Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 320
ตอนที่ 320 นัดพบถังหยินซวง!
หวังเสียน ไม่ชอบถ่วงเวลาและผัดวันประกันพรุ่ง เนื่องจากฝ่ายข่าวกรองของสํานักมังกรได้ตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังสาเหตุการตายของอสูรที่ 23 และอสูรที่ 31 นั้นเป็นหนึ่งในผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกว่าที่เจ้าสํานักคนต่อไปของสํานักเสียงสวรรค์
“สํานักเสียงสวรรค์!”
หวังเสียน ครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะถาม “ในบรรดาสํานักศักดิ์สิทธิ์ระดับความแข็งแกร่งของสํานักเสียงสวรรค์นั้นมากน้อยเพียงใด?”
“ในบรรดา 8 สํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ ความแข็งแกร่งของสํานักเสียงสวรรค์นั้นอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกยุทธภพในจีน สํานักของพวกเขานั้นไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษแต่ก็ไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอนขอรับ!” โม่ชิงหลงตอบ
8 สํานักศักดิ์สิทธิ์และ 5 ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ถือได้ว่าเป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 13 กองกําลังของประเทศจีน ทุกๆกองกําลังจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดหนึ่งคน อย่างน้อยคนพวกนี้นั้นก็ต้องอยู่ในระดับขอบเขตเม็ดยาเซียน
และหากพวกเขาออกมาสร้างเหตุการณ์ใดๆก็แล้วแต่ การกระทําของพวกเขานั้นสามารถสร้างคลื่นลมและแรงสั่นสะเทือนให้แก่โลกยุทธภพทั้งหมดได้เลยทีเดียว
สํานักเสียงสวรรค์นั้นตั้งอยู่ในเมืองหนิง หวังเสียนและคนของเขานั้นเคยไปที่นั่นมาแล้วครั้งหนึ่ง
ไม่มีเที่ยวบินตรงจากเมืองเจียงเฉิงไปเมืองหนิง และหากเดินทางโดยรถยนต์ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8-9 ชั่วโมง
“ถ้าหากพวกเรายังคงเดินทางโดยเกาะลอยน้ำและด้วยความเร็วระดับนี้กว่าพวกเราจะกลับไปถึงที่ทะเลบัวไห่ของเมืองเจียงเฉิงก็น่าจะใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมง และกว่าพวกเราจะเดินทางออกจากเมืองเจียงเฉิงเพื่อไปเมืองหนิงก็คงจะไม่ทันเวลาอย่างแน่นอน!”
หวังเสียน ไม่ต้องการที่จะเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้เขาจึงหันไปพูดกับโม่ชิงหลงและโม่หยวนว่า “ข้าจะกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงก่อน เจ้าทั้งสองคนไปพร้อมกันกับข้า แล้วก็เรียกเหล่านักฆ่าแห่งอเวจีทั้งเจ็ดคนร่วมเดินทางไปด้วย!”
หลังจากนั้นหวังเสียนก็หันไปพูดกับอสูรที่ 15 อีกว่า “ส่วนเจ้าอสูรที่ 15 เจ้ามีหน้าที่ดูแลเกาะลอยน้ำแห่งนี้จนกว่ามันจะไปถึงยังเกาะสํานักมังกรของพวกเรา!”
