Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 326
ตอนที่ 326 พลังพิณงูปีศาจ!
เสียงหัวเราะที่เย้ยหยันดังออกมาจากหูชิงชิง แม้ว่าเสียงหัวเราะของเธอจะดูโอเวอร์เกินจริงไปบ้าง แต่เสียงหัวเราะที่แหบพร่าเล็กน้อยนั้นกลับมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก เมื่อรวมกับร่างกายที่มีเสน่ห์อันเย้ายวนของเธอหลังจากที่หัวเราะจนตัวสั่นสะท้านแล้ว ภูเขาขนาดมหึมาของเธอก็กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงหัวเราะของเธอด้วย มันจึงทําให้ไม่รู้สึกรําคาญเลยแม้แต่น้อย
เหล่าสาวกชายบางคนยังปรารถนาให้เธอหัวเราะนานและรุนแรงมากขึ้นกว่านี้อีกด้วย ชายหนุ่มบางคนที่ค่อนข้างจะอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ถึงกับเกือบจะถึงจุดไคลแม็กซ์เลยทีเดียว
หุชิงชิง หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะมองไปยังถังหยินซวงอีกครั้ง และพูดว่า “ถังหยินซวง เจ้าอย่าแกล้งทําเป็นพูดจาไร้เดียงสาเช่นนี้อยู่อีกเลย เจ้ายอมรับมาตรงๆเถอะว่ากลัวความแข็งแกร่งของพิณงูปีศาจที่อยู่ในมือของข้า ใยต้องแกล้งต้องการต่อสู้อย่างยุติธรรมด้วยการใช้พิณฝึกซ้อมด้วยเล่า! ข้าไม่เคยพบใครไร้ยางอายเยี่ยงเจ้ามาก่อนเลยจริงๆ ฮิๆๆ ช่างน่าตลกยิ่งนัก!”
เมื่อเธอพูดจบเธอก็ดีดนิ้วไปที่สายของพิณงูปีศาจเบาๆ ในทันใดนั้นงูสีดําหลายตัวก็ปรากฏตัวขึ้นมาในทันที
“ข้านั้นใช้ความพยายามอย่างเต็มที่กว่าจะได้รับพิณงูปีศาจคันนี้มา แต่เจ้ากลับบอกว่าต้องการให้ข้านั้นประลองกับเจ้าโดยใช้พิณฝึกซ้อมอย่างยุติธรรมอย่างนั้นเหรอ เจ้ายังสติดีอยู่หรือไม่ ฮิๆๆ!”
เสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมาอีกครั้ง และในตอนนี้เหล่าสาวกที่กําลังรอดูการประลองของทั้งสองคนก็มองไปที่ยังหยินซวง ด้วยสายตาที่แปลกๆ
“เฮ้อ! ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ถังหยินซวง คนนี้จะหน้าด้านได้ขนาดนี้!”
“เอ่อ! ในตอนแรกข้าก็ตั้งใจจะตะโกนเชียร์ศิษย์น้องยังหยินซวง แต่ตอนนี้ข้าคงไม่กล้าเสียแล้วล่ะ!…”
“ฮ่าๆๆ! บ้าจริงๆ! ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในระหว่างประลองที่สําคัญเช่นนี้ จะมีคําขอร้องแปลกๆออกมาเช่นนี้! ถ้าคิดว่าสู้ผู้อื่นไม่ได้ก็ยอมแพ้ไปเสียก็สิ้นเรื่อง! ทําไมต้องพูดในสิ่งที่จะทําให้ตัวเองต้องอับอายเช่นนี้กันล่ะ ศิษย์น้องผู้นี้สมองฝ่อไปหมดแล้วหรืออย่างไร!”
“ฮี! นี่ศิษย์พี่เกา ศิษย์พี่ยังหยินซวง อาจจะไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นก็เป็นได้! หากท่านยังหัวเราะเยาะศิษย์พี่ยังหยินซวง ที่ข้าเคารพนับถืออีก ข้าจะไม่คุยกับท่านอีกต่อไป ไม่เชื่อก็ค่อยดูสิ!”
