Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 325
ตอนที่ 325 ใช้พิณฝึกซ้อมในการประลองดีหรือไม่?
“คารวะท่านเจ้าสํานักและเหล่าผู้อาวุโส!” เหล่าสาวกทั้งหมดของสํานักเสียงสวรรค์โค้งคํานับ เจ้าสํานักและกลุ่มผู้อาวุโสของสํานักเสียงสวรรค์ที่ค่อยๆเดินผ่านไปนั่งที่นั่งตรงกลาง
หลังจากนั้นเจ้าสํานักเสียงสวรรค์ยกมือขึ้นอย่างช้าๆเหล่าสาวกทุกคนเงียบเสียงลงในทันที เขาค่อยๆกวาดสายตามองไปยังทุกคนก่อนที่จะเริ่มพูดเปิดงานพิธีคัดเลือกธิดาสวรรค์
ในขณะเดียวกันชายสวมหน้ากากสิบคนก็โผล่ออกมาอย่างเงียบๆ จากมุมนึงของเขตภูเขาทั้ง 9 ลูก
ชายทั้งสิบคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหวังเสียนและเหล่านักรบมังกรสาวกของเขา
ข้อมูลที่ไม่หยวนและคนในหน่วยข่าวกรองของเหล่านักรบมังกรได้สืบมา ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารถึงหยินซวง จนทําให้อสูรที่ 23 และอสูรที่ 31 ต้องตายลงไปนั้นค่อนข้างจะมีฐานะในสํานักเสียงสวรรค์มากพอสมควรเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นคนผู้นี้คงจะไม่สามารถปกปิดร่องรอยการสืบค้นของพวกเขาได้นานมากขนาดนี้
ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงต้องแอบเข้ามายืนยันข่าวให้ชัดเจน และพวกเขาก็ต้องการจะรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งของสํานักเสียงสวรรค์ด้วย
“สํานักเสียงสวรรค์น่าจะมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าสานักวังเปลวไฟมากเลยทีเดียว และข้าก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขานั้นมีวงเวทย์ป้องกันหรือค่ายกลสําหรับโจมตีผู้ที่บุกรุกเข้ามาในสํานักของพวกเขาหรือไม่ เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดพวกเราควรจะต้องระวังตัวกันเอาไว้ให้มากๆ ไม่เช่นนั้นพวกเราอาจจะติดอยู่ในกับดักก็ได้!” หวังเสียนอธิบายและกล่าวเตือนเหล่ามนุษย์มังกรทั้งหมด ไม่ให้ใจร้อนและรีบลงมือทําในสิ่งที่ยังไม่แน่ใจ
หลังจากนั้นหวังเสียนก็สังเกตมองไปยังบรรยากาศรอบๆตัว และพร้อมกันนั้นเขาก็ใช้ความสามารถของพิวส์ซึ่งอายสังเกตมองไปทั่วทั้งหุบเขาทั้ง 9 ลูกอย่างระมัดระวัง
แต่นอกจากความกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์รวมถึงความงดงามตามธรรมชาติของพื้นที่บริเวณหุบเขาทั้ง 9 ลูกแห่งนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถตรวจจับความรู้สึกอันตรายใดๆในสถานที่แห่งนี้ได้เลย
ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่มีอะไรมากไปกว่าภูเขาธรรมดาทั้ง 9 ลูก
แต่สัมผัสทางจิตวิญญาณของเขานั้นก็ยังส่งสัญญาณเตือนออกมาว่าจะต้องมีสิ่งที่ผิดปกติอยู่รอบๆตัวเขาอย่างแน่นอน
เพราะที่นี่คือสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งมันดูธรรมดามากเท่าไหร่ ก็ต้องยิ่งระมัดระวังตัวให้มากขึ้นเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วสํานักเสียงสวรรค์แห่งนี้นั้นไม่ใช่สํานักที่พึ่งเลื่อนระดับชั้นขึ้นมาใหม่อย่างสํานักวังเปลวไฟ ดังนั้นการป้องกันในอาณาเขตสํานักของพวกเขาคงไม่เรียบง่ายอย่างที่ตาเห็นแน่นอน
หวังเสียนยังคงสังเกตสภาพแวดล้อมภายในภูเขาทั้ง 9 ลูกอย่างระมัดระวัง
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง
จิบๆ กริ้วว!