การลงมือแก้แค้นในครั้งนี้เขาตั้งใจจะจัดการในนามขององค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ
หวังเสียนนั้นยังไม่ต้องการเปิดเผยที่มาของสํานักมังกรมากนัก และเขาคิดว่ากลุ่มของพวกเขานั้นยังไม่พร้อมที่จะปะทะกับสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
เพราะความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพวกเขานั้นคงไม่สามารถต่อสู้กับสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน หากว่าพวกเขานั้นไม่ได้ทําการต่อสู้อยู่ในทะเล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวกแห่งสํานักมังกรของเขานั้นมีเพียงแค่ 50 คน และคนพวกนั้นยังไม่ก้าวเข้าสู่ระดับขั้นก่อกําเนิดลมปราณ จึงถือได้ว่าไม่สามารถเทียบชั้นกับสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นได้
หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของจักรพรรดิซุยและตระกูลซุยของพวกเขา หวังเสียนก็คาดเดาได้ว่าจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตเม็ดยาเซียนอยู่ในกลุ่มของสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นอย่างน้อยกองกําลังละ 1 คนอย่างแน่นอน
แต่หากต้องต่อสู้กันแบบเต็มกําลังแล้วล่ะก็ หวังเสียนนั้นก็ไม่เคยเกรงกลัวใครเช่นเดียวกัน
เพียงแค่กลุ่มกองกําลังของสัตว์อสูรที่เป็นสาวกแห่งวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็คงจะเพียงพอที่จะสามารถกวาดล้างสํานักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นลงได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาต้องการต่อสู้อย่างเต็มกําลังโดยแปลงร่างเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ คนในโลกยุทธภพแห่งนี้คงจะไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างแน่นอน
แต่เนื่องด้วยเขาไม่ต้องการให้สถานะของตัวเขาและสาวกของวังมังกรถูกเปิดเผยเขาจึงจําเป็นต้องปิดบังตัวตนของเขาเอาไว้ชั่วคราว โดยการสวมหน้ากากทมิฬและใช้นามขององค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬในการจัดการปัญหาต่างๆในโลกยุทธภพ
และเนื่องจากองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกยุทธภพอยู่แล้ว จึงไม่สําคัญว่าพวกเขานั้นจะสร้างเรื่องราวใหญ่โตอะไรขึ้นมา และสิ่งนี้กลับจะกลายมาเป็นผลดีให้กับองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬอีกด้วย เพราะมันจะสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรมากขึ้นไปอีก
หวังเสียน เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา
นับตั้งแต่กําจัดองค์กรมือสังหารมนต์ดํา องค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นองค์กรมือสังหารที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลกยุทธภพ
แม้แต่เหล่าชาวยุทธในโลกยุทธภพบางคนยังเชื่อว่าองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬนั้นมีความแกร่งเทียบเท่ากับกองกําลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว
“ไปกันเถอะ! พวกเราควรรีบกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงโดยเร็วที่สุด!” หวังเสียนหันไปพูดกับโม่จริงหลงและโม่หยวน
“ขอรับองค์ราชา!” ทั้งสองคนตอบรับอย่างรวดเร็ว
หวังเสียน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกลับไปยังห้องสมบัติเพื่อนําดาบซานลู่และพิณห่าวจงติดไปด้วย
“ในครั้งก่อนเพราะความประมาทเพียงเล็กน้อยของข้า จึงทําให้พิณของถังหยินซวงต้องถูกทําลายลงไป สิ่งนี้น่าจะสามารถชดเชยให้กับเธอได้!”