“โธ่! ศิษย์น้องหญิง ก็ข้าห้ามตัวเองไม่ได้นี่นา! เอาเถอะ! ข้าจะไม่พูดอะไรให้เจ้ารู้สึกขุ่นข้องหมองใจอีกต่อไปแล้ว เจ้าอย่างอนข้าเลยนะ!”
“ฮ่าๆๆ! ช่างน่าประทับใจในความผิวหนาของถังหยินซวงจริงๆ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่สามารถแข่งขันกับเธอได้เลยจริงๆ!”
“ฮิฮิ! ข้าเองก็รู้สึกพูดไม่ออกเช่นเดียวกัน การมาดูการประลองชิงตําแหน่งธิดาสวรรค์ของสำนักเราในวันนี้ช่างน่าตลกเสียจริงๆ ถังหยินซวงคนนี้ต้องบ้าไปแล้วอย่างแน่นอน! ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่สามารถพูดเช่นนี้ออกมาได้หรอก!”
“ข้าก็เคยได้ยินมาบ้างเช่นเดียวกันว่าศิษย์พี่หญิงคนนี้ ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากเท่าไหร่นัก แต่ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะเป็นคนบ้าที่ไร้ยางอายเยี่ยงนี้!”
รอบๆสนามประลองเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ ต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับคําพูดแปลกๆของถังหยินซวง คําพูดและการกระทําของเธอในก่อนหน้านี้ ทําให้สาวกของสานักหลายๆคนนั้นเกิดความดูถูกในตัวเธอมากยิ่งขึ้น
แม้แต่เหล่าสาวกที่เคยชอบและสนับสนุนเธอก็ยังรู้สึกสับสนและพูดอะไรไม่ออกไปนานเลยทีเดียว
จากในสถานการณ์ปัจจุบันความคาดเดาของสาวกส่วนใหญ่นั้นก็คือหูชิงชิง จะต้องได้รับตําแหน่งเทพธิดาสวรรค์อย่างแน่นอน ดังนั้นเหล่าสาวกส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับถังหยินซวงมากมายเท่าไหร่นัก
และนอกจากนี้หากพวกเขานั้นอยู่ฝั่งเดียวกับหูชิงชิง อย่างน้อยอยู่ในสํานักเสียงสวรรค์แห่งนี้ก็จะไม่ลําบากอย่างแน่นอน เพราะผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังของหูชิงชิงนั้นก็คือรองเจ้าสํานักแห่งสํานักเสียงสวรรค์
“ฮ่าๆๆ! ศิษย์น้องถัง เจ้านี่น่าสนใจมากเลยจริงๆ อาวุธก็ถือได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งอย่างหนึ่งของตัวผู้ฝึกฝน เจ้าขอการต่อสู้ที่ยุติธรรมโดยการใช้พิณฝึกซ้อมเพื่อชิงตําแหน่งธิดาสวรรค์ หากผู้อื่นรู้เข้าคงไม่หัวเราะเยาะสํานักเสียงสวรรค์ของพวกเราแย่เลยหรอกหรือ?”
เสียงของโอรสสวรรค์เฉินจื่อดังขึ้นมา เขามองไปที่ยังหยินซวง อย่างเยาะเย้ยและพูดต่อว่า “เจ้าไม่มีพิณที่ดีดังนั้นจึงต้องการให้ผู้อื่นประลองกับเจ้าโดยใช้พิณฝึกซ้อม ความคิดนี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!”