ในทันใดนั้นเสียงนกก็ร้องดังขึ้นมาจากกิ่งไม้ที่อยู่ทางด้านข้างของหวังเสียน มันเป็นนกตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ที่กําลังจ้องมองหวังเสียนอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นมันก็บินกลับไปในเขตภูเขาทั้ง 9 ลูกอย่างรวดเร็ว
” ทีมม?” หวังเสียนขมวดคิ้วพร้อมกับคิดใคร่ครวญอยู่เล็กน้อย และด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็ว พลังงานมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ขยายตัวออกไปและปิดกั้นอาณาเขตบริเวณโดยรอบไว้ในทันที
แก๊กๆๆ! ตุบบ!
นกน้อยตัวเล็กนั้นพยายามกระพือปีกของมันบินอย่างเต็มที่เท่าที่มันจะสามารถทําได้ก่อนที่มันจะตกลงสู่พื้น
“นี่คือการป้องกันของสํานักเสียงสวรรค์อย่างนั้นรึ?” หวังเสียนพูดออกมาเบาๆ
“นี่คือสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติมาค่อนข้างจะยาวนาน ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่แม้แต่การป้องกันและการเฝ้าระวังของพวกเขาก็ยังคงเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก!”
หลังจากนั้นหวังเสียนก็ตั้งใจสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆตัวของเขาอีกครั้ง เขาเห็นรังนกจํานวนมากอยู่บนต้นไม้แทบจะทุกต้นทั่วทั้งเขตภูเขาทั้ง 9 ลูกแห่งนี้
และเขายังเห็นรังนกขนาดใหญ่ประมาณสิบกว่าเมตรที่อยู่บนยอดของภูเขาลูกที่สูงที่สุด มันอยู่สูงเหนือพื้นดินหลายพันเมตรเลยทีเดียว
ด้วยรังขนาดใหญ่เช่นนี้ สามารถจินตนาการขนาดของนกตัวที่เป็นเจ้าของรังได้อย่างง่ายดายเลยว่าตัวของมันนั้นจะใหญ่มากขนาดไหน
“มันน่าจะเป็นนกที่เป็นสัตว์อสูรระดับ 9 เป็นอย่างน้อย ช่างน่าแปลกใจจริงๆที่สํานักเสียงสวรรค์สามารถใช้นกที่เป็นสัตว์อสูรระดับสูงได้ และยังสามารถใช้มันเพื่อควบคุมฝูงนกให้เป็นยามรักษาการอีกที่นึ่ง บางทีนกในเขตภูเขาทั้ง 9 ลูกแห่งนี้อาจจะมีมากถึงหลายล้านตัวเลยก็ได้ หากมีศัตรูบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตสํานักของพวกเขา มันคงจะเป็นไปไม่ได้เลยอย่างแน่นอนที่จะสามารถปิดกั้นและซ่อนตัวไม่ให้นกเหล่านี้รู้ตัวได้!” หวังเสียนคาดคะเนออกมา
เขาค่อนข้างจะรู้สึกประทับใจกับระดับความสามารถของสํานักเสียงสวรรค์แห่งนี้เล็กน้อย การใช้นกหลายล้านตัวเพื่อเป็นยามและเฝ้าระวังภัยให้กับสํานักของพวกเขานั้นมันสามารถตรวจตราได้ทั่วถึงทุกมุมมองของอาณาเขตภูเขาทั้ง 9 ลูกนี้ได้อย่างแน่นอน แม้แต่หนูตัวเล็กๆก็คงจะไม่สามารถรอดพ้นสายตาของนกเหล่านี้ไปได้
” แต่วิธีนี้ก็ถือได้ว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่อีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ นกพวกนี้นั้นไม่มีความฉลาดมาก พอหรือพูดให้ถูกต้องก็คือพวกมันไม่มีความคิดที่มีความซับซ้อนมากมายเท่าไหร่นัก!” หวังเสียนพูดแล้วยิ้มออกมา ในขณะที่โม่ชิงหลงและเหล่านักรบมังกรคนอื่นๆยังคงรู้สึกวิตกกังวลกันอยู่เล็กน้อย