เมื่อนึกถึงหยดน้ำตาและการแสดงออกที่เสียใจอย่างที่สุดของ ถังหยินซวง เมื่อเธอต้องเสียพิณ 7 สายสุดรักที่แม่ของเธอมอบเอาไว้ให้ดูต่างหน้า เขาก็ส่ายหัวเบาๆและรู้สึกสํานึกเสียใจ เขาจึงคิดจะนําพิณห่าวจง อาวุธวิญญาณระดับ 10 คันนี้ไปมอบให้กับเธอ อย่างน้อยๆสิ่งนี้ก็สามารถทําให้เขารู้สึกว่าไม่ได้ติดค้างเธออีกต่อไป
หวังเสียนถือดาบซานลู่และพิณห่าวจง เดินไปที่ชายหาด
ห่างออกไปไม่ไกลเรือยอทช์รอเขาอยู่กลางทะเล นอกเหนือจากเรือยอทช์ของเขาแล้วยังมีเรือมากกว่ายี่สิบลําในบริเวณโดยรอบ
หวังเสียนกระโดดขึ้นไปในอากาศและค่อยๆทิ้งตัวลงบนเรือลําหนึ่ง เขาทําการเปลี่ยนมันให้กลายเป็นทรัพยากรโดยระบบเพื่อเก็บไว้สําหรับสร้างวังมังกร ก่อนที่เขาจะทําแบบเดียวกันกับเรือทั้งหมดที่เหลืออยู่
หวังเสียน รู้สึกว่าเป็นการสิ้นเปลืองเล็กน้อยที่จะเปลี่ยนเรือยอร์ชหรูเหล่านี้ที่มีราคาต่อลําเกือบร้อยล้านให้กลายเป็นทรัพยากรโดยตรง
แต่เพื่อตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลังเขาจึงจําเป็นต้องจัดการเรือพวกนี้ทั้งหมด
เมื่อเขากลับไปที่เรือยอทช์ของเขา หวังเสียนกวางดาบและพิณไว้ในห้องของเขา หลังจากนั้น เขาก็เข้าไปในห้องและหลับไปอย่างรวดเร็ว
เรือยอทช์เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขากลับมาถึงเมืองเจียงเฉิงก็เป็นเวลารุ่งเช้าแล้ว
หวังเสียนรู้สึกลังเลใจเล็กน้อยว่าจะกลับเข้าบ้านไปก่อนดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ สั่งให้โม่ชิงหลง นํารถ RV ออกไปที่เมืองหนิงในทันที
เมื่อพวกเขามาถึงเมืองหนิงก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว นักรบมังกรทั้งเจ็ดจากองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬได้มาถึงก่อนพวกเขาแล้ว
หวังเสียนหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดโทรออก
“สวัสดีค่ะ! คุณคือ?”
เสียงสดใสที่ไพเราะดังอยู่ที่ปลายสายของโทรศัพท์ มีความตกใจปนอยู่ในน้ำเสียงของเธอเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน
ในขณะนี้ ถังหยินซวง กําลังอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งในเมืองหนิง
ที่รอบๆ โรงแรมมีเหล่าสาวกของสํานักเสียงสวรรค์กําลังดื่มกินและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ในงานเลี้ยง ชายหนุ่มคนหนึ่งหน้าตาค่อนข้างหล่อเหลาที่มีความสูงประมาณ 1.8 เมตรยืนอยู่ที่ตรงกลางสนาม เขาสวมชุดของสํานักแบบย้อนยุคที่สวยงาม ทําให้เขานั้นดูเหมือนกับคุณชายในสมัยโบราณเลยทีเดียว
เขายืนเด่นเป็นสง่าอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับถือแก้วไวน์สีแดงไว้ในมือ
ชายหนุ่มและหญิงสาวหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งรายล้อมอยู่รอบๆตัวเขาคอยพูดจาประจบเอาใจเขาอยู่ตลอดเวลา
ชายหนุ่มคนนี้เป็นโอรสสวรรค์ของสํานักเสียงสวรรค์ เขาเพิ่งจะได้รับการคัดเลือกในวันนี้ และมีแนวโน้มที่จะได้เป็นว่าที่เจ้าสํานักคนต่อไป
ถังหยินซวง มองไปที่บรรยากาศรอบๆงานชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะหลบเลี่ยงเดินออกไปที่มุมหนึ่งของงานเลี้ยง เพื่อรอรับโทรศัพท์จากหวังเสียน เพราะก่อนหน้านี้เธอกําลังพูดคุยเรื่องสําคัญกับผู้อาวุโสในสํานักอยู่จึงไม่สะดวกจะคุยกับเขา
“เขาโทรหาฉันทําไมกันนะ? หรือว่า….” เธอรู้สึกแปลกใจและตื่นเต้นเล็กน้อย
เมื่อ 2 วันก่อนเธอรู้สึกตกใจมากเมื่อได้ยินข่าวบางอย่างในโลกยุทธภพ
ในครั้งก่อนนั้นเธอรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจที่จะสังเกตเขามากนัก เพราะความสนใจของเธอทั้งหมดนั้นตกอยู่ที่พิณ 7 สายที่พังของเธอ