“ศิษย์พี่กล่าวได้ถูกต้องแล้วล่ะ! ความคิดของถังหยินซวงช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ ศิษย์พี่หญิงหูชิงชิง มีพิณงูปีศาจระดับ 9 อยู่ในมือ แต่ถังหยินซวงต้องการจะท้าทายเธอประลองด้วยการใช้พิณฝึกซ้อมธรรมดา ไม่รู้ว่าเธอนั้นกล้าพูดเรื่องอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร หากเป็นการต่อสู้ที่ต้องแลกชีวิตและความตายในโลกยุทธภพ คงจะไม่มีใครยอมรับในสิ่งที่เธอพูดอย่างแน่นอน ถังหยินซวงคนนี้ก็เหมือนกับดอกไม้ในเรือนกระจกที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างมาก่อนช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ ฮิๆๆ!” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆกับโอรสสวรรค์เฉินจื่อพูดออกมาอย่างขําขัน
ใบหน้าของโอรสสวรรค์เฉินจื่อค่อยๆสงบลง ก่อนที่เขาจะพูดพึมพําว่าเบาๆ จนคล้ายกับพูดกับตัวเอง “ก่อนหน้านี้ข้านั้นมีความตั้งใจให้เจ้ายืมพิณเทียนโม่ ซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 7 ด้วยมิตรไมตรีอันดี หากเจ้านั้นยอมรับน้ําใจของข้าเจ้าก็อาจจะมีความหวังที่จะได้รับตําแหน่งธิดาตกสวรรค์ในครั้งนี้อยู่บ้าง แต่ในเมื่อเจ้านั้นได้ปฏิเสธข้าไปแล้วและพิณที่อยู่ในมือของเจ้า ก็เป็นแค่อาวุธวิญญาณระดับ 6 เพียงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้โอกาสที่จะได้รับตําแหน่งธิดาสวรรค์นั้นจึงเท่ากับศูนย์ เป็นเพราะความหลงงมงายต่อเจ้าหนุ่มคนนั้นทําให้เจ้าตามัวจนมืดบอดไม่รู้อะไรดีอะไรชั่วได้มากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถังหยินซวง?”
และหลังจากนี้หากข้าได้ข้อมูลของไอ้เด็กบัดซบคนนั้น ข้าจะทําให้มันรู้ว่าความตายนั้นมีความสุขมากกว่าการที่ต้องตกอยู่ในมือของข้า!” เมื่อนึกถึงใบหน้าของหวังเสียน โอรสสวรรค์เฉินจื่อก็กัดฟันจนแน่นแทบจะแตกด้วยความเคียดแค้น
“การคัดเลือกธิดาสวรรค์แห่งสํานักเสียงสวรรค์ของเราคือการแสดงออกถึงความมีสติปัญญาความแข็งแกร่งและพรสวรรค์รวมถึงความกล้าหาญ ที่จะสามารถเป็นผู้นําในอนาคตของสํานักเสียงสวรรค์เราได้ ในฐานะที่ข้าเป็นรองเจ้าสํานักข้าคิดว่าเจ้าควรเก็บคําพูดที่น่าอับอายของเจ้าเอาไว้ ในใจเสียดีกว่าอย่าพูดออกมาให้มันขายหน้าถึงสํานักเสียงสวรรค์ของเราเลย!”
รองเจ้าสํานักเสียงสวรรค์ ที่นั่งอยู่บนเวทีมองไปที่หลานสาวของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่จะหันไปมองและพูดกับถังหยินซวงอย่างเย็นชา
“ข้ารู้ว่าเจ้านั้นหวาดกลัวต่อความแข็งแกร่งของข้า เพราะฉะนั้นเจ้าจงยอมแพ้แต่โดยดีเสียเถอะ จะได้ไม่ต้องอับอายขายหน้ามากไปกว่านี้!” หูชิงชิงพูดกับถังหยินซวงด้วยความดูถูก
เมื่อถึงหยินซวงได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากสาวกรอบข้างและหูชิงชิง เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยความเย็นชาปรากฏขึ้นในแววตาของเธอในทันที
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็คงต้องขอรับคําชี้แนะและขอทดสอบความแข็งแกร่งว่าเป็นจริงอย่างที่เจ้านั้นพูดออกมาหรือไม่!”
เมื่อเธอพูดจบเธอก็วางพิณหยกเขียวไว้ทางด้านข้าง ก่อนที่เธอจะนําพิณอีกตัวหนึ่งที่ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยผ้าไหมออกมา พร้อมกับกระโดดลอยตัวไปยืนอยู่ที่กลางลานประลองด้วยท่าทางที่สง่างามราวกับเทพธิดา
เมื่อเธอยืนอยู่กลางลานประลองเธอดึงพิณที่ยังถูกห่อด้วยผ้าไหมออกมา
“นั่นอะไร? ตรายี่ห้อสินค้านั้นมันเป็นตรายี่ห้อของเครื่องดนตรีสมัยใหม่ไม่ใช่หรือ?”