“ไปกันเถอะ!” ในขณะที่หวังเสียนพูดออกมา ออร่าสีเขียวก็แผ่ก็จ่ายออกไปครอบคลุมตัวของเขาและเหล่านักรบมังกรทั้งหมดในทันที หลังจากนั้นเครือเถาวัลย์และกิ่งก้านของต้นไม้ก็ขยายออกมาปกคลุมรอบๆตัวพวกเขา จนลักษณะภายนอกของพวกเขาแต่ละคนนั้นมองดูคล้ายกับพุ่มไม้ต้นเล็กๆต้นหนึ่ง
เมื่อพวกเขาทั้งสิบคนเคลื่อนที่ไปข้างหน้า นกหลากหลายชนิดก็หันไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ในไม่ช้าพวกมันก็ไม่ได้ให้ความสนใจกลุ่มพุ่มไม้ทั้งสิบต้นนี้อีกต่อไป พวกมันยังคงทําตัวตามธรรมชาติของพวกมันด้วยการส่งเสียงเจื้อยแจ้วและออกหาอาหารตามปกติของพวกมันต่อไป
มันเป็นปกติธรรมดาของสัตว์เดรัจฉานระดับต่ํา พวกมันจะไม่สามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาที่ลึกซึ้งมากเกินกว่าวิสัยปกติตามธรรมชาติของพวกมันได้
พวกมันไม่คิดจะใส่ใจเลยแม้แต่น้อยว่าทําไมพุ่มไม้ต้นเล็กๆทั้งสิบต้นนี้จึงสามารถเคลื่อนที่ด้วยตัวเองได้
เมื่อพวกเขาทั้งสิบคนเดินทะลุออกจากขอบเขตของภูเขาทั้ง 9 ด้วยความเร็ว
และในไม่ช้าพวกเขาก็มาหยุดอยู่ที่ปลายยอดเขาลูกหนึ่ง
” ที่ตรงนั้น!” หวังเสียนสังเกตสภาพแวดล้อมอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะชี้นิ้วออกไป และในพริบตานั้นพวกเขาก็กระโดดร่อนลงไปยังจุดหนึ่ง ที่สามารถมองเห็นสนามฝึกซ้อมหลัก ที่กลุ่มผู้อาวุโสและเหล่าสาวกของสํานักเสียงสวรรค์รวมตัวกันอยู่ได้อย่างชัดเจน
ในตอนนี้ที่สนามฝึกซ้อมหลักเด็กสาวรูปร่างร้อนแรงคนหนึ่งในชุดสีดําแนบเนื้อ ยืนอยู่บนลานเวทีประลอง พร้อมกับพิณปีศาจสีดําในมือของเธอ ฝั่งตรงข้ามของเธอนั้นเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยงามคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวที่ดูสง่างาม
หญิงสาวยืนถือผีผา (EEC) ในมือของเธออยู่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก หน้าผากของเธอนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เมื่อดูจากลักษณะท่าทางของเธอแล้วแสดงว่าเธอนั้นได้พ่ายแพ้การประลองต่อหญิงสาวในชุดดําไปแล้วอย่างแน่นอน [1]
โม่ชิงหลงยืนอยู่ข้างๆหวังเสียนมองไปยังหูชิงชิง หญิงสาวที่สวมชุดดําบนเวทีประลองด้วย สายตาเย็นชา
“องค์ราชาขอรับ! หญิงสาวคนนั้นชื่อว่าหูชิงชิง เป็นหลานสาวของรองเจ้าสํานักเสียงสวรรค์ จากฝายข่าวกรองของเราที่ได้สืบข้อมูลมา เธอคนนี้คือผู้ที่ออกคําสั่งลอบสังหารแม่นางถังหยินซวง และเป็นต้นเหตุให้อสูรที่ 23 และอสูรที่ 31 นั้นต้องเสียชีวิต!” โม่ชิงหลงพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นยะเยือก
“เธอไม่เพียงแต่สั่งให้ลอบสังหารแม่นางถังหยินซวงเพียงเท่านั้น ในก่อนหน้านี้เธอได้ออกคําสั่งลอบสังหารสาวกในสํานักไปแล้วถึง 2 ครั้งและทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้านั้นก็สําเร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดี!”