แต่เมื่อ 2 วันที่แล้วเธอได้รับข่าวมาว่า องค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬได้กวาดล้างมือสังหารมนต์ดํา มันทําให้เธอนั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เธอจ้องมองอากาศที่ว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างเหม่อลอยนานกว่า 10 นาที
เธอคาดเดาว่าคงจะต้องเป็นหวังเสียน ที่ไปแก้แค้นให้กับลูกน้องของเขาอย่างแน่นอน หลังจากที่เขาได้รู้เบาะแสว่าคนที่สังหารลูกน้องของเขานั้นเป็นคนขององค์กรมือสังหารมนต์ดํา
และในกรณีนี้นั้นกลุ่มองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬน่าจะเป็นกลุ่มองค์กรของเขาอีกด้วย
แม้จะเป็นกองกําลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องระวังระวังตัวอย่างเต็มที่ หากมีปัญหากับองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬกลุ่มนี้
เพราะองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬนั้นสามารถกวาดล้างองค์กรมือสังหารมนต์ดําที่เคยเป็นอันดับ 1 ในโลกยุทธภพลงได้อย่างง่ายดาย
และในตอนนี้องค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬถูกจัดให้เป็นกลุ่มองค์กรที่ใครๆก็ไม่สมควรจะยุ่งด้วย แม้แต่กองกําลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในโลกยุทธภพยังคอยตักเตือนเหล่าสาวกของตนเองไม่ให้สร้างปัญหาและก่อความขัดแย้งกับคนกลุ่มนี้
เมื่อนึกถึงชายหนุ่มที่ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับคุณชายเจ้าสําอางคนนั้น กับผู้นําองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬที่โหดเหี้ยมอํามหิต เธอรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของทั้ง 2 ตัวตนของเขานั้นค่อนข้างจะขัดแย้งกันมากเกินไป
Rrrrr~!
หลังจากนั้นไม่นานเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ! ถังหยินซวง ตอนนี้ผมอยู่ที่เมืองหนิง คุณว่างหรือเปล่า ในครั้งก่อนนั้นผมรู้สึกเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุทําให้ พิณของคุณต้องพังลงไป ดังนั้นในครั้งนี้ผมจึงนําของขวัญมามอบให้กับคุณเพื่อแทนคําขอโทษ!”
เสียงของชายหนุ่มคนนั้นดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์
ถังหยินซวง รู้สึกลังเลใจเล็กน้อยก่อนที่เธอจะตอบออกไป “ได้ค่ะ! แล้วตอนนี้คุณนั้นอยู่ที่ไหน!”
“LZZ อินเตอร์เนชั่นแนลโฮเต็ล!” หวังเสียนตอบเธอกลับมา
“LZZ!?” ถังหยินซวง ค่อนข้างที่จะแปลกใจ เพราะนั่นคือโรงแรมเดียวกันกับที่เธออยู่ในตอนนี้
“โอเค! ตอนนี้ฉันก็อยู่ที่โรงแรมนี้เช่นเดียวกัน คุณไปรอฉันอยู่ที่ล็อบบี้ของร้านอาหารก็แล้วกันนะ!”
“โอเครับ! ผมจะไปรอคุณที่นั่น!”
ถังหยินชวงไม่ได้ปฏิเสธหวังเสียน เพราะเธอเองก็อยากรู้เกี่ยวกับตัวตนที่ค่อนข้างจะลึกลับของเขา
และตอนนี้เธอก็ยิ่งอยากจะรู้ว่าเขานั้นจะนําของขวัญอะไรมามอบให้กับเธอ?
หลังจากที่ถังหยินซวงวางสายโทรศัพท์ เธอก็เดินออกจากงานเลี้ยงของสํานักไปในทันที
“ศิษย์น้องหญิงนั่นเจ้ากําลังจะไปไหนอย่างนั้นรึ?”
ในขณะนั้นเองเสียงของชายหนุ่มคนนึงก็เรียกเธอเอาไว้ ก่อนที่เธอจะได้ทันเดินออกไป
ถังหยินชวงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยังฝืนยิ้มตอบเขาออกมา
” ศิษย์พี่! พอดีข้านั้นมีธุระส่วนตัวต้องออกไปข้างนอกสักพัก!” เธอตอบออกไปอย่างเรียบง่ายและไม่อยากอธิบายอะไรเพิ่มเติมให้มันมากเกินไปนัก
“ศิษย์น้องเจ้ามีเรื่องเร่งด่วนที่สําคัญอะไรอย่างนั้นหรือ? มีเรื่องอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ หรือว่าเจ้านั้นกังวลเกี่ยวกับการคัดเลือกว่าที่เจ้าสํานักในวันพรุ่งนี้?”