” หรือว่าถังหยินซวงคิดจะยอมแพ้ โดยการใช้พิณธรรมดาแทนพิณหยกเขียวระดับ 6 ?”
“เธอคงกังวลว่าพิณงูปีศาจจะทําลายพิณหยกเขียวระดับ 6 ของเธอ เพราะท้ายที่สุดแล้ว นั่นคือพิณตัวที่ดีที่สุดที่ถังหยินซวงมี!”
“นั่นเป็นไปได้สูง!”
เมื่อฝูงชนรอบข้างเห็นตราสินค้าบนผ้าคลุมพิณของถังหยินซวง พวกเขาก็เริ่มมองเธอด้วยสายตาเย้ยหยันและดูถูก
“หึ! เสียเวลาข้าจริงๆ!
หูชิงชิงมองไปที่ตราสินค้าบนผ้าไหมคลุมพิณที่ถังหยินซวงถืออยู่ แววตาของเธอเปลี่ยนไปในทันที เธอพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ว่า ” ภายใน 5 กระบวนท่าข้าจะทําลายพิณของเจ้าทิ้ง!”
“ข้าก็หวังว่าเจ้านั้นจะสามารถทําได้เ”
ถังหยินซวง ไม่สนใจเกี่ยวกับการที่ถูกเยาะเย้ยจากหูชิงชิงและสาวกคนอื่นๆ เธอดึงผ้าไหม คลุมพิณออกอย่างช้าๆ
“ชี้แนะข้าด้วย!”
เมื่อพิณห่าวจงปรากฏตัวออกมา ลักษณะท่าทางรวมถึงพฤติกรรมทั้งหมดของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที ความเยือกเย็นและสง่างามเปล่งประกายออกมาจากตัวเธอราวกับเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งสรวงสวรรค์
เธอจ้องมองสร้อยข้อมือที่มีกระดิ่งสีแดงเล็กๆผูกอยู่บนข้อมือของเธอด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว สร้อยข้อมือที่มีกระดิ่งสีแดงอันนี้นั้นเป็นสร้อยข้อมือที่แม่ของเธอนั้นมอบให้ไว้พร้อมกับพิณคันนั้น
พิณคันนั้นและสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นเหมือนความหวังและความปรารถนาของแม่เธอที่ฝากไว้ให้กับเธอ เธอหลับตาลงเล็กน้อยพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆอยู่หลายครั้ง
หลังจากนั้นเธอวางนิ้วมือเรียวยาวที่สวยงามของเธอลงบนพิณห่าวจงอย่างเบามือ
“ฮิฮิ! ถังหยินซวง เจ้าเตรียมใจพร้อมแล้วหรือไม่? เพราะต่อจากนี้เจ้ากําลังจะได้เห็นพลังของพิณงูปีศาจในตํานานคันนี้!”
ใบหน้าของหูชิงชิงเปลี่ยนไปเล็กน้อยคล้ายกับว่าเธอนั้นหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพิณปีศาจ
มีสัญลักษณ์คล้ายกับโน้ตดนตรีที่เกิดจากพลังลมปราณและออร่าปีศาจของพิณงูปีศาจอยู่บนแขนของเธอไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
“เจ้าคิดว่าศิษย์พี่หญิงหูชิงชิง จะสามารถเอาชนะถังหยินซวงภายในกี่กระบวนท่า?”
“ข้าว่าไม่น่าจะเกิน 10 กระบวนท่า ถึงแม้ว่าถังหยินซวงจะมีความแข็งแกร่งระดับครึ่งขั้นก่อกําเนิดลมปราณก็ตาม แต่ระดับอาวุธวิญญาณในมือของทั้งคู่แตกต่างกันมากเลยทีเดียว!”
“ฮ่าๆๆ! ส่วนข้านั้นเดาว่าไม่น่าจะเกิน 5 กระบวนท่า เพราะในก่อนหน้านี้ศิษย์พี่หญิงหูชิงชิงได้ประกาศเอาไว้แล้วว่าจะสยบถังหยินซวงภายใน 5 กระบวนท่า!”