หวังเสียนจ้องมองไปที่หญิงสาวชุดดําคนนั้นอย่างพิจารณา รูปลักษณ์และท่าทางของเธอนั้นมีเสน่ห์ที่ร้อนแรงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“ฮี! ถึงแม้รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวคนนี้จะน่าดึงดูดใจเล็กน้อย แต่จิตใจนั้นกลับสกปรกและดํามืดเป็นอย่างมาก ถึงกับกล้าลอบสังหารสาวกร่วมสํานักเพียงเพราะว่าการคัดเลือกทายาทศักดิ์สิทธิ์ของสํานักเท่านั้นเอง ผู้หญิงคนนี้เปรียบได้ดังอสรพิษร้ายดีๆนี่เอง!” หวังเสียนพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา
หลังจากนั้นเขาก็กวาดสายตาไปยังเหล่าผู้อาวุโสของสํานักเสียงสวรรค์จนทั่วและนับจํานวนอยู่อย่างเงียบๆ
“มีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณทั้งหมด 7 คน ดูเหมือนว่ายังมีผู้อาวุโสอีกหลายคนของสํานักที่ไม่ได้มาเข้าร่วมในการคัดเลือกธิดาสวรรค์ในครั้งนี้ด้วย!” หวังเสียนคิดอยู่อย่างเงียบๆ เพราะโดยปกติทั่วไปแล้วสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่มานานนับศตวรรษอย่างเช่นสานักเสียงสวรรค์ ย่อมจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณไม่ต่ํากว่า 20 คนอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกของสํานักเสียงสวรรค์ยังเป็นที่รู้จักกันในเรื่องการโจมตีทางด้านจิตใจที่ทรงพลัง หากว่าพวกเขาประมาท คงจะต้องเกิดการสูญเสียที่หนักหนาสาหัสอย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้หวังเสียนและเหล่านักรบมังกร ไม่ได้มาเพื่อกวาดล้างสํานักเสียงสวรรค์ พวกเขาจึงไม่มีความจําเป็นที่จะต้องต่อสู้ถึงขั้นแตกหักด้วย พวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อฆ่าหูชิงชิง ที่เป็นต้นเหตุของการสังหารคนของเขาเพียงเท่านั้น
“องค์ราชาขอรับ! พวกเราควรที่จะลงมือในทันทีเลยหรือไม่ขอรับ?” โม่ชิงหลงหันไปถามหวังเสียน
“ไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย!” หวังเสียนพยักหน้าและสั่งเรานักรบมังกรให้ไปจัดการแก้แค้นในทันที
แต่ในขณะนั้นเองเขารีบตะโกนสั่งห้ามคนของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งลงมือ!”
