข้อมูลในมือ
“พวกเราองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬนั้นไม่สนใจว่าเจ้านั้นจะคิดอย่างไร! พวกเราเพียงแค่ต้องการให้พวกเจ้าได้รู้เอาไว้ว่าพวกเรานั้นต้องการจะสังหารใครก็เท่านั้น!” หวังเสียน ยังคงพูดออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะหันไปมองที่หูชิงชิง
โม่ชิงหลง, โม่หยวนและเหล่านักรบมังกร ต่างก็หันไปจ้องมองยังหูชิงชิงพร้อมกับเจตนาฆ่าอันรุนแรง
“เจ้าผู้ที่ได้จ้างวานองค์กรณ์มือสังหารมนต์ดำและเป็นสาเหตุทำให้สาวกสองคนของเรานั้นต้องเสียชีวิต จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิด พวกข้าจะส่งเจ้าไปที่นรก!” หวังเสียนจ้องมองไปที่หูชิงชิง เสียงที่เขาพูดออกมาผ่านหน้ากากนั้นฟังดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและเหน็บหนาวจนไปถึงขั้วหัวใจอย่างแท้จริง
เมื่อหวังเสียนพูดจบ โม่หยวนที่อยู่ข้างๆหวังเสียน ก็ขยับตัวในทันที
เจตนาฆ่าอันรุนแรงของเขานั้นทำให้บรรยากาศรอบข้างถึงกับหนาวเย็นขึ้นมาในทันที
นิ้วมือทั้ง 5 ของเขานั้นเปลี่ยนกลายเป็นกรงเล็บสีดำอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองไปยังหูชิงชิงพร้อมกับขยับตัวเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ
ใบหน้าของหูชิงชิงซีดราวกับกระดาษขาว เธอแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน เหลื่อไหลออกมาจนเปียกท่วมตัว แววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสยดสยอง
ในตอนนี้ใบหน้าและลักษณะท่าทางของเธอนั้นไม่ได้เป็นสาวพราวเสน่ห์และร้อนแรงเช่นเดิมอีกต่อไปแล้ว
เมื่อเธอเห็นโม่หยวนที่เดินตรงเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ ใบหน้าของเธอนั้นก็บิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับตะโกนร้องออกมาเหมือนกับคนเสียที่สติ “ม่ายยย! อย่าฆ่าข้าเลยยย!”
“พวกแกกล้าลงมือกับหลานสาวของข้าอย่างนั้นเหรอ? ไปตายซะเถอะไอ้พวกบัดซบ!”
ดวงตาของรองเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโมโห เขาโบกมือพร้อมกับเรียกพิณสีดำอาวุธประจำตัวของเขาออกมา
เขากดไปที่สายพิณอย่างรวดเร็วคลื่นพลังที่ส่งออกมานั้นกลายเป็นใบมีดแหลมคมพุ่งตรงเข้าไปโจมตีโม่หยวนอย่างรวดเร็ว
ฟูมมมม!
แต่ในทันใดนั้นเองหวังเสียนก็สะบัดมือของเขาออกมาเบาๆ ลูกไฟขนาดเท่าลูกบอลก็พุ่งตรงเข้าไปหารองเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์อย่างรวดเร็วและระเบิดออกมาเสียงดังสนั่น
บรึมมมม!
แกร๊กกกก!
พิณสีดำที่เป็นอาวุธประจำตัวของรองเจ้าสำนักแห่งสำนักเสียงสวรรค์นั้นถูกทำลายลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!