เมื่อเห็นว่าการประลองกําลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้ เหล่าสาวกบางคนก็เริ่มหันมาพูดคุยและวางเดิมพันกันในทันที
แต่สิ่งที่พวกเขานั้นวางเดิมพันกันไม่ใช่ใครจะแพ้ใครจะชนะแต่พวกเขาวางเดิมพันกันว่าหูชิงชิงนั้นจะชนะถังหยินซวงภายในกี่กระบวนท่า
โอรสสวรรค์เฉินจื่อ จ้องมองไปที่ยังหยินซวง อย่างไร้ความรู้สึก ” นิสัยอวดดีเช่นนี้ไม่สามารถแก้ไขได้จริงๆ การใช้พิณธรรมดากับศิษย์คนอื่นนั้นคงจะไม่มีปัญหาอันใด แต่เธอกับกล้าใช้พิณธรรมดากับหูชิงชิง ที่มีความแข็งแกร่งระดับเดียวกันและเธอยังมีพิณงูปีศาจในตํานานอยู่อีกด้วย ข้าไม่รู้ว่าเธอนั้นเอาความมั่นใจมาจากไหน ช่างอวดดีและหยิ่งผยองมากสิจริงๆ!”
แตร๊งงง!! แตงงง!
ในตอนนี้ หูชิงชิงเริ่มบรรเลงพิณงูปีศาจแล้ว นิ้วมือของเธอนั้นคล้ายกับกรงเล็บปีศาจที่ขยับอย่างรวดเร็วจนมองตามแทบไม่ทัน
ในขณะนั้นเองฝูงงูพิษสีดําที่เกิดจากออร่าของพิณงูปีศาจและพลังลมปราณของเธอก็ได้เคลี่อนไหว ตรงเข้าไปหาถังหยินซวงอย่างรวดเร็ว
และเมื่อหูชิงชิงขยับนิ้วเร็วขึ้นงูพิษสีดําหลายพันตัวก็กระจายตัวออกมาอย่างเนืองแน่น กลิ่นอายแห่งความตายฟุ้งกระจายไปทั่วเวทีประลอง พวกมันพุ่งตรงไปข้างหน้ากลายเป็นระลอกคลื่นสีดําทมิฬที่ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“การโจมตีของศิษย์พี่หญิงหูชิงชิงช่างน่าหวาดกลัวมากจริงๆ!”
“ดูเหมือนว่าถังหยินซวงอาจจะพ่ายแพ้ภายใต้การโจมตีครั้งนี้เพียงครั้งเดียวก็ได้!”
เมื่อเหล่าสาวกของสํานักเสียงสวรรค์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็อดที่จะตกใจกลัวกับความแข็งแกร่งของหูชิงชิงไม่ได้
ถังหยิงซวง ยังคงสงบนิ่งอยู่เช่นเดิม เธอไม่ได้แสดงความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับงูพิษสีดํานับพันตัวเช่นนี้
เธอเริ่มดีดพิณห่าวจง อย่างแผ่วเบาในขณะที่ฝูงงูพิษกําลังตรงเข้ามาโจมตีเธอ
บริ้งงงง! / บริ้งง!!
ในทันใดนั้นเองกลุ่มผู้อาวุโสและเหล่าสาวกทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีหนึ่งพันเมตร ก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขานั้นอยู่ท่ามกลางสายลมและสายฝนที่โหมกระหน่ําที่กําลังตกลงมาอย่างรุนแรง
เสียงลมและสายฝนดังก้องในความนึกคิดของพวกเขา
ระลอกคลื่นของงูพิษสีดําที่กําลังพุ่งเข้ามา ได้สลายตัวและฟังกระจายกลายเป็นหมอกสีดําราว กับว่าพวกมันนั้นทํามาจากน้ําหมึก!
จบบท
Endnote: พิณในที่นี้คือพิณจีนหรือกู่ฉินนะครับ ไม่ใช่พิณที่เป็นเครื่องดนตรีภาคอีสานของไทยเรา [พอดีมีคนถามมานะครับ แต่ผมคิดว่าในตอนก่อนๆ ผมเคยอธิบายไว้แล้วนะครับ]