” ขอรับ!” โม่ชิงหลงและเหล่านักรบมังกรที่เหลือรีบตอบรับคําและซ่อนตัวกันอยู่อย่างเงียบๆอย่างรวดเร็ว
“ศิษย์พี่หญิงหูชิงชิง ช่างแข็งแกร่งมากจริงๆ สามารถเอาชนะศิษย์พี่หญิงหลินอี้เหม่ย ได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว และพิณคันที่เธอถืออยู่น่าจะเป็นพิณงูปีศาจ ซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 9 ศิษย์พี่หญิงหูชิงชิงได้รับมันมาได้อย่างไร?” เหล่าสาวกที่อยู่ด้านล่างของเวทีประลองต่างรู้สึกตกใจกันเป็นอย่างมากเมื่อเห็นพิณที่อยู่ในมือของหูชิงชิง
“เครื่องดนตรีวิญญาณระดับ 9 บวกกับความสามารถของศิษย์พี่หญิงหูชิงชิง ที่อยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกําเนิดลมปราณ ข้าคิดว่าตําแหน่งธิดาสวรรค์ในครั้งนี้จะต้องเป็นของศิษย์พี่หญิงหูชิงชิงอย่างแน่นอน!” เหล่าสาวกบางคนพูดคุยกันออกมาอย่างออกรส
“และหลังจากนี้ข้าคิดว่าการประลองชิงตําแหน่งธิดาสวรรค์ระหว่างศิษย์พี่หญิงหูชิงชิงและศิษย์ที่หญิงถังหยินซวง คงจะตัดสินได้แล้วล่ะว่าใครจะได้เป็นธิดาสวรรค์ ข้าสงสารศิษย์พี่หญิงถังหยินซวงมากจริงๆ ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเธอนั้นจะเทียบเท่ากับศิษย์พี่หญิงหูชิงชิงได้ แต่อาวุธวิญญาณที่ทั้งคู่ใช้นั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลยจริงๆ!” สาวกหญิงคนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ค่อนข้างจะเห็นใจถังหยินซวง
” ข้าว่ามันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก! บางที่ศิษย์พี่ถังหยินซวง อาจจะมีทีเด็ดหรือท่าไม้ตายอย่างอื่นซ่อนอยู่ก็ได้!” สาวกชายคนหนึ่งพูดเชิงวิเคราะห์ออกมา
เหล่าสาวกหลายคนของสํานักเสียงสวรรค์นั้นต่างพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ถึงการคัดเลือกธิดาสวรรค์กันอย่างออกรส
และในขณะนี้หูชิงชิง ก็ยืนยิ้มอยู่บนเวทีอย่างมั่นใจ รอยยิ้มและท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเธอนั้น ทําให้เหล่าสาวกชายหลายคนถึงกับมีอาการปากแห้งตัวสั่นและช่วงล่างร้อนผ่าวกันไปเลยทีเดียว
เหล่าผู้อาวุโสของสํานักเสียงสวรรค์ต่างจ้องมองไปที่การประลองของหูชิงชิงและหลินอี้เหม่ยด้วยความพึงพอใจ ถึงแม้ว่าการต่อสู้ของทั้งคู่นั้นจะจบลงอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่อย่างน้อยๆก็ยังสามารถมองเห็นระดับความสามารถที่พัฒนาขึ้นของลูกศิษย์ทั้งสองคนนี้ได้เป็นอย่างดี
และเหล่าผู้อาวุโสหลายคนก็ค่อนข้างที่จะพึงพอใจในความสามารถของหูชิงชิงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
” พิณงูปีศาจคันนี้เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 9 ถือได้ว่าเป็นอาวุธก่อกําเนิดจิตวิญญาณที่ทรงพลัง มันมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 3 ของสํานักเสียงสวรรค์ของเราเลยทีเดียว! ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หูชิงชิงคนนี้จะสามารถทําให้พิณงูปีศาจยอมรับเธอเป็นเจ้านายของมันได้!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสํานักเสียงสวรรค์พูดออกมาด้วยท่าทางที่ชมเชย