ชายหนุ่มถือแก้วไวน์ในมือและและมีรอยยิ้มที่มุมปาก เมื่อมองดูดีๆแล้วคล้ายกับเขานั้นกําลังยิ้มเยาะเย้ยเธออยู่
“ใช่แล้วล่ะ!” ถังหยินซวง ตอบกลับไปง่ายๆเพื่อตัดปัญหา “มีสิ่งของบางอย่างที่ข้านั้นจะต้องเตรียมตัวอยู่อีกเล็กน้อย!”
“ศิษย์น้องหากเจ้านั้นกังวลเกี่ยวกับเครื่องดนตรีวิญญาณ ข้าสามารถให้เจ้ายืม พิณเทียนโม่ได้นะ!” ชายหนุ่มคนนั้นจ้องมองไปที่ถังหยินซวง ด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณศิษย์พี่เป็นอย่างมากสําหรับความตั้งใจดีของท่าน แต่ในตอนนี้ข้านั้นมีธุระเร่งด่วนที่ต้องออกไป ฉะนั้นข้าต้องขอโทษศิษย์พี่ด้วยที่ต้องขอตัวออกไปก่อน!” ถังหยินซวงตอบกลับด้วยท่าทางที่ไร้อารมณ์พร้อมกับก้าวเดินออกไป
“ศิษย์พี่ ถังหยินชวงคนนี้ ไม่รู้จักดีชั่วฉะนั้น ศิษย์พี่ไม่ต้องไปสนใจและเสียเวลาพูดคุยกับเธอมากนักหรอกค่ะ!”
“ถูกต้องแล้วล่ะศิษย์พี่! ท่านนั้นเป็นถึงโอรสสวรรค์ของสํานักเราและคงจะเป็นว่าที่เจ้าสํานักคนใหม่ของพวกเราอย่างแน่นอน หากเปรียบเทียบกับแม่นางถังหยินซวงแล้วล่ะก็ ผู้หญิงคนนี้เธอไม่มีอะไรจะสามารถเปรียบเทียบกับศิษย์พี่ได้อย่างแน่นอนเลยขอรับ!”
“ศิษย์พี่ ท่านมีโอกาสมากกว่าถึง 80% ที่จะได้เป็นทายาทหลักของสํานัก และยิ่งไปกว่านั้นศิษย์น้องเสี่ยวหู ที่เป็นลูกสาวของรองเจ้าสํานัก ยังสมควรจะได้เป็นธิดาสวรรค์ของสํานักเราและเป็นคู่ที่เหมาะสมกับศิษย์พี่มากกว่า แม่นางถังคนนี้เสียอีก!”
เหล่าสาวกคนอื่นๆของสํานักเสียงสวรรค์ต่างเข้ามาพูดคุยกับชายหนุ่มด้วยท่าทางที่ประจบเอาใจ พร้อมกับกล่าวตําหนิถังหยินซวงออกมา เพื่อแสดงถึงจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน
” พอได้แล้วล่ะ!”
คิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขารู้สึกไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้ว่าหญิงสาวที่เป็นลูกของรองเจ้าสํานักที่พวกเขาพูดถึงจะมีภูมิหลังและความสามารถที่ดีแต่ตัวเธอนั้นเคยคบและได้เสียกับผู้ชายมาก่อนหน้านั้นแล้วหลายคน ลักษณะนิสัยของลูกสาวรองเจ้าสํานักคนนี้ค่อนข้างที่จะเจ้าชู้เป็นอย่างมาก ความสวยและความสง่างามก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับ ถังหยินซวง ที่ยังคงบริสุทธิ์และไร้ราคีได้เลยแม้แต่น้อย