” ข้าก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน ในก่อนหน้านี้เธอนั้นสามารถฝึกฝนทักษะวิชาเสียงกระซิบแห่งภูติพรายได้ และในตอนนี้เธอยังได้รับการยอมรับจากพิษงูปีศาจอีกด้วย ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะมีความสามารถเหมาะสมกับการที่จะได้เป็นธิดาสวรรค์ของสํานักเราจริงๆ!” ผู้อาวุโสหญิงอีกคนหนึ่งก็พูดเสริมออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
“ฮ่าๆๆ! ยินดีด้วยนะท่านรองเจ้าสํานัก! หลานสาวของท่านนั้นมีพรสวรรค์ที่สูงส่งมากเลยจริงๆ!” ผู้อาวุโส 2-3 คนหันไปพูดคุยกับรองเจ้าสํานักด้วยท่าทางที่ประจบเอาใจ
ในขณะนี้เหล่าผู้อาวุโสของสํานักเสียงสวรรค์หลายคนต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับตําแหน่งธิดาสวรรค์ที่หูชิงชิงควรจะได้รับ
และคนที่มีความสุขมากที่สุดนั่นก็คือรองเจ้าสํานักเขาหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างครื้มอกครื้ม
หลานสาวของเขากําลังจะก้าวขึ้นไปเป็นธิดาสวรรค์ของสํานักในไม่ช้านี้แล้ว
ในขณะนี้ที่สนามประลอง หูชิงชิงมองไปที่ถังหยินซวง ที่กําลังเดินขึ้นมาบนเวทีประลอง ด้วยสายตาที่เย็นชา มีรอยยิ้มที่เยาะเย้ยและเหยียดหยามอยู่บนใบหน้าของเธอ ในขณะที่เธอมองไปที่พิณหยกเขียวในมือของถังหยินซวง
“ถังหยินซวง ข้าว่าเจ้ารีบยอมแพ้เสียแต่โดยดีเสียเถอะ! เจ้ามันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าเลยแม้แต่น้อย!” หูชิงชิงพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย้ยหยัน
ในก่อนหน้านี้ถังหยินซวง ได้ต่อสู้และเอาชนะ โอหยางหยาน โดยใช้พิณหยกเขียว ที่อาจารย์ของเธอได้มอบไว้ให้ ถึงแม้ว่าทักษะและความสามารถของเธอนั้นจะสูงมากก็ตาม แต่เธอก็ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้รับชัยชนะ
นี่เป็นข้อแตกต่างเป็นอย่างมากกับการต่อสู้ระหว่างชิงชิงกับหลินอี้เหม่ย เมื่อก่อนหน้านี้
“หูชิงชิง ข้าว่าพวกเราทั้งคู่นั้นสมควรจะแข่งขันกันอย่างยุติธรรม โดยการเปลี่ยนมาใช้พิณฝึกซ้อมจะดีกว่าหรือไม่?” ถังหยินซวงพูดแนะนําการประลองระหว่างเธอกับหูชิงชิง ออกมาอย่างสุภาพ
“ฮิฮิ! การแข่งขันที่ยุติธรรมโดยเปลี่ยนไปใช้พิณฝึกซ้อมอย่างนั้นเหรอ? ถังหยินซวง เจ้าเห็นว่าข้านั้นเป็นเด็กอมมือหรืออย่างไร จึงได้พูดจาล้อเล่นออกมาเช่นนี้!” หูชิงชิงหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน
จบบท
EndNote: [1] ผีผา (EE ) เป็นเครื่องดนตรีจีนอย่างหนึ่ง มีลักษณะเป็นเครื่องสาย เล่นด้วยการใช้นิ้วดีดสาย เครื่องดนตรีนี้มีรูปร่างเหมือนลูกแพร์ มีประวัติอันยาวนาน เชื่อว่ามีกําเนิดมานานเกือบสองพันปี มีเครื่องดนตรีหลายชนิดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีพัฒนาการมาจากผีผานี้ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม